วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ข่าวประจำวันที่ 1 ส.ค.56

รองผู้ว่าฯภูเก็ตเผยเหตุระเบิดข้างที่ทำการ อบจ. ภูเก็ตเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลาขนาดเล็กคาดแค่ข่มขู่และพร้อมเร่งเจ้าหน้าที่ติดตามคนร้าย.ส่วน นายกอบจ.ย้ำไม่เกี่ยวการเมืองท้องถิ่นอาจเป็นเพียงผู้เสียผลประโยชน์

          เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม 2556 ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณริมรั้วมุมอาคารองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตติดกับถนนนริศร ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าระเบิดวางไว้ในถังขยะที่วางอยู่ใกล้กับลานจอดรถของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตแต่ขณะเกิดเหตุมีเพียงรถตู้ของ อบจ. ภูเก็ตหมายเลขทะเบียน นข 3383 ภูเก็ตจอดอยู่และ ได้รับความเสียหายบริเวณที่ประตูข้างคนขับที่เป็นจุดที่เกิดระเบิดและมีเศษพลาสติดถังขยะกระจายเป็นบริเวณกว้าง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันพื้นที่เพื่อไม่ให้ประชาชนและข้าราชการเข้าไปในที่เกิดเหตุเพื่อรอเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดมาตรวจสอบก่อน  
          จากแรงระเบิดดังกล่าว ทำให้ถังขยะแตกละเอียดกระจัดกระจายเป็นวงกว้างกว่า 30 เมตร และมีรถยนต์ได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิด 3 คัน แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ต้องกันพื้นที่ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ
หลังจากเกิดเหตุ ดร. สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
        รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเปิดเผยว่าในเบื้องต้นทราบว่าเป็นระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กแบบตั้งเวลาซึ่งคาดว่าคนร้ายหวังที่จะข่มขู่โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายและดูภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกกหมายและทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองติดตามสถานการณ์และเกาะติดพื้นที่เกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ
        ทางด้านนายไพบูลย์ อุบัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเองไม่ได้ขัดแย้งกับใครทั้งเรื่องการเมืองและการบริหารงานภายในองค์กรแต่อาจจะมีบ้างในเรื่องการบริหารงานของตนที่ต้องประสานงานกับบุคคลภายนอกหรือกลุ่มนายทุนที่อาจไม่พอใจในการทำงานแบบตรงไปตรงมายึดความถูกต้องของตนโดยเฉพาะการประมูลงานต่างๆ หรือการเช่าที่ดินของ อบจ.ในหลายพื้นที่ ที่อาจสร้างความไม่พอใจให้กับบางคนบางกลุ่มส่วนตัวจึงคิดว่าเหตุระเบิดครั้งนี้น่าจะมีมูลมาจากเรื่องเหล่านี้และเป็นเพียงการข่มขู่มากกว่าการมุ่งเอาชีวิต.

------------------------------------------------------------

ลมกรรโชกแรงทำให้รถเครนพลิกทับบ้านเรือนประชาชน ในหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต เสียหลายหลังเสียหายไม่ต่ำกว่า 7 แสนบาท โชคดีไม่มีประชาชนและและนักท่องเที่ยวได้รับอันตรายใด

          เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 31 ก.ค.56  พ.ต.อ. จิรภัทร์ โพธิ์ชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมพนักงานสอบสวน เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดอุบัติเหตุรถเครนขนาดใหญ่ถูกลมกรรมด
ชกอย่างรุนแรงเสียหลักตะแคงข้าง ทำให้ตัวเครนของรถหล่นลงไปทับบ้านเรือนและร้านค้าของประชาชนพังเสีย 4 คูหา พังเสียหายอย่างหนัก 2 คูหา อีก 2 คูหาอาคารร้าวเสียหายปานกลาง ที่บริเวณ ถ.ผังเมืองสาย ก  ต.เทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต  ปรากฎว่ารถเครนขนาดใหญ่ยี่ห้อโคมัสสุ สีแดง ทะเบียนป้ายแดง ก 4444 ภูเก็ต ของบริษัทสยามวัฒน์ จำกัด(มหาชน) มีนาย วินัย หงษ์ทอง  เป็นพนักงานขับรถ พลิกตะแคงข้างด้านขวาอยู่กลางถนนผังเมืองสาย ก.ที่กำลังทำการก่อสร้างถนนอยู่ โดยเครนที่มีความยาวกว่า 15 เมตรทับไปที่บริเวณหลังคาชั้น 2 ตึกแถวที่เป็น ร้านอาจารย์ หน่องแทคทู เลขที่ 179/13 จนหลังคาทะลุและยุบตัวลงมากองอยู่ที่พื้นชั้นล่าง-กระจกหน้าร้านแตกพังเสียหาย ส่วนขายยาติมาฟาร์มาซี เลขที่ 179/12 หลังคายุบกระจกหน้าร้านแตกพังเสียหาย ด้านร้านขายเสื้อผ้าไม่มีชื่อ เลขที่ 179/14หลังคาและกันสาดหน้าร้านเสียหาย ตัวอาคารร้าว ขณะที่ตึกแถวเลขที่ 179/15 ผังและตัวอาคารร้าว  โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ ต้องทำการปิดถนนสายดังกล่าว เพื่อไม่ให้รถทุกชนิดผ่าน เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เพื่อยกรถเครนขึ้น เบื้องต้นค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 7 แสนบาท
            จากการสอบสวนนาย วินัย หงษ์ทอง พนักงานขับรถเครนทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้ทำการยกท่อระบายน้ำคอนกรีตน้ำหนักกว่า 15 ตันลงจากรถบรรทุกสิบล้อ เพื่อนำมาวางเรียงที่พื้นถนน
ก่อนที่จะให้รถแบ็คโฮยกลงไปวางในหลุมข้างถนนที่จัดเตรียมไว้เพื่อฝังเป็นท่อระบายน้ำของถนนสายดังกล่าว ขณะที่เครนหรือบูมที่มีสลิงอยู่ที่ปลายผูกติดกับท่อระบายน้ำคอนกรีตถูกยกออกจากตัว
รถบรรทุกสิบล้อ ปลายบูมถูกลมกรรโชกอย่างรุนแรง ทำให้บูมไปกระแทกกับขอบกระบะของรถบรรทุกสิบล้อ ทำให้ท่อระบายน้ำคอนกรีตที่กำลังถูกดึงและยกขึ้นจากรถบรรทุกสิบล้อเกิดเสียหลักแกว่ง ส่งผลให้ตัวรถเครนที่ตั้งฐานปักหลักทั้ง 4 ล้อเสียการทรงตัวตะแคงพลิกข้างทันที จากนั้นเครนหรือบูมที่มีความยาวกว่า 15 เมตรหล่นลงไปทับหลังคาตึกแถวดังกล่าวเสียงดังสนั่นไปทั่วและได้รับความเสียหายอย่างหนักดังกล่าว แต่ถือว่าโชคดีขณะเกิดเหตุภายในตึกต่างๆ ที่มีทั้งร้านแทคทู-ร้ายขายยาร้านเสื้อผ้า และบ้านเรือนประชาชนยังไม่ได้เปิดบริการส่วนประชาชนที่อาศัยในตึกแถวส่วนใหญ่ไปทำงานกันหมดจึงไม่มีผู้ใดอยู่ภายแต่อย่างใดทำให้ไม่มีใครได้รับอันตรายดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาประมาททำให้สินค้าของผุ้อื่นได้รับความเสียหายกับพนักงานขับรถเครนดังกล่าว โดยทางบริษัทสยามวัฒน์ จำกัด(มหาชน)ที่เป็นเจ้าของรถเครนจริงรับผิดชอบค่าเสียต่างๆให้ผู้เสียหายทั้งหมด

---------------------------------------------------------
โกไข่ระดมศิลปินจัดคอนเสิร์ต พี่ร้องให้น้องได้เรียนหาทุนก่อตั้งมูลนิธิสภาการศึกษาจังหวัดภูเก็ต 15 ก.ย.นี้

       เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (1 ส.ค.56) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานแถลงข่าวในโครงการผู้พบสื่อมวลชนจังหวัดภูเก็ต โดยนายบัณฑูร ทองตัน ประธานคณะกรรมการสภาการศึกษาจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายชุมพล ทองตัน หรือโกไข่ ศิลปินค่ายแกรมมี่ และลูกศรตีสิบ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดคอนเสิร์ต “พี่ร้องให้น้องได้เรียน” ในวันที่ 15 ก.ย.56 ตั้งแต่เวลา13.00 - 16.00 น. ที่อาโพรไดส์ ตรงข้ามโลตัส สาขาภูเก็ต
นายบัณฑูร ทองตัน กล่าวถึงการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ ว่า เพื่อระดมทุนก่อตั้งมูลนิธิสภาการศึกษาภูเก็ต ต่อเนื่องจากโครงการครูสอนดีจังหวัดภูเก็ต ซึ่งกองทุนนี้เป็นการผลักดันเด็กภูเก็ตทุกคน และคนที่มาเรียนในภูเก็ต ทุกคนที่รักวิชาร้อง วาด ปั้น เต้น ฯลฯ โดยจะเชิญครูมาเป็นกรรมการเพื่อจะผลักดันเด็กภูเก็ตให้เป็นรูปธรรม กลับมาสร้างสีสันให้ภูเก็ตบ้านเรา ซึ่งภูเก็ตบ้านเรายังต้องการนักวิชาชีพแบบนี้อยู่ ถ้าเราส่งเสริมตั้งแต่เด็กๆ ได้ หรือแม้แต่ระดับมัธยม มหาวิทยาลัย ทำให้มีงานด้านความคิด ด้านสุนทรียภาพมากขึ้น
ด้าน นายจุมพล ทองตัน กล่าวว่า สำหรับการจัดคอนเสิรต์ในครั้งนี้ อยากมาตอบแทนสังคมชาวภูเก็ตที่ทำให้ตัวเองมีวันนี้ได้ ซึ่ง 11 ปีแล้วที่เพลงสัญญาหน้าอ๊ามเผยแพร่ในจังหวัดภูเก็ต และตนเองรำลึกเสมอว่าต้องมาตอบแทนชาวภูเก็ตด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้จะนำเงินรายได้ตั้งสภาการศึกษาภูเก็ต และการก่อตั้ง “กองทุนพี่ร้องให้น้องได้เรียน
นายจุมพล กล่าวต่อไปอีกว่า ขอให้ทุกคนมาช่วยกันเพื่อให้มูลนิธิสภาการศึกษาภูเก็ต เกิดขึ้นได้ และช่วยให้โครงการพี่ร้องให้น้องได้เรียนเกิดขึ้นได้ โดยบัตรเริ่มต้นที่ราคา 500 บาท 1,000 บาท และ 2,000 บาท เพื่อต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับโครงการนี้ หาซื้อบัตรได้ที่ ร้านเส้งโหทุกสาขา
โดยมีศิลปิน ประกอบด้วย ตั๊กแตน ชลดา แก้ม เดอะสตาร์ เปาวลี พรพิมล น้องนนท์ เดอะวอยซ์ โกไข่ นายสน กล้วยแสตมป์ รัชนก ศรีโสพรรณ เจมส์ ชินกฤช และลูกศรตีสิบ เป็นต้น จะมามอบความสุขเพื่อขอบคุณพระคุณทุกท่าน
--------------------------------------------------------------------

ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ตอบรมผู้บริหารและบุคลากรท้องถิ่นเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติงานเกี่ยวกับสภาท้องถิ่น

เมื่อเวลา 09.00 . วันที่ 1 สิงหาคม 2556 ที่ห้องพระพิทักษ์แกรนด์บอลรูม โรงแรมเมโทรโพล อ.เมือง จ.ภูเก็ต น..สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติงานเกี่ยวกับสภาท้องถิ่นสำหรับประธานสภา สมาชิกสภา และเลขานุการสภาท้องถิ่น ซึ่งสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น โดยมีนายสาธิต กลิ่นภักดี ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย ประธานสภา สมาชิกสภา และเลขานุการสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น จากท้องถิ่นต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต รวม19 ท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีหัวหน้ากลุ่มงานในสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต และท้องถิ่นอำเภอ เข้าร่วมรวม 236 คน
นายสาธิต กลิ่นภักดี ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดฝึกอบรมโครงการเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติงานเกี่ยวกับสภาท้องถิ่นฯเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมทราบบทบาทหน้าที่ของประธานสภาท้องถิ่น สมาชิกสภาและเลขานุการสภาท้องถิ่นในการปฏิบัติตามภารกิจของงานกิจการสภา ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาภารกิจและการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและของทางราชการ
ขณะที่ น..สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวกับผู้เข้ารับการอบรมว่า เนื่องจากการประชุมสภาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องเป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ.2547 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 เป็นกระบวนการที่เป็นสาระสำคัญ เกี่ยวกับการประชุมสภาฯ โดยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.715/2545 พิพากษาให้เพิกถอนเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่าย เนื่องจากกระบวนการพิจารณาคำแปรญัตติ และการประชุมพิจารณาร่างบัญญัติเทศบัญญัติในวาระที่สองและวาระที่สามของสภาเทศบาลเป็นรูปแบบ ขั้นตอน หรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้สำหรับการกระทำนั้น ดังนั้นการที่ผู้ว่าราชการจังหวัด (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 8) ให้ความเห็นชอบกับร่างเทศบัญญัติ และนายกเทศมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) ได้ลงนามประกาศใช้เทศบัญญัติ จึงมีผลให้เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายฯ ของเทศบาลที่เป็นเหตุพิพาทในคดีนี้เป็นกฎที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นจึงจำเป็นที่ผู้เกี่ยวข้องในส่วนขององท้องถิ่นจะต้องศึกษาเรียนรู้ เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติให้ถูกต้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

--------------------------------------------------------------------

สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต จัดแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ส.อ.ร.ด.ภูเก็ต ครั้งที่ 3 หารายได้ช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ชายแดนภาคใต้

นางภคมน รุ่งรัฐสีมา รองนายกสมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ส.อ.ร.ด.ภูเก็ต ครั้งที่ 3 ว่า สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต (ส.อ.ร.ด.) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2521 โดยมีคุณหญิงอัมพวัน วัฑฒนาธร ภรรยานายเสน่ห์ วัฑฒนาธร ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในขณะนั้น เป็นผู้ให้การสนับสนุน ฝึกครั้งแรกเป็นสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนสาขาจังหวัดภูเก็ต ขึ้นตรงต่อสมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนกรุงเทพมหานครในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้า เพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระธิดาในพระบาทสมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
ต่อมาเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2528 ได้จดทะเบียนเป็นสมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต ขึ้นตรงกับสหพันธ์สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนแห่งประเทศไทย ปัจจุบันมี ม.ร.ว.วรรณาภรณ์ ศุขเนตร เป็นประธานสหพันธ์ฯ สมาคมฯ มีสมาชิกประมาณ 195 คน ได้จัดฝึกอบรมสมาชิกมาแล้วรวม 8 รุ่น และจะจัดฝึกอบรมสมาชิก รุ่นที่ 9 ในวันที่ 17-21 ตุลาคม 2556
นางภคมน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ปฏิบัติภารกิจเยี่ยมทหารชายแดนภาคใต้ที่จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาสร่วมกับสหพันธ์ฯ และทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ โดยจัดทำโครงการ รวมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ปั้นลูกจุลินทรีย์ EM BALL เพื่อนำไปบำบัดฟื้นฟูแหล่งน้ำ และร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติ รักษาสิ่งแวดล้อมกับหน่วยงานราชการต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต
          สมาคมฯ ได้จัดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ส.อ.ร.ด.ภูเก็ต มาแล้ว 2 ครั้ง โดยนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร ในปีนี้สมาคมฯ จะจัดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ส.อ.ร.ด.ภูเก็ต ครั้งที่ 3 ในวันที่ 18 สิงหาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. ณ ซีเอสโบว์ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ชิงรางวัลเกียรติยศแม่ทัพภาคที่ 4 ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้ช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ชายแดนภาคใต้เป็นโครงการต่อเนื่องจากครั้งที่ผ่านมา และส่วนหนึ่งเพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมของสมาคมฯ ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความรักความสามัคคีอันดีระหว่างมวลหมู่สมาชิก และหน่วยงานอื่นๆ
          การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศชนะเลิศจากแม่ทัพภาคที่ 4 พลโทสกล ชื่นตระกูล รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จากรองแม่ทัพภาคที่ 4 พลตรีชาญประดิษฐ์ แสงนิล รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 จากผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 พลตรี พีรพล วิริยากุล รางวัลสามเกมรวมสูงสุด จากผู้บังคับศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 41 พันเอกสมชาย โปณะทอง และรางวัลทีมรองสุดท้าย(รางวัลบู้บี้) จากผู้บังคับกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 ค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล พันตรีประเสริฐ สายทองแท้ โดยผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 พลตรี พีรพล วิริยากุล ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดและปิดการแข่งขัน  นางภคมน กล่าวในที่สุด

---------------------------------------------------------------
องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตจัดโครงการรณรงค์ป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา หวังให้ความรู้ สร้างเกราะคุ้มกันนักเรียนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (1 ส.ค.56) ที่ห้องประชุมโรงเรียน อบจ.บ้านตลาดเหนือ (วันครู 2502) อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา ประจำปี 2556 ซึ่งทาง อบจ.ภูเก็ต จัดขึ้น โดยมีนายวัชรินทร์ ปฐมวัฒนพงศ์ ปลัด อบจ.ภูเก็ต นายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภา อบจ.ภูเก็ต ตลอดจนสมาชิกสภาฯ อบจ.ภูเก็ต นายอวยพร สกุลตัน ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบจ.ภูเก็ต ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียน อบจ.บ้านตลาดเหนือ(วันครู 2502) เข้าร่วมโครงการ จำนวน 137 คน
นายวัชรินทร์ ปฐมวัฒนพงศ์ ปลัด อบจ.ภูเก็ต กล่าวรายงานว่า เนื่องจากปัจจุบันปัญหาของยาเสพติดมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น จึงถือเป็นหน้าที่ของ อบจ.ภูเก็ต ที่จะต้องดำเนินการป้องกัน หยุดยั้งและแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดโครงการรณรงค์ป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษาขึ้น เพื่อหวังจะป้องกันปัญหายาเสพติดไม่ให้เกิดกับเด็กนักเรียนในสังกัด อบจ.ภูเก็ต เพื่อให้นักเรียนรู้ถึงภัยอันตรายจากสารเสพติด เรียนรู้วิธีป้องกันตนเองไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย และจิตใจของนักเรียนด้วย
ขณะที่นายไพบูลย์ กล่าวว่า สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ถือเป็นช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุด เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งชีวิตที่นักเรียนต้องตัดสินใจ ประกอบกับยาเสพติดในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ และแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้นจึงต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้มากที่สุด ในการนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ผู้อำนวยการและคณะครูได้เห็นความสำคัญที่จะสร้างเกราะคุ้มกัน โดยคณะกรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครอง จะเป็นกำลังสำคัญให้กับนักเรียน อย่างไรก็ตามฝากนักเรียนทุกคนใช้เวลาในการอบรมอย่างคุ้มค่าที่สุด และอย่าไปทดลองยาเสพติดเป็นอันขาด

-------------------------------------------------------------------
ภูเก็ตจัดโครงการพัฒนาวิทยากรเครือข่ายภาคประชาชนในรูปแบบอาสาสมัคร สขร.ชุมชนเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2556
            วันนี้ (1 ส.ค. 56) ที่ห้องศูนย์ประชุมกลุ่มจังหวัดอันดามัน นายจำเริญ  ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาวิทยากรเครือข่ายภาคประชาชนในรูปแบบ “อาสาสมัคร สขร.ชุมชน”  โดยมีตัวแทนชุมชนและ อสม. เข้าร่วม
          นายจำเริญ กล่าวว่า การจัดโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้เครือข่ายภาคประชาชนที่สมัครใจเป็น “อาสาสมัคร สขร. ชุมชนหรือ อส.สขร.ชุมชน” มีความรู้ ความเข้าใจในสิทธิได้รู้ การเข้าถึงและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสารของราชการเพียงพอจนสามารถเป็นผู้เผยแพร่และให้คำแนะนำในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากสิทธิได้รู้ตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการไปสู่ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศและ เพื่อให้ “อส.สขร.ชุมชน” เป็นผู้ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการและเครือข่าย รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ โดยใช้วิธีการที่เหมาะสม เห็นผลชัดเจนในการรับความรู้ใหม่ ๆ และเผยแพร่ไปสู่ประชาชนในชุมชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่งประเทศตลอดจนเป็นการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของเครือข่ายภาคประชาชนในการตรวจสอบการดำเนินงานภาครัฐให้มีความโปร่งใสด้วยกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการรวมถึงเพื่อศึกษาสภาพปัญหา อุปสรรคและความคิดเห็นของ อส.สขร.ชุมชน ที่มีต่อสิทธิได้รู้การเข้าถึงและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสารของราชการของภาคประชาชนในการดำเนินการตามกฏหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ และเพื่อให้คณะผู้วิจัยเสนอกระบวนการในการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนที่สมัครใจเป็น “อส.สขร.ชุมชน” ที่มีประสิทธิภาพและ ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง
          ทั้งนี้การเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายข้อมูลข่าวสารของราชการ ที่สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยาได้ร่วมกันจัดขึ้น ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้เข้าร่วมประชุมที่จะได้เรียนรู้กฎหมาย สิทธิได้รู้ กระบวนการของข้อมูลข่าวสารของทางราชการ และที่สำคัญคือการนำความรู้ไปเผยแพร่ต่อชุมชน ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการสร้างความโปร่งใสของระบบราชการ เพื่อให้ผู้ที่เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฏหมายข้อมูลข่าวสารของราชการและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ต่อชุมชน และต่อประเทศชาติต่อไป
---------------------------------------------------------------------
เรือ Logos Hope พร้อมนำเหล่าอาสาสมัคร ลูกเรือนานชาติเยือนภูเก็ต

เรือ Logos Hope ร้านหนังสือลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังจะนำเหล่าลูกเรือนานาชาติเยือนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเรือจะเปิดให้สาธารณชนเข้าเยี่ยมชมในวันที่ 15 ส.ค. 56 นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกท่านได้พบปะพูดคุยกับเหล่าลูกเรือ และเข้าเยี่ยมชมร้านหนังสือ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (1 ส.ค.56) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ ศรีสกุลแพทย์ ผู้ประสานงานโครงการเรือ Logos Hope ได้แถลงข่าวเรือ Logos Hope ร้านหนังสือลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะเดินทางมาจังหวัดภูเก็ตในวันที่ 15 ส.ค. 56 นี้ ต่อสื่อมวลชน
            นายณรงค์ ศรีสกุลแพทย์ กล่าวว่า สำหรับ เรือ "Logos Hope" ร้านหนังสือลอยน้ำใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมเดินทางมาจังหวัดภูเก็ตพร้อมด้วยลูกเรือ 400 คน ล้วนแล้วเป็นอาสาสมัครที่มาจากมากกว่า 45 ประเทศทั่วโลก ซึ่งยอมอุทิศเวลาอันมีค่าจากครอบครัว อาชีพการงาน และสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ในบ้านเกิดของตน เพื่อที่จะแสดงให้สังคมได้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจากวัฒนธรรมที่หลากหลาย  
            ซึ่งบางคนเข้ามาเป็นอาสาสมัครทำงานในหน้าที่ต่างๆ ภายในเรือความสามารถเฉพาะทาง เช่น วิศวกร ช่างซ่อมบำรุง เจ้าหน้าที่เดินระบบไฟฟ้า ช่างไม้ เจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ พ่อครัว และตำแหน่งอื่นๆ อีกมากมาย และยังมีกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาเป็นอาสาสมัครโดยที่ยังไม่มีความสามารถพิเศษเฉพาะทางในด้านใด นอกจากจิตใจที่พร้อมรับใช้สังคมเท่านั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมาจากพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกัน แต่พวกเขาอยู่ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน คือ การๆได้ช่วยเหลือผู้คนผ่านทางานสังคม และหนังสือที่ดีมีประโยชน์ ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้เรือ Logos Hope ได้ไปเยือนประเทศฟิลิปปินส์และประเทศกัมพูชา เหล่าลูกเรือก็ได้มีโอกาสเข้าช่วยเหลือสังคมผ่านโครงการต่างๆ มากมาย ทั้งการสร้างโรงเรียนในเขตพื้นที่ต่างๆ การบริจาคหนังสือ การให้บริการทางการแพทย์ และคลินิกรักษาฟันเคลื่อนที่โดยไม่เก็บค่ารักษาพยาบาล
นายณรงค์ กล่าวต่อไปอีกว่า เรือ Logos Hope ได้นำเสนอหนังสือนานาประเภทมากกว่า 5,000 รายการ ในราคาที่ย่อมเยา ซึ่งครอบคลุมหนังสือหลากหลายชนิด ได้แก่ หนังสือทางด้านวิทยาศาสตร์ กีฬา งานอดิเรก และการดำเนินชีวิตและครอบครัว อีกทั้งมีหนังสือสำหรับเด็กและเยาวชน ได้แก่ ตำราเรียน พจนานุกรม แผนที่ประเทศต่างๆ และหนังสืออื่นๆ อีกมากมาย นอกเหนือจากร้านหนังสือแล้ว ยังมีห้องแสดงนิทรรศการถาวร เพื่อบอกเล่าสิ่งที่มนุษย์ควรทำและไม่ควรทำ เพื่อนำไปสู่การใช้ชีวิตที่มีคุณค่าร่วมกับเพื่อนมนุษย์บนโลกใบนี้ ถัดมาเป็นร้านขายเครื่องดื่มและขนม เพื่อเติมพลังให้บริการนักอ่านที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดิน
สำหรับเรือ Logos Hope จะเปิดบริการให้ผู้สนใจเข้าเยี่ยมชม ณ ท่าเรือน้ำลึก อ่าวมะขาม จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 15 18 สิงหาคม 2556 และในวันที่ 21 22 สิงหาคม 2556 ในวันอังคาร วันเสาร์ เรือจะเปิดให้บริการเวลา 10.00 21.30 น. ส่วนในวันอาทิตย์  เรือจะเปิดให้บริการเวลา 13.00 21.30 น. และในวันจันทร์ที่ 19 - วันอังคารที่ 20 สิงหาคม 2556 เรือจะปิดให้บริการ โดยค่าบัตรผ่านประตูราคาท่านละ 20 บาท สำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 12 ปี สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ต้องมีผู้ปกครองดูแล

---------------------------------------------------------------

ภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต ขอเชิญประชาชนร่วมบริจาคโลหิตโครงการ “พลังน้ำใจ บริจาคโลหิต เทิดไท้ถวายแม่ของแผ่นดิน” เทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา  12 สิงหาคม 2556 
         นางสาวพรทิพย์  รัตจักร์  หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต  กล่าวว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต ภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ตและเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต  กำหนดนโยบายในการจัดหาโลหิตบริจาคให้มีปริมาณเพียงพอ  ปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่ยังคงพบปัญหาปริมาณโลหิตสำรองไม่สม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีการขาดแคลนโลหิตในบางช่วง จึงมีการจัดทำโครงการ “พลังน้ำใจ บริจาคโลหิต เทิดไท้ถวายแม่ของแผ่นดิน” เพื่อใช้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ  และแสดงความจงรักภักดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา  กำหนดจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตในวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2556 เวลา 08.30-16.30 น. ณ   ภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต   38/193 ถนนรัตนโกสินทร์ 200ปี ตำบลตลาดเหนือ  อำเภอเมือง  จังหวัดภูเก็ต
          จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล   รับของที่ระลึก (ต้นกล้าพันธุ์ไม้)พร้อมทั้งร่วมลงนามถวายพระพรตลอดเดือนสิงหาคม 2556 สามารถบริจาคโลหิตตามโครงการฯ  ได้ที่  ภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต โทร 076 251178 ต่อ 2 หรือ 081-9588854         
--------------------------------------------------------------
เหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต  ภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ตและธนาคารไทยพาณิชย์   ขอเชิญประชาชนร่วมกิจกรรมในโครงการ “ไทยพาณิชย์รวมใจไทยให้โลหิต” ในวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2556 เวลา 09.00-15.00 น.   ณ  ลานนวมินทร์ 72 พรรษา  จังหวัดภูเก็ต
 นางสาวพรทิพย์ รัตจักร์  หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า เหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต  ภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ตและธนาคารไทยพาณิชย์  ได้ร่วมจัดทำ โครงการ ไทยพาณิชย์รวมใจให้โลหิต จังหวัดภูเก็ต โดยได้รับการสนับสนุนรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่จากธนาคารไทยพาณิชย์และทางธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ถวายรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ข้างต้นของจังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่  แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทยเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา  ซึ่งโครงการฯนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์การรับบริจาคโลหิตด้วยรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ที่สามารถนำไปจอดรับบริจาคโลหิตตามสถานที่ที่มีพื้นที่ไม่เหมาะสมสำหรับจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต เพื่อเพิ่มความสะดวกสำหรับผู้บริจาคโลหิต ที่จะสามารถมาบริจาคโลหิตได้ง่ายยิ่งขึ้น
          ทั้งนี้ กิจกรรมในวันที่ 15 สิงหาคม 2556  จะมีการเดินขบวนรณรงค์ด้วยรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่จังหวัดภูเก็ตพร้อมนักเรียน นักศึกษา หน่วยงานราชการ เอกชนและประชาชนทั่วไป ตามเส้นทางจากสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี (ลานมังกร)-ถนนถลาง-ถนนเยาวราช-ถนนดีบุก-ถนนเทพกระษัตรี ไปยังลานนวมินทร์ 72 พรรษา เพื่อทำพีธีเปิดโครงการฯโดยนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  และบริจาคโลหิตบนรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ในเวลา 11.00-15.00 น. ณ  ลานนวมินทร์ 72 พรรษา
  จังหวัดภูเก็ต
          สอบถามรายละเอียดได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต 38/193 ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000 โทรศัพท์ 076-251178 ต่อ 2 หรือ 081-9588854


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป