วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข่าววันที่ 9 ส.ค.54

อบต. ฉลอง จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี

                เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา นายสมเกียรติ  สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดงานเทิดพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี ครั้งที่ 14  ขององค์การบริหารส่วนตำบลฉลอง ประจำปี 2554 โดยมีนายณัฏฐ์พงศ์  วิมลพันธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลฉลอง พนักงาน ข้าราชการ องค์การบริหารส่วนตำบลฉลอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพเฉลิมพระเกียรติฯ ตำบลฉลอง พ่อค้า ประชาชน เข้าร่วม
                นายณัฏฐ์พงศ์  กล่าวว่า เนื่องจากวันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี เป็นคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ องค์การบริหารส่วนตำบลฉลองและประชาชนทุกหมู่เหล่าจึงได้ร่วมใจกันจัดกิจกรรมเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคมขึ้น เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ยังความร่มเย็นเป็นสุข แก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า
                สำหรับกิจกรรมประกอบด้วย พิธีสงฆ์และทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์จำนวน 79 รูป  พิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ  การแสดงบนเวที
*** โสภณ  เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว  เสงี่ยม  เอียดตน/พิมพ์
--------------------------------
อบจ.ภูเก็ต ร่วมกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2554 เวลา 09.00 . นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายชยต วิสารทพงศ์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายสุเมธ อำภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต นายอธิพงษ์ คงนาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก ตลอดจน หน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา กลุ่มพลังมวลชน สถานประกอบการโรงแรม องค์กรเอกชน และประชาชนทั่วไป จำนวนกว่า 1,000 คน เข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ณ ป่าชายเลนบ้านท่าหลา ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมี นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน
การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในครั้งนี้ จัดขึ้นโดย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก และโรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์ โดยดำเนินการปลูกป่าไม้ชายเลน ประกอบด้วย โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก จำนวน 10,000 กล้า และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 500,000 ตัว ทั้งนี้ เพื่อสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูทรัพยากรป่าชายเลนที่เสื่อมโทรมให้มีความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงป้องกันการพังทลายของดิน ปรับปรุง บำรุง ฟื้นฟูดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ แก้ปัญหาดินเสื่อมโทรม เพิ่มพื้นที่สีเขียวและลดภาวะโลกร้อนของจังหวัดภูเก็ตให้บรรลุผลตามนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนเป็นการปลูกจิตสำนึกของคนในจังหวัดภูเก็ตให้มีความรักและหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ ได้มีการมอบประกาศนียบัตรให้แก่แม่ดีเด่น ตำบลป่าคลอก เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2554 ด้วย.
***  ปชส.อบจ. ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว  เสงี่ยม  เอียดตน /พิมพ์
------------------------------
อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีวางพวงมาลา เนื่องในงาน วันรพี

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2554 เวลา 07.50 . นายรังสรรค์ คงทอง ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภา อบจ.ภูเก็ต และข้าราชการ อบจ.ภูเก็ต เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาต่อพระรูปกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เนื่องในงาน วันรพี ณ บริเวณหน้าอาคารศาลแรงงานภาค 8 (อาคารศาลจังหวัดภูเก็ตเดิม) ซึ่งมี นายเอกชัย ชินณพงศ์ ประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 8 เป็นประธานในพิธี
 สำหรับ วันรพีตรงกับวันที่ 7 สิงหาคม เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็น พระบิดาแห่งกฎหมายไทยเนื่องจากพระองค์ทรงเป็นนักนิติศาสตร์ และทรงวางระบบแบบแผนศาลยุติธรรม รวมถึงทรงจัดตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอันเป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่ประเทศชาติ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาตลับ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2417 เมื่อทรงพระเยาว์ทรงศึกษาวิชาภาษาไทย ณ ประเทศอังกฤษ 3 ปี เสด็จกลับมาอยู่ประเทศไทย 1 ปี แล้วเสด็จกลับไปศึกษาวิชากฎหมาย ณ สำนักไครสต์เชิร์ช มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ จนสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาเกียรตินิยม แล้วเสด็จกลับมารับราชการในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม จนกระทั่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2463 ซึ่งพระชนมายุได้ 47 พรรษา.
*** ปชส.อบจ.ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว
-------------------------------
พ่อค้าหมูภูเก็ตโอดหมูแพงทำยอดขายลดฮวบ ขณะที่ราคายังจำหน่ายต่ำกว่าทุน

                สำหรับบรรยากาศการจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังกระทรวงพาณิชย์ ประกาศควบคุมราคาหมูหน้าเขียงเนื่องจากราคาจำหน่ายหมูมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  และจากการสำรวจตลาดจำหน่ายหมูในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตโดยเฉพาะที่ตลาดสดสาธารณะ 1 เทศบาลนครภูเก็ต ถนนระนอง  อ.เมือง จ.ภูเก็ต พบว่าวันนี้ (8 ส.ค.) การจำหน่ายเนื้อหมูในตลาดเป็นไปด้วยความเงียบเหงามีคนซื้อน้อยมาก  พ่อค้า-แม่ค้าจำหน่ายหมูชำแหละ ในราคาต่ำกว่าราคาควบคุม โดยเนื้อสันจำหน่ายกิโลกรัมละ 160 บาท เนื้อหมูติดมันกิโลกรัมละ 130  บาท เนื้อหมูสามชั้น 150 บาท  ซึ่งถูกกว่าราคาควบคุมที่กำหนดให้จำหน่ายอยู่ที่ 162 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาจำหน่ายเนื้อหมูในตลาดนัดต่างๆที่กระจายอยู่ทั่วจังหวัดภูเก็ตอยู่ที่กิโลกรัมละ 160-180 บาท 
                นายมรกต  แสงมณี พ่อค้าหมูตลาดสด  ถนนระนองสาธารณะ 1 เทศบาลนครภูเก็ต ถนนระนอง   กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถขึ้นราคาเนื้อหมูได้ ทั้งๆที่รับซื้อมาในราคาสูงที่ขึ้น แต่ก็ยังจำเป็นต้องขายในราคาเดิม เพราะถ้าปรับราคาสูงกว่านี้คนซื้อก็จะไม่ซื้อ และราคาที่จำหน่ายอยู่ขณะนี้ชาวบ้านก็บ่นว่าราคาแพง ทำให้ยอดขายหมูลดลงอย่างเห็นได้ชัด เดิมจำหน่ายอยู่วันละ 12 ตัว ขณะนี้ลดเหลือวันละประมาณ 6-10 ตัวเท่านั้น สาเหตุที่ยอดขายลดลงก็เนื่องจากราคาหมูปรับตัวสูงขึ้นทำให้คนซื้อ ซื้อน้อยลงบางคนเปลี่ยนไปซื้อสินค้าชนิดอื่นที่ทดแทนกันได้   ขณะที่พ่อค้าแม่ค้ารายอื่นก็เช่นกันต่างก็มียอดขายลดลง
***  อำนวย  ทองสม/สนับสนุนข่าว  ณรงค์ศักดิ์  แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
----------------------
เทศบาลนครภูเก็ตซ้อมแผนหนีไฟไหม้ในอาคารตลาดสด หวังพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนมั่นใจในความปลอดภัย

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (ส.ค.54) ที่บริเวณตลาดสดเทศบาลนครภูเก็ต 1 ถ.ระนอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ตได้ฝึกซ้อมแผนอพยพหนีไฟขึ้น โดยสมมุติให้มีเหตุไฟไหม้ขึ้นที่บริเวณชั้นใต้ดินของตลาดสด ซึ่งเป็นชั้นที่จำหน่ายอาหาร ได้เกิดไฟไหม้ที่แก๊สปรุงอาหารของแม่ค้า เจ้าหน้าที่พยายามที่จะดับไฟแต่ไม่สามารถดับไฟได้ จึงได้แจ้งเหตุไฟไหม้ไปยังส่วนงานดับเพลิงของเทศบาลนครภูเก็ต พร้อมทั้งอพยพพ่อค้า แม่ค้า ที่ค้าขายอยู่ในตลาดสดออกจากภายในอาคารทั้งหมด ขณะที่รถดับเพลิงก็ได้เข้าควบคุมเพลิงไว้ได้ในที่สุด
              ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจและความพร้อมในส่วนของเจ้าหน้าที่ พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนในพื้นที่ตลาดสดเทศบาล รวมทั้งเพื่อให้เกิดการประสานงานระหว่างคณะกรรมการตลาดสดเทศบาลกับเทศบาล และหน่วยงานอื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัยและดำเนินการตามแผนอพยพ และเพื่อลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและรัฐ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในเขตพื้นที่ตลาดสดเทศบาลในระบบและอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย
              นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า อาคารตลาดสดสาธารณะ 1หรือตลาดบ้านซ้าน เป็นอาคารสาธารณะขนาดใหญ่ที่จะต้องดำเนินการไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของอาคารตามพรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และแก้ไขเพิ่มเติม และให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถานประกอบการ เพื่อความปลอดภัยในการทำงานสำหรับลูกจ้าง ซึ่งในแต่ละวันจะมีประชาชนทั่วไป กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าและลูกจ้างในตลาดสด หากมีเหตุอัคคีภัยเกิดขึ้นภายในอาคารตลาดสด อาจสร้างความตื่นตระหนกตกใจ ให้แก่ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการร้านค้า และลูกจ้างที่มาใช้บริการและประกอบอาชีพอยู่ภายในอาคารตลาดสด และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงได้ หากขาดการเตรียมการและไม่ผ่านการฝึกอบรมด้านการป้องกันและระงับอัคคีภัยขั้นต้น รวมถึงการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟภายในอาคารมาก่อน อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินอย่างมากมายได้
               ดังนั้นการที่ได้ฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟในอาคารตลาดสดสาธารณะ 1 นับเป็นผลดีเพื่อให้ประชาชนที่มาใช้บริการจับจ่ายใช้สอย กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าและลูกจ้างที่ประกอบอาชีพอยู่ในตลาดสดปฏิบัติตนได้ถูกต้องเมื่อเกิดอัคคีภัยขึ้นภายในอาคาร ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของคณะผู้บริหารเทศบาลนครภูเก็ตชุดปัจจุบันที่กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า “สร้างนครภูเก็ตให้เป็นนครแห่งความสุข และน่าอยู่อย่างยั่งยืน
***อำนวย  ทองสม/สนับสนุนข่าว  ณรงค์ศักดิ์  แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
----------------------------
ชมรมธนาคาร B จุดโทษชนะทีม A อย่างสนุก 7-6  คว้าถ้วยวันรพี ปี 54 ตามคาด ขณะที่อันดับ 2  ทีมปกครองสมใจหมายได้ถ้วยปลอบขวัญ               เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่  6  สิงหาคม 2554 นายปกรณ์   รัตนพิทย์    ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการแข่งขันฟุตบอลประเพณีรพี โดยมีนายปิยะวุฒิ  เครือจันทร์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงษ์  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายระพินทร์          ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายวิโรจน์   สุวรรณวงศ์    ป้องกันจังหวัดภูเก็ต   และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆร่วมที่สนามภูเก็ตซอคเกอร์อารีน่า จังหวัดภูเก็ต
              นายปกรณ์  กล่าวว่าการแข่งขันฟุตบอลวันรพีประจำปี 2554 เป็นที่ทราบการดีอยู่แล้วว่าพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หรือที่เราขนานพระนามทานว่าพระบิดาแห่งกฎหมายไทย ท่านทรงมีพระคุณต่อกิจการกฎหมายในบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวงและเมื่อถึงวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่าน วันที่ สิงหาคมของทุกปี บรรดานักกฎหมายทั้งปวงได้พร้อมใจกันทั่วประเทศจัดงานวันรพี เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระท่านให้ดำรงอยู่ในความทรงจำของประชาชนคนไทย                ในการจัดการแข่งขันกีฬา นอกจากนักกีฬาและผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนจะได้ประโยชน์ทางด้านร่างกายและเสริมสร้างสุขภาพพลานามัยแข็งแรงแล้วความสุกสนานรื่นเริง ยังช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าและความเครียดจากการทำงานที่สำคัญยังเป็นการเชื่อมความสามัคคีของผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายและหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งเป็นการแสดงถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบิดาแห่งกฎหมายไทยด้วย
                อย่างไรก็ตามสำหรับทีมที่เข้ามาแข่งขัน ประกอบด้วยทีมศาลจังหวัดภูเก็ต ศาลแรงงาน 8 ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ตA และ  B ทีมชมรมธนาคาร AและBทีมที่ดินจังหวัดภูเก็ต ทีมตำรวจ A และB   ทีมปกครอง Aและ ทีมเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ทีมสถานพินิจ+บังคับคดี 
               และวันที่ 6 สิงหาคม 2554 เป็นการแข่งขันฟุตบอลรอบก่อนชนะเลิศ  ระหว่างทีมปกครอง A พบกับทีมชมรมธนาคาร A ปรากฏว่าในเวลา เสมอ 2-2 ประตู  ดวลจุดโทษทีมชมรมธนาคาร ชนะทีมปกครอง A   4-3  ประตู   ทางด้านทีมปกครอง B พบกับทีมชมรมธนาคาร ผลปรากฏว่า  ทีมชมรมธนาคาร B ชนะทีมปกครอง  B 3-2  ประตู             
               และในคู่ชิงชนะเลิศอันดับ 2  ระหว่างทีมปกครอง A พบกับทีมปกครอง  B ในเวลา  เสมอ 6-6 ประตู  จุดโทษทีมปกครอง  B   ชนะทีมปกครอง 11-9    ปะตู ส่วนคู่ชิงชนะเลิศ  ทีมชมรมธนาคารA  กับ ทีมชมรมธนาคาร B ผลปรากฏว่าในเวลา   4-4 ประตู จุดโทษ ทีมชมรมธนาคาร B ชนะทีมชมรมธนาคาร A   7-6   ประตู
                ขณะที่ถ้วยรางวัลมารยาทยอดเยี่ยม ได้แก่ทีมคุมประพฤติ ถ้วยรางวัลดาวซัลโวสูงสุด ได้แก่ พ.ต.ท.นิกร  ชูทอง  สวป.สภ.กะทู้ จากทีมตำรวจ ถ้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ทีมปกครอง B  ถ้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทีมชมรมธนาคารA และถ้วยรางวัลชนะเลิศวันรพี ได้แก่ทีมชมรมธนาคาร B ตามคาด 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป