ศาลเยาวชนฯ ภูเก็ต จัดเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายให้แก่เด็กและเยาวชนในสถาบันการศึกษา
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 สิงหาคม 2554 ที่ห้องประชุมโรงเรียนสตรีภูเก็ต ได้มีพิธีเปิดโครงการเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายแก่เด็กและเยาวชนในสถาบันการศึกษา ประจำปี 2554 ซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น มีนายอรรถการ ฟูเจริญ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการ นายจิรวิทย์ ปิติกุลสถิตย์ ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต กล่าวรายงาน และมีคณะครู นักเรียนโรงเรียนสตรีภูเก็ต คณะผู้พิพากษาสมทบ และเจ้าหน้าที่ของศาลเยาวชนฯ จังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
นายจิรวิทย์ ปิติกุลสถิตย์ ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมมนุษย์นั้น จำเป็นต้องมีกฎเกณฑ์และกติกาต่างๆ เพื่อให้ทุกคนในสังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างเรียบร้อย มีความสุข กฎเกณฑ์ที่สำคัญในการควบคุมให้ทุกคนต้องประพฤติและปฏิบัติในแนวทางเดียวกันก็คือกฎหมาย ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต เป็นศาลชั้นต้นที่มีภารกิจในการคุ้มครองเด็ก และเยาวชนที่กระทำผิดให้ได้มีโอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดีของสังคม ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่าสภาพสังคม เศรษฐกิจ ก่อให้เกิดปัญหาต่อการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนหลายประการ และยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นทุกฝ่าย จะต้องร่วมกันป้องกัน และแก้ไขเพื่อให้เกิดความสงบสุขในสังคม โดยกลุ่มเป้าหมายที่ต้องให้ความสำคัญคือเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นอนาคตของประเทศ
ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดโครงการ เผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายให้แก่เด็กและเยาวชนในสถาบันการศึกษา ขึ้น เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมาย ข้อมูลข่าวสาร ระบบการทำงานของศาล ให้นักเรียนได้รับทราบและเกิดความรู้ ความเข้าใจในการอำนวยความยุติธรรมของศาล ทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนกระทำความผิด มีความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและสังคมอันจะทำให้สถาบันครอบครัวมีความสุขต่อไป
ด้านนายอรรถการ ฟูเจริญ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต กล่าวด้วยว่า เยาวชนคืออนาคตของชาติ ที่จะสร้างประเทศให้มีความเจริญรุ่งเรืองต่อไป ในขณะเดียวกันในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตเยาวชนทุกคน ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ของแต่ละครอบครัว เช่นการอบรมเลี้ยงดูของบิดา มารดา การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ซึ่งส่งผลต่อความคิดพฤติกรรมหรือแม้แต่ค่านิยมต่างๆ ซึ่งสิ่งที่จะเป็นเกราะป้องกันภัยทางสังคมได้แก่ เยาวชนดีได้คือครอบครัวที่อบอุ่น รวมถึงการได้รับการศึกษาถูกต้อง ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการให้เยาวชนของชาติได้ดำเนินชีวิตก้าวสู่ความสำเร็จต่อไป แต่ปัจจุบันนี้เยาวชนของชาติได้หลงผิดก้าวสู่ทางเดินที่ไม่ถูกต้องเป็นจำนวนมาก ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต จึงหาทางในการช่วยเหลือโดยการให้ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องของกฎหมายเบื้องต้น เพื่อป้องกันการกระทำความผิดของเยาวชน ซึ่งก็คือการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในการบรรยายความรู้ด้านกฎหมาย ดังนั้น ตนจึงคาดหวังว่า ด้วยความมุ่งมั่นของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต จะสามารถทำให้เยาวชน มีจิตสำนึกที่ไดี ไม่หันมากระทำความผิด และก้าวสู่ความสำเร็จในอนาคตต่อไป
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 สิงหาคม 2554 ที่ห้องประชุมโรงเรียนสตรีภูเก็ต ได้มีพิธีเปิดโครงการเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายแก่เด็กและเยาวชนในสถาบันการศึกษา ประจำปี 2554 ซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น มีนายอรรถการ ฟูเจริญ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการ นายจิรวิทย์ ปิติกุลสถิตย์ ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต กล่าวรายงาน และมีคณะครู นักเรียนโรงเรียนสตรีภูเก็ต คณะผู้พิพากษาสมทบ และเจ้าหน้าที่ของศาลเยาวชนฯ จังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
นายจิรวิทย์ ปิติกุลสถิตย์ ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมมนุษย์นั้น จำเป็นต้องมีกฎเกณฑ์และกติกาต่างๆ เพื่อให้ทุกคนในสังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างเรียบร้อย มีความสุข กฎเกณฑ์ที่สำคัญในการควบคุมให้ทุกคนต้องประพฤติและปฏิบัติในแนวทางเดียวกันก็คือกฎหมาย ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต เป็นศาลชั้นต้นที่มีภารกิจในการคุ้มครองเด็ก และเยาวชนที่กระทำผิดให้ได้มีโอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดีของสังคม ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่าสภาพสังคม เศรษฐกิจ ก่อให้เกิดปัญหาต่อการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนหลายประการ และยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นทุกฝ่าย จะต้องร่วมกันป้องกัน และแก้ไขเพื่อให้เกิดความสงบสุขในสังคม โดยกลุ่มเป้าหมายที่ต้องให้ความสำคัญคือเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นอนาคตของประเทศ
ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดโครงการ เผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายให้แก่เด็กและเยาวชนในสถาบันการศึกษา ขึ้น เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมาย ข้อมูลข่าวสาร ระบบการทำงานของศาล ให้นักเรียนได้รับทราบและเกิดความรู้ ความเข้าใจในการอำนวยความยุติธรรมของศาล ทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนกระทำความผิด มีความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและสังคมอันจะทำให้สถาบันครอบครัวมีความสุขต่อไป
ด้านนายอรรถการ ฟูเจริญ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต กล่าวด้วยว่า เยาวชนคืออนาคตของชาติ ที่จะสร้างประเทศให้มีความเจริญรุ่งเรืองต่อไป ในขณะเดียวกันในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตเยาวชนทุกคน ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ของแต่ละครอบครัว เช่นการอบรมเลี้ยงดูของบิดา มารดา การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ซึ่งส่งผลต่อความคิดพฤติกรรมหรือแม้แต่ค่านิยมต่างๆ ซึ่งสิ่งที่จะเป็นเกราะป้องกันภัยทางสังคมได้แก่ เยาวชนดีได้คือครอบครัวที่อบอุ่น รวมถึงการได้รับการศึกษาถูกต้อง ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการให้เยาวชนของชาติได้ดำเนินชีวิตก้าวสู่ความสำเร็จต่อไป แต่ปัจจุบันนี้เยาวชนของชาติได้หลงผิดก้าวสู่ทางเดินที่ไม่ถูกต้องเป็นจำนวนมาก ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต จึงหาทางในการช่วยเหลือโดยการให้ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องของกฎหมายเบื้องต้น เพื่อป้องกันการกระทำความผิดของเยาวชน ซึ่งก็คือการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในการบรรยายความรู้ด้านกฎหมาย ดังนั้น ตนจึงคาดหวังว่า ด้วยความมุ่งมั่นของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต จะสามารถทำให้เยาวชน มีจิตสำนึกที่ไดี ไม่หันมากระทำความผิด และก้าวสู่ความสำเร็จในอนาคตต่อไป
***สารภี ศรีธรรมรัตน์ สนับสนุนข่าว/ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
----------------------------------------
พบปลาหลายชนิดลอยตายในคลองบางใหญ่จำนวนมาก เหตุมีการปล่อยน้ำเสียลงในคลองชาวบ้าน เผยเกิดเหตุลักษณะนี้หลายครั้งแล้ววอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปดูแลด่วน.
เมื่อเวลา 17 .00 น.วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่คลองบางใหญ่ บริเวณถนนดำรง ซอย 1 ใกล้กับโรงเรียนสตรีภูเก็ตได้มีปลาหลายชนิดลอยตายอยู่จำนวนมากและบางตัวหายใจรวยรินลักษณะขาดอากาศหายใจ อาทิ ปลาตะเพียนขาว ปลายี่สก ปลานิล ท่ามกลางประชาชนในละแวกใกล้เคียงที่มายืนมุงดูและบางส่วนลงไปเก็บปลาที่ตายขึ้นมาเพื่อนำไปทำเป็นอาหาร
จากการสอบถามชาวบ้านรายหนึ่งเปิดเผยว่า เมื่อประมาณปลายเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่งโดยมีปลาตายจำนวนมากเช่นกัน ส่วนสาเหตุที่ปลาตายนั้นน่าจะเกิดจากมีการปล่อยน้ำเสียลงไปซึ่งไม่ทราบว่าน้ำเสียเหล่านั้นมีการปล่อยมาจากที่ไหน ที่ผ่านมาได้แจ้งไปยังเทศบาลนครภูเก็ตให้เข้ามาตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังคงมีเหตุการณ์วันนี้เกิดขึ้นอีก คาดว่าน่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ จากการแจ้งครั้งนั้น ซึ่งน้ำเสียที่ปล่อยลงมานั้นนอกจากทำให้ปลาตายแล้วยังส่งกลิ่นเหม็นรบกวนประชาชนในละแวกนั้นอีกด้วย จึงอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งเพื่อแก้ปัญหานี้ให้กับประชาชนด้วย
***city news เคเบิลทีวี/สนับสนุนข่าว ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
--------------------------------------
รองผู้ว่าฯภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบข้อร้องเรียนการขุดตักดินขายในพื้นที่ตำบลศรีสุนทรส่งผลให้ที่ดินแปลงข้างเคียงเสียหายตรวจพบกระทำผิดจริงเตรียมดำเนินการตามกฎหมาย.
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 54 ที่ผ่านมา นาย สมเกียรติ สังขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นาย ประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต นาย วงศกร นุ่นชูคันธ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต นาย ศิริพงศ์ หลีประเสริฐ ปลัดอำเภอถลางและนาย นิคม ทองแช่ม รองนายก อบต ศรีสุนทรลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินหมู่ 2 ตำบลศรีสุนทรตามข้อร้องเรียนของนาง เตือนใจ อัดสิ่น เมื่อประมาณปลายเดือนธันวาคม 2553 ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่ นาย บุญเกื้อ สกุลจันทร์ ดำเนินการขุดดินในพื้นที่ของนาง เสาวณี คีรีเขต และ นาง ประไพ มะลิกะบุตร โดยพื้นที่ที่ถูกขุดนั้นอยู่ติดกับที่ดินของนางเตือนใจ จากการขุดดังกล่าวทำให้ดินบนที่ดินของนางเตือนใจพังลงสู่พื้นดิน ต้นมะม่วงหิมพานต์และพืชผลที่นางเตือนใจปลูกไว้ในที่ดินก็เสียหาย ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีการกระทำดังกล่าวจริงและทั้งสองฝ่ายได้พยายามทำข้อตกลงกันเรื่องชดเชยค่าเสียหายแต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้เนื่องจากผู้ถูกร้องอ้างว่าผู้ร้องเรียกค่าเสียหายสูงเกินจริงซึ่งทางผู้ถูกร้องต้องหารือกับญาติพี่น้องก่อน อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการผู้เกี่ยวข้องได้นัดทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาข้อสรุปที่เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
นาย สมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีการขุดดินจริง ซึ่งทาง อบต.ศรีสุนทรมีการอนุญาตให้มีการขุดดินในปี 2551 แต่อนุญาตให้ขุดดินแค่ 6 เดือนเท่านั้น แต่ 3 ปีที่ผ่านมา นับจากการขออนุญาตนั้นมีการลักลอบขุดตลอดมา เพราะฉะนั้นเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พรบ. ขุดดินและถมดิน ซึ่งจะต้องหาผู้รับผิดชอบ เพื่อสืบสวนและสอบสวนกันต่อไป ในกระบวนการของการกระทำความผิด สำหรับความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่มีที่ดิน นส 3 อยู่ข้างเคียง คือ นางเตือนใจ เพราะดินที่ผู้ถูกร้องขุดไประยะห่างมันไม่เป็นไปตามระเบียบ และปรากฎว่าดินพังลงมา ทำให้ทรัพย์สินเสียหายซึ่งได้มีการไกล่เกลี่ยขึ้น โดยผู้ร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 2 แสนบาทและให้มีการก่อกำแพงตลอดแนวระยะแนวเขตที่พัง ระยะห่างจากเดิม 6 เมตรแต่ทางด้านผู้ถูกร้องไม่รับข้อเสนอโดยอ้างว่าจำนวนเงินที่เรียกร้องนั้นมากเกินไปแต่จะยินยอมให้เงิน 3 หมื่นบาท และจะยกที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับนางเตือนใจ ซึ่งทางคณะกรรมการตรวจสอบฯได้ให้ผู้ถูกร้องกลับไปปรึกษากับญาติพี่น้องก่อน ว่าจะชดเชยค่าเสียหายอย่างไรเพื่อให้เป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยให้ทางอำเภอถลาง อบต ศรีสุนทร ทำหน้าที่ดำเนินการรวบรวมข้อมูล ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะดีขึ้นและน่าจะตกลงกันได้ ในที่สุด
สำหรับการดำเนินการตามกฎหมายในกรณีที่มีการขุดดินไปขายนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า ตามกฎกระทรวงมหาดไทยในปี 48 ระบุว่าการขุดดินเพื่อนำไปขายนั้นทำไม่ได้ซึ่งเรื่องนี้ต้องเน้นย้ำให้ทุก อบต. และหน่วยงานท้องถิ่น ระมัดระวัง ในการอนุญาตให้ขุดดินซึ่งจะทำผิดกฎกระทรวงไม่ได้ ซึ่งนายบุญเกื้อ และเจ้าของทีดิน มีความผิดอยู่แล้วในเรื่องการขุดดิน ในครั้งที่ 2 , 3 และ4 ซึ่งตอนนี้ก็มีการแจ้งความไว้ที่ สภ. ถลางแล้วเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
***city news เคเบิลทีวี/สนับสนุนข่าว ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
----------------------------------
สโมสรโรตารีภูเก็ตจัดแข่งขันกอล์ฟการกุศลประจำปี 54 3 กันยายนนี้
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 54 ที่ผ่านมา นายธนิต ตันติวิท นยล (นายกรับเลือก) พร้อมด้วย น.ส. ปุณิกา วิริยะนาวิน ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ นายศิริชัย กุลสวรรค์ สมาชิก และนายศักดิ์ คิ้วดำ คลับเทนเนอร์ สโมสรโรตารีภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศลประจำปี 2554 ครั้งที่ 19
นายธนิต กล่าวว่า สโมสรโรตารีภูเก็ตกำหนดจัดแข่งขันกอล์ฟการกุศลประจำปี 2554 ครั้งที่ 19 ขึ้นในวันที่ 3 กันยายน 2554 ณ สนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรี คลับเฟสหนึ่ง ต. กะทู้ อ. กะทู้ จ. ภูเก็ต เพื่อหารายได้สนับสนุนกิจกรรมของสโมสรโรตารีภูเก็ต ปีบริหาร 2555-2556 อีกทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการต่าง ๆ ของโรตารีสากล
ประเภทการแข่งขันประกอบด้วย ประเภททีมและประเภทบุคคล โดยประเภททีม ทีมละ 4 คน ใช้ผลคะแนนรวมสุทธิ (net score) ที่ดีที่สุดจากผู้เล่น 3 คนและใช้แต้มต่อไม่เกิน 18 ส่วนประเภทบุคคล ใช้แต้มต่อไม่เกิน 36 ผู้เข้าแข่งขันประเภททีมมีสิทธิได้รับถ้วยประเภทบุคคลด้วย ส่วนรางวัล ประเภททีมมี 1 รางวัล ทีมชนะเลิศ ประเภทบุคคล มี โอเวอร์ออล โลว์กร้อส โอเวอร์ออล โลว์เน็ท และบู้บี้ ประเภทบุคคลแบ่งเป็น 6 ไฟล้ท ไฟล้ทละ 2 รางวัล คะแนนสุทธิ (net score) มี Premium Flight แต้มต่อ 0-6 ไฟล้ท เอ แต้มต่อ 7-12 ไฟล้ท บี แต้มต่อ 13-18 ไฟล้ท ซี แต้มต่อ 19-24 ไฟล้ท ดี แต้มต่อ 25-30 ไฟล้ท อี แต้มต่อ 31-36 ส่วนรางวัล Hold in one หลุม 2 Gift vochure ร้านกิ๊ฟแอนด์กอล์ฟ มูลค่า 20,000 บาท หลุม 5 ห้องพักโรงแรมป่าตองรีสอร์ท และ Computer Laptop 1 เครื่อง หลุม 14 รถจักรยานยนต์ และหลุม 17 ถุงกอล์ฟ พร้อมอุปกรณ์ มูลค่า 20,000 บาท รางวัลตีใกล้ธง 2 หลุม (หลุม 5 และหลุม 17) รางวัลใกล้เส้น หลุม 6 รางวัลจับฉลาก เป็นห้องพักของโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา และกรุงเทพฯ
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นยล ธนิต ตันติวิท 089-7297620 หรือ นายศิริชัย กุลสวรรค์ 081-9781990
*** โสภณ เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว เสงี่ยม เอียดตน/พิมพ์
----------------------------------
โครงการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม คลัสเตอร์ผ้าบาติกภูเก็ต สัมมนาผู้ประกอบการหวังพัฒนาอุตสาหกรรมผ้าบาติกอย่างยั่งยืน
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 5 สิงหาคม 2554 ที่ห้องคอนเฟอร์เรนซ์ ชั้น 12 โรงแรมเพิร์ล อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนา สรุปผลการดำเนินงาน โครงการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม “คลัสเตอร์ผ้าบาติกภูเก็ต” ปี 2554 โดยมีนางสาวสุพัตรา บัวแสงจันทร์ ผู้จัดการโครงการฯ ,นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต,นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต,ผู้แทนศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 จ.สุราษฏร์ธานี,ผู้แทนคลัสเตอร์สิ่งทอเพชรเกษม กรุงเทพฯ,และสมาชิกคลัสเตอร์ผ้าบาติก ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นางสาวสุพัตรา บัวแสงจันทร์ ผู้จัดการโครงการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมผ้าบาติก กล่าวว่า สืบเนื่องจากศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งมีหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ได้เล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมผ้าบาติกภูเก็ต เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญทั้งทางเศรษฐกิจ และการสืบต่อของวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของชาวภูเก็ต ขาดแนวทางในการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการส่งเสริมสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ จึงได้มอบหมายให้บริษัท เอ็น.พี.ชินดัง คอนซัลแท็นซ์ จำกัด ดำเนินการรวมกลุ่มในลักษณะของคลัสเตอร์ ภายใต้โครงการ “พัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมผ้าบาติก” จังหวัดภูเก็ต เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการผ้าบาติกภูเก็ต พัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมผ้าบาติก ให้สามารถรับมือกับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและสามารถเติบโต ได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป
อุตสาหกรรมผ้าบาติก ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ปี 2554-2558 ภายใต้วิสัยทัศน์”คลัสเตอร์บาติกภูเก็ต เป็นศูนย์บูรณาการบาติกของประเทศไทย” ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนา 5 ประเด็น และโครงการจำนวน 27 โครงการ ร่วมกันเป็นครั้งแรก มีจำนวนสมาชิกคลัสเตอร์เฉพาะในส่วนผู้ประกอบการ 20 ราย มีโครงสร้างการทำงานอย่างชัดเจน โดยในวันนี้ จัดให้มีการร่วมเสวนา กิจกรรมเชื่อมโยงคลัสเตอร์สิ่งทอ เพชรเกษม กรุงเทพฯ กับคลัสเตอร์ผ้าบาติกภูเก็ต ในหัวข้อ”ก้าวย่างที่มั่นคงกับประสบการณ์ที่ผ่านมา “ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองในการพัฒนาคลัสเตอร์ อันจะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพบาติกภูเก็ต ต่อไปนางสาวสุพัตรา กล่าว
นางสาวสุพัตรา บัวแสงจันทร์ ผู้จัดการโครงการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมผ้าบาติก กล่าวว่า สืบเนื่องจากศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งมีหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ได้เล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมผ้าบาติกภูเก็ต เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญทั้งทางเศรษฐกิจ และการสืบต่อของวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของชาวภูเก็ต ขาดแนวทางในการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการส่งเสริมสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ จึงได้มอบหมายให้บริษัท เอ็น.พี.ชินดัง คอนซัลแท็นซ์ จำกัด ดำเนินการรวมกลุ่มในลักษณะของคลัสเตอร์ ภายใต้โครงการ “พัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมผ้าบาติก” จังหวัดภูเก็ต เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการผ้าบาติกภูเก็ต พัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมผ้าบาติก ให้สามารถรับมือกับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและสามารถเติบโต ได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป
อุตสาหกรรมผ้าบาติก ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ปี 2554-2558 ภายใต้วิสัยทัศน์”คลัสเตอร์บาติกภูเก็ต เป็นศูนย์บูรณาการบาติกของประเทศไทย” ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนา 5 ประเด็น และโครงการจำนวน 27 โครงการ ร่วมกันเป็นครั้งแรก มีจำนวนสมาชิกคลัสเตอร์เฉพาะในส่วนผู้ประกอบการ 20 ราย มีโครงสร้างการทำงานอย่างชัดเจน โดยในวันนี้ จัดให้มีการร่วมเสวนา กิจกรรมเชื่อมโยงคลัสเตอร์สิ่งทอ เพชรเกษม กรุงเทพฯ กับคลัสเตอร์ผ้าบาติกภูเก็ต ในหัวข้อ”ก้าวย่างที่มั่นคงกับประสบการณ์ที่ผ่านมา “ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองในการพัฒนาคลัสเตอร์ อันจะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพบาติกภูเก็ต ต่อไปนางสาวสุพัตรา กล่าว
***สาลินี ปราบ/สนับสนุนข่าว ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
--------------------------------
เทศบาลตำบลวิชิต ขอเชิญร่วมงานแม่แห่งชาติ ประจำปี 2554 ในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคมนี้ เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณเวทีกลางสวนศรีภูวนาถ ตำบลวิชิต
นาย กรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต เปิดเผยว่า ด้วยเทศบาลตำบลวิชิต กำหนดจัดกิจกรรม เฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ เวทีกลางสวนศรีภูวนาถ (ตรงข้ามสถานีอนามัยแหลมชั่น) หมู่ที่ 1 ถ. พัฒนาท้องถิ่น ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อ พสกนิกรชาวไทย และแสดงออกถึงความสมัครสมานสามัคคีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยภายในงานมีกิจกรรมการแสดงจากนักเรียนโรงเรียนในเขตเทศบาล พร้อมการประกาศผล และมอบรางวัลแม่ดีเด่น ประจำปี 2554 และในเวลา 19.00น. ร่วมพิธีถวายพานพุ่มเครื่องราชสักการะและจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล
เทศบาลตำบลวิชิต จึงขอเชิญประชาชนร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีร่วมกันในวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
***ปชส.เทศบาลตำบลวิชิต/สนับสนุนข่าว
-------------------------
ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต อบรมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาศักยภาพบุคลากรเครือข่ายกีฬาและนันทนาการของจังหวัด
วันนี้ (4 ส.ค. 54) ที่ห้องบอลรูม โรงแรมเพิร์ล อ. เมือง จ. ภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรเครือข่ายกีฬาและนันทนาการจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายบัวยัญ สุวรรณมณี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายเชษฐวิทย์ ตันติพันธุ์วดี นายกสมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายชัยอนันต์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ และบุคลากรเครือข่ายกีฬาและนันทนาการจากโรงเรียนต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ตจำนวน 80 คน เข้าร่วม
นายบัวยัญ กล่าวว่า สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ในฐานะเป็นหน่วยงานราชการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในส่วนภูมิภาค มีหน้าที่ประสานงานโครงการและงบประมาณให้กับหน่วยงานราชการสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อดำเนินงานส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬา นันทนาการในจังหวัดภูเก็ต และได้ดำเนินการจัดโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเครือข่ายกีฬาและนันทนาการจังหวัดภูเก็ตขึ้นในระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม ขึ้น เพื่อบูรณาการทรัพยากรทุกภาคส่วนในการจัดการด้านที่เป็นระบบโดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกระดับ ตลอดจนเพื่อให้องค์กรกีฬาและเครือข่ายกีฬาและนันทนาการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการกีฬาและนันทนาการอย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกพื้นที่ในจังหวัด และเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรเครือข่ายทางด้านการกีฬาและนันทนาการให้มีความรู้ ความสามารถในการบริหารจัดการการกีฬา
ทั้งนี้การเสวนาและการให้ความรู้เชิงปฏิบัติการตามโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเครือข่ายกีฬาและนันทนาการจังหวัดภูเก็ต เป็นการเสวนาในประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนากีฬาชาติ การเสวนาบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การภาคราชการ และสมาคมกีฬาในการพัฒนากีฬาของจังหวัดภูเก็ต ***โสภณ เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว เสงี่ยม เอียดตน/พิมพ์
-----------------------------------
จังหวัดภูเก็ตประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องกรณีร้องเรียนการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเพื่อหารายได้
วันนี้ (4 ส.ค. 54) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมกรณีร้องเรียนแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเพื่อหารายได้ครั้งที่
3/2554 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
3/2554 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้สืบเนื่องจากที่มีผู้ใช้นามว่า “ชาวภูเก็ต” ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ กรณีการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเพื่อหารายได้จากเงินบริจาคของประชาชนเพื่อสร้างพระถวายพ่อ หล่อพระถวายแม่ และจังหวัดได้มีการประชุมหารือคณะทำงานตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 464/2554 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 เพื่อติดตามความก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดมา เพื่อให้ทุกหน่วยได้ดำเนินการตรวจสอบ โดยมอบหมายให้อำเภอเมืองภูเก็ตตรวจสอบเรื่องรายรับ รายจ่าย ซึ่งทางอำเภอเมืองภูเก็ตได้มีหนังสือไปให้ทางผู้ถูกร้องเรียนแล้ว เพื่อให้รายงานในเรื่องดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ผู้ถูกต้องเรียนอยู่ระหว่างการดำเนินการ
ส่วนในเรื่องของการก่อสร้าง ที่ยังไม่มีเวลากำหนดแล้วเสร็จที่แน่นอน นั้น ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ได้มีหนังสือหารือไปยังสำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 กระบี่ เพื่อขอให้พิจารณาในเรื่องดังกล่าวแล้ว และพิจารณาในการขอต่อใบอนุญาตครั้งต่อไป ว่าต้องทำตามวัตถุประสงค์ที่ขอยื่นไว้ และควรกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จที่แน่นอนให้มีการจัดการรังวัดให้ชัดเจนว่ามีเนื้อที่เท่าไร ส่วนเรื่องการใช้ข้อความประชาสัมพันธ์แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ทางสำนักงานวัฒนธรรมได้มีหนังสือส่งไปให้ผู้ถูกร้อง ผู้ถูกร้องก็ดำเนินการแล้ว ส่วนในเรื่องอื่น ๆ ก็กำลังดำเนินการอยู่ในทุกเรื่อง เพื่อที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวให้จบลงโดยเร็วที่สุด
***ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/พิมพ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป