วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข่าววันที่ 2 ส.ค.54

เปิดใช้แล้วสะพานสารสิน 2 ขาออกภูเก็ตสู่พังงา ขณะที่การปรับปรุงสะพานสารสินเดิมเป็นหอชมวิว ยันเสร็จเปิดให้บริการประชาชนได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้
วันmuj 1 ส.ค.54  ที่บริเวณสะพานสารสิน 2 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นาย ศักดิ์ชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวง พร้อมด้วยนาย อรุณ เสน่ห์ ผู้อำนวยการแขวงการทางจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันเปิดแผงกั้นเหล็ก เพื่อปล่อยรถขาออกจากจังหวัดภูเก็ตขึ้นบนสะพานสารสิน 2 หรือสะพานท้าวศรีสุนทร ที่มีการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วเพื่อให้รถที่จะออกจากจังหวัดภูเก็ตสู่จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นการเริ่มต้นใช้สะพานสารสิน 2 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
 นายศักดิ์ชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวง กล่าวว่าสะพานสารสิน 2 เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2552 ด้วยงบประมาณในการดำเนินการกว่า 377 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างสะพาน 2 ช่องจราจรความยาว 650 เมตร กว้าง 12 เมตร เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา เพื่อทดแทนสะพานสารสินเดิมที่มีสภาพทรุดโทรมเนื่องจากสร้างมาตั้งแต่ ปี 2510 หรือ ประมาณ 44 ปีมาแล้ว รวมทั้งปริมาณจราจรที่ผ่านสะพานสารสินมีมากและมีความเสียหายจากการกัดกร่อนของน้ำทะเล ทำให้ตัวสะพานเสื่อมสภาพจึงจำเป็นที่จะต้องมีการสร้างสะพานขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งแห่ง
ก่อนหน้านี้มีการสร้างสะพานคู่ขนานกับสะพานสารสินไปแล้วหนึ่งสะพาน คือ สะพานท้าวเทพกระษัตรีเป็นสะพาน 2 ช่องจราจร มีความยาว 650 เมตรเริ่มเปิดใช้เมื่อปี 2535
  อย่างไรก็ตาม สำหรับสะพานสารสิน 2 ที่ก่อสร้างเสร็จในครั้งนี้จะเป็นสะพานที่ใช้เป็นสะพานคู่ขนานกับสะพานเทพกระษัตรี ส่วนสะพานสารสินเดิมนั้นทำการปรับปรุงเป็นสะพานคนเดินและหอชมวิวโดยความยาวของสะพานนั้นขนาดเท่าเดิมแต่ยกบริเวณช่วงกลางสะพานให้สูงขึ้นเท่ากับสะพานสารสิน 2 (สะพานท้าวศรีสุนทร) และสะพานท้าวเทพกระษัตรีเพื่อให้เรือสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก
 การปรับปรุงสะพานสารสินเดิมให้เป็นจุดชมวิว จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้และเปิดให้ประชาชนขึ้นไปใช้บริการต่อไป ซึ่งนอกจากจะเป็นสะพานคนเดินและมีหอชมวิวเป็นอาคาร 8 เหลี่ยมสไตล์ชิโนโปรตุกีสแล้ว บริเวณปลายสะพานทั้ง 2 จะมีการปรับปรุงเป็นสถานที่จอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว  
***อำนวย ทองสม / สนับสนุนข่าว  ณรงค์ศักดิ์  แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
-----------------------------
รพ.สิริโรจน์  รพ.กรุงเทพภูเก็ต  สธวท.-ภูเก็ต และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันจัดแพ็คเก็จตรวจแมมโมแกรมมะเร็งเต้านม  และมะเร็งปากมดลูก ราคาพิเศษ 3,000 บาท 1 31  ส.ค นี้ ตามโครงการสตรีไทย ห่วงใยสุขภาพของสภาสตรีแห่งชาติและกระทรวงสาธารณสุข
วันนี้ (1 สิงหาคม 54) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต  นางอุไรรัตน์  อติเศรษฐ์  นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพ ฯ ภูเก็ต และคณะ  เข้าร่วมโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดพบสื่อมวลชน โดยมี นาย นิวิทย์ อรุณรัตน์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในโครงการฯ   โดยมี นาย วีระพงษ์ ไวทยวงศ์สกุล ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต สื่อมวลชนสาขาต่าง ๆ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นางอุไรรัตน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขจัดทำโครงการ  สตรีไทย ห่วงใยสุขภาพซึ่งดำเนินการจัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในพระราชวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ตลอดจนเพื่อให้สตรี ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อครอบครัว และสังคม เป็นกำลังใจสำคัญต่อครอบครัว  และสังคม เป็นกำลังใจสำคัญในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของประเทศ  ทั้งเล็งเห็นและตระหนักถึงความสำคัญของการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง  การที่สตรีดูแลตนองให้มีสุขภาพดี  ถือเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างสุขภาพ  ไม่เพียงเฉพาะแต่ตนเองเท่านั้น  แต่จะส่งผลถึงคนในครอบครัว  รวมถึงสังคมได้ด้วย ซึ่งเป็นผลให้ประเทศชาติพัฒนาก้าวหน้าได้ด้วยคนในชาติมีสุขภาพดี
อีกทั้งในโอกาสสัปดาห์วันสตรีไทย ในวันที่ 1 สิงหาคม  2554 และวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม 2554 องค์กรสตรีทั่วประเทศต่างรณรงค์ให้มีการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสตรี  กอปรกับสตรีไทยในปัจจุบันประสบภาวะเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงในอัตราที่สูงมากขึ้น โดยเฉพะโรคมะเร็งเต้านม  และมะเร็งปากมดลูก  ซึ่งเป็นสาเหตุให้หญิงไทยเสียชีวิตจัดเป็นอันดับหนึ่ง และสองของโรคมะเร็งที่หญิงไทยเป็นมากที่สุด  สตรีนักธุรกิจวิชาชีพแห่งประเทศไทย- ภูเก็ต (สธวท. ภูเก็ต)  จึงได้ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จัดทำโครงการ สตรีไทย ห่วงใยสุขภาพ  เพื่อรณรงค์การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม  และมะเร็งปากมดลูก แก่สตรีในจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนจังหวัดใกล้เคียง โดยได้รับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลสิริโรจน์ และโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต  จัดแพ็คเก็จตรวจแมมโมแกรมมะเร็งเต้านม  และตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Thin Prep ราคาพิเศษ 3,000 บาท  ในระหว่างวันที่ 1 31  สิงหาคม 2554 ซึ่งผู้ที่จะรับบริการสามารถรับคูปอง รับสิทธิ์ตรวจ ได้จากโรงพยาบาลสิริโรจน์ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต  สถานีอนามัย และร้านขายยาทั่วไป 
*** สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์  ณรงค์ศักดิ์  แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
--------------------------------------
รพ.วชิระภูเก็ตให้ความรู้ชีวอนามัยความปลอดภัย หวังพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพในสถานประกอบการพร้อมเพิ่มความมั่นใจผู้ประกันตนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1 สิงหาคม 2554 ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (หลังใหม่) นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการ พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพในสถานประกอบการปี 2554 จังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางกลุ่มงานอาชีวเวชกรรม โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จัดขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้ด้าน อาชีวอนามัยความปลอดภัย รวมทั้งกฎหมายความปลอดภัยในการทำงานไปปรับใช้ในสถานประกอบการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งเป็นการสนับสนุนและช่วยเหลือให้มีระบบการดูแลผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากการประกอบอาชีพอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว โดยมี นพ.เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพระดับบริหาร และระดับหัวหน้างานในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมจำนวน 120 สถานประกอบการ
            นพ. เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันสถานประกอบการในจังหวัดภูเก็ตมีจำนวน 8,326 แห่ง มีผู้ประกันตนจำนวน 109,866 คน มีการนำนโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน มาใช้ในการบริหารจัดการองค์กร เพื่อลดอุบัติเหตุและโรคจากการทำงาน ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ผู้ประกันตน โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 กำหนดให้นายจ้างหรือสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป ต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพ มีหน้าที่ ตรวจสอบและเสนอแนะให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน การประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการทำงาน รวมทั้งการแนะนำอบรมลูกจ้างเพื่อให้การปฏิบัติงานปลอดจากอุบัติเหตุและการบาดเจ็บจากการทำงาน
            จากข้อมูลรายงานประจำปี กองทุนเงินทดแทนปีล่าสุดพบว่า มีผู้ประกันตนประสบอันตรายหรือบาดเจ็บจากการทำงานเกือบ 2 แสนรายหรือประมาณร้อยละ 3 ของผู้ประกันตนทั้งหมด โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตคาดว่าจะมีผู้ป่วยจากการทำงานปีละประมาณ 3,000-4,000 คน ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยเพิ่มขีดความสามารถในการค้นหาปัญหา ประเมินความเสี่ยง และหามาตรการในการควบคุมแก้ไขปัญหาความเสี่ยงในสถานประกอบการ ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานลงได้
            นพ.เจษฎา กล่าวด้วยว่า ในส่วนของโรงพยาบาลนั้นมีหน้าที่ในการส่งเสริมให้ความรู้ทางวิชาการเป็นหลัก โดยโรคที่พบค่อนข้างบ่อย เช่น ปวดหลัง กล้ามเนื้อฉีกขาด เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้หากได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องก็จะสามารถป้องกันได้ โดยการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานที่เหมาะสม ซึ่งหากสามารถลดอาการเจ็บป่วยต่างๆ ด้วยก็จะช่วยลดในเรื่องของการค่าใช้จ่ายที่จะต้องส่งเข้าสมทบกองทุนเงินทดแทนได้ด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งในส่วนของสถานประกอบการและลูกจ้างเอง 
***สาลินี  ปราบ/สนับสนุนข่าว  ณรงค์ศักดิ์  แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน 
-----------------------------------
สสจ. ภูเก็ตดึงภาคีเครือข่ายร่วมประชุมยกระดับมาตรฐานโรงแรมน่าอยู่น่าพักในพื้นที่ท่องเที่ยวของจังหวัด เพิ่มความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ

            วันนี้ (1 ส.ค. 54) เวลา 09.00 น. ที่ห้องรายา โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้  อ. เมือง จ. ภูเก็ต นายสมเกียรติ  สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุม การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายเพื่อยกระดับมาตรฐานโรงแรมน่าอยู่น่าพักในพื้นที่ท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคีเครือข่าย ภาคเอกชน ผู้ประกอบการโรงแรมและสื่อมวลชน ซึ่งจะมีการประชุมตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 3 ส.ค. นี้
            นายสมเกียรติ  กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทั่วโลก โดยเปิดตลาดการท่องเที่ยวด้วยทรัพยากรอันหลากหลาย ได้แก่ ทรัพยากรธรรมชาติ  ศิลปวัฒนธรรม  บริการทางการแพทย์  สปาและการนวดเพื่อสุขภาพ  อาหารปลอดภัย เป็นต้น นอกจากนี้สิ่งสำคัญและสนับสนุนการท่องเที่ยวอีกประการหนึ่งคือ ที่พักรับรองนักท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม รีสอร์ท บังกะโล เกสเฮ้าส์ ฯลฯ ซึ่งเป็นแหล่งบริการให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบาย สะอาดและปลอดภัยในการใช้บริการ จังหวัดภูเก็ตโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตจึงได้จัดทำโครงการเฝ้าระวังจัดการวิกฤติและบริหารความเสี่ยงแหล่งท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยให้ความสำคัญในการพัฒนายกระดับมาตรฐานโรงแรมให้มีมาตรฐานตามเกณฑ์โรงแรมน่าอยู่น่าพัก ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยด้านอาหาร ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและด้านป้องกันควบคุมโรคขึ้นเพื่อคุ้มครองสุขภาพทั้งนักท่องเที่ยวชาว
ไทยและต่างประเทศ ให้ปลอดจากโรคติดต่อต่าง ๆ เช่น โรคลิเจียนแนร์  โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ โรคอาหารเป็นพิษ อีกทั้งเพื่อเพิ่มความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งมีเป้าหมายเพื่อพัฒนา รับรองและยกระดับคุณภาพการประกอบกิจการโรงแรมให้มีความสะอาด ปลอดภัย สิ่งแวดล้อมดีและมีชีวิตชีวา ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันของทุกภาคส่วนในการพัฒนามาตรฐานโรงแรมให้ผ่านเกณฑ์โรงแรมน่าอยู่น่าพัก เพื่อการส่งเสริมภาพลักษณ์การเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป   
***ณรงค์ศักดิ์  แสงสีดำ  ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว  เสงี่ยม  เอียดตน /พิมพ์
------------------------------
เทศกาลอาหารทะเลภูเก็ตเริ่มแล้ว เน้นศักยภาพอาหารทะเลดึงนักท่องเที่ยวสู่ภูเก็ตตลอดเดือนสิงหาคม

            วันนี้  (1 ส.ค. 54) ที่ลานเดอะพอร์ท ศูนย์การค้าจังซีลอน หาดป่าตอง  นายสมเกียรติ  สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  นางบังอรรัตน์  ชินะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานภูเก็ต นายนิกร  ฟูศักดิ์สมบูรณ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลราไวย์ และนายสมบูรณ์  จิรายุส  นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกันแถลงข่าวและเปิดตัวโครงการ เทศกาลอาหารทะเลภูเก็ต 2554 หรือ Phuket Seafood Fiesta 2011”
            เทศกาลอาหารทะเลภูเก็ต 2554 หรือ Phuket Seafood Fiesta 2011 กำหนดจัดขึ้นตลอดเดือนสิงหาคม ในระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2554 โดยแบ่งรูปแบบการจัดงานเป็น การจัดรายการ Good Taste Best Price ณ โรงแรมและร้านอาหารชั้นนำในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา 65 ร้าน มอบส่วนลดพิเศษอาหารทุกเมนู ตั้งแต่ 10 20 %  รวมถึงการจัด Phuket Lobster Week หรือสัปดาห์กุ้งมังกร ในวันที่ 12-21 สิงหาคม 2554 ณ ร้านอาหารที่เข้าร่วมรายการ 22 ร้าน ตลอดจนการจัด Seaside Seafood @ หาดราไวย์ ในวันที่ 12-13 สิงหาคม 2554 เวลา 17.00-22.00 น. โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชิมอาหารทะเลในบรรยากาศริมหาด พร้อมเลือกซื้อกุ้ง หอย ปู ปลาสด ๆ จากทะเลอันดามันมาให้ร้านอาหารปรุงเมนูพิเศษ และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ บนริมหาดราไวย์ตำนานชายหาดท่องเที่ยวแห่งแรกและจุดกำเนิดการเผาปลาด้วยกาบมะพร้าวและน้ำจิ้มสูตรน้ำมะขามเปียกของภูเก็ต
            ด้านนายสมเกียรติ  สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าอาหารทะเลเป็นสิ่งที่คู่กับเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตและเมืองชายทะเลอื่น ๆ แต่ภูเก็ตหลากหลายไปด้วยร้านอาหารทุกรูปแบบ ทั้งร้านอาหารพื้นบ้าน  ร้านอาหารพื้นเมืองและร้านอาหารนานาชาติ ซึ่งเกือบทั้งหมดจะประกอบไปด้วยเมนู อาหารทะเล ซึ่งเป็นเมนูหลักแทบทั้งสิ้น
            รวมถึงนางบังอรรัตน์  ชินะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานภูเก็ต ได้เน้นย้ำนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเมนูกุ้งมังกร ช่วงกลางเดือนสิงหาคมจะต้องไม่พลาดและเป็นสีสันของเทศกาลอาหารทะเลในครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะเมนูกุ้งมังกร “Phuket Lobster Thermidor” ซึ่งเป็นสุดยอดอาหารที่ปรุงจากล็อบสเตอร์  เชฟจากร้านอาหารทั้งจำนวน 22 ร้าน ที่เข้าร่วมรายการต่างคัดเลือกเมนูเด็ดสูตรพิเศษพร้อมราคาพิเศษมานำเสนอ ในช่วง Phuket Lobster Week  ระหว่างวันที่ 12-21 สิงหาคม 54         
            นอกจากนี้นายนิกร  ฟูศักดิ์สมบัติ   รองนายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนักท่องเที่ยวได้ชิมอาหารทะเลสด ๆ ราคาพิเศษทั่วภูเก็ตแล้ว วันที่ 12-13 สิงหาคม จะต้องมาเที่ยว และร่วมสนุกสนานกับการกินอาหารทะเลสด ๆ กัน ณ หาดราไวย์ เพราะเป็นที่รับรู้กันว่าหากต้องการทานอาหารทะเลสด ๆ ต้องเดินทางมาท่องเที่ยวหาดราไวย์ เพราะนอกเหนือจะได้ทานของสด ๆ แล้ว บรรยากาศริมหาดราไวย์และร้านอาหารบริเวณนั้นยังคงมีเสน่ห์ดึงดูด ตรึงตรา นักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้ลึมอีกด้วย
            ส่วนในเรื่องของภาพรวมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว นายสมบูรณ์  จิรายุส  นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวปิดท้ายว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้ามาภูเก็ต ยากที่จะพลาดอาหารทะเล การจัดเทศกาลอาหารทะเลภูเก็ตในเดือนสิงหาคมนี้ นอกจากจะเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ภูเก็ตคึกคักมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่ายเที่ยวชิมอาหารทะเลมากขึ้นด้วย ซึ่งส่งผลดีกับการท่องเที่ยวในช่วงกรีนซีซั่นเป็นอย่างยิ่ง  
*** ณรงค์ศักดิ์  แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว  เสงี่ยม  เอียดตน /พิมพ์
--------------------------
ภูเก็ตจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอน เพื่อสุขภาพวิ่งข้ามเกาะภูเก็ตเป็นครั้งแรก ระยะทาง 42 กิโลเมตร จากสะพานสารสินถึงปลายแหลมสะพานหิน เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

นายแพทย์ศักดิ์ แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการแข่งขันมาราธอนเพื่อสุขภาพ วิ่งข้ามเกาะภูเก็ต หรือ Phuket Health International Marathon ภายใต้แนวคิด “Run For Health” จากสะพานสารสินถึงสวนสาธารณะสะพานหิน อำเภอเมืองภูเก็ต โดยมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันประมาณ 100 คน ซึ่งเป็นการแข่งขันวิ่งข้ามเกาะภูเก็ตเป็นครั้งแรก โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขัน วิ่งมาตามถนนเทพกระษัตรี ระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตร มาสิ้นสุดที่บริเวณสวนสาธารณะสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต
              นายแพทย์ศักดิ์ กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆในจังหวัดภูเก็ต จัดการแข่งขันขึ้น เป็นครั้งแรกของจังหวัดภูเก็ตเพื่อรณรงค์ส่งเสริมการสร้างสุขภาพให้กับนักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ พ่อค้าและประชาชนหันมาออกกำลังอย่างต่อเนื่อง จริงจัง เป็นประจำสม่ำเสมอ รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของภูเก็ตให้ดียิ่งขึ้นไป เนื่องจากเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติจะเป็นการสร้างโอกาสให้นักวิ่งต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตมากยิ่งขึ้น
             นอกจากจะมีการแข่งขันวิ่งมาราธอนแล้ว ยังจัดให้มีการแข่งวิ่งซูเปอร์มาราธอน ระยะทาง 13 กิโลเมตร การวิ่งฟันรันระยะทาง 4.5 กิโลเมตร และมีการเดินวิ่งเพื่อสุขภาพ อสม.ภูเก็ตจำนวน 2,000 คน
              สำหรับผลการแข่งขันในรุ่นมาราธอนนานาชาตินักวิ่งจากแคนย่าคว้าที่หนึ่งทั้งประเภทชายและหญิง โดยประเภทชายคือ Mr.Fredric L.Mathic  ด้านฝ่ายหญิงคือ Mrs.Nichic Mukuhi
***ASTV news ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป