วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข่าวประจำวันที่ 18 ก.ค.56

ผวจ. ภูเก็ตนำส่วนราชการ ภาคเอกชน ถวายสักการะสดุดีสมเด็จย่าเนื่องในวันสวรรคต วันที่ 18 กรฎาคม ของทุกปี  
          เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ก.ค. 56  นายไมตรี  อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีถวายสักการะสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยมีนายโกศล  ใสขาว ผู้อำนวยการโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต คณะครูอาจารย์ นักเรียน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วม ณ บริเวณพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
          สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
 หรือ "สมเด็จย่า” เสด็จสวรรคตที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538  รวมพระชนม์มายุ 95 พรรษา สมเด็จย่าเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2443 ทรงเป็นบุตรคนที่ 3 ใน พระชนกชู และ พระชนนีคำ พระนามเดิมคือ สังวาลย์ ตะละภัฏ ในวัยประมาณ 7-8 ขวบ ครอบครัวได้นำพระองค์ไปฝาก คุณจันทร์ แสงชูโต ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงในพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ ทรงเข้าเรียนมัธยมที่โรงเรียนสตรีวิทยา จากนั้นเข้าโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์ และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช หลังจากสำเร็จการศึกษา ระหว่างที่เรียนอยู่ปี 1 ได้ทรงพบกับสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ (พระบรมราชชนก) ซึ่งได้ทรงถูกพระทัย และขอพระราชทานพระราชานุญาตหมั้นกับ นางสาวสังวาลย์ จากนั้นทรงได้รับการคัดเลือกให้ไปทรงศึกษาวิชาพยาบาลต่อที่โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ทรงมีพิธีอภิเษกสมรสกับ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่วังสระปทุมเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2463
          “สมเด็จย่า” ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประชาชนไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านการแพทย์ ทรงจัดตั้งหน่วยแพทย์อาสาเดินทางไปรักษาผู้ป่วยในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ ทรงตั้งมูลนิธิขาเทียมออกจัดทำขาเทียมให้ผู้พิการ นอกจากนั้นยังมีโครงการพัฒนาด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อมมากมาย อาทิ โครงการเกษตรหลวงดอยตุง จังหวัดเชียงราย ต่อมาได้มีการกำหนดให้วันที่
21 ตุลาคมของทุกปีเป็น "วันพยาบาลแห่งชาติ", "วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ", "วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ", "วันรักต้นไม้แห่งชาติ" และ "วันอาสาสมัครไทย"
------------------------------------------------------------------
ภูเก็ตคว้า 3 รางวัลชนะเลิศการประกวดมหกรรม TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ

นายแพทย์บัญชา ค้าของ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ต ได้เข้าร่วมการประกวดกิจกรรมการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ในงานมหกรรม TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ ประจำปี 2556  ระหว่างวันที่ 14-15 ก.ค.2556 ณ อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี
สำหรับผลการตัดสินรอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ ปรากฏว่า จังหวัดภูเก็ตคว้า 3 รางวัลชนะเลิศการประกวดรวมพล TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ ประจำปี 2556 ประกอบด้วยรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัด TO BE NUMBER ONE ดีเด่น (นายไมตรี อินทุสุต) รางวัลจังหวัด TO BE NUMBER ONEต้นแบบระดับประเพชร และรางวัลชมรม TO BE NUMBER ONE ประเภทสถานศึกษาต้นแบบพร้อมเป็นระดับเงินปีที่ 1 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ภูเก็ต
          ทั้งนี้จังหวัดภูเก็ตน้อมรับโครงการ TO BE NUMBER ONE มาดำเนินการตั้งแต่ปี 2545 เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อสังคมภูเก็ตอยู่ดีมีสุข เด็กและเยาวชนปลอดภัยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ที่เก่ง ดี มีความสุขและไม่พึ่งพายาเสพติด ทั้งนี้เพื่อผลักดันจังหวัดภูเก็ตสู่ความเป็นจังหวัดต้นแบบTO BE NUMBER ONE ระดับเพชร แห่งแรกในประเทศไทย ตามยุทธศาสตร์ ซึ่งกำหนดไว้โดยมีเป้าหมายที่เด็กและเยาวชนคนภูเก็ต ภายใต้ 6 ประการคือ เพื่อพัฒนาต่อยอดกิจกรรมทางเลือกให้เยาวชนให้มีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง เพื่อชมรมฯ มีคุณภาพตามพื้นที่เป้าหมาย เพื่อจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ถ่ายทอดความรู้สู่เครือข่ายและผู้สนใจครบทุก Setting เพื่อพัฒนาแกนนำเยาวชน ครอบครัว สังคมให้เข้ามามีส่วนร่วม เป็นเจ้าของโครงการ TO BE NUMBER ONE เพิ่มขึ้นทุกปี และเพื่อพัฒนาระบบติดตามผู้ผ่านการบำบัดให้มีคุณภาพ ติดตามอย่างต่อเนื่องได้ศึกษา ได้ทำงานและจัดโครงสร้างองค์กรรองรับ TO BE NUMBER ONE สู่วิถีประชา 

------------------------------------------------------

โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จัดโครงการพัฒนาระบบบริการเด็กบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญาในคลินิกบ้านคุณพุ่มสู่การเป็นหน่วยบริการด้านเด็กบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญาระดับตติยภูมิในภาคใต้ฝั่งตะวันตก

          เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (18 ก.ค.56) ที่ห้องประชุมอาคารบ้านคุณพุ่ม ชั้น 6 โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายแพทย์เจษฎา จงษ์ไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาระบบบริการเด็กบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญาในคลินิกบ้านคุณพุ่ม โรงพยาบาลศูนย์ วชิระภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต สู่การเป็นหน่วยบริการด้านเด็กบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญาระดับตติยภูมิในภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระหว่างวันที่ 18-19 กรกฎาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.มีคณะแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต บุคลากรทางสาธารณสุข ผู้ปกครอง และบุคคลทั่วไป เข้าร่วม
          นายแพทย์ทัปปณ สัมปทณรักษ์ รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านผลิตบุคลากรทางการแพทย์ รักษาการหัวหน้ากลุ่มงานจิตเวช กล่าวถึงการจัดโครงการฯ ดังกล่าวว่า ด้วยโรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต ได้เปิดบริการในคลินิกบ้านคุณพุ่ม เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา และเปิดให้บริการคลินิกเด็กสมวัย (เดิมคลินิกกระตุ้นพัฒนาการ) อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2547 ถึงปัจจุบัน พบว่า จำนวนผู้ป่วยเด็กที่มารับบริการในคลินิกเด็กสมวัย ด้วยลักษณะอาการพัฒนาการล่าช้า ปัญหาการเรียน และปัญหาความบกพร่องในด้านอื่นๆ ที่ไม่เป็นไปตามวัย มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทางโรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต ได้จัดโครงการพัฒนาระบบบริการเด็กบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญาฯ สำหรับบุคลากรสาธารณสุข บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครองและบุคคลทั่วไปที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการดูแลเด็กกลุ่มนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เข้าร่วมอบรมทั้งในด้านความรู้เกี่ยวกับความบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา แนวทางการช่วยเหลือดูแล และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเข้าอบรมโครงการในครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งเพื่อให้เกิดเครือข่ายการประสานงานระหว่างบุคลากรด้านการศึกษาและบุคลากรสาธารณสุขอีกด้วย
                ด้านนายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดให้บริการอาคารบ้านคุณพุ่ม มีคนไข้เด็กทั่วๆไป ประมาณ 3,000 กว่าราย มีปัญหาด้าน กายภาพคือทางเวชกรรมฟื้นฟูประมาณ 300 กว่าราย และทางพัฒนาการเด็กประมาณ 300 ราย ใน 300 รายนี้ เป็นสมาธิสั้นประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ออทิสซึ่มประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ทักษะการเรียนบกพร่อง ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ พัฒนาการล่าช้าประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ และปัญญาอ่อนประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ในจำนวน 300 กว่ารายมาจากต่างจังหวัดประมาณ 40 กว่าราย เพราะว่าทางกลุ่มสุขภาพจิตพยายามให้บ้านคุณพุ่มเป็นศูนย์พัฒนาการเด็กสมวัยของภาคใต้ เท่าที่ทราบเด็กที่มีปัญหาเรื่องพัฒนาการ จากจังหวัดสงขลา ก็ยังมาใช้บริการที่บ้านคุณพุ่ม ซึ่งในอนาคตถ้าหากมีการประชาสัมพันธ์ที่ดี อาจจะมีเข้ามาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
                ส่วนความพร้อมในการรองรับ ต้องยอมรับว่าเรามีนักจิตวิทยา เรามีหมอด้านเด็กเพิ่งจบใหม่เข้ามา แต่จริงๆ เรายังขาดเรื่องจิตแพทย์แต่อย่างไรก็ตามทางกรมสุขภาพจิตรับปากทางโรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ตไว้แล้วว่า มีปัญหาเรื่องบุคลากรทางกรมสุขภาพจิตจะนักจิตวิทยา และสุขภาพจิตมาอยู่ประจำ ก็นับเป็นสิ่งที่ดี ที่กรมสุขภาพจิต ได้มีการประสานความร่วมมือกัน อย่างไรก็ตามเด็กที่มีปัญหาทางพัฒนาการ ตัวหลักจริงๆ อยู่ที่ผู้ปกครอง ถ้าผู้ปกครองเข้าใจเด็กมาก การทำงานของโรงพยาบาลก็จะน้อยลง เพราะเด็กอยู่กับผู้ปกครองต่อวันมากที่สุด ถ้าผู้ปกครองสามารถช่วยได้ พอเราสอนไปแล้วเขาก็ปฏิบัติตามที่เราสอนเด็กก็จะมีการพัฒนา
                นอกจากนี้นายแพทย์เจษฎา กล่าวถึงแนวโน้มเกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก โดยเฉพาะออทิสซึ่ม ประเทศไทย ในจำเด็ก 150 คน พบ 1 คน เพราะเด็กไทยเกิดมาปีละ 7 แสนกว่าคน ซึ่งในจำนวนนี้จะมีเด็กป่วยเป็นออทิสซึ่ม ประมาณ 8,000 คนต่อปี ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนสาเหตุจริงๆ ไม่มีใครรู้ว่ามาจากสาเหตุอะไร เพราะฉะนั้นการรักษา
                ขณะที่นายแพทย์ประเวศ ปรีดาชัยกุล จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น กล่าวถึงเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการกระตุ้นพัฒนาการเด็ก ว่า ขณะนี้ในส่วนของบ้านคุณพุ่ม ซึ่งจะเป็นการรักษาที่ผสมผสานทั้งในส่วนของนักจิตวิทยา และเครื่องมือแพทย์ ก็จะมีในเรื่องของเชมเบอร์ ซึ่งเป็นเครื่องช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับสมองเด็ก มีในส่วนของวารีบำบัด เครื่องเพิ่มสมาธิ ศิลปะบำบัด ดนตรีบำบัด รวมถึงการแสดงละคร ซึ่งจะเป็นการรักษาทางเลือกที่จะช่วยในเด็กมีพัฒนาการช้า
                โดยตอนนี้เรามีเด็กอยู่ในความดูแลแล้ว 300 คน และที่รอคิวอยู่อีก 200 คนก็พยายามที่จะรันไปเรื่อยๆ แต่ระหว่างที่คนไข้รอ เราก็จะส่งไปกระตุ้นพัฒนาการก่อน เพื่อตรวจดูว่าเด็กมีพัฒนาการช้าด้านไหน ก็เป็นการฝึกกระตุ้นไปก่อน อย่างไรก็ตามในจำนวนเด็กที่อยู่ในความดูแลของบ้านคุณพุ่ม ตอนนี้ภูเก็ตเป็นหลัก และมีจังหวัดใกล้เคียง จาก จ.พังงา จ.กระบี่ เข้ามาเพิ่มบางส่วน แต่คาดว่าหลังจากนี้ เมื่อมีจิตแพทย์เด็กเข้ามา คาดว่าจะยังเด็กที่มีปัญหาด้านพัฒนาการช้า เข้ามารักษากับเราอีกมาก 

-----------------------------------------------------------------
กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดภูเก็ตแถลงข่าวเตรียมจัดกิจกรรม พลังสตรีภูเก็ตร่วมเทิดไท้องค์ราชินี3 สิงหาคมนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา
    
          เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (18 ก.ค.56) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นางณัฐพร ผาณิตพิเชฐวงศ์ ประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ ได้แถลงข่าวกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดภูเก็ต เตรียมจัดกิจกรรมพลังสตรีภูเก็ตร่วมเทิดไท้องค์ราชินีต่อร่วมกับสื่อมวลชน       
          นางณัฐพร กล่าวว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีฯ ได้กำหนดจัดงานเทิดพระเกียรติเนื่องในวโรกาสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา และเป็นวันแม่แห่งชาติ ในวันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2556 ณ ศูนย์ประชุมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เวลา 16.30 น.เป็นต้นไป โดยได้รับเกียรติจาก ประธานกรรมาธิการการท่องเที่ยววุฒิสภา ในฐานะสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ต นางธันยรัศม์
อัฉริยะฉาย มาเป็นประธานในพิธีเปิดงานครั้งนี้ สำหรับการจัดงานดังกล่าวเป็นการรวมพลังสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจาก
16 ตำบล รวมถึงแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมถวายความจงรักภักดี
          โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรวมพลังสตรีจังหวัดภูเก็ตในการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแด่องค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อีกทั้งเพื่อร่วมกันสร้างคุณงามความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และเป็นกิจกรรมที่ประทาน ความรัก ความสามัคคีในพลังสตรี
          นางณัฐพร กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับกิจกรรมในการจัดงานครั้งนี้ ประกอบด้วย การวางพานพุ่มเพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดภูเก็ตและตัวแทนกองพัฒนาบทบาทสตรีตำบล พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนเรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ตำบลละ 3 ทุน ทุนละ 1,500 บาท จำนวน 16 ตำบล รวมทั้งสิ้น 48 ทุน เป็นจำนวนเงิน 72,000 บาท รวมทั้งมอบเกียรติบัตรให้กับแม่ดีเด่น แต่ละตำบล ทั้งหมด 16 ตำบล เพื่อความภาคภูมิใจและเกียรติประวัติของครอบครัว

-----------------------------------------------------------------
เทศบาลตำบลรัษฎา วางหลายโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว

          วันนี้ (18 ก.ค.56) ที่ห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลตำบลรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายภูดิท รักษาราษฎร์ เป็นประธานแถลงข่าวการดำเนินงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ตำบลรัษฎา ในโครงการนายกเทศมนตรีพบสื่อมวลชน โดยมีกลุ่มผู้นำสตรี ผู้นำชุมชน แขกผู้มีเกียรติ ข้าราชการ พนักงานเทศบาลตำบลรัษฎา และสื่อมวลชน เข้าร่วม
             นายภูดิท กล่าวว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ตนได้ทำงานด้วยความตั้งใจ เพื่อพิสูจน์ผลงานภายใต้วิสัยทัศน์  “นำรัษฎา พัฒนาเพื่อประชาเป็นสุขในช่วงแรกเป็นการแก้ปัญหาจากงานเก่าที่คั่งค้างอยู่หลายเรื่อง หลายโครงการ ซึ่งการเริ่มต้นงานใหม่โดยที่ปัญหาเก่ายังค้างคาอยู่มากมายไม่ใช่เรื่องงายที่เริ่มทำในสิ่งใหม่ เพราะงานทุกอย่างต้องต่อเนื่องกันไป โดยเป้าหมายแรกที่จะเร่งพัฒนา คือปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวกและปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่ตำบลรัษฎา โดยตนได้ตั้งใจดำเนินโครงการสำหรับป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ประกอบด้วยโครงการก่อสร้างรางระบายน้ำ ค.ส.ล.พร้อมวางท่อระบายน้ำ ขยายไหล่ทาง หมู่ที่ 3 ใช้งบดำเนินการ 11.022  ล้านบาท โครงการวางท่อระบายน้ำพร้อมบ่อพักและถนน ค.ส.ล. พื้นที่นาหลวง หมู่ที่ 3 งบประมาณ 8.250 ล้านบาท โครงการก่อสร้างคูระบายน้ำ ค.ส.ล.พร้อมขยายผิวจราจรด้วยคอนกรีต ถนนร่วมพัฒนา หมู่ที่ 3 งบประมาณ 2.968 ล้านบาท
                ส่วนโครงการที่โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างรางระบายน้ำพร้อมวางท่อ ถนนรัษฎานุสรณ์ หมู่ที่ 3 งบประมาณ 11.426 ล้านบาท โครงการก่อสร้าง Box Culvert หลังสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย หมู่ที่ 6 งบประมาณ 4.990 ล้านบาท โครงการก่อสร้างถนน ค.ส.ล.พร้อมวางท่อระบายน้ำ ซอยนาวารักษ์ หมู่ที่ 5 งบประมาณ 2.798 ล้านบาท โครงการก่อสร้างถนน ค.ส.ล.พร้อมบ่อพักซอยพะเนียง หมู่ที่ 5 งบประมาณ 503,000  บาท และโครงการก่อสร้างเขื่อนข้างปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนเทพกระษัตรี หมู่ที่ 6 งบประมาณ 25.545 ล้านบาท ซึ่งโครงการเหล่านี้ จะเร่งดำเนินการให้เสร็จทันช่วงฤดูฝนที่จะมาถึง เวลาฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำจะได้ไหลระบายได้ไม่ติดขัด
                สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว ต้องมีการประสานขอใช้พื้นที่ของเอกชน ซึ่งขณะนี้มีภาคเอกชนยินดีบริจาคที่ดินให้แก่เทศบาลตำบลรัษฎา เพื่อใช้แก้ปัญหาน้ำท่วม ได้แก่คุณเกียด เอกวานิช และคุณพิภพ แผลงจากจาง ได้เป็นผู้มีอุปการคุณอนุเคราะห์ที่ดินให้เทศบาลตำบลรัษฎา นอกจากนั้นเทศบาลตำบลรัษฎายังได้เฝ้าระวังจุดเสี่ยง 3 จุด เพื่อเป็นการป้องกันน้ำท่วม คือหมู่ที่ 3 บริเวณถนนรัษฎานุสรณ์ หมู่ที่ 5 บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ และหมู่ที่ 6 บริเวณถนนประชาสามัคคี หลังโรงไฟฟ้าย่อย ทีมงานพร้อมสำหรับการให้ความช่วยเหลือ
               
-------------------------------------------------------------------
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต จัดพิธีวันแห่งเกียรติยศให้กับนักเรียนของโรงเรียน
            วันนี้ (18 ก.ค. 56) ทื่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ นายไมตรี  อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประดับเข็มเกียรติยศ “สว.” ในพิธีวันแห่งเกียรติยศแก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  1 และมัธยมศึกษาปีที่  4  โดยมีนายไพศาล  โสขาว ผู้อำนวยการโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรึนครินทร์ ภูเก็ต คณะครู อาจารย์นักเรียนของโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ตเข้าร่วม
          นายไมตรี  กล่าวว่า โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ได้รับการสถาปนาขึ้นเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีต่อการศึกษา และที่น่าปลาบปลื้มไปกว่านั้นคือการที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ตได้รับพระกรุณาโปรดเหล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระนามของสมเด็จพระศรีนครินทราพระบรมราชชนนี ให้เป็นชื่อโรงเรียนและตามด้วยชื่อจังหวัดดังปรากฎเป็นโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต และโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ จังหวัดอื่น ๆ อีก  11 แห่ง ทั่วประเทศ และที่สำคัญ โรงเรียนยังได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นำอักษรย่อ สว. มาเป็นอักษรย่อของโรงเรียน        ทั้งนี้โรงเรียนฯ ได้จัดพิธีวันแห่งเกียรติยศในวันนี้ เพื่อให้นักเรียนก้าวไปพร้อมกับเกียรติ ศักดิ์ศรี ที่ควรร่วมกันรักษาไว้เพื่อดำรงพระอิสริยยศแห่งพระองค์ท่านและสิ่งหนึ่งที่พึงกระทำได้ก็คือ การเป็นคนดีตามที่สมเด็จย่าทรงมีพระราชดำรัสไว้ว่า “คนดีของฉันรึ จะต้องเป็นคนไม่พูดปด ไม่สอพลอ ไม่อิจฉาริษยา ไม่คดโกง และไม่มีความทะเยอทะยานอย่างบ้า ๆ แต่พยายามทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดในขอบเขตของศีลธรรม”
-------------------------------------------------------------------
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร Business Roadmap เปิดแนวบุกรุก AEC  ให้กับผู้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ต
          วันนี้ (18 ก.ค. 56) ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ นายวินัย  พรหมจันทร์ อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต  เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร Business Roadmap : เปิดแนวรุกบุก AEC โดยมีนายสนธยา  สกุลลาวัณย์   รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 และผู้ประกอบการสถานประกอบการต่าง ๆ เข้าร่วม
          นาย  กล่าวว่า สืบเนื่องจากในปี พ.ศ. 2558 ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมจะต้องเผชิญกับการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งนับเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของภาคอุตสาหกรรมไทยที่จะต้องดำเนินธุรกิจภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงขึ้น ตามกติกาของประชาชาติในอาเซียนที่มีจุดมุ่งหมายหลักในการนำภูมิภาคไปสู่การเป็นตลาดและมาตรฐานการผลิตร่วมกัน ดังนั้นแล้วจึงเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยจะต้องเตรียมความพร้อมและปรับตัวเพื่อยกระดับขีดความสามารถ ตลอดจนเสริมสร้างทักษะให้สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มีอยู่เดิมและที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ได้อย่างเต็มที่ สามารถปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะต้องมีความรู้ในการดำเนินธุรกิจกับกลุ่มประเทศอาเซียนทั้งในเชิงรับและเชิงรุกเกี่ยวกับกฎหมาย ข้อบังคับ และข้อควรรู้ในด้านต่าง ๆ เช่น การลงทุน แรงงาน การตลาด การเจรจาธุรกิจ และการติดต่อทางการค้า เป็นต้น ด้วยเหตุผลดังกล่าว ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 จึงกำหนดจัดอบรมหลักสูตร
Bussiness Roadmap เปิดแนวบุกรุก AEC ขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักและความรู้ ความเข้าใจถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าสู่ AEC ให้กับผู้ประกอบการ SMEs  และเพื่อให้ผู้ประกอบการได้ทำการวิเคราะห์สถานภาพปัจจุบันของกิจการของตนและสามารถนำไปเป็นแนวทางในการกำหนดกลยุทธ์ และRoadmap เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่กำลังจะเกิดขึ้น
--------------------------------------------------------------
ภูเก็ตเร่งส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เตรียมจัดทำแผนยุทธศาสตร์สร้างเสริมความเข้มแข็งของชุมชน
          วันนี้ (18 ก.ค. 56) ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต ดร.สมหมาย  ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายชัยยา  ขำสะอาด พัฒนาการจังหวัดภูเก็ต นายจีระศักดิ์  ท่อทิพย์  นางสาววิศัลย์ศยา  ผลสิน ผู้แทนวิสาหกิจชุมชนจังหวัดภูเก็ตและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
          ดร.สมหมายกล่าวว่า ความก้าวหน้าของวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการจดทะเบียนและมีการอนุมัติมีจำนวน 237 แห่ง มีสมาชิกกว่า 3
,500 คน ในสามอำเภอของจังหวัดภูเก็ต ในส่วนของผลการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2556 ที่ได้มีการดำเนินการประกวดและมีการตัดสินผลการประกวด โดยรางวัลชนะเลิศได้แก่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์บ้านบางโรง ต.ป่าคลอก อ.ถลาง รองชนะเลิศอันดับ 1 วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบางหวานพัฒนา ต.กะทู้ อ. กะทู้ และรองชนะเลิศอันดับที่ 2 วิสาหกิจชุมชน ลำดับที่ 2 วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ค้าจังหวัดภูเก็ต ต. ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ. ภูเก็ต
          ทั้งนี้ทางคณะกรรมการได้เร่งดำเนินการในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนของจังหวัดภูเก็ตให้มีความเข้มแข็งและสามารถต่อยอดในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในชุมชนต่าง ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิก เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก การส่งเสริมการท่องเที่ยวในเรื่องดังกล่าว ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนต่อไป
-------------------------------------------------------------------------
เทศบาลนครภูเก็ตเตรียมจัดโครงการพัฒนาเมือง
            เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 56 ที่ห้องประชุมเทศบาลนครภูเก็ต นายกวี  ตันสุคตานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เปิดเผยว่า ตามที่ทางรัฐบาลมีนโยบายในการดำเนินโครงการพัฒนาเมือง เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมแห่งความเป็นพลเมืองในการที่จะร่วมคิด ร่วมทำและแก้ไขปัญหาของชุมชนอย่างรับผิดชอบร่วมกันในวิถีประชาธิปไตยรวมทั้งสนับสนุนให้เกิดเมืองน่าอยู่ เมืองปลอดภัย เมืองแห่งสุขภาพ เมืองที่มีพื้นที่สร้างสรรค์ เป็นแหล่งผ่อนคลายให้ประชาชนด้วยจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนเมืองในพื้นที่ชุมชนของเขตเทศบาล ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ในด้านการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ของชุมชน โดยผู้มีภูมิลำเนาทั้งที่อาศับและสถานที่ทำงานในพื้นที่ชุมชน นอกจากนี้ยังเป็นการกระจายอำนาจการตัดสินใจในการพัฒนาเมืองไปสู่คนในพื้นที่ ซึ่งจะส่งเสริมความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยและเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนเมืองและพัฒนาเมืองให้น่าอยู่อาศัย ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ สัมพันธ์กับความต้องการด้านสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมของชุมชนและสถานที่ทำงานในพื้นที่ชุมชน ในส่วนของทางเทศบาลนครภูเก็ตได้มีการเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามโครงการดังกล่าว โดยได้มีการให้มีความรู้แก่ผู้นำชุมชนทุกชนในเขตเทศบาลนครภูเก็ต โดยมีตัวแทนจากสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดมาชี้แจงทำความเข้าใจแก่ตัวแทนชุมชนต่าง ๆ ที่จะมีการดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อไป
---------------------------------------------------------------------
คปภ.ภูเก็ตจัดประกวดโครงการยุวชนประภันภัยประจำปี 2556 โรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์ คว้าทุกรางวัล
            นางธิดา  บุญรัตน์ คลังจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานกรรมการตัดสินโครงการยุวชนประกันภัยประจำปี 2556 เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ดำเนินการจัดทำโครงการยุวชนประกันภัยในสถานศึกษาเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังให้เยาวชน มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการประกันภัยโดยในปี พ.ศ. 2555 ได้กำหนดกิจกรรมรูปแบบของการจัดการประกวดแข่งขันเพื่อมอบรางวัลให้แก่โรงเรียน/สถานศึกษาที่มีการบูรณาการ จัดการเรียนการสอนด้านประกันภัยดีเด่น โดยได้มีการประกวดมาตั้งแต่ปี พ.ส. 2552 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ ด้านการประกันภัยให้กับนักเรียนและครูอาจารย์ในโรงเรียน สถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษาทั่วประเทศ ตลอดจนเป็นการสร้างจิตสำนึกและความรู้ความเข้าใจโดยให้เห็นประโยชน์และความสำคัญของการประกันภัยให้กับเยาวชนและเป็นการส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของการประกัน ตลอดจนเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัยให้กับเยาวชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ผลการตัดสินของจังหวัดภูเก็ต ทั้ง 3 ประเภทคือ ผลงานประเภทโรงเรียน ผลงานนักเรียนประเภทการแสดง ผลงานนักเรียนประเภทเพลง และผลงานนักเรียนประเภททอล์คโชว์ ปรากฎว่าโรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในทุกประเภทและเป็นตัวแทนจังหวัดภูเก็ตในการประกวดระดับภาคต่อไป
---------------------------------------------------------------
ผู้ว่าฯ ภูเก็ตระดมทุกภาคส่วนเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชุมชน

          วันนี้ (18 ก.ค. 56) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี  อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนโดยมี ดร.สมหมาย  ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายไชยวัฒน์  เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนจากชุมชน 25 ชุมชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
          นายไมตรี  กล่าวว่า ตามที่เครือข่ายสิทธิคนจนพัฒนาภูเก็ต ซึ่งอาศัยอยู่ในที่ดินที่มีข้อพิพาทกับเอกชนและในที่ดินของรัฐประเภทต่าง ๆ ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กรณีได้รับความเดือดร้อนเรื่องสิทธิในที่ดินอยู่อาศัยและระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ทะเบียนบ้าน ไม่มีน้ำประปา และกระแสไฟฟ้า หรือการใช้ไฟฟ้าต้องต่อพ่วงจากบ้านเรือนหลังอื่น ซึ่งต้องชำระค่าไฟฟ้าในอัตราสูง ระบบน้ำ ถนนหนทางไม่สะกวด ซึ่งต้องการให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ มีการแก้ไขปัญหาของชุมชน โดยขอให้มีการติดตามผลการแก้ไขปัญหาด้วย สำหรับปัญหาเรื่องที่ดินนั้นได้รับการหารือในเรื่องของโฉนดชุมชน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในเรื่องที่ดิน ซึ่งถือเป็นปัญหาหลัก เมื่อมีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเรียบร้อย ปัญหาอื่นก็สามารถที่จะแก้ไขได้ โดยมอบหมายให้ทางที่ดินจังหวัด ธนารักษ์จังหวัด สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต และทางสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 23 ภูเก็ต ได้หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป