จัดหางานจังหวัดภูเก็ตจัดงาน
วันนัดพบแรงงานย่อยครั้งที่ 5 ประจำปี 2556
วันนี้ (11 ก.ค.56) ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต ได้จัดงาน“วันนัดพบแรงงานย่อย ครั้งที่ 5/2556” เพื่อแก้ไขปัญหาการว่างงานและการขาดแคลนแรงงาน
อีกทั้งเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการหางานทำแก่ผู้ว่างงาน ผู้ถูกเลิกจ้าง
นักเรียน/นักศึกษา ผู้จบการศึกษาใหม่ และประชาชนทั่วไป
ตลอดจนเพื่อให้ผู้สมัครงานได้มีโอกาสพบกับนายจ้าง/สถานประกอบการโดยตรง
เป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้สมัครงานได้รับการจ้างงานทันที และนายจ้างมีโอกาสคัดเลือกพนักงานตรงตามความต้องการ
โดยมีตำแหน่งงานว่างรวม 602 ตำแหน่ง จำนวน 2,377 อัตรา แบ่งเป็น
มีนายจ้างมาตั้งโต๊ะสัมภาษณ์ จำนวน 37 บริษัท ตำแหน่งงานว่าง 367 ตำแหน่ง จำนวน 1,723 อัตรา
ในจำนวนนี้มีนายจ้างจากต่างจังหวัด 3 บริษัท (สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์
กระบี่) และนายจ้างไม่ได้มาสัมภาษณ์ จำนวน 20บริษัท ตำแหน่งงานว่าง
235 ตำแหน่ง จำนวน 654 อัตรา ซึ่งมีผู้ว่างงาน
ผู้ต้องการเปลี่ยนงาน และผู้ที่สำเร็จการศึกษาใหม่สนใจจำนวนมาก
โอกาสเดียวกันนี้ได้จัดอบรมให้ความรู้โครงการส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้านและโครงการรับงานเพิ่มรายได้ในครัวเรือน
ประจำปี 2556 ด้วย ซึ่งมีกลุ่มอาชีพต่างๆ อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์จากผ้าใยบัว
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสตรีเกาะค้างคาว กลุ่มรวมไอเดียเพ้นท์ เป็นต้น
นำผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงร่วมด้วย โดยมีนายพ่วง สองนาม นักวิชาการแรงงานชำนาญการ
สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต
คอยอำนวยความสะดวก ในการรับเอกสารต่างๆ
นายพ่วง สองนาม
นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า
ประเภทกิจการที่นายจ้างต้องการมากตามลำดับ ได้แก่ โรงแรม/ภัตตาคาร จำนวน 19 แห่ง
ห้างสรรพสินค้า จำนวน 3 แห่ง โรงพยาบาลรัฐบาล/เอกชน จำนวน 2 แห่ง บริการท่องเที่ยว
จำนวน 2 แห่ง อสังหาริมทรัพย์ จำนวน 2 แห่ง จำหน่ายรถยนต์ จำนวน 1 แห่ง การเงิน
สินเชื่อ จำนวน 1 แห่ง และอื่นๆ จำนวน 7 แห่ง ส่วนตำแหน่งงานว่างที่นายจ้างต้องการ
ได้แก่ ผู้ให้บริการทั่วไปโรงแรม จำนวน 953 อัตรา พนังกานขาย จำนวน 254 อัตรา
ช่างไฟฟ้า/ช่างซ่อมบำรุง จำนวน 178 อัตรา แคชเชียร์ จำนวน 69 อัตรา พนักงานขับรถ
จำนวน 53 อัตรา และอื่น ๆ จำนวน 216 อัตรา
โดยระดับการศึกษาที่นายจ้างต้องการมากที่สุดตามลำดับ ได้แก่ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น-ตอนปลาย
, ระดับปวช.-ปวส. และระดับปริญญาตรี
-------------------------------------------------------------------------------
กรมโยธาธิการและผังเมืองร่วมกับจังหวัดปิดประกาศแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินแก้ไขเพิ่มเติมบังคับใช้กับผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ตเขตเทศบาลเมืองป่าตองและเทศบาลตำบลฉลอง
นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต
เปิดเผยว่า ด้วยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต
และองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต)
ได้ปิดประกาศแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต
พ.ศ. 2554 (บริเวณเทศบาลเมืองป่าตองและเทศบาลตำบลฉลอง) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต
พ.ศ.2554 ที่แก้ไขเพิ่มเติม
ตารางเปรียบเทียบแสดงการใช้กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต
พ.ศ.2554 และรายการประกอบแผนผังของกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต
พ.ศ.2554 เฉพาะที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอแก้ไขเปลี่ยนแปลง
หรือยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินของผังเมืองรวมได้
“จากเหตุผลดังกล่าว
จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้อยู่อาศัยหรือผู้ครอบครองที่ดิน
หรืออาคารที่ตั้งอยู่ในเขตผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต ได้ไปตรวจดูแผนผังแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินและรายการประกอบแผนผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต พ.ศ.2554
เฉพาะที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
ที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ที่ว่าการอำเภอทุกแห่งในจังหวัดภูเก็ต
สำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา สำนักงานเทศบาลทุกแห่ง
ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลและที่ทำการกำนันตำบลทุกแห่งที่อยู่ในเขตผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต
สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต และกรมโยธาธิการและผังเมือง
และในที่สาธารณสถานในเขตผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันจันทร์ที่
7 ตุลาคม 2556”
นายวงศกร กล่าวเพิ่มเติมว่า
ผู้มีส่วนได้เสียในเขตผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต
มีสิทธิ์ร้องขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินของผังเมืองรวมเฉพาะที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว
ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการเสนอคำร้องแนบท้ายประกาศนี้
โดยทำคำร้องขอเป็นหนังสือยื่นได้ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
หรือที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต
หรือที่ว่าการอำเภอทุกแห่งในจังหวัดภูเก็ต
หรือสำนักงานที่ดินทุกแห่งในจังหวัดภูเก็ต
หรือสำนักงานเทศบาลทุกแห่งในจังหวัดภูเก็ต หรือที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลและที่ทำการกำนันตำบลทุกแห่งที่อยู่ในเขตผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต
หรือสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต และกรมโยธาธิการและผังเมือง
ตามวันและเวลาดังกล่าวข้างต้น”
เมื่อครบกำหนดแล้ว
กรมโยธาธิการและผังเมืองจะรวบรวมคำร้องทั้งหมด
พร้อมความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการผังเมืองพิจารณา
หากคณะกรรมการผังเมืองเห็นด้วยกับคำร้องก็จะสั่งให้กรมโยธาธิการและผังเมืองแก้ไขให้เป็นไปตามคำร้องนั้น
แต่ถ้าไม่เห็นด้วยกับคำร้องก็จะยกให้คำร้องนั้น
เมื่อกรมโยธาธิการและผังเมืองแก้ไขเรียบร้อยแล้ว กรมโยธาธิการและผังเมืองจะเสนอการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต
พ.ศ..2554 ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เพื่อดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2554
ต่อไป
-------------------------------------------------------------------
ศูนย์สังคมพัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี สาขาภูเก็ต ดึงทุกภาคส่วนในจังหวัดภูเก็ต
ร่วมเสนอความคิดเห็น ผ่านเวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกับความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรม” รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปี 2558
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (11 ก.ค.56)
ที่โรงแรมเมโทรโพล อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกับความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรม” ซึ่งทางศูนย์สังคมพัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี สาขาภูเก็ต
ร่วมกับคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อการพัฒนาสังคม แผนกยุติธรรมและสันติ
มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย และเครือข่ายแกนนำต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น
โดยได้เชิญผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน
และกลุ่มแกนนำชุมชนในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมรับฟัง และนำเสนอความคิดเห็น
เพื่อร่วมกันแสวงหาคุณค่าที่ดีในการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างหลากหลายในสังคมปัจจุบัน
เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558
นายสุวัฒน์ เหลืองสะอาด ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ด้วยศูนย์สังคมพัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี สาขาภูเก็ต กำลังเข้าสู่ปีที่ 5 ของการดำเนิน “โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานข้ามชาติ” เพื่อช่วยลดปัญหาต่างๆ อันเกิดจากแรงงานข้ามชาติ ที่เข้ามาประกอบอาชีพในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้แรงงานข้ามชาติ นายจ้าง และชาวไทยในพื้นที่สามารถอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพในสิทธิ และศักดิ์ศรีของกันและกัน สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ และสถานการณ์ปัจจุบัน อีกทั้งยังช่วยลดอคติอันเกิดจากความแตกต่างในชีวิตความเป็นอยู่ ความเชื่อ และวัฒนธรรม ทำให้คนไทย ชาวต่างชาติอื่นๆ และแรงงานข้ามชาติในจังหวัดภูเก็ต เกิดการเอาใจใส่ต่อกันและกัน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทางศูนย์ฯ จึงได้ร่วมกับทุกภาคส่วนในจังหวัดภูเก็ตจัดสัมมนาฯ ดังกล่าวขึ้น เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในความแตกต่างหลากหลายของชีวิตความเป็นอยู่ ความเชื่อ และวัฒนธรรม และเพื่อแสวงหาคุณค่าที่ดีในการอยู่ร่วมกัน ก็คาดหวังว่าผลจาการจัดสัมมนาฯ จัดทำให้เกิดค่านิยมในการยอมรับความแตกต่างหลากหลายมากขึ้น เกิดสังคมแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ซึ่งกันและกัน
นายสุวัฒน์ เหลืองสะอาด ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ด้วยศูนย์สังคมพัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี สาขาภูเก็ต กำลังเข้าสู่ปีที่ 5 ของการดำเนิน “โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานข้ามชาติ” เพื่อช่วยลดปัญหาต่างๆ อันเกิดจากแรงงานข้ามชาติ ที่เข้ามาประกอบอาชีพในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้แรงงานข้ามชาติ นายจ้าง และชาวไทยในพื้นที่สามารถอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพในสิทธิ และศักดิ์ศรีของกันและกัน สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ และสถานการณ์ปัจจุบัน อีกทั้งยังช่วยลดอคติอันเกิดจากความแตกต่างในชีวิตความเป็นอยู่ ความเชื่อ และวัฒนธรรม ทำให้คนไทย ชาวต่างชาติอื่นๆ และแรงงานข้ามชาติในจังหวัดภูเก็ต เกิดการเอาใจใส่ต่อกันและกัน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทางศูนย์ฯ จึงได้ร่วมกับทุกภาคส่วนในจังหวัดภูเก็ตจัดสัมมนาฯ ดังกล่าวขึ้น เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในความแตกต่างหลากหลายของชีวิตความเป็นอยู่ ความเชื่อ และวัฒนธรรม และเพื่อแสวงหาคุณค่าที่ดีในการอยู่ร่วมกัน ก็คาดหวังว่าผลจาการจัดสัมมนาฯ จัดทำให้เกิดค่านิยมในการยอมรับความแตกต่างหลากหลายมากขึ้น เกิดสังคมแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ซึ่งกันและกัน
---------------------------------------------------------------------
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย
และอ่าวไทยทำให้จังหวัดภูเก็ตมีฝนตกหนัก มีน้ำท่วมขังผิวจราจรหลายจุด
หลังเว็บไซด์ของกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนสภาพอากาศในช่วงวันที่ 13-15 กรกฎาคม 2556 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย
และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น
คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีเมฆเป็นส่วนมาก
กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต
กระบี่ ตรัง และสตูล ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ส่งผลทำให้วันนี้ (11 ก.ค.56 )
ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมาสภาพอากาศในเขตอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
มีฝนตกลงมาอย่างหนักจนมีน้ำท่วมขังผิวจราจรในหลายจุด
เช่นที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านสะปำ ถ.เทพกระษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต
มีน้ำไหลเอ่อจากภายในโรงเรียนลงมาท่วมขังบนถนนทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก
ทำให้รถเล็กสัญจรไปมาด้วยความลำบาก เจ้าหน้าที่
อบต.เกาะแก้วต้องเร่งสำรวจท่อระบายน้ำที่อุดตันเพื่อเร่งระบายน้ำ
อย่างไรก็ตามฝนไม่ได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ทำให้น้ำสามารถระบายลงสู่ที่ต่ำภายในเวลาอันรวดเร็ว จุดที่ท่วมขังได้เข้าสู่สภาวะปกติ
แต่สภาพท้องฟ้ายังคงมืดครึ้ม คาดว่าจะมีฝนตกลงมาอีกในช่วงเย็น
-----------------------------------------------------------------------
ผู้ว่าฯ ภูเก็ต
นำคณะส่วนล่วงหน้าตรวจสถานที่รับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในการเสด็จฯ
ฯ ปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต 28-29 ก.ค.นี้
วันที่ 11 ก.ค. 56 ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต
นายไมตรี อินทุสุต
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้นำคณะส่วนล่วงหน้าฯ
ตรวจพื้นที่ในการเตรียมความพร้อมรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารีซึ่งจะเสด็จฯ
มาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตระหว่างวันที่ 28-29 กรกฎาคม
2556 โดยมี ดร. สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
นายวีระ เกิดมงคล นายอำเภอกะทู้
และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจ โดยคณะส่วนล่วงหน้าฯ
ได้เดินทางตรวจพื้นที่ทุกแห่งที่จะเสด็จ
ซึ่งหลังจากนี้จะได้มีการประชุมเพื่อให้มีการแก้ไขสิ่งที่ยังไม่เรียบร้อยและเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนวันที่จะเสด็จฯ
อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้การรับเสด็จฯ มีความพร้อมสูงสุดและสมพระเกียรติต่อไป
ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต 2 วันคือวันที่ 28-29 กรกฏาคม 2556 โดยในวันที่
28 กรกฎาคม 2556 จะเสด็จฯ ทรงเปิดโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ท ภูเก็ต ณ หาดกะรน
อ. เมืองภูเก็ต ส่วนในวันที่ 29 กรกฎาคม 2556 จะเสด็จฯ
ไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ณ
โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา
หลังจากนั้นจะเสด็จฯไปยังมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตภูเก็ต
เพื่อทรงเปิดอนุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธแบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก และจะทรงเปิดอาคารเฉลิมพระเกียรติ
5 ธันวาคม 2550 ณ โรงเรียนสตรีภูเก็ต รวมถึงจะเสด็จฯ
ไปยังโรงพยาบาลป่าตองเพื่อวางศิลาฤกษ์ อาคารอเนกประสงค์และจะเสด็จฯ
ไปเปิดพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ตเป็นแห่งสุดท้าย
--------------------------------------------------------------------------------------------
ภูเก็ตประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ต
มีเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 79 เรื่อง สามารถยุติคดีได้ 3 เรื่อง
ผู้บริโภคได้รับเงินชดเชยกว่า 1 ล้านบาท
วันที่ 11 ก.ค. 56 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ต
โดยมีนายประคอง รักษ์วงศ์
พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต นายเกรียงศักดิ์
สุขสมบูรณ์
ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ตและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายสมเกียรติ กล่าวว่า สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดภูเก็ต ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคประจำปีงบประมาณ 2556 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 ถึงปัจจุบันมีจำนวน 79 เรื่อง สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยจนได้ข้อยุติจำนวน 23 เรื่อง ผู้บริโภคได้รับเงินชดเชยเป็นเงินสดกว่า 1 ล้านบาท ส่วนเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการมีจำนวน 41 เรื่อง และส่งให้ สคบ. ส่วนกลางพิจารณา 15 เรื่อง นอกจากนี้ยังมีการให้คำปรึกษาแก่ผู้บริโภคจำนวน 90 ราย ซึ่งเรื่องที่ผู้บริโภคร้องเรียนมากที่สุดคือ เรื่องที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา มีจำนวน 48 เรื่อง โดยส่วนใหญ่คือ เรื่องการทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของโครงการบ้านจัดสรร รองลงมาเป็นเรื่องการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า อาทิ เรื่องรถยนต์ และเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น รวมถึงเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการโฆษณาจำนวน 2 เรื่อง
นอกจากนี้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องยังได้มีการออกตรวจสอบไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบฉลาก การตรวจสอบสัญญา ทั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรม ซึ่งหากประชาชนผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องที่เกี่ยวข้องนี้ สามารถร้องเรียนมาที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดภูเก็ต ชั้นล่าง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โทรศัพท์ 076-213203 หรือ ที่ 1567 ได้ในวันและเวลาราชการ
นายสมเกียรติ กล่าวว่า สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดภูเก็ต ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคประจำปีงบประมาณ 2556 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 ถึงปัจจุบันมีจำนวน 79 เรื่อง สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยจนได้ข้อยุติจำนวน 23 เรื่อง ผู้บริโภคได้รับเงินชดเชยเป็นเงินสดกว่า 1 ล้านบาท ส่วนเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการมีจำนวน 41 เรื่อง และส่งให้ สคบ. ส่วนกลางพิจารณา 15 เรื่อง นอกจากนี้ยังมีการให้คำปรึกษาแก่ผู้บริโภคจำนวน 90 ราย ซึ่งเรื่องที่ผู้บริโภคร้องเรียนมากที่สุดคือ เรื่องที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา มีจำนวน 48 เรื่อง โดยส่วนใหญ่คือ เรื่องการทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของโครงการบ้านจัดสรร รองลงมาเป็นเรื่องการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า อาทิ เรื่องรถยนต์ และเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น รวมถึงเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการโฆษณาจำนวน 2 เรื่อง
นอกจากนี้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องยังได้มีการออกตรวจสอบไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบฉลาก การตรวจสอบสัญญา ทั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรม ซึ่งหากประชาชนผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องที่เกี่ยวข้องนี้ สามารถร้องเรียนมาที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดภูเก็ต ชั้นล่าง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โทรศัพท์ 076-213203 หรือ ที่ 1567 ได้ในวันและเวลาราชการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป