นักลงทุนเกาหลีพบ ผวจ.ภูเก็ต เสนอตัวยืนยันความพร้อมในลงทุนโครงการรถไฟฟ้าของจังหวัด
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 18 พฤษภาคม 2554 นาย กวางซิก ชุน (KWANGSIK CHUN) ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จุง ยาง พัฒนา จำกัด (JUNG YONG DEVELOPMENT CORP) ซึ่งเป็นนักลงทุนจากประเทศเกาหลี พร้อมคณะ เข้าพบนาย ตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ห้องทำงานศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อเสนอตัวและยืนยันความพร้อมในการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าของจังหวัดภูเก็ต พร้อมเชิญชวนทางจังหวัดภูเก็ตไปดูความมั่นคงและความพร้อมของบริษัท ตลอดจนศึกษาดูงานเทคโนโลยีด้านการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ประเทศเกาหลี
โดยนายตรี กล่าวว่า ทางนาย กวางซิก ชุน ได้ส่งเอกสารแจ้งความจำนงในการที่จะลงทุนรถไฟฟ้าของจังหวัดภูเก็ต และเพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีความพร้อมอย่างแน่นอน โดยจะมีการจดทะเบียนบริษัทที่ประเทศไทย พร้อมกันนี้ก็จะได้เชิญทางจังหวัดเดินทางไปประเทศเกาหลีเพื่อดูความมั่นคงของบริษัทฯ รวมถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าของประเทศเกาหลี หลังจากนั้นก็จะได้มีการทำข้อตกลงเกี่ยวกับการศึกษาความเป็นไปได้ของการก่อสร้าง ซึ่งได้เสนอเส้นทางสนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ที่ทางจังหวัดได้มีการศึกษาไว้แล้ว พร้อมให้ศึกษาเพิ่มเติมในส่วนของเส้นทางสนามบินภูเก็ต-ศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติ ไม้ขาว ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง ด้วย
นาย กวางซิก ชุน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จุง ยาง พัฒนา จำกัด กล่าวถึงการสนใจ
ลงทุนโครงการรถไฟฟ้าของจังหวัดภูเก็ต ว่า ในส่วนของการลงทุนรถไฟฟ้ารางเบาของทางบริษัทฯ นั้น จะเป็นการร่วมทุนกับบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้มีเงินที่อยู่ในกองทุนและพร้อมที่จะนำมาใช้ในการลงทุนประมาณ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา แม้ว่าที่ผ่านมาทางบริษัทจะยังไม่เคยมีการลงทุนเกี่ยวกับรถไฟฟ้ามาก่อน แต่ก็มีความพร้อมทั้งในเรื่องเทคโนโลยีซึ่งจะใช้ของประเทศเกาหลี และเม็ดเงินในการลงทุนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทร่วมทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา
“สำหรับประเทศไทยยังไม่เคยลงทุนที่ไหนมาก่อน โดยเหตุที่เลือกลงทุนใน จ.ภูเก็ต เป็นแห่งแรก เนื่องจากมองว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ และเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจให้กว้างขวางมากขึ้น ประกอบกับต้องการสร้างต้นแบบของรถไฟฟ้าในเมืองท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยและปราศจากมลพิษ”
นาย กวางซิก ชุน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางบริษัทฯ มีข้อมูลเบื้องต้นของทางจังหวัดภูเก็ตที่ได้มีการศึกษาไว้ตั้งแต่ปี 2549 แต่ก็จะต้องมีการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และข้อเท็จจริงในปัจจุบัน รวมถึงศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเส้นทางสนามบินภูเก็ต-ศูนย์ประชุมฯ ซึ่งทางบริษัทฯ จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
อย่างไรก็ตามสำหรับบริษัทจุง ยาง พัฒนา จำกัด มีผลงานการก่อสร้างโรงงานปูนซิเมนต์และสนามกอล์ฟที่ประเทศเวียดนาม และการก่อสร้างเขื่อนทางตอนใต้ของประเทศลาว
สาลินี ปราบ /สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
---------------------------
กงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำจังหวัดภูเก็ตฝากคนภูเก็ตร่วมกันปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อนักท่องเที่ยวทั่วโลก
นายเดิร์ก เนาว์มันน์ กงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวก่อนที่ภูเก็ตจะมีการจัดประชุมกงสุลขึ้นในวันที่ 23 พ.ค.2554 ว่า ด้วยภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ในแต่ละปีจะมีผู้คนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างประเทศส่งผลให้เกิดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีปัญหาต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวมากมาย เช่น แหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม ปัญหาด้านการบริการ การเอาเปรียบนักท่องเที่ยว เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคนภูเก็ตที่จะต้องออกมาร่วมกันปกป้องและดูแลรักษาเพื่อให้ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้
“เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญระดับโลก นอกจากคนที่อาศัยอยู่ในภูเก็ตดั้งเดิมแล้ว ยังมีผู้คนจากจังหวัดต่างทั่วประเทศ รวมถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยและประกอบอาชีพเป็นจำนวนมากด้วย คนส่วนใหญ่สนใจเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้คำนึงถึงผลที่จะตามมา จึงมองว่าถึงเวลาแล้วสำหรับผู้ที่มีความรู้ความสามารถและมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ออกมาพูด เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนภูเก็ตต้องการให้ภูเก็ตเป็นสถานที่ที่ดีและยั่งยืน เป็นสถานที่ที่ดีแก่ลูกหลานของคนภูเก็ตและได้รับประโยชน์เต็มที่บนผืนแผ่นดินภูเก็ต”
นายเดิร์ก เนาว์มันน์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการที่ทางจังหวัดภูเก็ตได้จัดให้มีการประชุมร่วมระหว่างผู้บริการระดับสูงของจังหวัดกับกงสุลกิตติมศักดิ์จำนวนกว่า 20 ประเทศ และประมาณครึ่งหนึ่งเป็นกงสุลกิตติมศักดิ์คนไทยที่เป็นตัวแทนจากประเทศต่างๆ จากแถบยุโรป เป็นประจำทุกๆ 3 เดือน ทำให้ได้มีโอกาสในการนำเสนอปัญหาต่างๆ ได้อย่างเปิดเผย ขณะเดียวกันเมื่อเสนอไปแล้วก็อยากเห็นการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ส่วนที่มีบางคนมองว่าการประชุมร่วมกันดังกล่าวนั้นเป็นความสนใจส่วนตัวหรือเป็นความเห็นแก่ตัว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะการประชุมแต่ละครั้งกงสุลแต่ละท่านก็ไม่ได้ผลตอบแทน แต่ทุกคนอยากเห็นการเปลี่ยนของภูเก็ตเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นไม่เฉพาะกับคนต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวเท่านั้น แต่รวมถึงคนไทยที่อยู่อาศัยและประกอบอาชีพอยู่บนเกาะแห่งนี้ด้วย เพื่อให้เป็นเกาะที่สวยงามและสวรรค์ของวันหยุดพักผ่อนอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องฝ่ายจะต้องช่วยกันปกป้องไม่ให้ภูเก็ตถูกทำลาย
“เป้าหมายการนำเสนอปัญหาของกงสุลกิตติมศักดิ์ คือ การปรับปรุงภูเก็ตให้เป็นสถานที่น่าท่องเที่ยวและอยู่อาศัยทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวและคนไทย คิดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ประชาชนจะเข้าใจว่าจุดหมายของกงสุลกิตติมศักดิ์ คือ การนำเสนอและแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อทำให้ภูเก็ตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน คนที่กล่าวว่าเราเห็นแก่ตัวหรือหวังผลประโยชน์ส่วนตัวจากการประชุมนั้นอาจเป็นเหตุผลส่วนตัวของเขา ที่ทำให้เขาพูดออกมาอย่างนั้น
นายเดิร์ก เนาว์มันน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผมและกงสุลกิตติมศักดิ์หลายๆ ท่านมีความกังวลเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับชายหาดที่สวยงามของภูเก็ตและปะการังถูกทำลาย การเอารัดเอาเปรียบของผู้ประกอบการเจสกี ปัญหาการขนส่งสาธารณะ อัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เพื่อที่จะให้บริการประชาชนได้ทั่วถึงทั้งเกาะภูเก็ต ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะต้องให้คนภูเก็ตเข้ามามีส่วนร่วม และเรามีความยินดีมากที่จะเห็นประชาชนคนภูเก็ตเข้ามามีส่วนร่วมในการประชุมเพื่อจะได้แสดงความคิดเห็น และช่วยกันปกป้องรักษาเกาะภูเก็ตไว้สำหรับคนรุ่นต่อๆไป
“ถึงเวลาแล้วที่คนภูเก็ตจะต้องตั้งคำถามให้กับตัวเองว่า ทำไมจึงเกิดมลพิษและน้ำทะเลเน่าเสีย ชายหาดที่สวยงามเสื่อมโทรม? ทำไมผู้ประกอบการเจ็ทสกีเรียกร้องค่าเสียหายแพงลิบลิ่ว และเกิดขึ้นได้แทบทุกวัน? ทำไมค่าโดยสารรถตุ๊ก ๆ มีราคาสูง เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวและประชาชน และ ทำไมทุกคนบอกว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงภูเก็ตได้ เพราะเหตุใด? ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ประชาชนจะออกมาแสดงความคิดเห็นและนำสิ่งต่างๆ มาปรับปรุงเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ดังนั้นคนภูเก็ตที่คิดและรักอนาคตของเกาะภูเก็ตจะต้องมาร่วมกันแสดงออกและหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน”
นายเดิร์ก เนาว์มันน์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากเกรงว่าในอนาคตอันใกล้ภูเก็ตอาจจะถูกตัดออกจากแผนที่การท่องเที่ยวไปโดยปริยาย โดยจะมีประเทศเวียดนาม พม่าเข้ามาแทนที่ เนื่องจากประเทศดังกล่าวมีการเอารัดเอาเปรียบ การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าภูเก็ต เห็นได้จากนักท่องเที่ยวชาวยุโรปหลายคนที่เคยเข้ามาภูเก็ตเริ่มจะเปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปยังที่อื่น และต่อไปภูเก็ตก็จะมีนักท่องเที่ยวที่ไม่เอาใจใส่เรื่องสิ่งแวดล้อมเข้ามาแทนที่
อย่างไรก็ตามการจัดประชุมร่วมระว่างผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดกับทางกงสุลทุกๆ 3 เดือนนั้น เป็นสัญญาณที่ดีในการที่จะริเริ่มแก้ไขปัญหาต่างๆ ของภูเก็ตที่มีอยู่มาช้านาน แต่ผลที่ได้รับจากการประชุมแต่ละครั้งเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่มีสัญญาณจากผู้บริหารหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะปกป้องรักษาอนาคตของภูเก็ตให้แก่คนรุ่นต่อๆไป นี่คือ ความน่ากลัวที่เกิดขึ้นกับทุกคนที่เป็นห่วงเป็นใยต่ออนาคตของจังหวัดภูเก็ต คนไทยทุกคนในภูเก็ตควรที่จะตื่นตระหนกเช่นเดียวกับเรา และถึงเวลาแล้วที่คนภูเก็ตจะต้องแสดงออก ลุกขึ้นมาปกป้อง และรักษาความสวยงาม ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเกาะภูเก็ต กรุณาแสดงมันออกมาเถอะก่อนที่ภูเก็ตจะยากต่อการเยียวยา นายเดิร์ก เนาว์มันน์ กล่าวในที่สุด
ชุติมา สีดาเสถียร/สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
---------------------------
นักสอยคิวระดับมือพระกาฬทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เตรียมดวลคิวครั้งใหญ่ในรายการสนุกเกอร์ชิงแชมป์แห่งประเทศไทย แสงโสม ภูเก็ต คัพ ที่จังหวัดภูเก็ตระหว่างวันที่ 6 ถึง 11 มิถุนายนนี้.
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 พ.ค. 54 ที่โรงแรมรอยัลพาราไดซ์ แอนด์สปา หาดป่าตอง นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายศักดา รัตนสุบรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมพร้อมจัดการแข่งขัน สนุ๊กเกอร์ชิงแชมป์แห่งประเทศไทย แสงโสม ภูเก็ต คัพ 2554 ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 6 ถึง 11 มิถุนายนนี้
โดย อุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การแข่งขันที่จะมีขึ้นในปีนี้ จะมีนักสนุกเกอร์ชื่อดังทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมดวลคิวหลายราย อาทิ สจ๊วต บิงแฮม แชมป์สนุกเกอร์แสงโสมปี 2551
อัลพี่ เบอร์แดน แชมป์สมัครเล่นโลกปี 2552 ร่วมด้วยนักสนุกเกอร์ชื่อดังชาวไทย ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ผลงาน แชมป์เอเชียเปี 2529 2531 ปี 2552 และแชมป์ 3 รายการสนุกเกอร์ เก็บคะแนนสะสม
ทั้งนี้ตลอดการแข่งขันระหว่างวันที่ 6-11 มิถุนายน จะมีการเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมและเชียร์ได้ทุกนัดโดยไม่เสียค่าผ่านประตูแต่อย่างใด สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอสำรองที่นั่งได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่โรงแรมรอยัลพาราไดซ์ แอนด์สปา หาดป่าตอง และเทศบาลเมืองป่าตอง
หรือสามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศได้ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ในวันที่ 11 มิถุนายน เวลา 14.00 น-16.30 น.
สทท.11 ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
-------------------------------
เทศบาล ต.รัษฎา จัด พิธีวางพวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี เพื่อรำลึกสดุดีเชิดชูคุณงามความดี
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2554 เวลา 9.30 น. ที่เทศบาลตำบลรัษฎา นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีวางพวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) โดยมีนายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา และสมาชิกสภาเทศบาล ลูกหลานสกุล ณ ระนอง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายสุรทิน กล่าวว่า เนื่องจาก เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 ที่ผ่านมา เทศบาลตำบลรัษฎา ได้จัดให้มีพิธีอันเชิญอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี มาประดิษฐานไว้ด้านหน้าอาคารสำนักงานเทศบาลตำบลรัษฎาหลังใหม่ พร้อมทั้งได้จัดให้มีพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีขึ้น และเมื่อครบรอบปีในวันนี้ เทศบาลตำบลรัษฎาจึงได้จัดกิจกรรม “วันรำลึกพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี หรือ คอซิมบี้ ณ ระนอง “ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ เพื่อเป็นการน้อมรำลึก และสดุดีเชิดชูคุณงามความดี ของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้มณฑลภูเก็ต, เพื่อให้คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล พนักงานเทศบาล ลูกจ้างส่วนราชการ องค์กรภาคเอกชน ผู้นำชุมชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกันแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที, เพื่อส่งเสริมความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่ตำบลรัษฎา และสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่เทศบาลตำบลรัษฎา
ทั้งนี้ เนื่องจากอาคารสำนักงานหลังใหม่ ได้ก่อสร้างขึ้นในปีงบประมาณ 2548-2549 นับเป็นอาคารที่มีความสวยงาม โดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส ที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนภูเก็ต เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี หรือ คอซิมบี้ ณ ระนอง ที่ได้สร้างความเจริญและสร้างคุณประโยชน์มากมายให้แก่เมืองภูเก็ต เทศบาลตำบลรัษฎาจึงได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญปั้นประติมากรรมรูปพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี และได้มีการอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ด้านหน้าอาคารสำนักงานเทศบาลตำบลรัษฎา ต่อมาได้จัดให้มีพีบวงสรวงดวงวิญญาณพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 ขึ้น
อารยา ตุลา ข่าว/ภาพ/พิมพ์ เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
------------------------
ตร.เมืองภูเก็ตตั้งจุดตรวจ รวบผู้ต้องหาคดียาเสพติดพร้อมของกลางยาบ้ากว่า 1,000 เม็ด
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 18 พ.ค. 54 ที่ สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ชำนาญ แป้นนาบอน รอง.ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ,พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำรอง ผกก.ป.ป.สภ.เมืองภูเก็ต ,ร.ต.ท.อัครเดช พงศ์พรหม รองสวป.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองร่วมแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติด
ผู้ต้องหา นายทศพล มณีปกรณ์ อายุ 21 ปี ที่อยู่ 69/1 ม.6 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 1,500 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนัก 0.66 กรัม จักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่น N S R สีแดง ทะเบียน กยล 348 ภูเก็ต โทรศัพท์มือถือ โนเกียร์ 1 เครื่อง เงินสด 6,050 บาท โดยกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์ ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ. โชติ ชิดไชย ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รองผกก. ป. สภ.เมืองภูเก็ต ไปดำเนินการวางแผนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ที่เป็นเส้นทางเป็นจุดเสี่ยงในการก่ออาชญากรรมในพื้นที่ ต่อมาเมื่อเวลา 23.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจโดย ร.ต.ท.อัครเดช พงศ์ พรหม รอง สวป. สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ตั้งจุดตรวจค้น บริเวณถนนรัษฎานุสรณ์ บ้านกู้กู ม.3 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต พบนายทศพล มณีปกรณ์ ท่าทางมีพิรุธ น่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมาย ได้ตรวจค้นรถจักรยานยนต์ ตามบัญชีของกลางข้างต้น พบยาเสพติดชนิด ยาบ้า จำนวน 8 ถุง (1,500 เม็ด) และ ยาไอซ์ จำนวน 1 ถุงเล็ก (น้ำหนัก 0.66 กรัม) ซุกซ่อน อยู่ในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล ชุดจับกุม
สารภี ศรีธรรมรัตน์ สนับสนุน ข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
-------------------------------
พรรคเพื่อไทยเปิดศูนย์ประสานงานภูเก็ต เขต 1 ดึง วิสิษฐ์ ใจอาจ นักธุรกิจขนส่งทางทะเลลง ส.ส.
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 พ.ค. 54 ที่อาคารเลขที่ 23-23/1 ถนนหลวงพ่อ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง
จ.ภูเก็ต นายโอฬาร ไชยประวัติ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมกับนายพิเชษฐ สถิรชวาล ประธานผู้อำนวยการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และระนอง ร่วมเป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย จังหวัดภูเก็ต เขต 1 พร้อมเปิดตัวนายวิสิษฐ์ ใจอาจ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย จังหวัดภูเก็ต เขต 1 โดยมีผู้บริหารและแกนนำพรรคเพื่อไทย เช่น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตส.ส.แพร่ นางสาวฐิติมา ฉายแสง อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา นายกอแก้ว พิกุล เป็นต้น ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยในเขตภาคใต้ เช่น พังงา สุราษฎ์ธานี สงขลา เป็นต้น ตลอดจนประชาชนที่ให้การสนับสนุนร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตส.ส.แพร่ ในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในส่วนของพรรคมองว่าภูเก็ตเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญจังหวัดหนึ่งของภาคใต้ และไม่ได้มีความสำคัญระดับประเทศเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญระดับโลก และมีความภูมิใจในการนำเสนอนายวิสิษฐ์ ใจอาจ ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและมีวิสัยทัศน์ในการมองปัญหาหาและแนวทางการแก้ไข ซึ่งทางพรรคพร้อมที่จะนำปัญหาที่ได้รับการเสนอไปจัดทำเป็นนโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวภูเก็ตต่อไป
ขณะที่นายวิสิษฐ์ ใจอาจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดภูเก็ต เขต 1 กล่าวว่า แนวทางการทำงานคงเน้นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และจะไม่แก้แค้นใคร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตประสบกับปัญหาในด้านต่างๆ เช่น การจราจร การขาดแคลนสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ เป็นต้น ดังนั้นหากได้รับการเลือกตั้งเข้าไปก็จะเร่งดำเนินการแก้ปัญหาต่างๆ ดังกล่าว รวมทั้งจะทำงานร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนในทุกกลุ่มอาชีพ โดยจะมีการรับฟังความคิดเห็นและจัดลำดับความสำคัญของการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้เห็นเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตามนายวิสิษฐ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการแข่งขันคงไม่นำเรื่องของความขัดแย้งเข้ามาเกี่ยวข้องแต่จะเน้นการนำเสนอนโยบาย เพราะภูเก็ตเปรียบเสมือนหัวแหวนที่จะต้องมีฐานรองรับที่ดี เพื่อให้เกิดความมั่นคงแข็งแรง ดังนั้นหากตนได้รับเลือกแต่พรรคเพื่อไทยไม่ได้รับเลือกภูเก็ตก็ได้ประโยชน์ หากพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกแต่ตนไม่ได้รับเลือกภูเก็ตก็ได้ประโยชน์ หากตนและพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกก็ยิ่งได้ประโยชน์
สาลินี ปราบ/สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต / ทาน
-----------------------------------
ภูเก็ต หารือ คณะทำงาน PMQA เพื่อทบทวนการดำเนินงาน
เมื่อเวลา 09.45 น. วันพุธ ที่ 18 พฤษภาคม 2554 ที่ห้องประชุมศาลาศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ (ห้องเล็ก) นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุม คณะทำงาน PMQA เพื่อทบทวนการดำเนินงาน โดยมี นาย ชัยพร พัฒนรักษ์ หัวหน้ากลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
สืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่แล้ว คณะทำงาน PMQA ได้เลือกตัวชี้วัดรายหมวด 1-6 เพื่อนำไปร่วมคลินิกให้คำปรึกษาการพัฒนาคุณภาพ การบริหารจัดการภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ 2554 กับสำนักงาน ก.พ.ร เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ผ่านการตรวจรับรองการประเมินผลการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 โดยได้รับการชี้แนะแนวทางการดำเนินการรายหมวด
สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญในครั้งนี้ คือ เป็นการปรึกษาหารือเกี่ยวกับการทำงานของคณะทำงาน PMQA โดยเน้นการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และให้ความสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมของบุคลากรของผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือกำหนดให้มีกิจกรรมดำเนินการต่าง ๆ โดยต้องมีการสื่อสารให้บุคลากรรับทราบ และมีส่วนร่วมในการดำเนินการ ส่วนผลจากการดำเนินการ PMQA ของจังหวัดภูเก็ตทุกปีที่ผ่านมาประสบกับปัญหาในการตอบคำถามและการให้ข้อมูลประกอบการดำเนินการตามตัวชี้วัดต่อไป
ทั้งนี้จังหวัดภูเก็ต พิจารณาแล้วเห็นควรมีการมอบหมาย และแต่งตั้งหน่วยงานเจ้าภาพหลัก รับผิดชอบดำเนินการประจำหมวด ทุกหมวด เพื่อความสะดวกในการรับผิดชอบงานแต่ละชิ้น ซึ่งทางคณะทำงาน PMQA ได้ดำเนินการอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้การประชุมแต่ละครั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในแต่ละหมวดสามารถ นัดประชุมกันได้ตามความเหมาะสม ส่วนในแต่ละเดือนจะมีการประชุมรวมทุกหมวดเพียงเดือนละ 1 ครั้ง พร้อมทั้งหน่วยงานเจ้าภาพหลักจะรับผิดชอบดำเนินการตามตัวชี้วัดต่อไป
***สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป