วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข่าวประจำวันที่ 13 ก.ค56

เลือกตั้งประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต  ชัยยศ  ปัญญาไวย นั่งประธานอีกสมัย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ก.ค. 2556 ได้มีการเลือกตั้งประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต ณ ห้องพักรับรองทนายความจังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้สมัครรับเลือกตั้งจำนวน 2 คน ประกอบด้วยหมายเลข 1 
      นายชัยยศ ปัญญาไวย (ทนายตุ๋ย) อดีตประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต หลายเลข 2 นาย ลิขิต ธานีรัตน์ (ทนายลิขิต) ซึ่งเมื่อเปิดหีบ ทางด้านทนายชัยยศ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หมายเลข 1 ได้เดินทางมารอลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เป็นอันดับที่ 4 ส่วนทางด้าน ทนายลิขิต ผู้สมัครหมายเลข 2 ก็ได้เดินทางมา ลงคะแนนเสียงให้กับตัวเองในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน โดยมีนาย กุลศักดิ์ ฤทธิสิริกุล ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง พร้อมทั้งมีคณะกรรมการดูและการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต ให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม โดยมีทนายความจังหวัดภูเก็ต ที่สามารถใช้สิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้จำนวน 398 เสียง โดยมีการปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 15.00 น.
          จากนั้นได้มีการนับคะแนน ท่ามกลางทนายความ ผู้สมัคร และตัวแทนผู้สมัคร มาร่วมลุ้นการนับคะแนน เมื่อนับคะแนนเสร็จสิ้น ผลปรากฏว่า ทนายตุ๋ย นาย ชัยยศ ปัญญาไวย ผู้สมัครหมายเลข1 ได้รับคะแนนเสียง 165 คะแนน ในขณะที่ ทนายลิขิต ธานีรัตน์ ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้รับคะแนนเลือกตั้ง 88 คะแนน  บัตรเสีย 5 ใบ ไม่ประสงค์ลงคะแนน 1 ใบ
          ภายหลังการนับคะแนนเสร็จสิ้น ทนายตุ๋ย นาย ชัยยศ ปัญญาไวย   ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ บรรดาเพื่อน ๆ สมาชิกทนายความจังหวัดภูเก็ต ที่มาลงคะแนนเลือกตั้งให้ตนได้เป็น ประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ตอีกหนึ่งสมัย และว่า  การทำหน้าที่ตรงนี้ ตนเองมีความประสงค์จะ ให้สภาทนายความจังหวัดภูเก็ตเป็นเอกภาพ เป็นหนึ่งเดียว ทั้งฝ่ายที่เลือกตนและที่ไม่เลือก ซึ่งตนถือว่าตอนนี้ ตนเป็นตัวแทนของคนทั้งหมด ต้องการจะทำหน้าที่เพื่อคนทุกคนไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ที่ผ่านมาก็ได้ทำหน้าที่ตรงนี้มาโดยตลอด ปัจจุบันก็เห็นเป็นรูปธรรม ว่าสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต มีความสมัครสมานสามัคคี มีความเป็นเอกภาพ  พร้อมให้คำมั่นสัญญากับพี่พี่น้องทนายความว่า สิ่งที่ตนอยากเห็นที่สุดก็คือ ศักดิ์ศรี ของทนายความที่ต้องเทียบเท่ากับองค์กรอื่นๆ และอยากเห็นความสามัคคีในวงการนี้เพราะว่า ทนายความถ้าหากพูด การทำหน้าที่มันก็อยู่บนความขัดแย้ง
  ไม่โจทก์ก็จำเลยทั้งสองฝ่าย เพราะฉะนั้นงานก็คืองาน ส่วนงานส่วนรวมก็ขอให้เพื่อนๆทุกคน ร่วมไม้ร่วมมือร่วมแรงร่วมใจ เพื่อที่จะนำพาองค์กรนี้ไปข้างหน้าอย่ามีเอกภาพมั่นคงและมีศักดิ์ศรี
          ทั้งนี้ นายไชยยศ ได้กล่าวถึงนโยบายในการทำงานด้วยว่า ได้มีการพูดคุยกันบ้างแล้วกับ กรรมการชุดเก่าและคนที่ทำงานร่วมกันว่า ต่อไปจะต้องปั้นคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาทำงาน เพราะคนรุ่นเก่าก็เหมือนกับคลื่นกระแทกฝั่งแล้ว  เราพยายามสร้างเด็กรุ่นใหม่ เข้ามาทำหน้าที่สานต่อเจตนารมณ์ของตน
 3 ปีต่อจากนี้ ผมจะพยายามทำองค์กรให้เข้มแข็ง จริงๆ และเพื่อส่วนรวมด้วย เพื่อให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนให้เขาได้ให้ความไว้วางใจ เชื่อถือในอาชีพทนายความ อันนี้คือเป้าหมายหลักของผม ส่วนงานอื่นๆเท่าที่ทำมา 3 ปี ที่ผ่านมาผมก็ยังต้องสานต่อ ที่ผ่านมาก็ได้รับการยอมรับจากสังคม จะทำในสิ่งที่ทำแล้วดีมาทั้งหมดแล้วทำต่อไป และจะเพิ่มเติมในสิ่งที่ยังบกพร่องอยู่ เช่นงานทาง วิชาการ งานช่วยเหลือชาวบ้านซึ่งยังไม่ค่อยทั่วถึงจะเพิ่มพูนให้มากขึ้น  นายไชยยศ กล่าว

----------------------------------------------------------------------

12 ทีมหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ร่วมฟาดแข้งฟุตบอลวันรพี
          ศาลจังหวัดภูเก็ต จัดการแข่งขันฟุตบอลวันรพี ประจำปี 2556 โดยมี 12 ทีม เข้าร่วมแข่งขัน ระหว่างวันที่ 13 ก.ค. – 4 ส.ค. 56 ณ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม TX Park
          นายพิพัฒน์  แก้วอำไพ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องในวันพระบิดาแห่งนักกฎหมายไทย ศาลจังหวัดภุเก็ตได้จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาเป็นประจำทุกปี เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน โดยใช้กีฬาเป็นสื่อ รวมทั้งส่งเสริมการออกกำลังกายใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
          สำหรับการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 สายประกอบด้วย สาย
A ลอว์เยอร์คลัย ทีมสภาทนายความ ทีมคุมประพฤติ ทีมอัยการ+ สถานพินิจ ทีมตำรวจ B ทีมศาลากลาง สาย B ทีม ตำรวจA ทีมที่ดินภูเก็ต ทีมเรือนจำ ทีมสรรพากร ทีมวีไอพี และทีมศาลจังหวัดภูเก็ต โดยการแข่งขันในรอบแรกแข่งขันวันที่ 13-14 ก.ค. 56, 27-28 ก.ค. 56 , 2 ส.ค. 56 เวลา 15.00-18.30 น. รอบรองชนะเลิศ แข่งขันวันที่ 3 ส.ค. 56 เวลา 16.00-17.00 น. รอบชิงชนะเลิศแข่งขันวันที่ 4 ส.ค. 56 เวลา 15.30-17.30 น. และในช่วงค่ำวันเดียวกันจะมีงานเลี้ยงสังสรรค์ ณ สนาม TX Park
------------------------------------------------------------
เจ้าของอู่ซ่อมรถที่กระบี่เครียดเรื่องธุรกิจตัดสินใจผูกคอตายภายในบ้านพัก
เมื่อวันที่12 ก.ค.56 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอตายภายในบ้านเลขที่ 128/95 หมู่บ้านท้อปแลนด์ ซอย 1 ม.5 ต.รัษฏา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้ง ร.ต.อ. ราชันย์ พันธ์ไวย์ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนเดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย ร.ต.ท. เวชศักดิ์ จุลอดุง ร้อยเวรป้องกันปราบปราม เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม ภูเก็ต เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
          พบประชาชนมุ่งดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก
 ที่เกิดเหตุเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น ที่บริเวณห้องนอนชั้น 1 ภายในห้องพบศพผู้เสียชีวิต นาย ชุมพล ณ พัทลุง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 ซ.3 (มงคล) ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต สภาพนั่งตายลิ้นจุกปาก ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาวสั้นสีครีม โดยผู้ตายได้ใช้สายสะพายกระเป๋ารัดคอตัวเองแล้วผูกกับเหล็กดัดภายในห้องนอนและนั่งลงทำให้เสียชีวิตในที่สุด ซึ่งภายในห้องนอนของผู้ตายไม่ร่องการรื้อค้นทรัพย์สินหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด และที่บริเวณหัวเตียงนอนของผู้ตายพบทรัพย์สินไม่ว่า สร้อยคอทองคำ โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา ยังอยู่ครบ ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม ภูเก็ต ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต ต่อไป
          จากการสอบถาม ลูกสะใภ้ บอกว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (12 ก.ค.56) ผู้ตายได้เดินทางกลับมาจากดูแลธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ที่จังหวัดกระบี่ แล้วจากนั้นผู้ตายได้เปลี่ยนผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำ และได้เข้านอน ต่อมาเวลาประมาณ 16.30 น. วันเดียวกัน หลานสาวกลับมาโรงเรียนและได้เข้าไปเรียก นายชุมพล แต่ปรากฏว่า นายชุมพลได้ผูกคอตายเสียแล้ว ทำให้หลานสาวตกใจมาก จึงบอกลูกสะใภ้ให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
          ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้ตายน่าเกิดจากความเครียดในเรื่องธุรกิจที่ทำอยู่ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนต่อไป

-----------------------------------------------------------------

ตร.สภ.เมืองภูเก็ตรวบแก๊งวัยรุ่นขโมยรถจักรยานยนต์ 9 คัน สารภาพชำแหละขายนำเงินไปซื้อยาเสพติด
         
          พ.ต.ท. ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ควบคุมตัววัยรุ่นอายุระหว่าง 15-18 ปี จำนวน 3คนที่ตั้งแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆ จำนวน 9 คัน มาสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่น
พ.ต.ท. ประวิทย์ เปิดเผยว่า เนื่องจากที่ผ่านมาทางตำรวจได้รับแจ้งจากประชาชนว่าในรอบเดือนนี้มีรถจักรยานยนต์หายไปเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงออกติดตามจับกุมโดยสุมตรวจที่บริเวณปาก ซ.กิ่งแก้ว ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พบวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า มีโอ สีขาว หมายเลขทะเบียน  กรล-735 จ.ภูเก็ต ผ่านมาจึ่งทำการเรียกตรวจเนื่องจากสังเกตเห็นว่า รถจักรยานยนต์รุ่นดังกล่าว ใน จ.ภูเก็ต จะไม่มีหมวดตัวอักษรนี้ แต่จะต้องขึ้นต้นหมวดตัวอักษร ขข แต่ปรากฎว่าคนร้ายพยายหลบหนีแต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามจับกุมได้ ซึ่งพบว่าผู้ขับขี่เป็นวัยรุ่นอายุเพียง 16 ปี เท่านั้นและเมื่อทำการตรวจทะเบียนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพบว่าเป็น รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน ขธล-296 ของประชาชนที่แจ้งหายไว้เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ สภ.เมือง จ.ภูเก็ต จึ่งทำการจับกุม นาย บ.นามสมมุติ ไปทำการสอบสวนขยายผล และดูจากภาพกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่รถจักรยานยนต์แจ้งหายปรากฎพบผู้ต้องหายรวมกับนาย บ.อีก 2 คน จึงไปติดตามจับกุมเพื่อร่วมแก๊งได้ 2 คน คือนาย ต.อายุ 18 ปี และนาย ด อายุ 15 ชาว จ.ภูเก็ต เพื่อนรวมแก๊งโดยมีนาย ต.เป็นหัวหน้าแก๊ง และสามารถติดตามยึดรถจักรยานยนต์ที่แก๊งค์นี้ขโมยไปได้ถึง 9 คัน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารถทั้งหมดขโมยมาในเดือนนี้เดือนเดียวเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทำมาแล้หลายครั้งได้รถไปหลายสิบคันแล้ว โดยนำรถทั้งหมดแยกชิ้นส่วนส่งขายจากนั้นนำเงินที่ได้ไปซื้อเสพยาเสพติดและเที่ยวเตร่ หากประชาชนท่านใดสงสัยว่ารถจักรยานยนต์ทั้ง9 คันนั้นเป็นของตนเองติดต่อได้ที่ พ.ต.ท. ประวิทย์ เอ้งฉ้วน หมายเลขโทรศัพท์ 081-4158668 หรือเดินทางมาดูรถได้ด้วยตนเองที่หน้า สภ.เมือง จ.ภูเก็ต นอกจากนี้ยังพบว่านาย ต.หัวหน้าแก๊งยังมีหนีคดีหมายจับข้อหาข่มขืนอีก 1 คดีด้วย ของ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต.   


--------------------------------------------------------------

บรรยากาศเวทีรวมพลคนหน้ากากภูเก็ตยังคึกคัก แก้วสรรร่วมเวทีชำแหละโครงการเงินกู้ของรัฐบาลเอาเงินอนาคตลูกหลานให้ต่างชาติ ส่วนคนในรอกินส่วนต่างทำประเทศเสียหาย ด้านชาวภูเก็ตเดือดใบสั่งคนดูไบทำโครงการพัฒนาอ่าวสะพานหิน เกาะไม้ไผ่แฝงสร้างคาสิโน
          เมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้(14 ก.ค.56)ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ มีประชาชนกลุ่มหน้ากากภูเก็ตทยอยเดินทางมาร่วมเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ตร.เพื่อป้องกันเหตุร้าย  ประเด็นหลักๆบนเวทียังคงเป็นการร่วมเปิดโปงความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาล โดยผู้ปราศรัยจากส่วนกลางในวันนี้ มีนาย แก้วสรร อติโพธิ อดีตประธานคตส.และผู้ก่อตั้งเวปไซด์ไทยสปริง และนาย จิตกร บุษบา ร่วมให้ความรู้ ขณะที่ผู้ปราศรัยจากจังหวัดภูเก็ตปราศรัยโดยนาย ชัยยศ ปิ่นประดับ บรรณาธิการนิตยสารภูเก็ตบูเลตินขึ้นเวทีเปิดข้อมูลใหม่เรื่องแผนพัฒนาผังเมืองใหม่ที่ปลายแหลมสะพานหินเป็นคาสิโนในอนาคตของรัฐบาลและพ.ต.ท.ทักษิณ
นายแก้วสรร กล่าวว่า ระบอบทักษิณเอาความโลภของคนมาใช้ประโยชน์ เอาคนที่เชื่อมาเป็นกบสีแดง เพื่อให้นกกระสาจากตระกูลชินมาจิกกินเป็นอาหารจนทำให้ขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองถูกความโลภ โกรธ หลงครอบงำ ส่วนเรื่องโครงการเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ของรัฐบาล หรือโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ขอเสนอให้ทำรถธรรมดาไฟรางคู่ซะก่อนเพราะขณะนี้ยังประสบปัญหาอยู่บ่อยๆ เช่นที่ผ่านมาจังหวัดชุมพรเกิดปัญหา ซึ่งรถไฟไม่สามารถแล่นได้ ถ้าทำโครงการนี้คนส่วนใหญ่จะเห็นด้วย เพราะเป็นความเดือดร้อน และใช้งบประมาณไม่มาก แต่ไม่ต้องเอาไปรวมกับรถไฟความเร็วสูง เพราะถ้ารวมกันหมดมันเหมือนกับการเอาโครงการมาเทใส่กระจาด แล้วใช้เสียงข้างมากบีบในสภาฯ แล้วไปหาญี่ปุ่นเข้ามาประมูล เช่นเดียวกับโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งเอาแผนจัดการแบบแก้มลิงและแผนอื่นๆมารวมกันแล้วจ่ายงานให้เกาหลีสร้าง เป็นการเอาเงินลูกหลานในอนาคตไปให้ต่างชาติทำ เมื่อบริษัทต่างชาติดังกล่าวเข้ามาทำก็ต้องมีการจ้างต่อเพื่อเหมาช่วงกับผู้รับเหมาของคนไทย จึงทำให้เกิดส่วนต่างมหาศาล ส่วนต่างเหล่านั้นก็จะได้กับคนของรัฐบาล เพราะอาจเตรียมคนเข้าไปรับเหมาช่วงตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว โดยคาดการว่าในส่วนของโครงการน้ำนั้นจะเกิดส่วนต่างไม่ตำกว่า 5 หมื่นล้านบาท และเมื่อย้อนกลับไปดูที่ตัวโครงการ ยังไม่มีการสำรวจ ยังไม่ออกแบบ แต่เอารวมๆกันแล้วไปยื่นของบประมาณแล้ว
                รัฐบาลควรเร่งพัฒนาและปฏิรูป ระบบการศึกษา เพราะพบว่าการด้านศึกษายังมีการพัฒนาน้อยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนนโยบายแจกแท็บเล็ทแทบไม่ทำให้พัฒนาการศึกษาได้เลย
                ขณะที่เรื่องข้าวที่ยังคงเป็นปัญหานั้นถามว่าทำไมไม่พัฒนาที่ระบบการผลิตเพื่อการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ แต่ดันไปขึ้นราคาเอาใจเกษตรกร ซึ่งประเทศไทยแทบจะเสียเปรียบเรื่องราคาที่สูงกว่าประเทศอื่นๆอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาเรายังมีเรื่องคุณภาพเป็นประกัน แต่เมื่อขยับราคาสูงขึ้นอีกทำให้ประเทศคู่ค้าต่างทยอยไปหาประเทศที่ขายในราคาถูกกว่า เพราะสู้ราคาไม่ไหว
                ด้านนาย ชัยยศ ปิ่นประดับ บรรณาธิการนิตยสารภูเก็ตบูเลติน กล่าวว่า พื้นที่อ่าวสะพานหินทั้งหมด ไปจนถึงเกาะไม้ไผ่เนื้อที่ทะเลกว่า 5,000 ไร่กำลังจะกลายเป็นคาสิโนขนาดใหญ่ในอนาคต เนื่องจากทราบมาว่า จากการประชุมโดยรัฐบาลและโยธาธิการฯ ที่โรงแรมภูเก็ตรอยัลซิตี้ที่ผ่านมา เป็นการประชุมเพื่อเตรียมผลักดันแผนพัฒนาอ่าวสะพานหิน เกาะไม้ไผ่ (เดิมที่ดังกล่าวเป็นสัมปทานของบริษัททุ่งคาฮาเบอร์ และขายต่อให้กับบริษัทชิโนไทย) โดยคำสั่งมาจากคนที่ดูไบ เพื่อจะสร้างเป็นคาสิโนขนาดใหญ่และสถานบริการต่างๆในอนาคต ทั้งนี้บริเวณปลายแหลมสะพานหินนอกจากจะมีความสวยงามแล้วยังเป็นจุดที่ถือว่าสำคัญในประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งใช้เป็นสถานที่สำหรับรับพระหรือส่งพระ(เทพเจ้า) หากมีการก่อสร้างคาสิโนเกิดขึ้นทางทิศดังกล่าวจะทำให้ไม่เป็นผลดีแน่นอนนายชัยยศกล่าว


------------------------------------------------------------------------

 เทศบาลตำบลฉลอง จ.ภูเก็ต พิธีหล่อเทียนพรรษาของเทศบาลตำบลฉลอง ประจำปี 2556 ที่จัดขึ้นในปีนี้เป็นครั้งแรก 
          นาย สำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลฉลอง เป็นประธานในพิธีหล่อเทียนพรรษาของเทศบาลตำบลฉลอง ประจำปี 2556 ที่จัดขึ้นในปีนี้เป็นครั้งแรกโดยมีนาย ทนง องค์สันติภาพ รองนายกเทศมนตรีตำบลฉลอง  สมาชิกสภาเทศบาลตำบลฉลอง หัวหน้าส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชมรมผู้สูงอายุ ตลอดจนสถานศึกษาต่างๆ และประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ที่บริเวณลานหน้าวัดลัฎฐิวนาราม (วัดใต้)     นายสำราญ กล่าวว่า ในการประกอบพิธีหล่อเทียนพรรษา ซึ่งทางเทศบาลตำบลฉลอง ร่วมกับวัดลัฎฐิวนาราม(วัดใต้) วัดไชยธาราราม(ฉลอง) วัดสิริสีลสุภาราม ที่ได้ร่วมกันจัดประเพณีหล่อเทียนพรรษา ชึ่งเป็นประเพณีสำคัญทางศาสนา ที่ได้สืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน เป็นประเพณีที่แสดงออกถึงความเชื่อมั่น ศรัทธาในพระพุทธศาสนาและก่อให้เกิดความสมานสามัคคีในหมู่คณะทางเทศบาลตำบลฉลองและหน่วยงานต่างๆจึงได้ร่วมกันจัดให้มีการประกอบพิธีหล่อเทียนพรรษาขึ้นในปีนี้เป็นปีแรก เพื่อเป็นสิ่งที่ควรแก่การยกย่องและสื่อให้เห็นถึงความจริงใจ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการสืบทอดพุทธศาสนา ชึ่งเป็นศาสนาประจำชาติและการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อีกทางหนึ่งด้วย นอกจากได้ร่วมกันสืบทอดพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมและประเพณี  เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของไทย ตลอดจนคุณค่าทางวัฒนธรรม ประเพณีด้านพระพุทธศาสนา ซึ่งใน 1 ปีจะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ในการจัดงานในครั้งนี้ขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้เยาวชนและประชาชนเล็งเห็นความสำคัญของวันเข้าพรรษา  เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้เข้าวัดฟังธรรม ปฎิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี  เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้ลด ละ เลิก อบายมุข และรักษาศีล ปฎิบัติธรรม  เพื่อให้พระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติไทยได้ดำรงคงไว้  เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันมีค่า และรักษาเอกลักษณ์ประจำชาติให้ยั่งยืนสืบไป โดย มีกิจกรรมประกอบพิธีหล่อเทียนพรรษา ประกอบพีธีสมโภชเทียนพรรษา และขบวนแห่เทียนพรรษาเพื่อนำเทียนพรรษาไปถวายวัด จำนวน 3 วัด คือ วัดลัฎฐิวนาราม(วัดใต้) วัดไชยธาราราม(ฉลอง) วัดสิริสีลสุภาราม


-----------------------------------------------------------------------------------

อบจ.ภูเก็ต จัดงาน อบจ.สัญจร ในเขตพื้นที่ ต.ไม้ขาว เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน
                เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2556ที่ผ่านมา  นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงาน อบจ.สัญจร ครั้งที่ 4 ประจำปีงบประมาณ 2556 โดยจัดขึ้นที่ องค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว มีคณะผู้บริหาร อบจ.ภูเก็ต  คณะผู้บริหาร อบต.ไม้ขาว ผู้นำท้องถิ่นตำบลไม้ขาว และพี่น้องประชาชน เข้าร่วมงาน
                นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า งาน อบจ. สัญจร เป็นงานที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จัดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ตามหลักธรรมาภิบาล และแนวทางการบริหารจัดการท้องถิ่นยุคใหม่ โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ของปีงบประมาณ  2556  ซึ่งได้จัดขึ้น ณ องค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้พบปะกับคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต องค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว และจากหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมงาน รวมทั้งสิ้น 30 หน่วยงานซึ่งได้นำงานภารกิจในหน้าที่ขององค์กรมาออกหน่วยให้บริการฟรีแก่ประชาชน เช่น แจกพันธุ์ไม้ แจกแว่นสายตา ตัดผม ตรวจสุขภาพ การรักษาพยาบาล การรักษาสัตว์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ การจำหน่ายสินค้าราคาธงฟ้า และบริการอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งเสริมสร้างความสุขให้แก่ประชาชน
                นอกจากนี้ ภายในงาน อบจ.สัญจร ครั้งนี้ ยังมีกิจกรรมการแสดงของนักเรียนจากโรงเรียนในพื้นที่ ซึ่งเป็นลูกหลานของเราได้มาแสดงออกถึงความสามารถของการเป็นนักแสดงให้ได้รับชมกัน อีกทั้งยังมีการแสดงของวงดนตรีลูกทุ่งซุปเปอร์แดนซ์ มาให้ท่านได้รับชมรับฟังกันตลอดงาน พร้อมทั้งยังมี เวทีประชาคม จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีเสวนารับฟังความคิดเห็น และรับทราบปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยจะนำข้อมูลที่ได้ไปประกอบการพิจารณาจัดบริการสาธารณะให้กับพี่น้องประชาชน
                สำหรับในครั้งนี้ได้มีการจัดเวทีเสวนาประชาคม เพื่อรับฟังความต้องการของพี่น้องประชาชนในตำบลไม้ขาว ว่าขาดตกพร่องอะไรบ้าง โดย อบจ.ภูเก็ต จะนำความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนเพื่อเข้าไปสู่งบประมาณของ อบจ.ภูเก็ต ให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาที่ได้รับฟังความคิดเห็นคือ ปัญหาเรื่องน้ำ โดย อบจ.ภูเก็ต ได้นำรถน้ำมาให้พี่น้องชาวตำบลไม้ขาวอย่างต่อเนื่อง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป