ทต.รัษฎา ใช้งบประมาณกว่า 40 ล้านบาท ปรับปรุงภูมิทัศน์ จุดชมลิง เกาะสิเหร่
เทศบาลตำบลรัษฎา ยกระดับจุดชมลิง บริเวณป่าชายเลน ถนนเทพประทาน เกาะสิเหร่ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม โดยเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของตำบลรัษฎา
วันนี้ (26 กรกฎาคม 54) ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลรัษฎา ชั้น 3 นายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา พบสื่อมวลชน โดยมี สมาชิกสภาเทศมนตรีตำบลรัษฎา ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ซึ่งนายสุรทิน เปิดเผยถึง โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ซึ่งทางเทศบาลตำบลรัษฎาได้เล็งเห็นถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงได้มุ่งเน้นให้มีการพัฒนาปรับสถานที่ดังกล่าว ตลอดจนในแต่ละปีนั้นต้องมีการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาเมือง เพื่อเป็นการยกระดับการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ทั้งให้เป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน โดยอาศัยอยู่เมืองที่ดี มีความสะดวกสบาย ได้รับบริการและสวัสดิการที่ดีจากตำบลรัษฎา มีความสุขบนพื้นที่สังคมและเศรษฐกิจที่ดี
ทั้งนี้พื้นที่เกาะสิเหร่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญโดยเฉพาะจุดชมลิง บริเวณป่าชายเลน ถนนเทพประทาน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก จึงได้ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์จุดชมลิงและสร้างพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวศึกษาระบบนิเวศน์ป่าชายเลนโดยการปรับภูมิทัศน์ ส่วนงบประมาณในการปรับปรุงภูมิทัศน์ใช้งบประมาณกว่า 14 ล้านบาทและปรับปรุงขยายไล่ทางถนนใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ขณะเดียวกันตอนนี้ได้เสนอแผนปรับปรุงระบบนิเวศน์ป่าชายเลนโดยการปรับภูมิทัศน์ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเสนองบประมาณไปทั้งสิ้น 7 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามนอกจากจะสร้างความสวยงามแล้วเป็นการแก้ไขปัญหาลิงที่อาศัยอยู่ตามป่าชายเลนไม่ให้โดนรถชนในขณะที่ออกมาหากิน รวมทั้งมีการจัดระเบียบร้านค้า การจัดเก็บขยะ นอกเหนือจากนี้ได้มีการปรับปรุงหอนาฬิกา บริเวณสามแยกหน้าสถานีตำรวจให้สวยงามเหมาะสมกับการยกระดับ การพัฒนาเกาะสิเหร่ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น โดยเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของตำบลรัษฎาต่อไป
***สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ โสภณ เคี่ยมการ/ทาน
--------------------------------------------
โรงเรียนสตรีภูเก็ต จัดพอเพียง "แข่งขันกีฬาสี"เตรียมพร้อมเป็นศูนย์จัดการเรียนรู้หลักปรัชญาของศรษฐกิจพอเพียง เฉลิมพระเกียรติในหลวง
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 27 กรกฎาคม 2554 ที่โรงเรียนสตรีภูเก็ต นายเกียรติศักดิ์ ปิลวาสน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีภูเก็ต เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาสี โรงเรียนสตรีภูเก็ต มีน.ส. ภาวิณี
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 27 กรกฎาคม 2554 ที่โรงเรียนสตรีภูเก็ต นายเกียรติศักดิ์ ปิลวาสน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีภูเก็ต เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาสี โรงเรียนสตรีภูเก็ต มีน.ส. ภาวิณี
บุญวัฒโนภาส นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีภูเก็ต คณะครู นักเรียน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วม
นางสาวปิยาพร เมฆารักษ์กุล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 โรงเรียนสตรีภูเก็ต ประธานจัดการแข่งขัน กล่าวรายงานว่า การจัดการแข่งขันกีฬาสีในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีสมรรถภาพทางกาย และทางจิตที่ดี มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมพลศึกษามากยิ่งขึ้น อีกทั้งเพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการแสดงออกให้ถูกรูปแบบในการกีฬา และการจัดการที่ดี ตลอดจนให้มีคุณลักษณะที่พึ่งประสงค์ตามที่สังคมต้องการ เพื่อสนองนโยบายของโรงเรียน และนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการรวมถึงความต้องการของท้องถิ่น และเพื่อสนองตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
รูปแบบการแข่งขันได้แบ่งนักเรียนออกเป็น 5 สี คือสีฟ้า สีม่วง สีแดง สีชมพู และสีเหลือง จัดให้มีการแข่งขันกีฬารวม 11 ประเภท คือฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล แบดมินตัน เทเบิลเทนนิส เปตอง หมากล้อม แอโรบิค แดนเซอร์ เชียร์ลีดเดอร์ และกีฬาปริดส์ จะแข่งขันรวม 3 วัน ระหว่างวันที่ 27 – 29 ก.ค.2554 ที่โรงเรียนสตรีภูเก็ต
ด้านนายเกียรติศักดิ์ ปิลวาสน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีภูเก็ต กล่าวเสริมว่า กีฬาเป็นการพัฒนาให้ทุกคนมีสุขภาพลาวนาใยที่สมบูรณ์ จิตใจแจ่มใสทำให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุข อีกทั้งนักเรียนยังเกิดความรักและสามัคคีกันในหมู่คณะ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รู้จักการให้และการยอมรับในผลการแข่งขัน ตลอดถึงเกิดทักษะกระบวนการกลุ่ม การทำงานเป็นทีม การวางแผนการดำเนินงาน การรู้จักนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดการกลุ่มสี ที่จะนำไปสู่การเตรียมพร้อมเป็นศูนย์จัดการเรียนรู้หลักปรัชญาของศรษฐกิจพอเพียง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังเป็นการดูระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องอันก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งการจัดการแข่งขันกีฬาสีสามารถส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้ความสามารถในด้านทักษะการกีฬาอย่างถูกรูปแบบ ด้านการจัดการในทุกคณะสี เป็นการเสริมการเรียนการสอนในปัจจุบันและตอบสนองวิสัยทัศน์ นโยบายของโรงเรียนตลอดจนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่โรงเรียนต้องการ ทำให้นักเรียนมีศักยภาพเป็นกำลังของชาติในอนาคต
นางสาวปิยาพร เมฆารักษ์กุล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 โรงเรียนสตรีภูเก็ต ประธานจัดการแข่งขัน กล่าวรายงานว่า การจัดการแข่งขันกีฬาสีในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีสมรรถภาพทางกาย และทางจิตที่ดี มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมพลศึกษามากยิ่งขึ้น อีกทั้งเพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการแสดงออกให้ถูกรูปแบบในการกีฬา และการจัดการที่ดี ตลอดจนให้มีคุณลักษณะที่พึ่งประสงค์ตามที่สังคมต้องการ เพื่อสนองนโยบายของโรงเรียน และนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการรวมถึงความต้องการของท้องถิ่น และเพื่อสนองตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
รูปแบบการแข่งขันได้แบ่งนักเรียนออกเป็น 5 สี คือสีฟ้า สีม่วง สีแดง สีชมพู และสีเหลือง จัดให้มีการแข่งขันกีฬารวม 11 ประเภท คือฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล แบดมินตัน เทเบิลเทนนิส เปตอง หมากล้อม แอโรบิค แดนเซอร์ เชียร์ลีดเดอร์ และกีฬาปริดส์ จะแข่งขันรวม 3 วัน ระหว่างวันที่ 27 – 29 ก.ค.2554 ที่โรงเรียนสตรีภูเก็ต
ด้านนายเกียรติศักดิ์ ปิลวาสน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีภูเก็ต กล่าวเสริมว่า กีฬาเป็นการพัฒนาให้ทุกคนมีสุขภาพลาวนาใยที่สมบูรณ์ จิตใจแจ่มใสทำให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุข อีกทั้งนักเรียนยังเกิดความรักและสามัคคีกันในหมู่คณะ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รู้จักการให้และการยอมรับในผลการแข่งขัน ตลอดถึงเกิดทักษะกระบวนการกลุ่ม การทำงานเป็นทีม การวางแผนการดำเนินงาน การรู้จักนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดการกลุ่มสี ที่จะนำไปสู่การเตรียมพร้อมเป็นศูนย์จัดการเรียนรู้หลักปรัชญาของศรษฐกิจพอเพียง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังเป็นการดูระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องอันก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งการจัดการแข่งขันกีฬาสีสามารถส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้ความสามารถในด้านทักษะการกีฬาอย่างถูกรูปแบบ ด้านการจัดการในทุกคณะสี เป็นการเสริมการเรียนการสอนในปัจจุบันและตอบสนองวิสัยทัศน์ นโยบายของโรงเรียนตลอดจนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่โรงเรียนต้องการ ทำให้นักเรียนมีศักยภาพเป็นกำลังของชาติในอนาคต
***สิรินทร สินนอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ โสภณ เคี่ยมการ/ ตรวจทาน
------------------------------------------
มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ เพื่อเป็นการปลุกจิตสำนึก สร้างความตระหนักให้แก่ผู้ใช้ภาษาไทย ให้เห็นคุณค่าของภาษาไทย
วันนี้ (27 ก.ค. 54) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันภาษาไทย ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตจัดขึ้น โดยคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มีนักเรียนจากโรงเรียนในเขตเทศบาลนครภูเก็ตและนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตเข้าร่วม
ผศ.ดร.ประภา ได้กล่าวชื่นชมคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่ได้วางแผนและประสานงานการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเหมาะสม โดยความร่วมมือจากสาขาวิชาต่าง ๆ ของคณะ ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงห่วงใยสภาพการใช้ภาษาไทยของบุคคลต่างๆ ตลอดมาและยังเป็นการปลุกจิตสำนึก สร้างความตระหนักให้แก่ผู้ใช้ภาษาไทย ได้เห็นคุณค่าของภาษาไทย ในฐานะที่เป็นภาษาประจำชาติ เกิดความรัก ความหวงแหน มีเจตคติที่ดีต่อภาษาไทย ตลอดทั้งสืบทอดภาษาไทยซึ่งเป็นมรดกของชาติไว้ให้คงอยู่คู่ชาติตลอดไป
ผศ.ดร.ประภา ยังกล่าวอีกว่า การจัดงานในลักษณะนี้ถือเป็นการเสริมสร้างค่านิยมที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนในชาติ เป็นกิจกรรมที่ควรยกย่องสรรเสริญ เพราะทุกกิจกรรมที่จัด ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันคัดไทย การเล่านิทานพื้นบ้าน การแสดงเพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทย การแสดงละคร การแข่งขันร้องเพลงลูกทุ่งประกอบรีวิว ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่สร้างความตระหนักให้เยาวชน นักศึกษา ตลอดจนผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม เกิดความรัก ความหวงแหนภาษาไทยมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการสร้างค่านิยมในการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง หวังว่าหน่วยงานอื่น ๆ คงมีแนวคิดสร้างสรรค์ พร้อมที่จะทำงานลักษณะนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป ในส่วนของมหาวิทยาลัยเองยินดีสนับสนุนการจัดงานตามความเหมาะสมกับศักยภาพทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านงบประมาณ อาคารสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ และอื่นๆ
***สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์ โสภณ เคี่ยมการ /ทาน
----------------------------------------------------------
เอฟซี ภูเก็ต ทุ่มงบก้อนโตดึง6นักเตะเสริมทัพในเลก 2ซิว อาบูบาก้า,มาติจาส,ฮอลสเซียน ขอเบียดที่3ขึ้นชั้น
“กิเลนทะเลใต้” เอฟซี ภูเก็ต ทุ่มงบก้อนโตดึง5นักเตะเสริมทัพเลก2 สู้ศึกดิวิชั่น1 ได้ อาบูบาก้า ปีกตัวจี๊ดเมืองทอง ยูไนเต็ด, จงรัก ภักดี ดาวรุ่งจากบีจี ,ฮอสเซียน นิสซิม จากทีทีเอ็มพิจิตร, โจนาธาน มาติจาส นายทวารจากฝรั่งเศส, นิติพงษ์ ลิ้มสุวรรณ อดีตแข้ง20ปีทีมชาติไทยและลูกหม้อกิเลนผยองชุดแชมป์ดิวิชั่น1,กิตติธัช ไกรทอง ลูกหม้อดั้งเดิม พร้อมตั้งเป้าขอเบียดอันดับ3ขึ้นไทยพรีเมียร์ลีกในปีนี้ให้ได้
เมื่อวันพุธที่ 27 ก.ค. 54 ที่ห้องแถลงข่าวยามาฮ่าสเตเดี้ยม เมืองทองธานี สโมสรฟุตบอลเอฟซี ภูเก็ต ทีมอันดับ 9 ของดิวิชั่น 1 ฤดูกาล2554 ได้แถลงข่าวเปิดตัว 5 นักเตะใหม่ที่เข้ามาเสริมทัพในเลกที่2 ฟุตบอลดิวิชั่น 1 พร้อมกับแถลงนโยบายของสโมสรโดยมี สรนันท์ เสน่ห์ เลขานุการทีม,นฤเบศ อายุพงศ์ ผอ.สโมสร, สมพงษ์ วัฒนา หัวหน้าสต๊าฟโค้ชร่วมแถลงข่าว
สำหรับเลกที่ 2 เอฟซี ภูเก็ต ได้นักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพอีก6คนดังนี้ โจนาธาน มาติจาส นายทวารจากสโมสรอาเมียง แอสเซ ทีมในลีก2ของฝรั่งเศสซึ่ง มาติจาส ได้ร่วมทีมกิเลนทะเลใต้มาได้เดือนเศษแล้วพร้อมกับโชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟช่วยให้กิเลนทะเลใต้ทะลุเข้าสู่รอบ8ทีมสุดท้ายโตโยต้าลีกคัพแล้ว ,ฮอลสเซียน นีสซิม มิดฟิลด์ตัวรับจากทีทีเอ็มพิจิตรซึ่งมีประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลลีกในไทยมาอย่างโชกโชน, จงรัก ภักดี กองหน้าอดีตแข้งนักเรียนไทยจากบางกอกกล๊าส เอฟซี และ นิติพงษ์ ลิ้มสุวรรณ แบ๊คซ้ายจากสโมสรนนทบุรีเอฟซี อดีตนักเตะเมืองทองฯชุดแชมป์ดิวิชั่น 1 ปี2551, กิตติธัช ไกรทอง ซึ่งเป็นนักเตะชุดแชมป์เอไอเอสลีก ภาคใต้ ที่ได้รับการบาดเจ็บไปร่วมปีจะกลับมาช่วยทีมในแดนกลางอีกครั้ง ทำให้ เอฟซี ภูเก็ต มีนักเตะที่จะสู้ศึกในฟุตบอลดิวิชั่น 1 เลกที่ 2 รวมแล้ว 28 คน แต่อย่างไรก็ตามมี 2 รายคือ ถวิล บุตรสมบัติ กับ ระพีพันธ์ พูลสวัสดิ์ ที่ไม่สามารถเล่นได้เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บต้องผ่าตัดแพทย์ให้พักยาว
นฤเบศ อายุพงศ์ ผู้อำนวยการสโมสร กล่าวถึงเป้าหมายของทีมในเลก2ว่า แม้เอฟซี ภูเก็ต จะจบเลกแรกที่อันดับ9มีแค่24คะแนน ขณะที่จ่าฝูง บุรีรัมย์ เอฟซี และ รองจ่าฝูง บีบีซียู มี42แต้มเท่ากันทว่า อันดับ3 แบงค์ค๊อก ยูไนเต็ด มี34คะแนน ซึ่งห่างกันแค่10แต้ม ยังเหลือเกมให้เล่นในเลก2อีก17นัด อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เอฟซี ภูเก็ต หวังลึกๆว่าจะขอลุ้นอับดับ3เพื่อขึ้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้เช่นกัน
ขณะที่ สมพงษ์ วัฒนา เฮดโค้ช ที่เข้ามาคุมทีมได้2เดือนเศษ กล่าวว่า ปัญหาของทีม เอฟซี ภูเก็ต ในเวลานี้คือ เลก2ต้องเล่นนอกบ้านเป็นทีมเยือนถึง10นัดเล่นในบ้านแค่7นัด และจากสถิติที่ผ่านมาทีมยังไม่เคยชนะในการเล่นนอกบ้านเลย แต่หลังจากได้ตัวผู้เล่นมาเสริมโดยเฉพาะ อาบูบาก้า ตัวทีมชาติเนเจอร์ ซึ่งมีประสบการณ์สูงรวมทั้งได้ โจนาธาน มาติจาส ผู้รักษาประตูจากฝรั่งเศสมาเฝ้าเสา ทำให้ ทีมแข็งแกร่งขึ้นเยอะ เชื่อว่าในเลก2 เอฟซี ภูเก็ต น่าจะทำผลงานได้ดี มีโอกาสเป็นทีมสอดแทรกทีมที่3ขึ้นไทยพรีเมียร์ลีกได้เหมือนกัน โดยเอฟซี ภูเก็ต จะประเดิมนัดแรกในเลก2ด้วยการไปเยือน ราชประชาไทยแลนด์ อาทิตย์ที่30ก.ค.นี้ ณ สนาม ม.มหิดล
สำหรับขุนพลเอฟซี ภูเก็ต ในเลก2ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ลือชา จันทวงษ์,ธีรวัฒน์ ปิ่นประดับ, โจนาธาน มาติจาส กองหลัง สุภัทร อ้นทอง,รณชัย จินาเกตุ ,วิราชโรจน์ จันทร์เต็ง, สุธี ศักดิ์วงศ์ ,อาวุธ หนูเซต, ระพีพันธ์ พูลสวัสดิ์, นิธิโรจน์ โสขุมา , เนเนบี้ ,นิติพงษ์ ลิ้มสุวรรณ , กองกลาง สารัช อยู่เย็น ,
เสกสิทธิ์ ศรีใส , พงษ์ศักดิ์ พานิชเจริญ , ณัฐพล ทับไทร,อับดุล คูริบารี่, กรพรหม จรูญพงศ์, นิรันดร์ พันทอง, ออสเซียน นีสซิม, กองหน้า วัชรพงษ์ จันทร์งาม, ถวิล บุตรสมบัติ ,ตามีซี หะยียูโซ๊ะ, ปรมัตถ์ กรองบริสุทธิ์, จงรักษ์ ภักดี,กิตติธัช ไกรทอง ,อาบูบาก้า, โคเน่ อดาม่า
โดยมี นายไพบูลย์ อุปัติฤงศ์ นายกอบจ.ภูเก็ต เป็นประธานสโมสร ,จิรายุส ทรงยศ ผู้จัดการทีม ,นฤเบศ อายุพงศ์ ผู้อำนวยการ ,สรนันท์เสน่ห์ เลขานุการ ,สมพงษ์ วัฒนา หัวหน้าสต๊าฟโค้ช , ,มร. ลาเซียน่า จ.ส.อ.สุรพงษ์ รักษ์แพทย์ ,มาหมัดสอาด แหล๊ะมุหมีน ผู้ช่วยโค้ช ,สมศักดิ์ อ้อชัยภูมิ โค้ชผู้รักษาประตู ณัฐ ณ สงขลา , จิตราพร ทองคง นักกายภาพบำบัด, พนมศักดิ์ จุฑากรณ์พงศ์ เจ้าหน้าที่ทีม ,ชาริต หอมนาน ประชาสัมพันธ์ทีม
------------------------------------------------------
อปน. กรมกิจการพลเรือนทหารรับฟังบรรยายสรุปด้านความมั่นคงที่จังหวัดภูเก็ต
วันนี้ (27 ก.ค. 54) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต ได้ให้การต้อนรับคณะอนุกรรมการประสานงานภายในประเทศ (อปน.) กรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งเดินทางมาราชการในพื้นที่ภาคใต้จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต โดยมี พลตรี ยงยศ คงแถวทอง รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร /ประธานอนุกรรมการประสานงานภายในประเทศ (อปน.) เป็นหัวหน้าคณะฯ
พลตรี ยงยศ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการประสานงานภายในประเทศ (อปน.) ประกอบด้วยอนุกรรมการจากหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนกังานตำรวจแห่งชาติ ก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานอันเนื่องมากจากพระราชดำริ และผู้แทนสื่อมวลชน โดยได้เดินทางมาราชการในพื้นที่ภาคใต้ระหว่างวันที่ 25-29 กรกฎาคม 2554 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรับทราบข้อมูลสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงแนวทางแก้ไขปัญหาความมั่นคงต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพังงา และจังหวัดภูเก็ต
สำหรับในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต คณะฯ ได้ลงมาเพื่อรับทราบภาพรวมในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตและการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาจังหวัดไปสู่ประชาคมอาเซียน 2015 และการท่องเที่ยว รวมทั้งรับฟังการบรรยายสรุปจากผู้แทนทัพเรือภาค 3 เกี่ยวกับภารกิจหน่วย การดำเนินการต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเล การอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติ ปัญหายาเสพติด การช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ และเยี่ยมชมโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล
ทั้งนี้การศึกษาดูงานครั้งนี้คณะฯ จะนำข้อมูลจากหน่วยงานในพื้นที่มาบูรณาการแนวทางการปฏิบัติการจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ รวมทั้งเสริมสร้างความเข้าใจกับประชาชนต่อปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาของชาติในมิติต่าง ๆ รวมถึงการดำเนินการปฏิบัติการจิตวิทยาและการประชาสัมพันธ์ของคณะอนุกรรมการฯ ให้เป็นไปตามกรอบยุทธศาสตร์การปฏิบัติการจิตวิทยาเชิงรุกระยะเวลา 3 ปี (2552-2554)
***โสภณ เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว เสงี่ยม เอียดตน/พิมพ์
-----------------------------------------------
นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีเบิกหน้าดิน เพื่อก่อสร้างสถานธรรมฉงเซิ่งฉือหังและมูลนิธิเฉินกงถาน จ.ภูเก็ต
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2554 เวลา 09.00 น. นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเบิกหน้าดิน เพื่อก่อสร้างสถานธรรมฉงเซิ่งฉือหังและมูลนิธิเฉินกงฐาน สาขาจังหวัดภูเก็ต ณ ซอยบางชีเหล้า ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายก่อเกียรติ สุพลพงษ์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 8 เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และ อ.อู๋ เตี่ยนฉวนซือ ประธานมูลนิธิเฉินกงถาน เป็นประธานพิธีเบิกหน้าดิน ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ และผู้มีจิตศรัทธา ที่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
สำหรับวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างอาคารฯ โดยมูลนิธิเฉินกงถาน และสถานธรรมฉงเซิ่งฉือหัง เพื่อเสริมสร้างคุณธรรม สนับสนุนผู้ปฏิบัติ บำเพ็ญธรรม ช่วยเหลือสาธารณประโยชน์ ผู้ประสพภัย ผู้ยากไร้ ให้ทุนการศึกษา แจกอาหาร ส่งเสริมวัฒนธรรม จารีตประเพณีอันดีงามของประเทศชาติ อบรมคุณธรรม จริยธรรม สรรค์สร้างบุคลากรที่มีค่าให้กับสังคม ซึ่งปัจจุบันในจังหวัดภูเก็ต ได้มีญาติธรรมผู้ถือศีลทานเจ บำเพ็ญปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมากขึ้น แต่สถานที่รองรับการอบรมศึกษาธรรมยังมีไม่เพียงพอ ทางครอบครัวของคุณวิชัย ชูภิบาล จึงได้เกิดจิตศรัทธาบริจาคที่ดินแปลงนี้ จำนวนเนื้อที่ 2 ไร่ 2 งาน 35 ตารางวา เพื่อใช้สร้างอาคารสถานธรรมฉงเซิ่งฉือหังแห่งใหม่และเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิฯ
อย่างไรก็ตาม การเตรียมจัดงานครั้งนี้ถือว่าสำเร็จเรียบร้อยด้วยดี โดยได้รับความอนุเคราะห์การสนับสนุนช่วยเหลือจากบุคคลองค์กรต่างๆ ได้แก่ ครอบครัวของคุณวิชัย จูภิบาล ได้ร่วมบริจาคที่ดิน คุณสาโรจน์ ตันติพัฒนเสรี สนับสนุนการออกแบบการก่อสร้างอาคารมูลนิธิเฉินกงถานและสถานธรรมฉงเซิ่งฉือหัง องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้สนับสนุนการจัดสถานที่เต้นท์ โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องเสียง และบุคลากรช่วยเหลืองาน นายสังคม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต บริการงานทั่วไป ญาติธรรมในเขตภาคใต้ตอนบน สละแรงกายแรงใจในการจัดงาน คณะครูและนักเรียนวิทยาลัยอาชีวภูเก็ต ช่วยเหลือในการประดับตกแต่งสถานที่ รวมถึงผู้มีเกียรติทุกท่านที่ได้ร่วมบริจาคปัจจัยช่วยในงานพิธีนี้
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า “ทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ ถือว่าเป็นผู้ใจบุญทั้งสิ้น เพราะว่าได้มาร่วมกันสร้างตัวอย่างแห่งการทำความดีให้แก่ลูกหลานของเรา ซึ่งการที่มูลนิธิเฉินกงถาน ได้สร้างสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว ถือเป็นตัวอย่างที่จะนำธรรมะให้เกิดเป็นผู้ปฏิบัติอย่างแท้จริง จึงขอชื่นชมผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านที่ได้ร่วมกันให้งานนี้ประสบความสำเร็จ และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบันดาลให้ทุกท่านและครอบครัวได้รับอานิสงค์แห่งความดีโดยทั่วกัน” นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับผู้มีจิตศรัทธา สามารถขอร่วมบริจาคได้โดย โอนเงินเข้าบัญชี มูลนิธิเฉินกงถาน ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้าแยกฉลอง ภูเก็ต เลขที่บัญชี 494-2-10535-0
***ปชส.อบจ.ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว
--------------------------------------
ขนส่งภูเก็ต เตรียมพร้อม ยานพาหนะรับส่งนักกีฬา พร้อม หารือ ผู้ประกอบการรถเรื่องค่าบริการ ช่วงการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ภูเก็ตเกมส์ ครั้งที่ 28
เมื่อเวลา 14.00 น. วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ที่ห้องประชุมสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต (อาคาร 1 ชั้น 2) นายธีรยุทธ์ ประเสิรฐผล ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายยานพาหนะและระบบขนส่ง ฯ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ภูเก็ตเกมส์ ครั้งที่ 28 โดยมี นายวิรัช พาที ผู้อำนวยการศูนย์กีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดภูเก็ต นายสมศักดิ์ ศักดิ์ภักษ์ ตัวแทนทาจากท่าอากาศยานภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญในครั้งนี้เป็นการหารือถึงเรื่องของ ชนิดกีฬา/สนามแข่งขัน การจัดทำแผนการดำเนินงานและงบประมาณ (ฝ่ายขนส่ง ฯ) ตลอดจนการจัดเตรียมรถบริการเจ้าหน้าที่และนักกีฬา (รถโยสารประจำทาง) กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ภูเก็ตเกมส์ ครั้งที่ 28
นายธีรยุทธ์ กล่าว เป็นการประชุมความพร้อมเกี่ยวกับการจัดรถรับส่งนักกีฬา จากทีมต่าง ๆ ซึ่งตอนนี้ที่รับทราบสนามที่ใช้ทำการแข่งขัน กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ภูเก็ตเกมส์ ครั้งที่ 28 สนามกีฬาสะพานหิน สนามสุรกุล สนามกีฬาเชิงทะเล ส่วนที่พักนักกีฬายังไม่นิ่ง ยังไม่รู้ว่านักกีฬาทั้งหมดที่มาจะพักที่ไหน แต่อย่างไรตามทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังมีศูนย์การบริหารของเรื่องยานพาหนะอยู่ที่สำนักงานขนส่งเป็นศูนย์กลาง ส่วนในเรื่องของการรับส่งนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบว่าทางนักกีฬาไปพักที่ไหนอย่างไรแล้ว จะจัดในเรื่องของการรับส่ง จะทำตารางการรับส่งไปยังที่พักและไปยังสนามการแข่งขันกีฬาอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามได้จัดตั้งงบประมาณในส่วนของรถตู้จำนวน 20 คัน สำหรับคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่ในการจัดการแข่งขันกีฬา ขณะเดียวกันนักกีฬาจะใช้รถสองแถว จำนวน 50 คัน รับส่งนักกีฬาจากที่พักไปยังสถานที่แข่งขัน โดยตั้งงบประมาณไว้ที่ 1.6 ล้านบาท
ส่วนราคาการรับส่งนักกีฬา ของนักท่องเที่ยวจะมีการเรียกผู้ประกอบการรถกับขนส่งมาประชุมกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการรถ เช่น ถ้าผู้โดยสารที่มี ป้าย ID การ์ด ของนักกีฬา ให้ลดครึ่งราคา หรือฟรี โดยจะมีการประชุมระหว่างผู้ประกอบการกับขนส่งอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายวิรัช กล่าวว่า สำหรับชนิดกีฬาในการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ ขณะนี้ฝ่ายเทคนิคได้แจ้งชนิดกีฬาอย่างชัดเจน จำนวน 35 ชนิดกีฬา ขณะนี้ฝ่ายแต่ละฝ่ายมีความพร้อมในระดับหนึ่ง ส่วนฝ่ายเลขาก็มีการติดตามการดำเนินงานของแต่ละฝ่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แต่ละฝ่ายแล้วเสร็จตามที่กำหนดไว้ ซึ่งจะมีการประ ชุมคณะกรรมการในแต่ละฝ่ายให้รับทราบความก้าวหน้าของแต่ละฝ่ายต่อไป
ทั้งนี้เรื่องสนามแข่งขันคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา โดยได้ลงพื้นที่ไปสำรวจ ตรวจสอบตามสนาม หลังจากนั้นให้ทางโยธาธิการฯไปสำรวจสนามในแต่ละพื้นที่ว่าจะต้องซ่อมแซมส่วนไหนบ้าง และสรุปว่าใช้เวลาซ้อม รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไร ในส่วนระบบไฟนั้นไม่น่าจะเกิดปัญหา เดือนมกราคม พ.ศ. 2555 ก็น่าจะแล้วเสร็จ ซึ่งในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554 จะเป็นการส่งงานครั้งสุดท้ายของการปรับปรุงในแต่ละฝ่าย
***สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ โสภณ เคี่ยมการ /ทาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป