ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เรียกตรวจปัสสาวะตำรวจโดยไม่บอกล่วงหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตามโครงการตำรวจสีขาว
วันที่ 28 มิ.ย.56 ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้ทำการตรวจปัสสาวะตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จำนวน 78 นาย รวมถึงผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และผู้กำกับการจากทุกสถานีในจังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจหาสารเสพติด ตามโครงการตำรวจสีขาว ของกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บังคับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เพื่อไม่ให้ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นการเสพ หรือการจำหน่าย
พ.ต.อ.วันชัย ปะลาวัน ผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการเรียกตรวจปัสสาวะตำรวจ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เป็นคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ให้ดำเนินการตรวจปัสสาวะตำรวจ ภายใต้โครงการตำรวจสีขาว ซึ่งเป็นโครงการที่ทำกันทุกสถานี แต่ในส่วนของกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มีภารกิจที่มีการปราบปรามยาเสพติด รวมอยู่ด้วย และในขณะเดียวกันกำลังเจ้าหน้าที่ จำนวน 78 นาย มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ดังนั้นเพื่อให้โครงการดังกล่าว บรรลุตามวัตถุประสงค์ จึงได้มีการเรียกตรวจปัสสาวะตำรวจ ซึ่งไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะมีการตรวจปัสสาวะ
ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อให้ตำรวจภูเก็ตเป็นตำรวจสีขาว และนอกจากนี้เพื่อให้ประชาชนทราบว่า แม้แต่ตำรวจเองก็มีการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเช่นกัน โดยจะมีการสุ่มตรวจทุกเดือน และไม่มีการบอกล่วงหน้า ซึ่งในที่ผ่านมา ยังไม่พบปัสสาวะสีม่วง หากตรวจพบก็จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนทันที เพื่อไม่ให้เกิดคำครหา
------------------------------------------------------
ภูเก็ตขับเคลื่อนนโยบาย Smart Farmer และ Smart Office คัดเลือกเกษตรกรและบุคลากรหน่วยงานต้นแบบด้านการเกษตร
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (28 มิ.ย. 56) นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อน Smart Farmer และ Smart Office โดยมีนายศุภชัย สงประสพ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต นางจุฑามาศ เมืองสง หัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ภูเก็ต พร้อมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุมตรวจบัญชีสหกรณ์ภูเก็ต
นายศุภชัย กล่าวว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขอความร่วมมือจังหวัดมอบหมายคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบาย Smart Farmer และ Smart Office จ. ภูเก็ต โดยคัดเลือกจากกลุ่มเกษตรกรที่สามารถเป็นแบบอย่างให้กับเกษตรกรรายอื่นได้ และดำเนินการถอดบทเรียนและองค์ความรู่จากเกษตรกรต้นแบบ เพื่อนำไปขยายผลสู่การพัฒนาเกษตรกรรายอื่นต่อไป
สำหรับการคัดเลือกได้แยกเป็น 6 สาขา คือ สาขายางพารา 2 ราย สาขาเกษตรผสมผสาน 3 ราย สาขาปศุสัตว์ 1 ราย สาขาประมง 2 ราย สาขาบัญชี 1 ราย และสาขาอื่น ๆ ประกอบด้วย เพาะเห็ด 2 ราย ผักสวนครัว 1 ราย ไม้ดอกไม้ประดับ 1 ราย สับปะรด 2 ราย ปลูกมะลิ 1 ราย ด้านการพิจารณาคัดเลือก Smart Office ต้นแบบ เป็นการพิจารณาบุคลากรที่มีความโดดเด่น น่าจะเป็นต้นแบบให้กับบุคลากรรายอื่นได้และดำเนินการถอดบทเรียน องค์ความรู้ เคล็ดลับในการปฏิบัติงานที่ทำให้เกิดความสำเร็จ โดยมีส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมจำนวน 12 หน่วยงาน
นายศุภชัย กล่าวว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขอความร่วมมือจังหวัดมอบหมายคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบาย Smart Farmer และ Smart Office จ. ภูเก็ต โดยคัดเลือกจากกลุ่มเกษตรกรที่สามารถเป็นแบบอย่างให้กับเกษตรกรรายอื่นได้ และดำเนินการถอดบทเรียนและองค์ความรู่จากเกษตรกรต้นแบบ เพื่อนำไปขยายผลสู่การพัฒนาเกษตรกรรายอื่นต่อไป
สำหรับการคัดเลือกได้แยกเป็น 6 สาขา คือ สาขายางพารา 2 ราย สาขาเกษตรผสมผสาน 3 ราย สาขาปศุสัตว์ 1 ราย สาขาประมง 2 ราย สาขาบัญชี 1 ราย และสาขาอื่น ๆ ประกอบด้วย เพาะเห็ด 2 ราย ผักสวนครัว 1 ราย ไม้ดอกไม้ประดับ 1 ราย สับปะรด 2 ราย ปลูกมะลิ 1 ราย ด้านการพิจารณาคัดเลือก Smart Office ต้นแบบ เป็นการพิจารณาบุคลากรที่มีความโดดเด่น น่าจะเป็นต้นแบบให้กับบุคลากรรายอื่นได้และดำเนินการถอดบทเรียน องค์ความรู้ เคล็ดลับในการปฏิบัติงานที่ทำให้เกิดความสำเร็จ โดยมีส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมจำนวน 12 หน่วยงาน
--------------------------------------------------------------------
อบจ.ภูเก็ต จัดกิจกรรมถอดองค์ความรู้ด้านความซื่อตรงของ ร.ร.ในสังกัด ตามโครงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมในสถานศึกษา
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2556 เวลา 09.00 น. นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมในสถานศึกษา (กิจกรรมถอดองค์ความรู้ด้านความซื่อตรงของโรงเรียนในสังกัด) ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 - 29 มิถุนายน 2556 ณ โรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน โดยมี นายบุญเสริม สุวรรณรัฐภูมิ ที่ปรึกษานายก อบจ.ภูเก็ต นายวัชรินทร์ ปฐมวัฒพงศ์ รองปลัด อบจ.ภูเก็ต นายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภา อบจ.ภูเก็ต นายไกรวุฒิ คุ้มบ้าน เลขานุการสภา อบจ.ภูเก็ต นายธีระ เจี่ยสกุล สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต นางสาวสุปรียา เอี่ยมวิวัฒนากูล สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต พร สกุลตัน ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบจ.ภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ อบจ.ภูเก็ต ตลอดจน นายสุทธิพงค์ ชาญชยานนท์ รองผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) พร้อมด้วยคณะวิทยากร ผู้บริหาร คณะครู และนักเรียนโรงเรียนในสังกัด อบจ.ภูเก็ต เข้าร่วม นายอวยพร กล่าวว่า “องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) เพื่อจัดกิจกรรมด้านความซื่อตรงมาอย่างต่อเนื่อง และได้นำไปขยายผลลงสู่สถานศึกษาในสังกัด โดยในครั้งนี้เป็นการจัดกิจกรรมถอดองค์ความรู้ด้านความซื่อตรง การออกแบบหนังสือเล่มเล็ก มีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ครู และนักเรียนโรงเรียนในสังกัด อบจ.ภูเก็ต รวมประมาณ 50 คน เพื่อเสริมสร้างให้ครูและนักเรียนเป็นผู้มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย เกิดทักษะในการพัฒนาชีวิตที่ดีและมีความภาคภูมิใจในตนเอง ผ่านกิจกรรมด้านคุณธรรม พร้อมทั้งฝึกฝนให้ครูและนักเรียน สามารถจัดทำหนังสือเล่มเล็ก และนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้ ซึ่งรูปแบบในการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย การวางโครงสร้างและหลักการทำหนังสือเล่มเล็ก การออกแบบหนังสือเล่มเล็ก การถ่ายภาพเพื่อนำไปทำหนังสือเล่มเล็ก และการนำองค์ความรู้มาจัดทำหนังสือเล่มเล็ก ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายกิตติพจน์ อรรถวิเชียร นายพงษ์ธร ยิ้มแย้ม และนายจิตรพงษ์ จีระฉัตร เป็นวิทยากรให้ความรู้ในการอบรม”
ด้าน นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า “ขอขอบคุณทางศูนย์คุณธรรม ที่ได้คัดเลือกให้โรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน เป็นโรงเรียนตัวอย่างคุณธรรมระดับประเทศ ซึ่งการที่โรงเรียนแห่งนี้ได้รับรางวัลดังกล่าว ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของจังหวัดภูเก็ต และเป็นตัวอย่างที่ดีในระดับประเทศ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทุกโรงเรียนในสังกัด อบจ.ภูเก็ต ที่มาร่วมงานในวันนี้ ซึ่งการที่ทุกโรงเรียนได้ร่วมงานกัน ทำงานคุณธรรมกันอย่างแข็งขัน ทำให้เราได้รับรางวัลเช่นนี้
ด้าน นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า “ขอขอบคุณทางศูนย์คุณธรรม ที่ได้คัดเลือกให้โรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน เป็นโรงเรียนตัวอย่างคุณธรรมระดับประเทศ ซึ่งการที่โรงเรียนแห่งนี้ได้รับรางวัลดังกล่าว ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของจังหวัดภูเก็ต และเป็นตัวอย่างที่ดีในระดับประเทศ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทุกโรงเรียนในสังกัด อบจ.ภูเก็ต ที่มาร่วมงานในวันนี้ ซึ่งการที่ทุกโรงเรียนได้ร่วมงานกัน ทำงานคุณธรรมกันอย่างแข็งขัน ทำให้เราได้รับรางวัลเช่นนี้
ดังนั้น การที่ศูนย์คุณธรรมได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้นำตัวอย่างดีๆ มาถ่ายทอดให้กับจังหวัดภูเก็ต และให้กับประเทศไทยได้สร้างตัวอย่างที่ดี ถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก และเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ ที่ทุกโรงเรียนในสังกัด อบจ.ภูเก็ต เราให้ผู้ใหญ่ทำตัวอย่างให้เด็กดู ผู้บริหาร ผู้อำนวยการ คณะครู ทำตัวอย่างให้กับนักเรียน รุ่นพี่ทำตัวอย่างให้กับรุ่นน้อง ซึ่งการทำตัวอย่างให้ดูเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จะเห็นได้ว่านักเรียนที่อยู่ในโรงเรียน อบจ.ภูเก็ต คุณครูทุกคนได้ปลูกฝังให้นักเรียนมีจิตอาสา ให้นักเรียนสามารถเสิร์ฟอาหารเป็น เช็ดโต๊ะได้ ล้างห้องน้ำได้สะอาด นักเรียนก็จะมีจิตใจสะอาด แล้วนักเรียนก็จะเป็นคนที่ไม่อยู่เหนือความเป็นจริง ซึ่งนักเรียนจะต้องฝึกความอดทนตั้งแต่เด็ก อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์คุณธรรมพยายามเน้นว่า ให้คนทำความดี มากกว่าสอนให้คนเก่ง ฉะนั้น โรงเรียนในสังกัด อบจ.ภูเก็ต ทุกโรงเรียน พยายามมุ่งหวังให้นักเรียนทุกคนเป็นคนดี ส่วนความเก่งจะตามมาเอง ในการนี้ ขอชื่นชมทางศูนย์คุณธรรม ที่ได้ทำตัวอย่างที่ดี นำตัวอย่างแห่งการทำความดีในทุกจังหวัด ซึ่งการที่ศูนย์คุณธรรมได้คัดเลือกโรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน เป็นโรงเรียนตัวอย่างคุณธรรม จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่งสำหรับผู้บริหาร และพวกเราทุกคนที่จะทำคุณงามความดี รวมถึงเป็นตัวอย่างให้กับนักเรียนว่า การที่นักเรียนได้ทำคุณธรรมนั้นมีผู้ใหญ่คอยดูอยู่ และมีคนให้รางวัลอยู่เสมอ ซึ่งรางวัลที่ได้รับเป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจที่จะทำให้เราทำความดีต่อไป”
ขณะที่ นายสุทธิพงค์ ชาญชยานนท์ รองผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม กล่าวว่า “รู้สึกยินดีและขอชื่นชมโรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน ที่เป็นแกนหลักที่จะพัฒนา คิดองค์ความรู้เกี่ยวกับด้านความซื่อตรง พัฒนาคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งต้องยอมรับว่า โลกในปัจจุบันเมื่อมีการพัฒนามากขึ้น มนุษย์จึงมุ่งเน้นเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้น และเรื่องคุณธรรมจริยธรรมก็เริ่มเสื่อมถอยลง ดังนั้น การพัฒนาเศรษฐกิจ กับการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม จึงต้องควบคู่ไปด้วยกัน โดยยึดหลัก 5 ประการ ได้แก่ หนึ่ง คือ ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สอง คือ ซื่อตรง ซื่อสัตย์ และรักความเป็นธรรม สาม คือ อัตลักษณ์ต่อคุณธรรมจริยธรรม การยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สี่ คือ มีความสามัคคี เป็นคนดีมีวินัย ห้า คือ มีจิตสาธารณะและรักแวดล้อม ซึ่งนี่คือ อัตลักษณ์คุณธรรมจริยธรรมในสังคมไทย ดังนั้น ในการจัดกิจกรรมถอดองค์ความรู้ตลอดระยะเวลา 2 วันนี้ เชื่อว่าทางโรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน ร่วมกับเครือข่ายในสังกัด อบจ.ภูเก็ต จะเป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้ไปสู่เป้าหมายความมีคุณธรรมจริยธรรม”.
ขณะที่ นายสุทธิพงค์ ชาญชยานนท์ รองผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม กล่าวว่า “รู้สึกยินดีและขอชื่นชมโรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน ที่เป็นแกนหลักที่จะพัฒนา คิดองค์ความรู้เกี่ยวกับด้านความซื่อตรง พัฒนาคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งต้องยอมรับว่า โลกในปัจจุบันเมื่อมีการพัฒนามากขึ้น มนุษย์จึงมุ่งเน้นเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้น และเรื่องคุณธรรมจริยธรรมก็เริ่มเสื่อมถอยลง ดังนั้น การพัฒนาเศรษฐกิจ กับการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม จึงต้องควบคู่ไปด้วยกัน โดยยึดหลัก 5 ประการ ได้แก่ หนึ่ง คือ ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สอง คือ ซื่อตรง ซื่อสัตย์ และรักความเป็นธรรม สาม คือ อัตลักษณ์ต่อคุณธรรมจริยธรรม การยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สี่ คือ มีความสามัคคี เป็นคนดีมีวินัย ห้า คือ มีจิตสาธารณะและรักแวดล้อม ซึ่งนี่คือ อัตลักษณ์คุณธรรมจริยธรรมในสังคมไทย ดังนั้น ในการจัดกิจกรรมถอดองค์ความรู้ตลอดระยะเวลา 2 วันนี้ เชื่อว่าทางโรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน ร่วมกับเครือข่ายในสังกัด อบจ.ภูเก็ต จะเป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้ไปสู่เป้าหมายความมีคุณธรรมจริยธรรม”.
---------------------------------------------------------------------------
องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตสนับสนุนชมรมบริหารงานบุคคล อบรมเทคนิคการบริหารงานสำหรับผู้บริหารในสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยว
วันนี้ (28 มิ.ย. 56) ที่โรงแรมเพิร์ล อ. เมือง จ. ภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการจัดอบรม หลักสูตร “เทคนิคการบริหารงานสำหรับผู้บริหารในสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยว” หัวข้อ มาตรการทางวินัยอย่างสร้างสรรค์ โดยมีนายนเรศ ศรีนาค ประธานชมรมบริหารงานบุคคลจังหวัดภูเก็ตและผู้เข้าร่วมการอบรมสัมมนาจากสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตจำนวน 70 คน และมีนายเกรียงไกร เจียมบุญศรี วิทยากรและที่ปรึกษาในสำนักงานกฎหมายผู้เชี่ยวชาญในด้านแรงงานสัมพันธ์ เป็นวิทยากรบรรยาย
นายนเรศ กล่าวว่า การจัดอบรม หลักสูตร “เทคนิคการบริหารงานสำหรับผู้บริหารในสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยว” หัวข้อ มาตรการทางวินัยอย่างสร้างสรรค์ เป็นการจัดอบรมตามโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ได้รับการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายบางส่วนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับมาจากการนำส่งค่าธรรมเนียมบำรุง อบจ.ภูเก็ต เพื่อสร้างแนวความคิดให้กับหัวหน้างาน ผู้บริหารงานในสายงานทรัพยากรมนุษย์และสายงานอื่นๆ ในองค์กรให้เข้าใจวิธีการสอบสวนที่นำสู่การลงโทษพนักงานอย่างเป็นธรรม และสร้างสรรค์มากกว่าการลงโทษที่ยึดหลักแต่เพียงการเป็นหัวหน้าหรือผู้บริหาร ที่ต้องการลงโทษพนักงานโดยขาดเหตุผล อันจะนำมาซึ่งปัญหาทางด้านแรงงานสัมพันธ์ และเกิดความขัดแย้งขึ้นในองค์กร ซึ่งการเป็นหัวหน้าหรือผู้บริหารงานอย่างมีคุณภาพ ต้องเริ่มต้นที่การพัฒนาตัวเอง เสริมสร้างทักษะที่สำคัญในการเป็นหัวหน้างานที่เข้าใจกระบวนการลงโทษในรูปแบบสร้างสรรค์ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้นำไปปรับใช้และเป็นที่ยอมรับของทีมงานและบรรลุจุดประสงค์ของงานในองค์กร
นายนเรศ กล่าวว่า การจัดอบรม หลักสูตร “เทคนิคการบริหารงานสำหรับผู้บริหารในสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยว” หัวข้อ มาตรการทางวินัยอย่างสร้างสรรค์ เป็นการจัดอบรมตามโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ได้รับการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายบางส่วนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับมาจากการนำส่งค่าธรรมเนียมบำรุง อบจ.ภูเก็ต เพื่อสร้างแนวความคิดให้กับหัวหน้างาน ผู้บริหารงานในสายงานทรัพยากรมนุษย์และสายงานอื่นๆ ในองค์กรให้เข้าใจวิธีการสอบสวนที่นำสู่การลงโทษพนักงานอย่างเป็นธรรม และสร้างสรรค์มากกว่าการลงโทษที่ยึดหลักแต่เพียงการเป็นหัวหน้าหรือผู้บริหาร ที่ต้องการลงโทษพนักงานโดยขาดเหตุผล อันจะนำมาซึ่งปัญหาทางด้านแรงงานสัมพันธ์ และเกิดความขัดแย้งขึ้นในองค์กร ซึ่งการเป็นหัวหน้าหรือผู้บริหารงานอย่างมีคุณภาพ ต้องเริ่มต้นที่การพัฒนาตัวเอง เสริมสร้างทักษะที่สำคัญในการเป็นหัวหน้างานที่เข้าใจกระบวนการลงโทษในรูปแบบสร้างสรรค์ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้นำไปปรับใช้และเป็นที่ยอมรับของทีมงานและบรรลุจุดประสงค์ของงานในองค์กร
------------------------------------------------------------------
เทศบาลตำบลวิชิตประชุมสภาเตรียมเปิดศูนย์การเรียนรุ้เศรษฐกิจพอเพียง
วันที่ 28 มิ.ย. 56 ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลวิชิต นายนิมิตร เอกวานิช ประธานสภาเทศบาลตำบลวิชิต เป็นประธานการประชุมสภาเทศบาลตำบลวิชิตสมัยสามัญสมัยที่ 2 ประจำปี 2556 โดยมี
นายกรีฑา โชติวิชญ์พิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต นายสมยศ วิจักขณาวุธ รองนายกเทศมนตรีตำบลวิชิต สภาชิกสภา และข้าราชการ ส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เข้าร่วม
สำหรับวาระการประชุมี่สำคัญได้แก่ ญัตติเรื่องพิจารณาอนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำชี้แรงงบประมาณรายจ่ายเงินขาดสะสมประจำปีงบประมาณ 2556 เช่น เรื่องการปรับปรุงทางเท้า บริเวณถนนวิรัชหงษ์หยก โครงการขุดบ่อน้ำตื้นเป็นโครงการเจาะบ่อบาดาล บริเวณศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลวิชิต เป็นต้น ญัตติเรื่อง การพิจารณาคัดเลือกคณะกรรมการประเมินผลการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และบริหารบ้านเมืองที่ดี
นายกรีฑา กล่าวว่า ทางเทศบาลตำบลวิชิต ได้มีการจัดทำศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของตำบลวิชิตขึ้นเพื่อให้ประชาชน นักเรียน ได้เข้าชมและศึกษาการดำเนินการตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ได้พระราชทานให้แก่ประชาชนชาวไทยทุกคน ทั้งนี้ทางเทศบาลฯ จะมีพิธีเปิดศูนย์ฯ ในเร็ว ๆ นี้ รวมถึงเรื่องการแพร่ระบาดของไข้เลือดออก ซึ่งพบว่ามีการแพร่ระบาดอยู่ในพื้นที่ของเทศบาลตำบลวิชิตและพื้นที่ใกล้เคียง โดยทางเทศบาลฯ ได้มีการฉีดพ่นยาทำลายลูกน้ำยุงลายอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแจ้งพื้นที่ที่เกิดไข้เลือดออกเพื่อทางเทศบาลฯ จะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกในพื้นที่ ซึ่งสามารถแจ้งได้ที่กองงานสาธารณสุขได้ตลอดเวลา เมื่อได้รับแจ้งก็จะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปพ่นยา ทำลายพาหะของโรคต่อไป
นายกรีฑา โชติวิชญ์พิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต นายสมยศ วิจักขณาวุธ รองนายกเทศมนตรีตำบลวิชิต สภาชิกสภา และข้าราชการ ส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เข้าร่วม
สำหรับวาระการประชุมี่สำคัญได้แก่ ญัตติเรื่องพิจารณาอนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำชี้แรงงบประมาณรายจ่ายเงินขาดสะสมประจำปีงบประมาณ 2556 เช่น เรื่องการปรับปรุงทางเท้า บริเวณถนนวิรัชหงษ์หยก โครงการขุดบ่อน้ำตื้นเป็นโครงการเจาะบ่อบาดาล บริเวณศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลวิชิต เป็นต้น ญัตติเรื่อง การพิจารณาคัดเลือกคณะกรรมการประเมินผลการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และบริหารบ้านเมืองที่ดี
นายกรีฑา กล่าวว่า ทางเทศบาลตำบลวิชิต ได้มีการจัดทำศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของตำบลวิชิตขึ้นเพื่อให้ประชาชน นักเรียน ได้เข้าชมและศึกษาการดำเนินการตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ได้พระราชทานให้แก่ประชาชนชาวไทยทุกคน ทั้งนี้ทางเทศบาลฯ จะมีพิธีเปิดศูนย์ฯ ในเร็ว ๆ นี้ รวมถึงเรื่องการแพร่ระบาดของไข้เลือดออก ซึ่งพบว่ามีการแพร่ระบาดอยู่ในพื้นที่ของเทศบาลตำบลวิชิตและพื้นที่ใกล้เคียง โดยทางเทศบาลฯ ได้มีการฉีดพ่นยาทำลายลูกน้ำยุงลายอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแจ้งพื้นที่ที่เกิดไข้เลือดออกเพื่อทางเทศบาลฯ จะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกในพื้นที่ ซึ่งสามารถแจ้งได้ที่กองงานสาธารณสุขได้ตลอดเวลา เมื่อได้รับแจ้งก็จะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปพ่นยา ทำลายพาหะของโรคต่อไป
--------------------------------------------------------------------
คณะทำงานโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและพลังงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านสาธารณูปโภคของจังหวัดภูเก็ต
วันนี้ (28 มิ.ย. 56) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต คณะทำงานโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและพลังงาน สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นำโดยนายสุพจน์ พฤกษานนท์ ประธานคณะทำงานโครงการศึกษาเพื่อจัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะ เรื่องการแก้ไขการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างยั่งยั่น และเข้าประชุมหารือกับทางจังหวัดภูเก็ต ที่นำโดย ดร.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ทั้งนี้คณะทำงานโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมและพังงาน สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคเพื่อเสอนต่อคณะรัฐมนตรีคนต่อไป ซึ่งทำงานโครงสร้างพื้นฐานฯ อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างยั่งยืนเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ดังนั้น คณะทำงานโครงสร้างพื้นฐานฯ จึงได้กำหนดให้มีการศึกษาดูงานและการประชุมหารือเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนขึ้นตามจังหวัด
ต่าง ๆ
โดยในวันนี้ได้มีการร่วมประชุมหารือในเรื่องดังกล่าวกับทางจังหวัดภูเก็ตเพื่อรับฟังความเห็นข้อมูลของการใช้พลังงานไฟฟ้าของจังหวัดภูเก็ต จากเหตุการณ์ที่เกิดไฟฟ้าดับทั่วภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว โดยในช่วงดังกล่าวจังหวัดภูเก็ตมีผลกระทบไม่มากนักเนื่องจากโรงแรมต่าง ๆ มีระบบไฟฟ้าสำรองเป็นส่วนมาก แต่ภาคครัวเรือนมีผลกระทบส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้หลังจากมีการหารือกับทางจังหวัดภูเก็ตแล้ว ทางคณะกรรมการฯ จะได้นำข้อมูลสรุปและเสนอรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้คณะทำงานโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมและพังงาน สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคเพื่อเสอนต่อคณะรัฐมนตรีคนต่อไป ซึ่งทำงานโครงสร้างพื้นฐานฯ อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างยั่งยืนเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ดังนั้น คณะทำงานโครงสร้างพื้นฐานฯ จึงได้กำหนดให้มีการศึกษาดูงานและการประชุมหารือเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนขึ้นตามจังหวัด
ต่าง ๆ
โดยในวันนี้ได้มีการร่วมประชุมหารือในเรื่องดังกล่าวกับทางจังหวัดภูเก็ตเพื่อรับฟังความเห็นข้อมูลของการใช้พลังงานไฟฟ้าของจังหวัดภูเก็ต จากเหตุการณ์ที่เกิดไฟฟ้าดับทั่วภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว โดยในช่วงดังกล่าวจังหวัดภูเก็ตมีผลกระทบไม่มากนักเนื่องจากโรงแรมต่าง ๆ มีระบบไฟฟ้าสำรองเป็นส่วนมาก แต่ภาคครัวเรือนมีผลกระทบส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้หลังจากมีการหารือกับทางจังหวัดภูเก็ตแล้ว ทางคณะกรรมการฯ จะได้นำข้อมูลสรุปและเสนอรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวต่อไป
--------------------------------------------------------------------
โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตจัดประกวดล้างมือป้องกันการติดเชื้อตามโครงการมือสะอาด 3
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 28 มิ.ย. 56 ที่ลานม่วงขาว โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการClean Hand 753 (มือสะอาดโครงการ 3) ซึ่งเป็นการจัดประกวดกิจกรรมรณรงการล้างมือ โดยมี นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต พยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ตลอดจนนักเรียนมัธยมโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
นายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า การทำความสะอาดมือเป็นการปฏิบัติที่ง่าย ราคาถูก แต่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ และแพร่กระจายเชื้อในโรงพยาบาล เนื่องจากมือของบุคลากรเป็นแหล่งของการแพร่กระจายเชื้อที่พบได้บ่อย ซึ่งการทำความสะอาดมือที่มีประสิทธิภาพ ยังขึ้นกับข้อปฏิบัติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การไม่สวมเครื่องประดับที่มือในขณะให้การพยาบาล เนื่องจากไม่สามารถทำความสะอาดมือได้อย่างทั่วถึงในบริเวณที่สวมแหวน และมีเชื้อโรคสะสมที่แหวน ซึ่งในครั้งนี้ได้เพิ่มการรณรงค์ในเด็กนักเรียน เนื่องจากเด็กนักเรียนจะมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันกับกลุ่มเพื่อนๆในโรงเรียน ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดการระบาดของโรค อันเป็นสาเหตุของการขาดเรียนได้
ดังนั้น งานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลจึงได้จัดโครงการ Clean Hand 753 (มือสะอาดโครงการ 3) เพื่อส่งเสริมและรณรงค์การล้างมือในบุคลากรอย่างต่อเนื่อง สำหรับนักเรียนเน้นการส่งเสริมการล้างมืออย่างถูกวิธีตามข้อกำหนดการล้างมือของกองสาธารณสุข ซึ่งเน้นการล้างมือ 7 ขั้นตอน และ 5 moments เช่นเดียวกันการรณรงค์ล้างมือในบุคลากรและเด็กนักเรียนจะเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยลดการติดเชื้อในโรงพยาบาลและส่งเสริมสุขภาวะที่ดีในเด็กนักเรียนได้
สำหรับรูปแบบกิจกรรมโครงการเป็นการประกวดล้างมือเต้นประกอบการล้างมือ 7 ขั้นตอน โดยมี นักเรียนมัธยมโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 4 โรงเรียน 8 ทีม ส่งทีมเข้าประกวดครั้งนี้ ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่า โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต คว้ารางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ด้านรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ โรงเรียนเมืองถลาง (มัธยมปลาย) รับเงินรางวัล 7,500 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ โรงเรียนอบจ.เมืองภูเก็ต (ห้าแยก) รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ส่วนรางวัลชมเชย ได้แก่ โรงเรียนเมืองถลาง (มัธยมต้น) และโรงเรียนสตรีภูเก็ต (มัธยมปลาย) รับเงินรางวัลทีมละ 3,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ส่วนทีมที่ไม่ได้รับรางวัลจะได้รับเงินสนับสนุนทีมละ 1,000 บาท
-------------------------------------------------------------------
บัณฑิตมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ตเกือบ 2 พันคนร่วมซ้อมใหญ่เตรียมเข้าพระราชทางปริญญาบัตรวันที่ 30 มิถุนายนนี้.
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 มิถุนายน 56 ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ตได้มีการจัดซ้อมใหญ่พิธีรับพระราชทางปริญญาบัตรโดยมี ผศ.ดร. ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ตคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยและบัณทิตที่จบการศึกษาประจำปีการศึกษา 2554-2555 จำนวน 1840 คนเข้าร่วมซ้อมรับปริญญาบัตรในครั้งนี้ โดยแบ่งเป็นบัณฑิตที่จบระดับปริญญาเอกจำนวน 2 คน ระดับปริญญาโท 79 คนและระดับปริญญาตรี 1759 คนซึ่งการฝึกซ้อมดังกล่าวเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี สำหรับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยราชภัฎกลุ่มภาคใต้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่28 – 30 มิถุนายน 2556 นี้ ณ หอประชุมวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โดยในวันที่ 28มิถุนายน จะเป็นพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรของบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยสุราษฎร์ธานีและมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช วันที่ 29 มิถุนายน มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาและมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรวันที่ 30 มิถุนายน 2556 โดยในปีนี้จะมีบัณฑิตเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ทั้งสิ้นจำนวน 11,689 คน แบ่งเป็นบัณฑิตจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี 3,180 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช 1,302คน มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา 1,802 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา 3,203 คน และมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต 1840 คน รวมทั้งสิ้น 11,689 คน.
-------------------------------------------------------------------------
ตำรวจภูเก็ตบุกรวบพม่าตั้งแก็งค้ายาขณะขายกัญชาให้กับลูกค้าชาวไทยตรวจค้นที่พักพบยาบ้า ยาไอซ์และกัญชาพร้อมส่งขายจำนวนมาก.
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 มิ.ย. 56 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดภูเก็ตนำโดยพันตำรวจเอกวันไชย ปาลละวัน ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งบุกเข้าตรวจค้นบ้านพักไม่มีเลขที่ ตรงข้ามโรงเรียนบ้านกะตะ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ตภายหลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีพม่า2 คนมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่และน่าจะมีการซื้อขายสิ่งของผิดกฏหมายกันเนื่องจากในช่วงเย็นและช่วงคำของทุกวันจะมีกลุ่มวัยรุ่นแวะเวียนเข้าไป
พ.ต.ท. ธรรมสรรค์ บุญทรง สารวัตรสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเปิดเผยว่า ภายหลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าไปซุ่มอยู่บริเวณบ้านหลังดังกล่าวเพื่อสืบหาข่าวและปรากฏว่า ขณะนั้นมีบุคคลต้องสงสัยออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบมีกัญชาอัดแท่งติดตัวอยู่ 1 ถุงทราบชื่อคือนาย อนันต์ กันยารัตน์ สอบสวนนายนายอนันต์รับสาภาพว่าซื้อกัญชามาจากพม่าในราคา 200 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบุกเข้าตรวจค้นภายในบ้านพบยาไอซ์บรรจุถุง ถุงละ 0.45 จี จำนวน 24 ถุง ขนาด 0.50 จี 10 ยาบ้า 58 เม็ดและกัญชาอัดแท่งบรรจุถุงเล็กขายในราคาถุงละ 100 บาท 40 ถุง บรรจุถุงใหญ่ขายถุงละ 200 บาทอีก 5 ถุงและยังพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์รวมถึงขนาดเล็กและหลอดน้ำแข็งที่เตรียมบรรจุยาเพื่อส่งจำหน่ายให้กับลูกค้าอีกจำนวนมากโดยสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 1 รายคือนาย ซอ อายุ 25ชาวพม่า ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 รายคือนายรัตน์ ชาวพม่าเช่นกันได้หลบหนีไปขณะเจ้าหน้าที่จับกุม
อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหารายนี้ยังให้การปฏิเสธว่ายาดังกล่าวมีเพื่อนนำมาฝากไว้แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากนายอนันต์ยืนยันว่าได้ชื้อกัญชาจากผู้ต้องหารายนี้หลายครั้งแล้วเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดไว้ในครอบครองและจะขยายผลการจับกุมต่อไป.
พ.ต.ท. ธรรมสรรค์ บุญทรง สารวัตรสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเปิดเผยว่า ภายหลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าไปซุ่มอยู่บริเวณบ้านหลังดังกล่าวเพื่อสืบหาข่าวและปรากฏว่า ขณะนั้นมีบุคคลต้องสงสัยออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบมีกัญชาอัดแท่งติดตัวอยู่ 1 ถุงทราบชื่อคือนาย อนันต์ กันยารัตน์ สอบสวนนายนายอนันต์รับสาภาพว่าซื้อกัญชามาจากพม่าในราคา 200 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบุกเข้าตรวจค้นภายในบ้านพบยาไอซ์บรรจุถุง ถุงละ 0.45 จี จำนวน 24 ถุง ขนาด 0.50 จี 10 ยาบ้า 58 เม็ดและกัญชาอัดแท่งบรรจุถุงเล็กขายในราคาถุงละ 100 บาท 40 ถุง บรรจุถุงใหญ่ขายถุงละ 200 บาทอีก 5 ถุงและยังพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์รวมถึงขนาดเล็กและหลอดน้ำแข็งที่เตรียมบรรจุยาเพื่อส่งจำหน่ายให้กับลูกค้าอีกจำนวนมากโดยสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 1 รายคือนาย ซอ อายุ 25ชาวพม่า ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 รายคือนายรัตน์ ชาวพม่าเช่นกันได้หลบหนีไปขณะเจ้าหน้าที่จับกุม
อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหารายนี้ยังให้การปฏิเสธว่ายาดังกล่าวมีเพื่อนนำมาฝากไว้แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากนายอนันต์ยืนยันว่าได้ชื้อกัญชาจากผู้ต้องหารายนี้หลายครั้งแล้วเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดไว้ในครอบครองและจะขยายผลการจับกุมต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป