วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข่าวประจำวันที่ 26 ก.ค.56

ตำรวจภูเก็ตจับกระท่อม

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2556 เจ้าหน้าที่ชุดภายใต้การอำนวยการของนายศุภชัย โพชนุกุลนายอำเภอเมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าหน้าที่ที่ชุดจับกุม ประกอบด้วย นายสุธี ศิริอนันต์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายจิรวัฒน์ นะมาตร์ ปลัดอำเภอหัวหน้างานป้องกันอำเภอเมืองภูเก็ต นายธรรมรงค์ ช่วยอักษร ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับนายสังคม สินธุ์ประดิษฐ์ ผญ.ม. 2 บ้านบางชีเหล้า ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต พร้อมอาสาสมัครและชุด ชรบ.ม.2 บ้านบางชีเหล้า ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันจับกุมนายธีรวุทธ์ รอดเนียว อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192 ม.5 ต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และนายอรรรณพ เอี๋ยวสกุล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ต.ตลาดใหญ่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมของกลางพืชกระท่อมใบสด น้ำหนัก 9.5 กิโลกรัม และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 1 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย อันเป็นฐานความผิด มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ภายในอู่จอดระแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เบื้องต้นนายธีรวุทธ์ รอดเนียวให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ขณะที่นายอรรณพ เอี๋ยวสกุล ให้การปฎิเสธ
 สำหรับพฤติกรรมในการจับกุม ทางเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานจากสายว่า มีการลักลอบจำหน่ายพืชกระท่อมบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารภูเก็ตแห่งที่ 2 โดยมีการขนส่งผ่านรถโดยสารประจำทาง และมีการสุ่มตรวจรถโดยสารประจำทางอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่าจะมีรถโดยสารเส้นทาง ภูเก็ต-ชุมพรเดินทางเข้ามาส่งผู้โดยสาร และคาดว่าจะมีการลำเลียงพืชกระท่อมมาภายในรถดังกล่าว จึงได้ขอเข้าทำการตรวจค้น พบใต้ท้องรถมีลังโฟมจำนวนหลายลัง  ตรวจพบ 1 ในลังดังกล่าวมีพืชกระท่อมบรรจุอยู่ข้างใน สอบถามเด็กรถทราบว่าผู้ฝากลังดังกล่าวมาจากบ้านทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา มีชื่อผู้ฝากและหมายเลขโทรศัพท์ผู้รับฝากอยู่บนฝาลัง เด็กรถจึงได้ติดต่อให้มารับของ และนัดรับของที่อู่จอดรถ ซึ่งผู้จับกุมได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กทย 879 พังงา ยี่ห้อยามาฮ่า มาติดต่อขอรับลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและทำการจับกุมดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา  ทั้งนี้ได้นำผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีต่อไป

************************************
สำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต จัดเสวนาหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัด สร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมสู่ประชาชน เพื่อให้สามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ง่ายขึ้น
         
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (26 ก.ค.56) ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายปริญญา เชาวลิตถวิล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการเสวนาหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัด สำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ประจำปีงบประมาณ 2556 เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมสู่ประชาชน มี ตำรวจ อัยการ ทนายความ หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ผู้ไกล่เกลี่ยของศาล กรรมการสงเคราะห์ อาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ศูนย์ดำรงธรรม นักศึกษา และเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรม จำนวน 130 คน
          นางนริศรา ปานสะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดภูเก็ต ยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดเสวนาหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัด ในวันนี้ ว่า สืบเนื่องจากกระทรวงยุติธรรม ได้ดำเนินการจัดตั้งสำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทน ของกระทรวงยุติธรรม ในการบริหารจัดการและประสานหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมในระดับจังหวัด รวมทั้งบูรณาการงานกับส่วนราชการและองค์กรต่างๆตามแนวยุทธศาสตร์ ยุติธรรมถ้วนหน้า ประชามีส่วนร่วมเป็นการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอย่างเสมอภาค โปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ กระทรวงยุติธรรม จึงได้มอบหมายให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการ จัดโครงการเสวนาหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2556 ขึ้น เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างส่วนราชการและองค์กรต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดภูเก็ต ในการประสานความร่วมมือความเข้าใจ ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็น อันจะนำไปสู่การอำนวยความยุติธรรมต่อประชาชน และทำให้ประชาชนได้มีความเข้าใจ เข้าถึงความยุติธรรมได้ง่าย รวดเร็ว เสมอภาคและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
โดยในการจัดโครงการครั้งนี้ จะเป็นการเสวนาบทบาทภารกิจของส่วนราชการในกระบวนการยุติธรรมกับการอำนวยความยุติธรรมสู่ชุมชน ผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย ตำรวจ ทนายความ อัยการ หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต และผู้เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ผู้ไกล่เกลี่ยของศาล กรรมการสงเคราะห์ อาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ศูนย์ดำรงธรรม นักศึกษา และเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรม จำนวน 130 คน
          ด้านนายปริญญา กล่าวด้วยว่า การจัดเสวนาในวันนี้ จะเป็นการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมให้สามารถตอบสนองต่อการอำนวยความยุติธรรมสู่ประชาชนได้มากขึ้น ทั้งประชาชนยังมีความรู้ ความเข้าใจ ในบทบาทภารกิจของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งดำเนินการลงในระดับชุมชน ทำให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้ง่ายขึ้น สามารถใช้กลไกต่างๆ ที่มีในชุมชน ในการสร้างความเป็นธรรมและสงบสุขในสังคมร่วมกัน ตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมที่ว่ายุติธรรมถ้วนหน้า ประชามีส่วนร่วม

***********************************************

สมาคมชาวเมืองลุงเปิดศึกมวยการกุศล “รวมพลคนเมืองลุง”
          เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 25  กรกฏาคม 2556  พลเรือโท ธราธร  ขจิตสุวรรณ  ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ประธานจัดการแข่งขันมวยไทยการกุศล ศึก"รวมพลคนเมืองลุง"พร้อมด้วยนางศึกษาวดี จันทร์ชู  นายกสมาคมชาวเมืองลุงภูเก็ต นายสมควร เพชรเหมือน  อุปนายกสมาคมฯ  นาย เชาว์   เรืองสวัสดิ์   อุปนายกสมาคมฯ   และนายวารินทร์  ขาวทอง เลขานุการสมาคมฯร่วมแถลงข่าวการแข่งขันมวยไทยการกุศล "ศึกรวมพลคนเมืองลุง"  โดยมีนายสมคิด  สุภาพ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต  พ.ต.อ.ชวลิต    เพชรศรีเปีย   ผกก.สภ.วิชิต   นายอดุล  ชูทอง  ปลัดอาวุโสเมืองภูเก็ตและสื่อมวลชนจังหวัดภูเก็ต ร่วมที่ร้านภูเก็ตซีฟู๊ด อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต
             พลเรือโทธราธร กล่าวว่า การแข่งขันมวยไทยการกุศลในครั้งนี้ จัดขึ้นที่"ป่าตอง บ๊อกซิ่ง สเตเดี้ยม" หรือ "สนามมวยไสน้ำเย็น"  ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต  เพื่อหารายได้เป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียน และนักศึกษาในโรงเรียนจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพัทลุง  อีกทั้งจะนำรายได้อีกส่วนหนึ่งในช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวาตภัย ภัยแล้ง น้ำท่วม และสึนามิ และในกิจกรรมทางด้าน
สาธารณกุศลต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับในจังหวัดภูเก็ต

            พลเรือโทธราธร  กล่าวอีกว่าอย่างไรก็ตามเมื่อที่ผ่านมาทางสมาคมชาวเมืองลุงภูเก็ตนำเงินไปมอบทุนการศึกษาจำนวน  62  ทุนให้กับนักเรียนและนักศึกษาในจังหวัดพัทลุง ขณะเดียวกันยังมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนและนักศึกษาในจังหวัดภูเก็ตและก่อนหน้านี้ยังมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์  และรถเข็นให้ทางโรงพยาบาลพัทลุง  รวมถึงมอบเงินช่วยเหลือน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 2554
              สำหรับคู่มวยประกอบด้วยคู่เอก สะทานฟ้า  บอสวิดคาร์ออดิโอ  ยอดมวยจากสงขลา ท้าดวลเดือดกับยอดซูซัน  ส.โชคนิตยา  จากกระบี่  คู่รอง  ศักดิ์ชัยน้อย ศิษย์สท.เล็ก  จากเมืองมุกปะทะมาใหม่  ส.ชัยเจริญ  นครศรีธรรมราช  ติดตามด้วย   มรกตดำ    ศิษย์สท.เล็ก  อาสาสกัดดาวดังจากเมืองกรุง  โรเบิร์ต  ส.สมหมาย  นอกจากจากนี้ยังมี  นครทอง   น.โยธารักษ์ ดวลเดือด  สงขลาเล็ก     ส.ชัยเจริญ  แฟนมวยพันธุ์แท้ห้ามพลาด   
*************************************************
แรงงานภูเก็ตร่วมวัฒนธรรมส่งเสริมอาชีพเพิ่มรายได้ชาวไทยใหม่

          วันนี้ (26 ก.ค. 56) ที่โรงเรียนบ้านสะปำมงคลวิทยา นายทวิชาติ อินทรฤทธิ์ วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต นายสุทธิพงศ์ สายคเรศ แรงงานจังหวัดภูเก็ต นายเชิดชู  ระเด่น ผู้อำนวยการโรงเรียนสะปำมงคลวิทยาร่วมพิธีปิดและร่วมมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้จบหลักสูตรตามโครงการพัฒนาทักษะฝีมือชาวไทยใหม่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ หลักสูตรเพ้นท์ผ้าปาเต๊ะ และปักเลื่อม ระยะที่ 2 ชุมชนบ้านสะปำ ระหว่างวันที่ 22 -26 กรกฎาคม 2556 ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
          นายสุทธิพงศ์ กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต ได้กำหนดการจัดกิจกรรมโครงการ "ภูเก็ตเทิดพระเกียรติ พระแม่แห่งแผ่นดิน" เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมายุ 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2556 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต ซึ่งรับผิดชอบในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวไทยใหม่ และสำนักงานแรงงานจังหวัดภูเก็ต ซึ่งรับผิดชอบการพัฒนาอาชีพ จึงได้ร่วมกันดำเนินการ จัดโครงการพัฒนาทักษะฝีมือชาวไทยใหม่ (ชาวเล) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพหลักสูตรเพ้นท์ผ้าปาเต๊ะและปักเลื่อม เพื่อพัฒนาอาชีพให้สตรีชาวไทยใหม่ได้มีอาชีพหรืออาชีพเสริมแทนที่การอยู่ว่างๆ
โดยเป็นการจัดกิจกรรมตามโครงการ "ภูเก็ตเทิดพระเกียรติ พระแม่แห่งแผ่นดิน" ลำดับ 7 บริการสังคม 7.3 กิจกรรมพัฒนาชุมชนชาวเล ซึ่งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดรับผิดชอบในการสำรวจกลุ่มเป้าหมายในการเข้ารับการฝึกอาชีพ ขณะที่สำนักงานแรงงานจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบค่าวัสดุ ค่าวิทยากร และค่าอาหาร โดยจัดสรรงบประมาณจากโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการประกอบอาชีพ ทั้งหมด 5 ชุมชน 5 รุ่น ๆ ละ 16 คน การฝึกอาชีพใช้ระยะเวลารุ่นละ 5 วัน ใช้งบประมาณรุ่นละ 57,600 บาท รวมเป็นเงิน 288,000 บาท
          ในระยะที่ 1 ได้ดำเนินการไปแล้ว 2 รุ่น คือ ที่ชุมชนบ้านแหลมหลาและชุมชนบ้านราไวย์ สำหรับระยะที่ 2 ดำเนินแล้ว 1 รุ่น ที่ชุมชนบ้านหินลูกเดียว และรุ่นที่ 2 (เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.-  26 ก.ค. 56) เป็นชุมชนบ้านสะปำ  และจะดำเนินการในชุมชนบ้านแหลมตุ๊กแกเป็นลำดับต่อไป

 *****************************************
งานแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 – ภูเก็ต ปี 2556

          เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (26 ก.ค.56) ที่ห้างเทสโก้โลตัส อ.เมืองภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย กลุ่มจังหวัดภาคกลาง ตอนล่าง 1-ภูเก็ต ปี 2556 ซึ่งสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี ร่วมกันจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 26-28 กรกฎาคม 2556
          นอกจากนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายปิติธรรม ฐิติมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรปลอดภัย ราชบุรี-ภูเก็ต ระหว่าง สภาเกษตรกรจังหวัดราชบุรี โดยนางสาวเพ็ญศรี กระต่ายทอง รองประธานสภาเกษตรกรจังหวัดราชบุรี กับสภาเกษตรกรจังหวัดภูเก็ต โดยนายสมชาย สกุลชิต ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดภูเก็ต
          โดยมีนางดวงนวล ขณะรัตน์ เกษตรและสหกรณ์ พาณิชย์จังหวัดราชบุรี นายศุภชัย สงประสพ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต นายประคอง รักษ์วงศ์ พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต นายสมชาย สกุลชิต ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดภูเก็ต และตัวแทนภาคเกษตร ตลอดจนผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี และผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมงานจำนวนมาก
          นายปิติธรรม กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ สืบเนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการโครงการรณรงค์เพื่อการผลิตสินค้าเกษตรที่ได้คุณภาพมาตรฐานและปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตั้งแต่ปี 2543 โดยสำนักมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) สำหรับพืช ปศุสัตว์ และประมง เพื่อเกษตรกรและผู้ประกอบการนำไปใช้ในการควบคุมกระบวนการผลิตให้ปลอดภัยยั่งยืน ผลผลิตมีคุณภาพและปลอดภัย มีหน่วยตรวจสอบรับรอง ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเป็นผู้ให้การรับรองมาตรฐาน ประกอบกับกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี ได้กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์หลัก คือ มุ่งเป็นฐานการผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมด้วยระบบการผลิตที่ปลอดภัย มีการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการผลิตสินค้าปลอดภัยมาโดยตลอด ปีละไม่น้อยกว่า 5,000 ราย
ในการนี้ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 จึงได้จัดกิจกรรม งานแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1-ภูเก็ต พ.ศ.2556 ภายใต้โครงการเชื่อมโยงตลาดกลางสินค้าเกษตรที่ได้มาตรฐาน เป็นการดำเนินงานภายใต้โครงการตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 โดยกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 26-28 กรกฎาคม 2556 ณ ห้างเทสโก้โลตัส อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง นำสินค้ามาแสดงและจำหน่ายในงาน จำนวน 24 บูธ  ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัย เพิ่มช่องทางและหาแหล่งจำหน่ายให้เกษตรกรผู้ผลิต รณรงค์ให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญของสินค้าเกษตรปลอดภัย รวมทั้งเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรรักษาและเพิ่มคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยตลอดไป ตลอดจนสนับสนุนวิสัยทัศน์ของกลุ่มจังหวัด ภาคกลางตอนล่าง 1 ที่กำหนดไว้ว่า สร้างผลผลิตสู่สากล สร้างสภาพชุมชนเพื่อชีวิต
          ด้านนายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า การจัดงานครั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดราชบุรี เป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยเคยมีการจัดงานเชื่อมโยงตลาดสินค้าเกษตรและ OTOP ราชบุรี-ภูเก็ต เมื่อปี 2547 และ 2548 โครงการเชื่อมโยงสินค้าระหว่างจังหวัดเช่นนี้ เป็นโครงการที่ดี และเป็นการสนับสนุนการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตได้อย่างมาก มีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของจังหวัดภูเก็ต เป็นอย่างยิ่ง ที่กำหนดไว้ว่า ศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีเอกลักษณ์วัฒนธรรมและมีการพัฒนาที่ยั่งยืนซึ่งจังหวัดภูเก็ตมีความต้องการผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรและ OTOP ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยตามมาตรฐาน เพื่อประชาชนและนักท่องเที่ยว จะได้บริโภคอาหารดีมีคุณภาพ
          อย่างไรก็ตามตนเชื่อมั่นว่า การจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภครับรู้ข้อมูลและเลือกบริโภคสินค้าที่มีความปลอดภัย ตลอดจนเป็นการเปิดโอกาสและเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าให้เกษตรกรและผู้ประกอบการต่างๆ และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดให้มากยิ่งขึ้นอย่างถาวรสืบไป
*********************************************
คณะทำงานการกีฬา และนันทนาการ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ศึกษาดูงาน บทบาทการสื่อสารทางการกีฬาไทยที่จังหวัดภูเก็ต

          วันนี้ (26 ก.ค.56) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายธนา ไชยประสิทธิ์  ประธานคณะทำงานการกีฬา และนันทนาการ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมคณะ ศึกษาดูงาน และเสวนาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ด้านบทบาทการสื่อสารทางการกีฬาไทย โดยมีตัวแทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสื่อมวลชนเข้าร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการพัฒนาของอุตสาหกรรมกีฬา  นำไปสู่การผลักดันในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
            นายธนา กล่าวภายหลังร่วมเสวนากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ถึงสถานการณ์ของการสื่อสารทางการกีฬาไทย ว่า  สื่อในปัจจุบันมีการรวมตัวอย่างเข้มแข็งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำโซเชี่ยวเน็ตเวิร์ค สื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลกีฬาทำให้เข้าถึงได้ง่าย แต่ยังมีจุดอ่อนของบุคลากรด้านสื่อมวลชนที่ขาดความรู้ทางด้านกีฬาที่ถูกต้อง ซึ่งต้องร่วมมือกับสถาบันการศึกษาสร้างองค์ความรู้ที่ถูกต้องเน้นทักษะภาษาอังกฤษ และภาษาอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 รวมทั้งผลิตบุคลากรด้านสื่อให้ตรงกับความต้องการตลาดแรงงาน เพื่อเป็นสื่อกลางในการขับเคลื่อนกีฬาไทยไปสู่ระดับนานาชาติ
            อย่างไรก็ตามในช่วงบ่าย วันเดียวกันนี้ ทางคณะคณะทำงานการกีฬา และนันทนาการ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  ได้เดินทางมาศึกษาดูงาน ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อนำแนวทางการบริหารจัดการด้านสื่อของรัฐบาลนำไปเป็นข้อมูล ซึ่งการลงพื้นที่ศึกษาดูงาน และข้อคิดเห็นที่ได้จากการเสวนาในครั้งนี้ทางคณะฯ จะนำเสนอต่อสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
**************************************
ภูเก็ตรับฟังปัญหาอุปสรรคของเกษตรกรก่อนขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ที่ดินด้านเกษตรกรรม
          วันนี้ (26 ก.ค. 56) ที่ห้องประชุมอาคารศูนย์ประชุมกลุ่มจังหวัดอันดามัน ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ  สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ที่ดินด้านเกษตรกรรมจังหวัดภูเก็ตครั้งที่ 3/2556 โดยมีส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและตัวแทนเกษตรกรเข้าร่วม
          นายสมเกียรติ  กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานพร้อมด้วยคัวแทนเกษตรกรเพื่อหาทางออกร่วมกัน พร้อมกันนี้จะให้ทางส่วนราชการต่าง ๆ ได้รับฟังปัญหาของเกษตรกรเนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าจังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดที่มีราคาที่ดินสูงเนื่องจากถูกนำมาใช้ในธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวทำให้พื้นที่ที่เป็นที่ทำการเกษตรกรรมส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ โดยมีการเข้าไปทำกินในที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ราชพัสดุ  ที่สาธารณประโยชน์ หรือบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ทั้งป่าบกและป่าชายเลนหรือเป็นที่มีเอกสารสิทธิของเอกชน  ทำให้มีการร้องเรียนในเรื่องสิทธิที่ดินทำกินตลอดมาเนื่องจากมีการบุกรุกเข้าไปทำเกษตรกรรมหรืออื่น ๆ ทำให้ต้องมีการแก้ไขปัญหาตลอดมาและจากการที่ทางรัฐบาลได้มีการโครงการดังกล่าวขึ้น โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการสำรวจในเรื่องของการใช้ที่ดินด้านการเกษตรขึ้น เพื่อตรวจสอบว่ามีการใช้พื้นที่ทำเกษตรกรรมจำนวนเท่าไร และปลูกพืชอะไรบ้าง ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตยังมีปัญหาในเรื่องที่ดินทำกินที่มีปัญหาข้างต้น ทำให้เกิดปัญหาข้อร้องเรียนในเรื่องสิทธิที่ดินทำกินตลอดมา โดยในวันนี้ทางตัวเทนเกษตรกรได้มีการให้ข้อมูลปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ แก่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้หาทางในการแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร แต่ทั้งนี้ต้องใช้เวลา หรือต้องมีการเสนอให้รัฐบาลแก้ไขฏหมายต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งทั้งหมดต้องการเพียงแค่สิทธิในที่ดินทำกิน ไม่ใช้เพื่อปลูกยางพาราแล้วพอยางพาราหมดอายุจะทำการโค่นเพื่อปลูกทดแทน แต่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งว่าไม่สามารถทำได้ ซึ่งในทุกปัญหาที่ได้รับการเสนอในวันนี้จะมีการนำเสนอให้ส่วนกลางพิจารณาต่อไป
**********************************************
สำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต จัดเสวนาหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัด สร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมสู่ประชาชน เพื่อให้สามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ง่ายขึ้น
          เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (26 ก.ค.56) ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นาย ปริญญา เชาวลิตถวิล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการเสวนาหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัด สำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ประจำปีงบประมาณ 2556 เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมสู่ประชาชน มี ตำรวจ อัยการ ทนายความ หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ผู้ไกล่เกลี่ยของศาล กรรมการสงเคราะห์ อาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ศูนย์ดำรงธรรม นักศึกษา และเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรม จำนวน 130 คน
          นางนริศรา ปานสะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดภูเก็ต ยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดเสวนาหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัด ในวันนี้ ว่า สืบเนื่องจากกระทรวงยุติธรรม ได้ดำเนินการจัดตั้งสำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทน ของกระทรวงยุติธรรม ในการบริหารจัดการและประสานหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมในระดับจังหวัด รวมทั้งบูรณาการงานกับส่วนราชการและองค์กรต่างๆตามแนวยุทธศาสตร์
 ยุติธรรมถ้วนหน้า ประชามีส่วนร่วม เป็นการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอย่างเสมอภาค โปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ กระทรวงยุติธรรม จึงได้มอบหมายให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการ จัดโครงการเสวนาหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2556 ขึ้น เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างส่วนราชการและองค์กรต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดภูเก็ต ในการประสานความร่วมมือความเข้าใจ ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็น อันจะนำไปสู่การอำนวยความยุติธรรมต่อประชาชน และทำให้ประชาชนได้มีความเข้าใจ เข้าถึงความยุติธรรมได้ง่าย รวดเร็ว เสมอภาคและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
          โดยในการจัดโครงการครั้งนี้ จะเป็นการเสวนาบทบาทภารกิจของส่วนราชการในกระบวนการยุติธรรมกับการอำนวยความยุติธรรมสู่ชุมชน ผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย ตำรวจ ทนายความ อัยการ หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต และผู้เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ผู้ไกล่เกลี่ยของศาล กรรมการสงเคราะห์ อาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ศูนย์ดำรงธรรม นักศึกษา และเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรม จำนวน 130 คน
          ด้านนายปริญญา กล่าวด้วยว่า การจัดเสวนาในวันนี้ จะเป็นการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมให้สามารถตอบสนองต่อการอำนวยความยุติธรรมสู่ประชาชนได้มากขึ้น ทั้งประชาชนยังมีความรู้ ความเข้าใจ ในบทบาทภารกิจของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งดำเนินการลงในระดับชุมชน ทำให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้ง่ายขึ้น สามารถใช้กลไกต่างๆ ที่มีในชุมชน ในการสร้างความเป็นธรรมและสงบสุขในสังคมร่วมกัน ตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมที่ว่ายุติธรรมถ้วนหน้า ประชามีส่วนร่วม
********************************************
อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับ สสจ.ภูเก็ตมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์พระราชทานในพระนามาภิไธยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แก่ผู้พิการ
      
          เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (26ก.ค.56) ที่โรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์สมัย ศิริทองถาวร ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาเด็กราชนครินทร์ เป็นประธานในพิธีมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์พระราชทานในพระนามาภิไธยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และสถาบันพัฒนาเด็กราชนครินทร์ สโมสรโรตารี และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดขึ้น
          โดยมี นางสาว สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์ บัญชา ค้าของ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นาย ชวลิต ณ นคร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ผู้แทนจากสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ ผู้แทนองค์กร
 Wheels for the world จาก ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้พิการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมโดยมีการส่งมอบอุปกรณ์ช่วยเหลือเด็กพิการที่พัฒนาการช้า และผู้พิการ จำนวน 63 ชิ้น
              นายแพทย์ บัญชา ค้าของ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แก้คนพิการเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้คนพิการในจังหวัดภูเก็ตเข้าถึงการบริการทางการแพทย์อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสนับสนุนกายอุปกรณ์ เพื่อให้คนพิการสามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยไม่เป็นภาระทางสังคม อีกทั้งทางสสจ.ภูเก็ต อบจ.ภูเก็ต และโรงพยาบาลได้ลงพื้นที่สำรวจความต้องในการใช้รถเข็นสำหรับคนพิการ และกายอุปกรณ์สำหรับคนพิการในจังหวัดภูเก็ตในปี 2556 พบว่า มีคนพิการที่แจ้งความประสงค์ขอรับรถเข็นสำหรับคนพิการ และกายอุปกรณ์รวม 63 ราย จึงได้ขอสนับสนุนสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และสโมสรโรตารีชิโนภูเก็ต พร้อมมอบเตียงผู้ป่วย ที่นอนลม ไม้เท้า รถเข็น ตลอดจนอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับคนพิการ      
         ด้าน นายชวลิต ณ นคร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ให้กับคนพิการถือเป็นภารกิจที่สำคัญเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตนเองได้เป็นเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเขาทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเล็งเห็นความสำคัญดังกล่าวจึงได้จัดทำโครงการภูเก็ตแคร์ขึ้นมา
          รวมทั้งให้การสนับสนุนงบประมาณให้แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตในการจัดทำโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยเรื้อรังและผู้พิการในชุมชน ซึ่งการดำเนินการทั้ง 2 โครงการที่ผ่านมาส่งผลให้ผู้ป่วยเรื้อรังและผู้พิการในชุมชนได้รับการดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ
          อย่างไรก็ตาม ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตยังได้ขอความร่วมมือไปยังภาคีเครือข่ายอื่นๆ เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และองค์กรภาคเอกชนในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยเรื้อรังและผู้พิการชนเกิดโครงการมอบรถเข็นวีลแชร์ให้กับผู้พิการขึ้น เพื่อช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตต่อไป
 ******************************************

สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดประชุมหารือแนวทางส่งเสริมการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวของไทย กรณีศึกษาระบบขนส่งมวลชนเพื่อรองรับแหล่งท่องเที่ยวในเมืองหลัก

          รศ. ดร. ใยอนงค์  ทิมสุวรรณ  ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจภาคบริการและการท่องเที่ยว เปิดเผยในการประชุมหารือระดมความคิดเห็นเรื่อง “แนวทางส่งเสริมการเพิ่มรายได้การท่องเที่ยว : กรณีศึกษาระบบขนส่งมวลชนเพื่อรองรับแหล่งท่องเที่ยวในเมืองหลัก” วันนี้ (26 ก.ค. 56) ที่โรงแรมเพิร์ล ว่า สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมีหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคม เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งแผนอื่นใดที่มีกฎหมายกำหนดให้เสนอแผนนั้นต่อสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก่อนพิจารณาประกาศใช้จากบทบาทหน้าที่ดังกล่าว สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยคณะทำงานเศรษฐกิจภาคบริการและการท่องเที่ยวได้มีการกำหนดให้มีการศึกษาเรื่อง “แนวทางส่งเสริมการเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวของไทย : กรณีศึกษาระบบขนส่งมวลชนเพื่อรองรับแหล่งท่องเที่ยวในเมืองหลัก” ซึ่งคณะทำงานเศรษฐกิจภาคบริการและการท่องเที่ยวได้มีการดำเนินการศึกษาจากข้อมูลของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งศึกษาจากงานเอกสารต่าง ๆ และเพื่อให้การศึกษาดังกล่าวมีความสมบูรณ์ ครบถ้วน มากยิ่งขึ้นจึงได้กำหนดให้มีการศึกษาดูงานและประชุมร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ตในวันนี้ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประมวลวิเคราะห์ ให้เกิดแนวทางพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในเมืองท่องเที่ยวหลัก ให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นรูปธรรม และใช้ประกอบการให้ความเห็นและข้อเสนอแนะในประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
          ทั้งนี้ได้มีการกำหนด “ปัญหาการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว” เป็นปัญหาสำคัญในการเชื่อมระบบโลจิสติกส์และการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ซึ่งทวีความสำคัญมากขึ้นต่อความสามารถในการแข่งขัน การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวมีความซับซ้อนและเกี่ยวกับปัจจัยหลากหลาย สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจึงมุ่งดำเนินการศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก็มีการดำเนินการไปบ้างแล้ว อาทิ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้กำหนดแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. 2555-2559  มุ่งแก้ไขปํญหาและข้อจำกัดในด้านการท่องเที่ยว ส่วนกระทรวงคมนาคม ได้กำหนดวิสัยทัศน์แผนฟลักการพัฒนาระบบขนส่งและจราจรในระยะเวลา 10ปี (พ.ศ. 2554-2567) มุ่งสู่การขนส่งที่ยั่งยืนโดยเน้นความสำคัญหลัก 3 มิติ ประกอบด้วยมิติเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป