วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ข่าวภูเก็ต วันที่ 10 มิ.ย..54

คาวานหาเสียงของนายแพทย์แวมาฮาดี ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 1 และประธานพรรคแทนคุณแผ่นดิน ที่ตั้งคาวานหาเสียง 21 วัน จากนราธิวาสถึงเชียงใหม่ เดินสายถึงจังหวัดภูเก็ต


จากการที่คาราวานหาเสียงของนายแพทย์แวมาฮาดี ประธานพรรคแทนคุณแผ่นดิน ได้ตั้งคาราวานหาเสียงจากนราธิวาสถึงเชียงใหม่ กำหนดเวลา 21 วัน โดยเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 54 เป็นวันที่ 8 ของการเดินทางถึงจังหวัดภูเก็ต พร้อมผู้สมัคร ส.ส.ทั้งในระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อพร้อมผู้สนับสนุน ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต โดยนายแพทย์แวมาฮาดีระบุพรรคเป็นทางเลือกที่จะสร้างการเมืองใหม่เพื่อนประชาชนจริง ๆ ไม่เป็นนักการเมืองหนังตะลุงให้นายทุนที่อยู่ข้างหลังพรรคเชิด พร้อมระบุโหวตโนไม่ใช่แนวทางระบบประชาธิปไตย ได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างดีทั้งไทยพุทธและมุสลิม โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนชาวไทยมุสลิมให้การต้อนรับและตอบรับดีเป็นพิเศษ

จากนั้นช่วงกลางคืนเวลา 21.00 น.ของวันที่ 8 มิ.ย. 54 ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่หน้ามัสยิดภูการ่ม ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ปรากฎว่ามีพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมให้ความสนใจมาฟังการศรัยในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

นพ.แวมาฮาดี กล่าวกับประชาชนว่าคาราวานรถแห่หาเสียงของพรรคนั้นเริ่มจาก จ.นราธิวาสจุดหมายปลายทางที่ จ.เชียงใหม่ รวมระยะทางกว่า 2,500 กิโลเมตร ใช้เวลารวม 21 วัน ซึ่งจะมีการแวะปราศรัยหาเสียงกับพี่ประชาชน ตามจังหวัดต่างๆ ที่ขบวนคาราวานหาเสียงผ่าน เพื่อชี้แจงนโยบายและจุดยืนของพรรคแทนคุณแผ่นดิน ที่พร้อมจะเป็นทางเลือกที่เป็นตัวแทนเป็นปากเสียงแทนพี่น้องประชานจริง ๆ ไม่ใช่เป็นผู้แทนหนังตะลุงที่จะต้องมีคนเชิดอยู่ข้างหลัง แม้นจะเป็นคนดีมีความต้องการรับใช้ประชาชนแต่ก็จะทำอะไรเพื่อประเทศชาติและประชาชนไม่ได้ หากนายหนังไม่สั่งไม่เชิด ฉะนั้นถึงพรรคแทนคุณแผ่นดินจะเป็นพรรคเล็กที่อาจอยู่นอกสายตาของคนทั่วไป แต่ขอยืนยันในเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ว่า ทุกคนในพรรคพร้อมจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนของประชาชนอย่างเต็มความสามารถ โดยเป็นกระบอกเสียงนำปัญหาที่ได้รับทราบจากชาวบ้านทุกระดับเข้าสู่สภา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในที่ดีที่สุด แต่จะทำหน้าที่ ส.ส.ได้หรือไม่นั้น ขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ได้เลือกสมาชิกพรรคทั้งส่งลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้ ทั้งระบบบัญชีรายชื่อ และระบบแบบแบ่งเขตตั้ง ให้ไปทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนแทนผู้แทนหนังตะลุง เพราะที่ผ่านมาพรรคการเมืองใหญ่ๆ นั้นทั้งผู้มีอิทธิพล นายทุนพรรคชักใยอยู่ช้างหลังทำให้ไม่สามารถทำหน้าที่ผู้แทนของประชาชนได้ แต่ต้องไปทำหน้าที่ผู้แทนที่รักษาผลประโยชน์ให้นายทุนพรรค และขอ ส.ส.เขตและระบบบัญชีรายชื่อเพียงแค่ 10 ที่นั่งในสภาจะทำหน้าที่ตัวแทนของปวงชนชาวไทยให้ประชาชนชาวไทยได้เห็นหน้าที่ขอผู้แทนราษฎรที่แท้จริง

นพ.แวมาฮาดี กล่าวภายหลังปราศรัยกับพี่น้องประชาชนชาว จ. ภูเก็ต เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมาว่าการเดินทางที่ผ่านมาใน 8 วันนั้นได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนทุกจังหวัดอย่างอบอุ่น ถือเป็นเสียงตอบรับที่ดีมากจนทำให้มั่นใจว่าที่ขอ ส.ส.ทั้งในระบบบัญชีรายชื่อและระบบเขตเลือกตั้ง 10 ที่นั่งจากประชาชนนั้นทำให้มั่นใจว่าได้รับการตอบสนองที่ดีจากประชาชน ที่เริ่มมองเห็นแล้วว่าหากเลือกพรรคการเมืองใหญ่เข้าไปก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขวิกฤตการเมือง วิกฤต ของประเทศ และปัญหาต่างๆ ขอพี่น้องประชาชนได้ เพราะทุกพรรคการเมืองมีผู้มีอิทธิพล และนายทุนพรรค ชักใยอยู่เบื้องหลังให้ทำเพื่อผลประโยชน์ของเขาเท่านั้น ในการเลือกตั้งครั้งนี้จึ่งรวมกับผู้มีแนวทางเดียวกันตั้งพรรคแทนคุณแผ่นดินขึ้นมา เพื่อเป็นทางเลือกให้พี่น้องประชาชน ฉะนั้นจึ่งขอให้พี่น้องประชาชนที่เบื่อหน่ายทางการเมืองอย่าโหวตโนเลยเพราะการโหวตโนไม่ใช่แนวทางของระบบประชาธิปไตย แต่ขอให้มาเลือกพรรคการเมืองขนาดเล็กที่เป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมา เพื่อเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงเป็นตัวแทน

***วิเชียร อุตส่าห์ /สนับสนุนข่าว ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

-------------------------------------
ภูเก็ตจัด ประชุมแนวทางและกระบวนการสำรวจการใช้กำลังคนในส่วนราชการ

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2554 เวลา 09.00 น. ที่ห้องแววราไวย์ โรงแรมเมโทรโพล นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมแนวทางและกระบวนการสำรวจการใช้กำลังคนในส่วนราชการ โดยมีนางสาววันทนีย์ ธีรพงศ์นภาลัย นักทรัพยากรบุคคลเชี่ยวชาญ หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการ ตลอดจนคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานก.พ. เข้าร่วม

นายสมเกียรติ กล่าวว่า การที่สำนักงาน ก.พ. ได้ดำเนินโครงการศึกษาเรื่องนี้ ถือเป็นโอกาสอันดี สำหรับหลายส่วนราชการในจังหวัดภูเก็ต ที่จะได้ทบทวนการใช้กำลังคนให้สอดคล้องกับลักษณะงาน วิเคราะห์สภาพปัญหากำลังคนอย่างจริงจัง พัฒนาระบบข้อมูลสำหรับการวางแผนและบริหารกำลังคน เพื่อจะได้จัดอัตรากำลังรองรับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องตามบทบาทภารกิจ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีสารสนเทศ และทิศทางการพัฒนาประเทศ ซึ่งนับเป็นนิมิตหมายอันดี ที่สำนักงาน ก.พ. ให้ความสำคัญกับการศึกษาข้อมูล และรับฟังความคิดเห็นจากข้าราชการในส่วนภูมิภาค เนื่องจากส่วนราชการในแต่ละพื้นที่ อาจมีความต้องการและปัญหาอุปสรรคที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การบริหารทรัพยากรบุคคล จึงต้องมีความประสานสอดคล้อง และตอบสนองต่อความต้องการ ความเป็นจริง สภาพปัญหา ทิศทาง และยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัด หรือกลุ่มจังหวัดด้วย

นายสมเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในวันนี้คณะที่ปรึกษาจากสำนักงาน ก.พ. ได้มารับฟังความคิดเห็น และปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับการใช้กำลังคนของหน่วยงานต่างๆในจังหวัดภูเก็ต หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้าราชการทั้งหลาย จะให้ความร่วมมือสะท้อนประเด็นปัญหาต่างๆ ด้านการบริหารกำลังคน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนภารกิจของหน่วยงานให้กับทางคณะที่ปรึกษาได้รับทราบ

***อารยา ตุลา ข่าว/ภาพ/พิมพ์ ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

----------------------------------
ภูเก็ตจัดประชุม สัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาประสิทธิภาพการขับเคลื่อนแผนพัฒนา กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2554 เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมเพิร์ลภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาประสิทธิภาพการขับเคลื่อนแผนพัฒนา กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยมีนายพิชิต บุญรอด นักวิเคราะห์นโยบาย และแผน ชำนาญการพิเศษ สำนักงานบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด (OSM) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายนิวิทย์ กล่าวว่า การพัฒนาพื้นที่ในระดับกลุ่มจังหวัดเป็นมิติใหม่ของการพัฒนา ที่รัฐบาลมุ่งเน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มจังหวัด เพื่อนำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชน และสร้างรายได้ให้กับกลุ่มจังหวัด ซึ่งจะแตกต่างจากการการพัฒนาจังหวัดที่มุ่งการพัฒนาจังหวัดแบบองค์รวมที่คลอบคลุมทุกมิติทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และความมั่นคงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสและอาชีพ ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในจังหวัด ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าวัตถุประสงค์ในการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และกลุ่มจังหวัดมีข้อแตกต่างกันอยู่ในประเด็นของการพัฒนา กล่าวคือ จังหวัดมุ่งเน้นการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง ฯลฯ ตามที่กล่าวแล้ว แต่ในการพัฒนากลุ่มจังหวัดนั้น มุ่งเน้นการพัฒนาในบางมิติที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นพิเศษ โดยต้องบูรณาการกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ด้วย สำหรับกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันนั้น รัฐบาลกำหนดจุดยืนการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวทางทะเล รักษาสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี และการส่งเสริมพื้นที่การเกษตรเป็นเป้าหมายที่สำคัญ

ด้านนายพิชิต กล่าวว่าจากกฎหมายทำให้เห็นว่ารูปแบบของการพัฒนาพื้นที่จังหวัด และกลุ่มจังหวัดได้ถูกบัญญัติไว้เป็นกฎหมายที่กำกับการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งจะต้องมีรูปแบบ และวิธีการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง ซึ่งเป็นกลุ่มจังหวัดที่ 7 ใน 14 กลุ่มจังหวัดทั่วประเทศ ได้เริ่มจัดทำแผน และได้รับงบประมาณประจำปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2553 เป็นต้นมา ถึงบัดนี้เป็นเวลา 2 ปีเศษแล้ว โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2553 กลุ่มจังหวัดได้กำหนดวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ในการพัฒนา และเสนองบประมาณ จำนวน 31 โครงการ งบประมาณ 331,491,720 บาท ได้รับจัดสรร 11 โครงการ เป็นเงินงบประมาณ 147,514,918 บาท และในปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ได้เสนอคำของบประมาณโครงการ 12 โครงการ งบประมาณ 284,896,680 บาท ได้รับจัดสรร 11 โครงการ เป็นเงินงบประมาณ 258,644,800 บาท ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการโครงการเหล่านั้นอยู่

*** อารยา ตุลา ข่าว/ภาพ/พิมพ์ ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

----------------------------------------
ภูเก็ตจัดกิจกรรม ปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตามโครงการคืนป่าให้แผ่นดินเฉลิมพระเกียรติ

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2554 เวลา 10.00 น. ที่พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเลนคลองเกาะผี บริเวณบ้านอ่าวน้ำบ่อ นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตามโครงการคืนป่าให้แผ่นดินเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระพระชนมพรรษา 7 รอบ โดยมีคณะผู้จัดกิจกรรมการปลูกป่าชายเลน ตลอดจนเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านอ่าวน้ำบ่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายนิวิทย์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันนี้ เป็นการสนองแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในด้านการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในอดีตที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตมีทรัพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ แต่ผลพวงจากความเจริญเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้ทรัพยากรป่าไม้ถูกทำลายลงไปจำนวนมาก มีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและกิจกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้น สภาพป่าไม้ และป่าชายเลนเสื่อมโทรมลงมาก ทั้งยังทำให้เปลี่ยนสภาพการใช้ประโยชน์ มีการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ เนื่องจากมีการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง มลภาวะจากขยะ และน้ำเสีย สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ล้วนส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพ และสภาพแวดล้อมของเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตจึงได้มีนโยบายฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ทำให้ปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้โดยเฉพาะป่าชายเลนมีจำนวนเพิ่มขึ้น และมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คงความสมบูรณ์ตลอดไป

***อารยา ตุลา ข่าว/ภาพ/พิมพ์ ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

-----------------------------------------
กกต. สั่งให้ปลดป้ายโหวตโน เพราะเป็นป้ายหาเสียงที่ไม่ถูกต้องตามที่ กกต.กำหนด ยืนยันการดำเนินการเป็นไปตามข้อหารือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ.

จากกรณีป้ายโหวตโน ถูกติดตั้งในหลายพื้นที่ ในช่วงการเลือกตั้ง ส.ส. ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ด้วยบางป้ายมีรูปสัตว์เลื้อยคลานสวมเสื้อสูท พร้อมกับข้อความอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา ขณะที่บ้างป้ายเป็นข้อความเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน

โดยที่จังหวัดภูเก็ตพบป้ายเหล่านี้ติดตั้งตามปลายแหลมสะพานหิน และตามสี่แยกต่างๆ ล่าสุดกรณีป้ายประเภทนี้ กกต. ได้มีมติให้ปลดออก ซึ่งทางนายอภิชาติ สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวว่าที่ กกต.ให้ปลดป้ายโหวตโนออก เนื่องจากเห็นว่า เป็นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง กกต.จึงมีอำนาจในการพิจารณาและดำเนินการ โดยการพิจารณาไม่ได้คำนึงถึงเนื้อหาภายในป้าย แต่เห็นว่าการที่พรรคการเมืองจะทำป้ายหาเสียง จะต้องทำตามระเบียบที่ กกต.กำหนด ทั้งขนาดและจำนวนป้าย พร้อมยืนยันว่า การกระทำครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการตัดสินใจของ กกต. เอง แต่เป็นการตอบข้อหารือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ กกต.ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับป้ายหาเสียงจำนวนมาก ซึ่ง กกต. จะพิจารณาเป็นกรณีไป

อย่างไรก็ตาม ได้มีการตอบโต้จากกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย ว่าขณะนี้บุคคลอื่นไม่สามารถปลดป้ายโหวตโนออกได้จนกว่าศาลจะมีคำสั่งให้ปลด โดยทางพันธมิตรได้ขอให้ศาลมีมติคุ้มครองชั่วคราว.

***สทท. 11 ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว

----------------------------------
อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ให้สื่อในสังกัดพร้อมในการเป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสารในการเลือกตั้ง ส.ส. โดยเร่งประชาสัมพันธ์ในการเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใส ตามวิถีทางประชาธิปไตย.

นายกฤษณพร เสริมพานิช อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงนโยบายของกรมประชาสัมพันธ์ ในการทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ว่า ในฐานะ ที่เป็นหน่วยงานด้านการประชาสัมพันธ์ของภาครัฐและสื่อมวลชน ได้รณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ด้วยการวางแนวนโยบาย 3 ด้านประกอบด้วย ประสานงาน กกต. เพื่อนำข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้งมาเผยแพร่ ทั้งระเบียบ วิธีปฏิบัติของภาคราชการ รวมถึงกฎกติกาที่ผู้สมัครต้องปฏิบัติ พร้อมทั้งกำชับสื่อมวลชนทั้งวิทยุ และโทรทัศน์ในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ ให้ระมัดระวังการนำเสนอข่าวช่วงเลือกตั้ง โดยเน้นความเป็นกลาง เสมอภาค และ เป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสาร ในการรายงานผลการเลือกตั้ง โดยอาศัยข้อเท็จจริงมารายงานให้ประชาชนได้ทราบ เพื่อส่งเสริมกระบวนการจัดการเลือกตั้งให้เป็นด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม ตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย.

***สทท. 11 ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว

---------------------------------
ภาครัฐและภาคประชาชนในหาดป่าตอง กว่า 3 พันคน แสดงพลัง เดินรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิ์ขายเสียง พร้อมเชิญชวนให้คนไทยออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้.

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (9 มิ.ย. 54) ที่หาดป่าตอง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน อาทิ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต สมาคมผู้ประกอบการโรงแรมและการท่องเที่ยวหาดป่าตอง สมาคมรถแท็กซี่และรถตุ๊กๆ กลุ่มผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ใหญ่ ตลอดจนนักเรียนนักศึกษารวมกว่า 3 พันคน พร้อมใจกันเดินรณรงค์แสดงพลังต่อต้านการซื้อสิทธิ์ขายเสียง พร้อมกับชูป้ายผ้าแสดงข้อความเชิญชวนให้คนไทย ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.พร้อมกันในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ โดยขบวนรณรงค์ได้เริ่มจากซอยบางลา ไปตามถนนทวีวงศ์ สิ้นสุด ณ บริเวณสนามกีฬาเทศบาลเมืองป่าตอง ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมามุงดูด้วยความสนใจ บางคนได้ร่วมถ่ายรูปขบวนเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย

พลตำรวจตรี พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การรณรงค์ครั้งนี้ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ต้องการสร้างความตระหนักด้านการเลือกตั้ง ส.ส. แก่ทุกภาคส่วน สำหรับภาพรวมการดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยในพื้นที่ ตำรวจได้ตรวจเข้มบุคคลแปลกหน้าที่เข้ามา เพื่อความปลอดภัยของผู้สมัครและป้องกันการก่อเหตุ ส่วนการตั้งรางวัลนำจับจำนวน 1 หมื่นบาท แก่ผู้แจ้งเบาะแสพบเห็นผู้กระทำผิด ทำลายป้ายหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส. จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเข้ามาเพิ่มเติมแต่อย่างใด.

***สทท. 11 ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว

---------------------------------------
อบต.ป่าคลอกจัดโครงการสานสัมพันธ์ครอบครัว วิถีพอเพียง สร้างความเข้มแข็งให้กับในชุมชน ขณะที่เทศบาลตำบลรัษฎาออกหน่วยบริการประชาชน.

นายชัยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายอธิพงษ์ คงนาม นายก อบต.ป่าคลอก โครงการสานสัมพันธ์ครอบครัววิถีพอเพียง ตำบลป่าคลอก ประจำปี 2554 ร่วมกับ อบต.สัญจรพบประชาชน ณ โรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูล ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

โดยกิจกรรมดังกล่าว องค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก ร่วมกับศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน เครือข่ายมัสยิดสัมพันธ์ตำบลป่าคลอก จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมครอบครัวให้มีความรักความอบอุ่น โดยทำกิจกรรมร่วมกัน ร่วมกันคิด ป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ สร้างเครือข่ายครอบครัวในชุมชน ให้เข้าใจการดำเนินวิถีชีวิตแบบพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมีนักเรียน เยาวชน คนชรา ผู้พิการประชาชนในตำบลป่าคลอกจำนวน 1 พัน คน เข้าร่วม.

ด้านประชาชนตำบลรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เข้ารับบริการจากเทศบาลตำบลรัษฎา เนื่องในโอกาสจัดกิจกรรมเทศบาลเคลื่อนที่พบประชาชน ณ. หมู่บ้านศรีสุชาติ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต

เมื่อเย็นวานนี้ (8 มิ.ย. 54) เพื่อให้บริการประชาชนในเชิงรุก พร้อมรับทราบปัญหาจากคนในชุมชน โดยได้จัดบริการตัดแต่งทรงผม ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า นำขยะมาแลกไข่ อาหารและเครื่องดื่ม มีประชาชนในพื้นที่เข้ารับบริการจำนวนมาก.

***สทท. 11 ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว

--------------------------------------
เทศบาลตำบลราไวย์ รณรงค์ให้พนักงาน ร่วมลดโลกร้อน ใช้ถุงผ้า แทนถุงพลาสติก.

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 54 ที่เทศบาลตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ นำถุงผ้าสกรีนข้อความคำว่า ลดโลกร้อน แจกจ่ายให้กับสมาชิกสภาและพนักงานในเทศบาล เพื่อรณรงค์ให้พนักงานและสมาชิกเทศบาลทุกคนร่วมกันใช้ถุงผ้าแทนการใช้ถุงพลาสติก ลดภาวะโลกร้อน

นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เพื่อให้เทศบาลตำบลราไวย์ ได้เป็นแบบอย่างแก่ประชาชนในพื้นที่ ในการรณรงค์การใช้ถุงผ้า เพื่อลกการใช้พลังงานและลดภาวะโลกร้อน โดยหลังจากการมอบถุงผ้าให้กับพนักงานทุกคนแล้ว หลังจากนี้หากพบว่าพนักงานหรือสมาชิกคนใดในเทศบาล นำถุงพลาสติกมาใช้ในสำนักงาน ก็จะมีมาตรการตัดคะแนน ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือน ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะได้รับความร่วมมือจากพนักงานทุกคน และส่งผลให้การใช้ถุงพลาสติกในพื้นที่ราไวย์ลดน้อยลง.

***สทท. 11 ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว

-------------------------------------
สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต เตรียมตั้งศูนย์ One Stop Service ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ในการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน – 14กรกฎาคม นี้.

นายนพดล พลอยอยู่ดี จัดหางานจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวสัญชาติ ลาว พม่า กัมพูชา ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ขึ้นทะเบียนในรอบใหม่ว่า สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต ได้เตรียมเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่ลักลอบทำงานในประเทศไทย โดยตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ( One Stop Service) ที่บริเวณอาคารสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ในระหว่างวันที่ 15มิถุนายน - 14 กรกฎาคม นี้ โดยจะให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันเสาร์ที่ 2 และวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2554 โดยนายจ้างจะได้ไปติดต่อตามสถานที่และวันเวลาดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้อง จะช่วยให้นายจ้างและสถานประกอบการต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ได้แรงงานเข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ ลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ระดับหนึ่ง

จัดหางานจังหวัดภูเก็ต ยังกล่าวอีกว่า จากการเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เรื่องคนตกงานในจังหวัดภูเก็ตมีน้อย แต่กลับมีปัญหาขาดแคลนแรงงานระดับล่าง ซึ่งเป็นงานที่คนไทยไม่ทำ เช่น ก่อสร้าง ประมง แรงงานต่างด้าวจึงกลายเป็นความต้องการสำหรับนายจ้าง ปัจจุบันมีสถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวจำนวน 9,298 ราย มีแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงานและไม่มีใบอนุญาตประมาณ 30,000-40,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกิจการประเภทก่อสร้าง กิจการประมง รวมไปถึงภาคธุรกิจบริการต่างๆ.

***สทท. 11 ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว

---------------------------------
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เตรียมความพร้อมบุคลากรอาชีวะศึกษา รองรับเปิดเสรีการค้าและประชาคมอาเซียน.

วันที่ 9 มิ.ย. 54 ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สอศ.ร่วมกับสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและพัฒนา จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการแก่บุคลากรในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา 14 จังหวัดภาคใต้ หัวข้อ กระแสโลก กระแสภูมิภาค การเตรียมตัวเป็นพลเมืองอาเซียน และอาชีวะอาเซียน เพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรรองรับการเปิดการค้าเสรีและประชาคมอาเซียน

นายอรชุน จันทร์นวล ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต กล่าวว่า ในปี 2558 ประเทศไทยจะเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศนโยบายดำเนินงานตามปฏิญญาอาเซียน โดยให้บุคลากรทางการอาชีวศึกษาได้พัฒนาศักยภาพให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและการเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างประเทศสมาชิก โดยร่วมกับสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและพัฒนา ITD ให้ความรู้ด้านภูมิภาคศึกษาแก่ครู การมีเจตคติที่ดีต่อประเทศสมาชิกอาเซียน และมุ่งเน้นให้บุคลากรครู มีความเข้าใจเพื่อนำไปถ่ายทอดให้แก่ผู้เรียน เป็นการเตรียมความพร้อมแก่ผู้รับผิดชอบในการจัดการเรียนการสอนด้านอาชีวศึกษาต่อไป

ด้าน ดร.วัชรัศมิ์ ลีละวัฒน์ รองผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศ หรือ ITD กล่าวว่า ITD ก่อตั้งมาจากที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังคถัด (UNCTAD) เมื่อปี 2543 เพื่อสร้างศักยภาพแก่บุคลากรในทวีปเอเชีย โดยได้ร่วมกับ สอศ.มาตั้งแต่ปี 2551 ในการพัฒนาเยาวชนด้านอาชีวศึกษาในโครงการยุววานิช การพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนในด้านนววัตกรรมและธุรกิจการเกษตร การยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางอาชีวศึกษา รวมไปถึงสนับสนุนทางวิชาการแก่ครูผู้สอนในสังกัด สอศ.

***สทท. 11 ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว

---------------------------------------------
เทพไชยา อุ่นหนู เข้ารอบไปพบกับ ต๋อง รัชพล ภู่โอบอ้อม ในรอบ 4 คนสุดท้ายสนุกเกอร์แสงโสม ภูเก็ตคัพ 2011.

วันนี้ (9 มิ.ย. 54) ที่โรงแรมเดอะรอยัล พาราไดซ์ แอนด์สปา หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต มีการแข่งขันสนุกเกอร์ แสงโสมภูเก็ตคัพ 2011 ในรอบ 8 คนสุดท้าย โดยคู่แรก เริ่มเวลา 10.00 น. เป็นการพบกันระหว่าง เอฟ นครนายก หรือ เทพไชยา อุ่นหนู แชมป์สมัครเล่นโลกปี 2551 พบกับ แจ๊ค สระบุรี เดชาวัต พุ่มแจ้ง แชมป์สมัครเล่นโลกปี 2553 คู่นี้ดวลคิวกันสนุกผลัดกันแพ้ชนะ ผลปรากฏว่า เอฟ นครนายก เอาชนะไปได้ 4 ต่อ 3 เฟรม 0-96,78-42, 7-71, 64-50,16-66, 99-1 ,และ 69-28

ส่วนคู่ที่ 2 ต๋อง รัชพล ภู่โอบอ้อม พบกับ แซก โซโฟน นภดล แสงนิล ต๋องเรียกฟอร์มเก่งเอาชนะไปสบาย 4-0 เฟรม 127-24,75-15,73-8,106-4 ต๋องจะพบกับเทพไชยา อุ่นหนู รอบ 4 คนสุดท้ายวันพรุ่งนี้. (10 มิ.ย. 54)

***สทท. 11 ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป