วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข่าวประจำวันที่ 24 ก.ค.56

ภูเก็ตจัดประกวดผลิตภัณฑ์ OTOP ดีเด่น
            เมื่อเวลา  13.30 น. วันที่ 24 ก.ค. 56  นายสมเกียรติ  สังข์ขาวสุทธิรักษ์ เป็นปรานการประชุมการประกวดผลิตภัณฑ์ OTOP ดีเด่นจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายชัยยา  ชำสะอาด พัฒนาการจังหวัดภูเก็ต นายวินัย  พรหมจันทร์ อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต นายประคอง  รักษ์วงศ์ พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะกรรมการ ผู้ประกอบการ OTOP เข้าร่วม
          นายชัยยา  กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย กำหนดให้การส่งเสริมอาชีพผลิตสินค้า
OTOP เป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วน เพื่อเป็นการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในชุมชนท้องถิ่น โดยมอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชนส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืนเป็นรากฐานเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเริ่มจากการรวมกลุ่มของประชาชนระดับชุมชนในการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน ภูมิปัญญาของชุมชน นำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการสร้างพลังความเข้มแข็งของชุมชน การพึ่งตนเอง ตลอดจนการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เกิดเป็นมูลค่าและมีรายได้เพิ่มของคนในชุมชนนั้น สำหรับปีงบประมาณ 2556 กรมการพัฒนาชุมชนได้กำหนดจัดงานประกวดผลิตภัณฑ์ OTOP ดีเด่นระดับประเทศ ตามประเภทผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ประเภทโดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นของขวัญ ของฝากในเทศกาลปีใหม่และมีมูลค่าประมาณ 1, 1,000- 5,000 บาท โดยให้แต่ละจังหวัดจัดประกวดผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ประเภท และให้นำผลิตภัณฑ์เด่นของจังหวัดเข้าร่วมประกวดในระดับประเทศในงาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกล ด้วยพระบารมี” ระหว่างวันที่ 10-18 สิงหาคม 2556 ณ อาคารชาลเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
          สำหรับสินค้าที่เข้าร่วมประกวด
OTOP ดีเด่นจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่ม  ผลิตภัณฑ์ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์ประเภทของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร โดยเกณฑ์การให้คะแนนจะเน้นจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ องค์ความรู้ เรื่องราวของผลิตภัณฑ์  นวัตกรรมผลิตภัณฑ์  กระบวนการผลิต การตลาดและคุณภาพผลิตภัณฑ์
*************************************
พ่อเมืองภูเก็ตสั่งเฝ้าระวังพื้นที่อำเภอกะทู้ หวั่นเกิดดินสไลด์ พร้อมกำชับท้องถิ่นเฝ้าระวังการเล่นน้ำชายหาดในการประชุมคณะกรมการและหัวหน้าส่วนราชการของจังหวัด
            เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (24 ก.ค. 56) นายไมตรี  อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดภูเก็ต โดยมี ดร.สมหมาย  ปรีชาศิลป์  นายสมเกียรติ  สังข์ขาวสุทธิรักษ์  นายจำเริญ  ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 1 อาคารศูนย์ประชุมกลุ่มจังหวัด ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
          สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญ ก่อนการประชุมมีพิธีมอบเกียรติบัตรแก่หน่วยงานราชการสังกัดภูมิภาคที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเว็บไซต์ภาครัฐจังหวัดภูเก็ต 12 หน่วยงาน และการแนะนำหัวหน้าส่วนราชการที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่จำนวน 2 ราย คือ นายวินัย  พรหมจันทร์ อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต นายยุทธการ  โอวาสิทธิ์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต ด้านการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล มีการติดตามการจัดเวทีเสวนาหาทางออกประเทศไทยจังหวัดภูเก็ต การรายงานผลการดำเนินการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี การจำหน่ายสินค้า
OTOP ภูเก็ต แนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวภูเก็ต การบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม  การรายงานผลเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2556 และการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในการดำเนินการด้านยาเสพติด เป็นต้น
          นายไมตรี  กล่าวตอนหนึ่งว่า ช่วงนี้มีมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เกิดฝนตกหนัก และคลื่นลมแรงในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ฝากให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต เทศบาลในพื้นที่ดูแลพิเศษโดยเฉพาะการลงเล่นน้ำของนักท่องเที่ยว และการนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวตามเกาะแก่งต่าง ๆ รวมถึงเรือประมงขนาดเล็กห้ามออกจากฝั่ง นอกจากนี้ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังเรื่องดินสไลด์ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอกะทู้ มีการทำลายหน้าดินหลายจุด อาทิเช่น พื้นที่ ต. กะทู้ 4 จุด พื้นที่ป่าตอง 7 จุด ซึ่งหากฝนตกหนักอาจจะทำให้เกิดดินสไลด์ได้ 
*******************************************
จังหวัดภูเก็ตประชุมเตรียมความพร้อมรับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่

          เมื่อเวลา 13.30 วันนี้ (24 ก.ค. 56) นายไมตรี  อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมมอบหมายภารกิจหน้าที่ให้แก่ส่วนราชการและหน่วยในการเตรียมรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเสด็จฯ มาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี ดร. สมหมาย  ปรีชาศิลป์  นายจำเริญ  ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมส่วนราชการ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อเป็นการซักซ้อมและเตรียมความพร้อมของทุกส่วนราชการให้มีความพร้อมสูงสุดเป็นไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสมพระเกียรติ
          ทั้งนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินมาทางปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 28-29 กรกฏาคม 2556 โดยวันที่ 28 ก.ค. 56 เสด็จฯ ไปทรงเปิดโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีช รีสอร์ทภูเก็ต ณ หาดกะรน อ. เมืองภูเก็ต วันที่ 29 ก.ค. 56 เสด็จฯ ไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจาอยู่หัวฯ ณ โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ต่อจากนั้น เสด็จฯ ไปทรงเปิดอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ณ โรงเรียนสตรีภูเก็ต และเสด็จฯ ไปทรงวางศิลาฤกษ์อาคารอเนกประสงค์ โรงพยาบาลป่าตอง อ. กะทู้ ต่อด้วย เสด็จฯ ไปทรงเปิดอาคารพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ต และจะเสด็จฯไปทรงเปิดป้ายมูลนิธิภารดรภาพ- สาขาภูเก็ต ณ มูลนิธิเพื่อภารดรภาพ สาขาภูเก็ต เลขที่ 81/2 หมู่ที่ 8 ต. วิชิต อ. เมือง จ. ภูเก็ต
 

*****************************************
เทศบาลตำบลราไวย์ ร่วมกับ ร่วมกับศูนย์ 3 วัยสานสายใยรักแห่งครอบครัวตำบลราไวย์ และสภาวัฒนธรรมตำบลราไวย์ เตรียมจัดงาน สืบสาน เล่าขาน ภูมิปัญญาชาวราไวย์ ครั้งที่ 6 วันที่ 28 ก.ค.นี้ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป

          เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (24 ก.ค.56) ที่ห้องประชุมศูนย์ 3 วัยสานสายในรักแห่งครอบครัวราไวย์ หมู่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ พร้อมด้วยนายยงยุทธ โสตถิอุดม ผู้จัดการศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว ราไวย์ นายวีระ กาวิเศษ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนภาคประชาชนศูนย์ 3 วัยฯ  นายสเทือน มุขดี ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลราไวย์ ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน สืบสาน เล่าขาน ภูมิปัญญาชาวราไวย์ครั้งที่  6ประจำปีงบประมาณ 2556 ซึ่งทางเทศบาลตำบลราไวย์ ร่วมกับศูนย์ 3 วัยสานสายใยรักแห่งครอบครัวตำบลราไวย์ และสภาวัฒนธรรมตำบลราไวย์ จัดขึ้น ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 13.00-23.00 น. ณ บริเวณลานวัดสว่างอารมณ์ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีฝ่ายบริหาร สมาชิกสภาเทศบาลตำบลราไวย์ สื่อมวลชน ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
          นายอรุณ กล่าวว่า การดำเนินการจัดงาน สืบสาน เล่าขาน ภูมิปัญญาชาวราไวย์ในครั้งนี้ ได้มีการบูรณาการร่วมของ 3 หน่วยงานด้วยกันได้แก่ เทศบาลตำบลราไวย์ ศูนย์ 3 วัยสานสายใยรักแห่งครอบครัวตำบลราไวย์ และสภาวัฒนธรรมตำบลราไวย์ โดยทางเทศบาลได้มีส่วนช่วยในการสนับสนุนงบประมาณในการจัดงาน จำนวน 200,000 บาท แบ่งเป็นงบประมาณในการจัดโครงการลานวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน จำนวน 100,000 บาท และงบประมาณของศูนย์ 3 วัยฯ จำนวน 100,000 บาท ประกอบกับการจัดงานครั้งนี้ ได้ตรงกับเดือนมหามงคล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร 28 กรกฎาคม 2556 เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน ชาวตำบลราไวย์ ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี ร่วมถวายพระพรเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อีกทั้งเพื่อส่งเสริมสนับสนุนและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยให้คนในท้องถิ่นได้เรียนรู้ความสำคัญ รู้จักวิถีชีวิต รู้ถึงคุณค่าวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น อันจะสร้างความภาคภูมิใจและจิตสำนึกในการรักษาวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่นสืบไป
          นายอรุณ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การจัดงานในครั้งนี้ ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต จะเข้าร่วมสืบสานประเพณี วัฒนธรรม ด้านต่างๆ ที่มีในอดีต เพื่อเผยแพร่ให้กับคนรุ่นหลังต่อไปรวมถึงรับชมการแสดงของคนในชุมชน การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในชุมชน เป็นต้น
ด้านนายวีระ กล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดการงาน สืบสาน เล่าขาน ภูมิปัญญาชาวราไวย์เกิดขึ้นสืบเนื่องจากการจัดกิจกรรมการรวบรวมภูมิปัญญาด้านต่างๆ ของผู้สูงอายุในพื้นที่ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านของชาวราไวย์ พร้อมได้มีการถ่ายทอด และสาธิตให้ประชาชนทั่วไปได้ศึกษาเรียนรู้ โดยทางเทศบาลตำบลราไวย์ ร่วมกับศูนย์ 3 วัยฯ และสภาวัฒนธรรมตำบลราไวย์ จัดโครงการสืบสาน เล่าขาน ภูมิปัญญาชาวราไวย์ขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 6 ซึ่งประชาชน สถานศึกษา องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
การจัดงานจะเน้นที่ ของดี ที่มีอยู่ในชุมชนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยให้คนในท้องถิ่น ได้เรียนรู้ความสำคัญ รู้จักวิถีชีวิต รู้ถึงคุณค่าวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น อันจะสร้างความภูมิใจ และจิตสำนึกในการรักษาวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น รวมถึงการให้ประชาชนในพื้นที่ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีอันเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ 28 กรกฎาคม 2556
          โดยกิจกรรมภายในงานมีการถ่ายทอดภูมิปัญญาโดยการรวบรวมเอาภูมิปัญญาของชาวราไวย์ มาสาธิตและถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ มีทั้งภูมิปัญญาด้านอาหารพื้นบ้าน ศิลปะการแสดง หัตถกรรม แพทย์แผนไทยสมุนไพรเพื่อการรักษา วิถีชาวบ้านการกวน กาละแม รำวงย้อนยุคของชุมชนไทยใหม่ และการละเล่นพื้นบ้านรวมถึงวิถีชีวิตของชาวราไวย์ นิทรรศการผลงานของนักเรียน และหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองในจังหวัดภูเก็ต การแสดงของเหล่านักเรียน ประชาชนชาวราไวย์และพื้นที่ใกล้เคียง การแสดงชุดพิเศษ มโนราห์สมพงษ์น้อย ดาวรุ่นลูกทุ่งบัณฑิตเพลินพิศ เพชรนิรันดร์ จ.พัทลุง ฯลฯ

*******************************************
สสจ.ภูเก็ตร่วมกับ สสวธ.-ภูเก็ต จัดกิจกรรมในโครงการ “สตรีไทยห่วงใยสุขภาพเทิดไท้ 12 สิงหามหาราชินี” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระชนมายุ 81 พรรษา
          เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 กรกฎาคม 2556  ที่ห้องประชุม 1 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต  น.ส.ประพรศรี นรินทร์รักษ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับนางจันทรา กุลวีระอารีย์ นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ภูเก็ต สมาชิกสมาคมสตรีนักธุรกิจฯ ตลอดจนผู้บริหารโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต, โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต, โรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต และโรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต แถลงข่าวการจัดทำโครงการ สตรีไทยห่วงใยสุขภาพ เทิดไท้ 12 สิงหา มหาราชินี เพื่อรณรงค์การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมให้กับสตรีในจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียง โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสมาคมสตรีนักธุรกิจฯ ตัวแทนจากโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต,โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต, โรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต, โรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต และสมาชิก อสม.ภูเก็ต เข้าร่วม
          ด้วยในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม 2556 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ภูเก็ต ได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อรณรงค์การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ครั้งที่ 4 พ.ศ.2556 ให้แก่สตรีในจังหวัดภูเก็ต และใกล้เคียง ในระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2556 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระชนมายุ 81 พรรษา รวมทั้งสนองนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยได้รับการสนับสนุนการจัดทำจัดแพ็จเก็จพิเศษในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (ThinPrep) และมะเร็งเต้านม (Mammogram) จากโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ราคา 3,100 บาท (ThinPrep & Digital Mammogram), โรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต ราคา 3,000 บาท (ThinPrep & Mammogram), โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ราคา 1,230 บาท (ThinPrep)  และโรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต ราคา 1,000 บาท (ThinPrep) ในระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2556 นอกจากนี้ยังมีการใช้สัญลักษณ์โบว์ ชมพู-เขียว ติดเสื้อเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้หญิงไทยเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมด้วย
          อย่างไรก็ตาม น.ส.ประพรศรี กล่าวด้วยว่า มะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนภูเก็ต โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม แต่โรคดังกล่าวหากตรวจพบเร็วก็จะสามารถรักษาได้ และจากการจัดกิจกรรมต่อเนื่องกันมาทำให้มีการตรวจพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีโครงการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้หญิงได้เกิดความตระนักในการดูแลตัวเอง ซึ่งจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า เฉพาะในเดือนสิงหาคมมีผู้เข้ารับการตรวจมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น จากปกติที่มีการตรวจเฉลี่ยเดือนละประมาณ 1,800 คน เพิ่มเป็นประมาณ 3,600 คน และในการจัดกิจกรรมปีนี้ก็คาดว่าน่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกกว่าเท่าตัว  

**************************************
อบจ.ภูเก็ตดึงทุกอปท. ในจังหวัดร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวรองรับประชาคมอาเซียน 2558

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (24 ก.ค.56) ที่โรงแรมเพิร์ล อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) จัดขึ้น โดยมีนายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายสมณ์ศักดิ์ รัตนแสนยานุภาพ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสภาฯ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ อบจ.ภูเก็ต ตลอดจนตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายสมณ์ศักดิ์ รัตนแสนยานุภาพ ที่ปรึกษานายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า อบจ.ภูเก็ต ได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วโลก ดังนั้นเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนจะต้องผนึกกำลังกันเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่มีการแพร่ระบาดทั่วไป อันจะส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน และภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต ด้วยความสำคัญดังกล่าวจึงได้จัดโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดขึ้น โดยดึงผู้นำทุกภาคส่วน ทั้งผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อิหม่าม กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้มาร่วมกันระดมสมอง ผนึกกำลังและร่วมใจกัน เพื่อรวมพลังสังคม ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากจังหวัดภูเก็ต
ด้านนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดจะต้องร่วมมือและบูรณาการร่วมกันทั้งทุกภาคส่วน แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือ สถาบันครอบครัวที่จะช่วยไม่ให้เยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากสถิติและข้อมูลที่ผ่านมาเยาวชนที่เข้าค่ายบำบัดส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่แตกแยก พ่อแม่แยกทางกัน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดส่วนมากจะเป็นคนที่มาจากนอกพื้นที่ที่เข้ามาอาศัยทำงานอยู่ในจังหวัดภูเก็ต จึงอยากให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญและช่วยกันป้องกันไม่ให้ใครก็ตามไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะมันจะส่งผลกระทบไปในหลายมิติ

********************************************
วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต จัดประกวดผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์(OTOP) ชุดอาหารปิ่นโตระดับจังหวัด
         
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (24 ก.ค.56) ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษา นายสุนทร พลรงค์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประกวดผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์(OTOP) ชุดอาหารปิ่นโตระดับจังหวัดภูเก็ต ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีคณะกรรมการตัดสิน นักศึกษา ตลอดจนคณะครู อาจารย์เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
          นายสุนทร กล่าวถึงการจัดประกวดดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ในการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ดำเนินการร่วมกันในการเพิ่มช่องทางการตลาดและส่งออกผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์(OTOP) จากระดับชุมชนไปสู่ตลาดทั่วโลก อาทิ การจัดทำอาหารกล่องสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ชุดอาหารปิ่นโตที่ได้มีการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพ และรูปแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและแรงจูงใจแก่ผู้ซื้อมากขึ้น โดยนำอาหารที่ผู้ผลิตได้รับการยอมรับว่ามีรสชาติอร่อย เป็นต้นตำรับ หรือเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นมาดำเนินการและออกแบบบรรจุภัณฑ์ ให้เหมาะสมสวยงาม สะดวกแก่การรับประทานระหว่างการเดินทาง และเพิ่มช่องทางจำหน่าย
ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จึงได้จัดให้มีโครงการประกวดผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์(OTOP) ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งในปี 2556 จะเป็นการประกวด ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อพัฒนาเป็น ชุดอาหารปิ่นโตโดยจัดประกวดในระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค และระดับชาติ
          “อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ชุดอาหารปิ่นโตดังกล่าว ถ้าทำกันจริงๆ จังๆ สามารถนำมาเป็นสื่อในการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เพราะว่าอาหารพื้นเมืองภูเก็ตหรืออาหารที่ขึ้นชื่อของภูเก็ต ก็สามารถนำไปสู่การจัดจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี แล้วก็ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับ ขึ้นอยู่กับนำเสนอ การทำแพคเก็จ ตลอดจนการตลาดและการประชาสัมพันธ์นายสุนทร กล่าวและว่า
          สำหรับการดำเนินการจัดประกวดผลิตภัณฑ์อาหารฯ ในระดับจังหวัดภูเก็ต วันนี้ เพื่อคัดเลือกผลิตภัณฑ์อาหารของสถานศึกษาหรือชุมชนตามหลักเกณฑ์การประกวดฯ แล้วคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 3 อันดับ เพื่อเป็นตัวแทนเข้าประกวดในระดับภูมิภาค ภาคใต้ ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2556 ณ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา ต่อไป ซึ่งมีทีมส่งผลิตภัณฑ์อาหาร ชุดอาหารปิ่นโต เข้าประกวดจำนวน 4 ทีม ผลปรากฎว่า ทีมได้รับคะแนนสูงสุด 3 อันดับ ได้เป็นตัวแทนเข้าประกวดในระดับภูมิภาค ภาคใต้ ได้แก่ ลำดับที่ 1 คะแนนสูงสุดได้แก่ ชุดอาหารปิ่นโต ข้าวสองกษัตริย์ น้ำพริกกุ้งเสียบ หมูฮ้อง ขนมเต่าทรงเครื่อง , ลำดับที่ 2 ได้แก่ชุดอาหารปิ่นโต ข้าวปลาทอดทรงเครื่อง ไข่ตุ๋นเคยเค็ม วุ้นโอเอ๋ว และลำดับที่ 3 ได้แก่อาหารปิ่นโต ชุดข้าวผัดแกงไตปลา ขนมโกสุ้ย ตามลำดับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป