วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข่าวประจำวันที่ 3 ก.ค.56

กรมทรัพยากรธรณีรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน จำแนกเขตเพื่อการจัดการด้านธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณีจังหวัดภูเก็ต
          วันที่ 3 ก.ค. 56  ที่โรงแรมคาทีน่า อ. เมือง จ. ภูเก็ต นายสมชาย  ทรัพย์ปริญญาพร ผู้อำนวยการส่วนประสานการจัดการ สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรณี เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็น เรื่องการจำแนกเขตเพื่อการจัดการด้านธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณีจังหวัดภูเก็ต โดยมีหน่วยงานราชการ องค์การบริหารส่วนตำบล ประธานและสมาชิกเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน เข้าร่วม
          นายสมชาย  กล่าวว่า การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรณี ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไป ย่อมส่งผลกระทบตามมา ไม่ว่าจะเป็นสภาพพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงจากกระบวนการทำเหมือง หรือแม้แต่ธรณีพิบัติภัย เช่น ดินถล่ม จากการก่อสร้างอาคารในพื้นที่ลาดชันที่มีสภาพธรณีวิทยาที่ไม่เอื้ออำนวยและไม่เป็นไปตามมาตรฐาน รวมถึงพิบัติภัยอื่น ๆ เช่น สึนามิและแผ่นดินไหว สิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวภูเก็ต ดังนั้น การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรณีดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีแนวทางในการจัดการที่ชัดเจน เป็นระบบ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุด คุ้มค่าและส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด กรมทรัพยากรธรณีจึงเปิดการรับฟังความคิดเห็น เรื่อง การจำแนกเขตเพื่อการจัดการด้านธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณีจังหวัดภูเก็ตขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณีให้กับประชาชนและหน่วยงานราชการในพื้นที่ รวมถึงจำแนกเขตทรัพยากรแร่ ออกเป็น 3 เขต คือ เขตสงวนทรัพยากรแร่ เขตอนุรักษ์ทรัพยากรแร่และเขตพัฒนาทรัพยากรแร่ โดยมุ่งเน้นความสำคัญในพื้นที่แหล่งแร่ที่พิสูจน์ทราบแน่ชัดแล้วว่ามีแร่อยู่แน่นอน และเพื่อจัดทำแนวทางการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรณีในพื้นที่โดยคำนึงถึงมิติด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมและด้านสิ่งแวดล้อม โดยจะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะทั้งหมดไปปรับผลการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลครอบคลุมทุกด้านอันจะก่อให้เกิดการวางแผนการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสมกับท้องถิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรโดยตรงต่อไป.
------------------------------------------------------
กกต. ภูเก็ตให้ความรู้เรื่องพรรคการเมืองกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย หวังประชาชนมีโอกาสและมีส่วนร่วมพัฒนาการเมืองไทย
          วันนี้ (3 ก.ค. 56) ที่โรงแรมเมโทรโพล อ. เมือง จ. ภูเก็ต นายสมเกียรติ  สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในฐานะประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง ตามกิจกรรมเผยเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง โดยเป็นการจัดบรรยายให้ความรู้ เรื่อง พรรคการเมืองกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2556  โดยมีนายกิติพงษ์  เที่ยงคุณากฤต ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต  และผู้เข้ารับการอบรมจากกรรมการสาขาพรรคการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ข้าราชการ พนักงานของรัฐ ภาคเอกชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไปในจังหวัดภูเก็ตจำนวน 150 คน เข้าร่วม
          นายกิติพงษ์  กล่าวว่า สืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 ได้บัญญัติถึงบทบาทและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า นอกจากจะมีหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งทุกระดับให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมแล้ว ยังได้บัญญัติให้มีหน้าที่ในการส่งเสริมและสนับสนุนในการให้การศึกษาแก่ประชาชน เกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ซึ่งจากภารกิจหน้าที่ดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต จึงกำหนดจัดทำโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาพรรคการเมืองก กิจกรรมเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง จัดบรรยายให้ความรู้เรื่อง พรรคการเมืองกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ประจำปี 2556 ขึ้น เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพรรคการเมืองและการเลือกตั้งให้กับกรรมการบริหารพรรคการเมือง สาขาพรรคการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ข้าราชการ พนักงานของรัฐ ภาคเอกชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ตลอดจนเพื่อให้สาขาพรรคการเมืองได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพรรคการเมืองของตนให้กับสมาชิกพรรคการเมืองและประชาชนได้ทราบ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฏหมายพรรคการเมืองและการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550  เพื่อให้ประชาชนมีโอกาส มีส่วนร่วมในการพัฒนาความเป็นสถาบันของพรรคการเมืองและเพื่อส่งเสริม พัฒนาพรรคการเมืองและสาขาพรรคการเมืองให้มีความเข้มแข็งและเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน
------------------------------------------------------------------------------------
ภูเก็ตรับงบ 9.8 ล้านบาท สร้างถนนเสี่ยงจราจรช่วงก่อสร้างทางลอดแยกดาราสมุทร เมื่อแล้วเสร็จ คาดมีรถจากเส้นทางหลักมาใช้บริการวันละไม่ต่ำกว่า 5,000 คัน
          เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 กรกฎาคม 2556 นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายธีรพร จิระรัตนากร ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงจังหวัดภูเก็ต นายสมัคร เลือดวงหัด ผู้อำนวยการแขวงการทางภูเก็ต นายนิมิตร เอกวานิช ประธานสภาเทศบาลตำบลวิชิต อ.เมืองภูเก็ต นายมนต์ทวี หงษ์หยก ตัวแทนบริษัทอนุภาษและบุตร จำกัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างเส้นทางเลี่ยงแยกดาราสมุทร (ช่วงเข้ามอ.) สาย ภก.4050 แยก ทล.4020- ภก.4010 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต บริเวณสามแยกซอยบางใหญ่ตัดกับถนนวิชิตสงครามก่อนถึงห้างแม็คโครภูเก็ต กับบริเวณซอยหน้าเสือด้านหลัง สภ.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งสำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณผ่านทางจังหวัดภูเก็ตและกลุ่มจังหวัดอันดามัน เพื่อใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงการจราจรในเส้นหลักในช่วงการก่อสร้างทางลอดจุดตัดบริเวณแยกดาราสมุทร รวมทั้งเพื่อเป็นทางเลี่ยงเมืองถาวรต่อไปในอนาคต
          สำหรับเส้นทางสายดังกล่าว จะก่อสร้างเป็นถนน คสล. ขนาด 2 ช่องจราจร ระยะทาง 1.250 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 9.8 ล้านบาท โดยมีจุดเริ่มต้นโครงการที่บริเวณสามแยกซอยบางใหญ่ตัดกับถนนวิชิตสงคราม (ร้านเฉินหลงกุ้งกะทะ) และสิ้นสุดบริเวณซอยนาเสือ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต (ใกล้กับ สภ.วิชิต ) ซึ่งจะสามารถไปเชื่อมต่อกับถนนเหมืองเจ้าฟ้าได้ ทำให้สามารถเดินทางไปยังพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต และ ต.กะทู้ อ.กะทู้ ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยพื้นที่ที่ใช้ในการก่อสร้างบางส่วนเป็นทางสาธารณะเดิม และได้รับการความอนุเคราะห์ที่ดินบางส่วนจากบริษัทอนุภาษและบุตร จำกัด และภาคเอกชนรายอื่นๆ อีก 5 ราย
          นายไมตรี กล่าวถึงการสร้างถนนเลี่ยงการจราจรสายดังกล่าว ว่า สำหรับเส้นทางดังกล่าวบางส่วนเป็นทางสาธารณะเดิม และบางส่วนได้รับการอนุเคราะห์จากทางภาคเอกชนมอบพื้นที่สำหรับดำเนินการก่อสร้าง ระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร ขณะนี้ได้รับการอนุมัติงบประมาณแล้ว จำนวน 9.8 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างได้ภายในปีนี้ โดยใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 150 วัน เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ คาดว่าจะมีรถที่เคยใช้เส้นทางหลัก คือ ถนนเจ้าฟ้าตะวันตกและถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) ในการสัญจรไปมา หันมาใช้เส้นทางนี้ไม่ต่ำกว่า 10 % หรือประมาณ 5,000 คันต่อวัน เพื่อเดินทางไปยังพื้นที่ ต.วิชิต, ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต กับพื้นที่ ป่าตอง ต.กะทู้ ซึ่งจะช่วยลดความแออัดได้ค่อนข้างมาก และในอนาคตก็สามารถใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงเมืองถาวรได้ด้วย โดยมอบหมายให้สำนักงานทางหลวงชนบทเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบต่อไป 
--------------------------------------------------------------------------------
องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพสตรีมุสลิม ส่งเสริมภาวะการเป็นผู้นำ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (3 ก.ค.56) ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสรธรรม จินดา รองนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดกิจกรรม โครงการพัฒนาศักยภาพสตรีมุสลิมในจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 3-4 กรกฎาคม 2556 มีกลุ่มสตรีมุสลิมในจังหวัดภูเก็ต วิทยากร รวมถึงแขกผู้มีเกียรติ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายจีระศักดิ์ ท่อทิพย์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดงานเนื่องในโครงการฯ ดังกล่าวว่า ด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพสตรีมุสลิม จึงได้จัดอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพสตรีมุสลิมในจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2556 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความรู้เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ ภาระและความรับผิดชอบของสตรีมุสลิม เพื่อส่งเสริมให้สตรีมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นทั้งในชุมชนและสังคม เพื่อส่งเสริมภาวะการเป็นผู้นำและผู้ตามอย่างเหมาะสม เพื่อเสริมสร้างบุคลากรภายในชุมชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยเชื่อว่า ผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับความรู้ด้านการพัฒนาศักยภาพ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเอง เกิดการมีส่วนร่วมของกลุ่มสตรีมุสลิมในการแสดงความคิดเห็นต่อสังคม เกิดความรัก ความสามัคคีในชุมชน นำไปสู่การพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน และในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเอง ก็จะได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพสตรีมุสลิมมากยิ่งขึ้น
          ด้านนายสรธรรม จินดา รองนายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับ สตรี เป็นบุคคลที่มีความสำคัญในความสำเร็จของครอบครัว  ในความเป็นผู้หญิงและความเป็นแม่ ที่มีผู้รับรองว่า แม่นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความสมบูรณ์ให้กับสมาชิกในครอบครัว เช่น ในบทบาทของความเป็นแม่ ก็เป็นผู้ที่มีหน้าที่อบรมสั่งสอนลูกๆ ให้ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนของศาสนาอิสลามและในบทบาทของภรรยาก็คอยให้กำลังใจเป็นที่ปรึกษาให้กับสามี ฉะนั้นจึงถือได้ว่าไม่มีเครื่องมืออะไรสำหรับการพัฒนาที่จะมีประสิทธิภาพมากไปกว่า พลังสตรี ตนจึงมั่นใจว่าการจัดโครงการฯ ดังกล่าว จะอำนวยประโยชน์แก่การพัฒนาครอบครัว ชุมชน ตลอดจนแก่ตัวผู้เข้าร่วมโครงการฯ เป็นอย่างยิ่ง 

----------------------------------------------------------------------
กาชาดภูเก็ต จัดโครงการบำเพ็ญบุญ สร้างกุศลบารมี บริจาคโลหิต เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และสำรองโลหิตให้ผู้ป่วยในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง

          ดร.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะรองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการบริจาคโลหิตในโครงการ บำเพ็ญบุญ สร้างกุศลบารมี บริจาคโลหิต เนื่องในวันอาสาฬหบูชาว่า เหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้จัดโครงการ บำเพ็ญบุญ สร้างกุศลบารมี บริจาคโลหิต เนื่องในวันอาสาฬหบูชาระหว่างวันที่ 20-23 กรกฎาคม 2556 เวลา 09.00-15.00 น. ณ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต       
          ทางกาชาดจังหวัดภูเก็ต จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และสำรองโลหิตให้ผู้ป่วยในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ส่งเสริมให้มีการบริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอทุก 3 เดือน ซึ่งจะทำให้ได้รับโลหิตบริจาคตามเป้าหมาย และมีโลหิตสำรองเพียงพอแก่ผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง       
          สำหรับผู้ร่วมบริจาคโลหิตในโครงการฯ จะได้รับ หนังสือธรรมะเพื่อเป็นธรรมทาน โดยสามารถบริจาคโลหิตได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต 38/193 ถ.รัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต โทร.0-7625-1178 ต่อ 2 และ 08-1958-8854 


-------------------------------------------------------------------

จังหวัดภูเก็ตเร่งแก้ปัญหาการกำหนดเขตในท้องที่จังหวัดภูเก็ต
            วันนี้ (3 ก.ค. 56) ที่ห้องประชุมศาลากลางภูเก็ต นายจำเริญ  ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคระกรรมการตรวจสอบแนวเขตการปกครองท้องที่ของจังหวัดภูเก็ตโดยมีนายบุรี  ธรรมรักษ์ จ่าจังหวัดภูเก็ต และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
          นายจำเริญ  กล่าวว่า ปัจจุบันการแบ่งเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต มีปัญหาเรื่องการรับรองแนวเขตทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีปัญหาด้านการให้ความช่วยเหลือประชาชน  ด้านการเก็บภาษีต่าง ๆ ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน  นอกจากนี้ยังมีปัญหาในเรื่องของการขยายเขตเมื่อมีการยกฐานะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและมีสถานประกอบการเข้ามาดำเนินกิจการในพื้นที่ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการ เก็บภาษีและเรื่องอื่น ๆ อีกมาก ดังนั้นจังหวัดภูเก็ตจึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบยืนยันเขตการปกครองท้องที่ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อให้การทำงานเกิดการบูรณาการในท้องที่  ไม่มีการเกี่ยงกันในการแก้ไขปัญหา
ต่าง ๆ ของประชาชน ซึ่งเมื่อมีการดำเนินการในเรื่องเขตที่ชัดเจน ก็จะทำให้การทำงานและการบริการประชาชนและภาคเอกชนมีความสะดวกมากขึ้น
---------------------------------------------------------------------
ปรับปรุงด่านตรวจภูเก็ตงบ 25 ล้านบาทคืบหน้าร้อยละ 80
            เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (3 ก.ค. 56) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ  ทิพยญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารด่านตรวจภูเก็ต โดยมี พ.ต.อ. วิฑูรย์  กองสุดใจ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ. ณัฏฐภาคิน  ขวัญชัยพฤกษ์ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย  ดร.ประเจียด  อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
          สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญ มีการติดตามสถานภาพด่านตรวจ การปรับปรุงด่านตรวจและการพิจารณาการบริหารจัดการด่านตรวจภูเก็ต
          นายจำเริญ  กล่าวว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการก่อสร้างด่านตรวจภูเก็ตในที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ภก 153 เนื้อที่ 36 ไร่เศษ ใช้งบประมาณยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดภูเก็ตปี 2549  เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุม ดูแล ป้องกันอาชญากรรมและภัยต่อความมั่นคงทุกรูปแบบและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและบูรณาการสรรพกำลังทุกภาคส่วนในการดำเนินการตามมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยอาคารได้มีการส่งมอบให้ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเข้าไปใช้ประโยชน์เมื่อปี 2551
          อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตัวอาคาร  หลังคา ห้องน้ำ และกล้องวงจร
CCTV ชำรุด รวมทั้งป้ายด่านตรวจยังไม่ชัดเจน จึงได้มีการประชุมหารือเพื่อหางบประมาณในการซ่อมแซมชั่วคราว โดยมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลซ่อมแซมเป็นการด่วน
          นายจำเริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางด่านตรวจภูเก็ตยังได้รับงบประมาณการปรับภูมิทัศน์และก่อสร้างอาคารด่านตรวจเพิ่มเติม จากการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ณ จ. ภูเก็ต จำนวน 25 ล้านบาทเศษ ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 80 ทั้งในเรื่องการปรับปรุงผิวจราจร สร้างตัวอาคาร สร้างห้องน้ำ ปรับปรุงภูมิทัศน์ คาดว่าประมาณวันที่ 22 กรกฎาคม 2556 การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์
100%
          ทั้งนี้ อาคารดังกล่าวเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ทางสำนักงานจังหวัดภูเก็ต จะวางกรอบระเบียบต่าง ๆ เพื่อให้ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จัดเป็นสวัสดิการเจ้าหน้าที่ โดยให้ภาคเอกชนเช่าในส่วนของอาคารและการติดตั้งป้ายเพื่อให้เกิดรายได้การบริหารจัดการด่านตรวจ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป