ข่าวประจำวันที่ 29-30 มิ.ย.56

เทศบาลตำบลราไวย์จับมือภาคเอกชนปลูกต้นตาลแหลมพรหมเทพเสริมการท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 มิถุนายน 2556 ที่บริเวณแหลมพรหมเทพ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ เป็นประธานเป็นโครงการปลูกป่าต้นน้ำ กิจกรรมอนุรักษ์ต้นตาลอยู่คู่แหลมพรหมเทพ เพื่อเป็นการอนุรักษ์และฟื้นต้นตาลโตนดบริเวณแหลมพรหมเทพ โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าหน้าที่ กำนันผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่ อาทิ กลุ่มร้านค้าชายหาดในหาน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเรือหางยาว กลุ่มสตรีมุสลิม เป็นต้น ผู้ประกอบโรงแรมที่พักร้านอาหาร นอกจากนี้ยังมีสโมสรโรตารี อันดามัน ภาค 3330 โรตารีสากลจังหวัดภูเก็ต สโมสรโรตารีบังซาร์ ภาค 3330 โรตารีสากล ประเทศมาเลเซีย ตลอดจนนักเรียนจากโรงเรียน อบจ.เมืองภูเก็ต และโรงเรียนขจรเกียรติศึกษา (นานาชาติ) ด้วยการร่วมกันปลูกต้นตาลโตนดจำนวน 95 ต้น และการโยนเมล็ดตาลโตนดอีก 500 เมล็ด

                   นายอรุณ กล่าวว่า ด้วยแหลมพรหมเทพเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียของจังหวัดภูเก็ต และผู้ที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต หากไม่มาแหลมพรหมเทพก็เปรียบเสมือนยังมาไม่ถึงภูเก็ต และกิจกรรมที่จะต้องทำเมื่อมาแหลมพรหมเทพ คือ การถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกน้ำ กับการถ่ายภาพต้นตาลโตนด ซึ่งเป็นเสน่ห์สำคัญของแหลมพรหมเทพ จนได้รับการประชาสัมพันธ์และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย แต่เนื่องจากปัจจุบันจำนวนของต้นตาลโตนดเริ่มลดน้อยลงด้วยหมดอายุขัยและตายไปตามกาลเวลา

ด้วยเหตุผลดังกล่าวเทศบาลตำบลราไวย์ จึงได้มีร่วมกับกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ ในพื้นที่ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมปลูกต้นตาลโตนดขึ้น เพื่อรณรงค์ให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ต้นตาลโตนดและเพิ่มจำนวนต้นตาลโตนดให้อยู่คู่กับแหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดภูเก็ตตลอดไป นายอรุณกล่าว

----------------------------------------------------------------------

เกิดเหตุเพลิงไหม้ลานเก็บสายเคเบิ้ลศูนย์บริการทีทีแอนทีจังหวัดภูเก็ตเสียหายนับ 10 ล้านบาท

เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วันที่ 30 มิ.ย. 56 ร.ต.อ. อุดม เพชรัตน์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการทีทีแอนทีสำนักงานใหญ่จังหวัดภูเก็ตว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ลานเก็บสายเคเบิ้ลหลังรับแจ้งเหตุ ได้แจ้งขอรถดับเพลิงจากองค์กรปกส่วนท้องถิ่นและเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสำนักงานของบริษัท ทีทีแอนที ม.4 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต พบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเร่งระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้สายเคเบิ้ลบริเวณลานเก็บสายเคเบิ้ลของบริษัททีทีแอนทีจังหวัดภูเก็ตโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
          จากการสอบถามนายอนุศักดิ์ เนาวโคอักษร อายุ 30 พนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัท ทีที แอนที สำนักงานใหญ่จังหวัดภูเก็ตทราบว่าขณะที่ตนนั่งอยู่บริเวณป้อมยามจู่ๆก็เห็นไฟลุกขึ้นบริเวณด้านหน้าลานเก็บสายเคเบิ้ลตนจึงนำน้ำไปดับแต่ไม่สามารถควบคุมได้เนื่องจากเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนต้องแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ของศูนย์เพื่อประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องที่มีรถดับเพลิงให้มาช่วยดับไฟที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง
          ขณะที่นายทรงพล เพ็งประไพ อายุ 28 ปี หัวหน้าช่างเทคนิคประจำศูนย์บริการทีทีแอนทีจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า บริเวณที่เพลิงลุกไหม้นั้นเป็นลานที่เก็บสายเคเบิ้ลซึ่งเป็นสายทองแดงและสายใยแก้วนำแสงโดยมีอยู่ประมาณ 70 ตัน ซึ่งมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
          อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างแน่ชัดจะต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง.   

-------------------------------------------------------------------

บรรยากาศเวทีรวมพลคนหน้ากากภูเก็ตยังคงคึกคัก มีชาวหน้ากากขาวเข้าร่วมฟังการปราศรัยกว่าพันคน

          เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 30มิ.ย.56  ที่เวทีรวมพลคนหน้ากาก ปลายแหลมสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต มีกลุ่มคนหน้ากากภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง สวมใส่หน้ากากขาวและเสื้อขาวกว่า 1000 คนเข้าร่วมฟังการปราศรัยของแกนนำและร้องเพลงชาติร่วมกัน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง
          โดยบรรยากาศที่หน้าเวทีเต็มไปด้วยความคึกคัก ผู้ร่วมฟังปราศรัยมีการสวมใสหน้ากากขาว พร้อมทั้งชูป้ายข้อความคัดค้านรัฐบาล พร้อมทั้งนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเทิดทูนไว้เหนือเกล้าตลอดที่ฟังการปราศรัย โดยผู้ขึ้นปราศรัยจากส่วนกลางวันนี้มีนาย จิตกร บุษบา และ นส.กิตติมา ธารารัตนกุล ผู้ขึ้นปราศรัยของจังหวัดภูเก็ตมีนายพลัฏฏ์ จันทรโศภิน นาย สมคิด สุภาพ และนาย เทียนชัยติยพงษ์พัฒนา จากเครือข่ายภูเก็ตจัดการตนเองมาร่วมให้ความรู้ สำหรับเนื้อหาการปราศรัยยังคงเป็นเรื่องการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล และแนวทางการเคลื่อนไหวของคนหน้ากากขาว
          ขณะที่บริเวณด้านข้างของเวทีมีการทำอาหารและแจกจ่ายให้ผู้ร่วมฟังปราศรัยรับประทานอาทิเช่น ข้าวไข่เจียว ทอดมันฯ มีผู้ร่วมชุมนุมเข้าคิวรับอาหารไปรับประทานเป็นจำนวนมาก

 -------------------------------------------------------------------------

นอภ.กะทู้ นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้ากุมรถแบ็คโฮ 1 คัน ขณะกำลังตักหน้าดินทำถนนขึ้นเขาในเขตป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา พร้อมควบคุมตัวเจ้าของรถอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กองปราบฯค้นตัวพบอาวุธปืน 1 กระบอก

วันที่ 28 มิ.ย. 56  นาย วีระ เกิดสิริมงคล นายอำเภอกะทู้ พร้อมด้วย นำกำลังเจ้าหน้าอาสาสมัครรักษาดินแดนและเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภก.2 (ภูเก็ต) เข้าตรวจสอบบริเวณเขาพันธุรัตน์ ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา ม.4 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการบุกรุกเขตป่าและตัดถนนเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว

จากการตรวจสอบทางขึ้นพบรถแบ็คโฮ จำนวน 1 คัน ขณะลงมาเติมน้ำมัน และมีร่องรอยการตักดิน จึงควบคุมตัวคนขับ และสั่งเคลื่อนย้ายรถลงมาด้านล่าง แต่ขณะที่ควบคุมตัวอยู่คนขับอาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่กำลังแบ่งหน้าที่เพื่อตรวจสอบหลบหนีไปได้ เหลือเพียงนายจ้างซึ่งเป็นเจ้าของรถ ซึ่งอ้างว่าเป็นคนของกองปราบปรามฯ เจ้าหน้าที่ได้ค้นตัวพบอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก ไม่มีใบอนุญาตพกพาจึงยึดอาวุธปืนและควบคุมตัวไว้ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อร่วมตรวจสอบ โดยชายคนดังกล่าวได้อ้างว่า เป็นกองปราบอาสา และได้รับการว่าจ้างจากนาย ประดิษฐ์ ไม่ทราบนามสกุล ให้มาขุดตักหน้าดินในพื้นที่แห่งนี้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบเส้นทางที่ตัดถนนเข้าไปในจุดแรกซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่พบว่ามีความลาดชันเกินกม.กำหนด สองข้างทางมีการปลูกยางพาราอายุประมาณ 2 ปี เป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร มีการก่อสร้างรางน้ำคอนกรีตตามแนวถนน ด้านบนสุดยังพบถังบรรจุน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 4 ถัง วางเรียงรายอยู่บนเนินเขา เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภก.2 (ภูเก็ต)ได้นำเครื่อง GPS มาชี้ตำแหน่งในเบื้องต้นพบว่าอยู่ในพื้นที่เขาพันธุรัตน์ ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา จึงสำรวจเก็บข้อมูล

ขณะที่อีกจุดซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง มีสภาพเป็นพื้นที่ป่าและมีการตัดถนนเข้าไปในลักษณะเดียวกันอีกกว่า 50 ไร่ เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการตรวจสอบอีกครั้ง

นาย วีระ เกิดสิริมงคล นายอำเภอกะทู้ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการบุกรุกจึงทำการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ป่าเขาพันธุรัตน์ถูกบุกรุกเป็นจำนวนมาก จาก 2 จุดนี้เองถ้ามองจากสายตาคาดว่าเป็น 100 ไร่ แต่ในวันนี้ต้องดำเนินการในจุดแรกก่อนเพราะมีการนำรถแบ็คโฮเข้ามาตัดหน้าดิน ส่วนจุดอื่นบริเวณใกล้เคียง จะต้องเข้ามาตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้อีกครั้งหนึ่ง

-----------------------------------------------------------

ภูเก็ตเอฟซีเปิดบ้านต้อนรับนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พ่ายทีมเยือน 1 ประตูต่อ 0.

ภูเก็ต เอฟซี อันดับ 5 ของตาราง แข่ง 15 นัด มี 25 คะแนน เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี อันดับ 6 แข่ง 16 นัดมี 23 คะแนน เริ่มเกมส์ครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมต่างครองเกมผลัดกันรุกกันรับจนนาทีที่ 13เจ้าถิ่นได้มีโอกาสจากการขึ้นเกมทางกราบขวาของ ดูดู้ ตวัดบอลด้วยเท้าซ้ายบอลโค้งเข้าเสาแรก วัชรพงษ์ ขวิดตามน้ำ ไม่ถึงสองหลา มุนเซ่ อัลลิช ยังไวพุ่งปัดปลายมือเคลียร์ออกมาได้ นาทีที่ 31 ภูเก็ต เอฟซี ได้ฟรีคิกกลางสนาม ดูม็องก์ เปิดบอลให้ ดูดู้ ขึ้นโขกเหน่งๆ บอลพุ่งเข้ามือ อัลลิช แบบมีลุ้น
             นาทีที่ 40 ดูดู้ ได้พาบอลขึ้นมาเองถึงนอกกรอบมุมเขตโทษขวา ก่อนตัดสินใจซัดเรียดบอลพุ่งทะแยงถากเสาไกลออกไปชนิดได้หวาดเสียว นาทีที่ 44 โคราช บุกขึ้นมาได้น่ากลัว โชตะ ทำชิ่งกับ มาเล็ก หลุดเข้าในเขตโทษขวา ซัดเต็มข้อบอลแฉลบกองหลังภูเก็ต เอฟซี เด้งมาเข้าทาง โชตะ หาจังหวะยิงไม่ได้ เนเนบี้ หวดทิ้งออกมาได้ทัน ในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+2 ภูเก็ต เอฟซี ได้ลุ้นประตู ดูม็องก์ เปิดฟรีคิกเข้าในกรอบโทษ ซาโตะ โขกจ่อๆ บอลพุ่งชนเสาอย่างจัง จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
              เริ่มเกมครึ่งหลัง ทั้ง 2 ทีมยังเปิดเกมผลัดกันรุกกันรับอย่างสุดมัน นาทีที่ 60 ภูเก็ต เอฟซี ดูม็องก์ พาบอลมาหน้ากรอบโทษแทงบอลให้ ดูดู้ แตะเข้าเท้าซ้ายตวัดยิงเต็มข้อบอลพุ่งแรง อัลริช เหินปัดออกหลัง จนกระทั่ง นาทที่ 65 กองเชียร์เจ้าบ้านต้องเงียบทั้งสนาม เมื่อโคราชขึ้นนำ 1-0 โดย สารัช เปิดฟรีคิกตรงมุมธงซ้ายย้อยเข้ามา ยูซุเกะ คาโตะ เหินสะบัดเต็มหัว ส่งบอลตุงตาข่าย ท้ายเกมภูเก็ต เอฟซี พยายามเร่งบุกแต่ก็ทำไม่ได้ จบเกม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี บุกมาสอยชัยชนะจาก ภูเก็ต เอฟซี 1-0 แบบสุดมัน