นายจรัส กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศนโยบายและเป้าหมายการรณรงค์อาหารปลอดภัย โดยกำหนดให้ร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารต้องได้มาตรฐานสุขอนามัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารต้องได้มาตรฐานสุขอนามัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารทั้งหมดและตลาดสดทุกแห่งต้องได้มาตรฐานตลาดสดน่าซื้อ นั้น
จังหวัดภูเก็ตมีร้านอาหารจำนวน 1,588 แห่ง แผงลอยจำหน่ายอาหารจำนวน 497 แห่ง รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,085 แห่ง มีตลาดสดจำนวน 8 แห่ง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้ดำเนินการพัฒนาสถานประกอบการเหล่านั้นโดยใช้กลยุทธ์การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย ประกอบด้วยหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานด้านสาธารณสุข ชมรมผู้ประกอบการค้าอาหาร ชมรมพ่อค้าในตลาดสด และอาสาสมัครสาธารณสุข ซึ่งผลการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ทำให้มีร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารที่ได้รับการพัฒนาจนผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารสะอาด รสชาติอร่อย คิดเป็นร้อยละ 91.99 ของร้านอาหารและแผงลอยทั้งหมด และตลาดสดทั้ง 8 แห่งผ่านเกณฑ์มาตรฐานตลาดสดน่าซื้อ ซึ่งในการดำเนินงานที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายที่เป็นชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารระดับตำบล ซึ่งมีศักยภาพในการดำเนินงานอาหารปลอดภัยในพื้นที่อย่างเข้มแข็ง และเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2552 ได้มีการรวมกันจัดตั้งชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารจังหวัดภูเก็ตขึ้น เพื่อร่วมกันส่งเสริมวิชาการ การสร้างสามัคคี การแลกเปลี่ยนความคิดและส่งเสริมให้คำแนะนำผู้ประกอบการค้าอาหารใหม่ให้พัฒนาสถานประกอบการให้ได้มาตรฐาน
ดังนั้นในวันนี้ชมรมฯ จึงมีการจัดการประชุมวิชาการ พัฒนาศักยภาพชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารจังหวัดภูเก็ตขึ้น เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการพัฒนาธุรกิจด้านอาหารให้ประสบความสำเร็จ ตลอดจนเพื่อพัฒนาการดำเนินงาน ยกระดับมาตรฐานร้าน แผงลอยจำหน่ายอาหารและตลาดสด มีการเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐ ภาคท้องถิ่นและภาคธุรกิจเอกชน ทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน เกิดประโยชน์แก่ประชาชนผู้บริโภคต่อไป
...โสภณ เคี่ยมการ / ภาพ เสงี่ยม เอียดตน / ข่าว / พิมพ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป