วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ข่าวประจำวันที่ 27 มิ.ย.56

ท้องถิ่นภูเก็ตเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
          เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 มิ.ย. 56 ที่ห้องประชุมสภา อบจ. ภูเก็ต นายสาธิต  กลิ่นภักดี ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมซักซ้อมแนวทางปฏิบัติการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมายุ 81 พรรษา โครงการภูเก็ตเทิดพระเกียรติพระแม่แห่งแผ่นดิน โดยมีนายชัยรัตน์  สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง คณะผู้บริหารเทศบาล ส่วนราชการ เข้าร่วม
          นายสาธิต กล่าวว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ตเตรียมจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมายุ 81 พรรษา รวมถึงเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการสร้างความปรองดองของคนในชาติ ประกอบด้วย 2 กิจกรรมคือ กิจกรรมภูเก็ตเทิดพระเกียรติพระแม่ของแผ่นดินและพิธีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
          อย่างไรก็ตามการประชุมครั้งนี้เพื่อต้องการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำกิจกรรมตามราชเสาวนีย์ 7 กิจกรรม คือ กิจกรรมเกี่ยวกับแม่  ลักษณะกิจกรรมงานวันแม่ สดุดีและตอบแทนบุญคุณแม่ น้ำ ลักษณะกิจกรรมพัฒนาคูคลอง  ป่าลักษณะกิจกรรมปล่อยสัตว์ป่า สัตว์น้ำ  ยาเสพติดกิจกรรมงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน การรณรงค์ต่อต้านสารเสพติด  ผ้าลักษณะกิจกรรมงานลีลาศ พิธีการลักษณะกิจกรรมจุดเทียนชัยถวายพระพรและงานบริการสังคม การบริจาคโลหิต กิจกรรมเพื่อคนพิการเป็นต้น
------------------------------------------------------
ทางหลวงชนบทภูเก็ตร่วมแก้ไขปัญหารถติดเตรียมสร้างทางเลี่ยงเมืองในช่วงการก่อสร้างทางทางลอดจุดตัดบริเวณแยกดาราสมุทร รวมทั้งเพื่อเป็นทางเลี่ยงเมืองถาวรต่อไปในอนาคต

          เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 มิถุนายน 2556 ดร.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายธีรพร จิระรัตนากร ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวได้ลงตรวจสอบพื้นที่โครงการก่อสร้างเส้นทางเลี่ยงแยกดาราสมุทร (ช่วงเข้ามอ.) สาย ภก.4050 แยก ทล.4020- ภก.4010 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ระยะทาง 1.250 กิโลเมตร ซึ่งสำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณผ่านทางจังหวัดภูเก็ตและกลุ่มจังหวัดอันดามัน เพื่อใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงเมืองในช่วงการก่อสร้างทางทางลอดจุดตัดบริเวณแยกดาราสมุทร รวมทั้งเพื่อเป็นทางเลี่ยงเมืองถาวรต่อไปในอนาคต
          ดร.สมหมาย กล่าวถึงการก่อสร้างทางเลี่ยงแยกดาราสมุทร (ช่วงเข้า มอ.) ว่า เนื่องจากปัจจุบันมีการก่อสร้างทางลอดจุดตัดบริเวณแยกดาราสมุทร ซึ่งทำให้เกิดปัญหารถติดตามมา  ดังนั้นการมีเส้นทางเลี่ยงจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงของการก่อสร้าง รวมถึงยังมีประโยชน์ในระยะยาวสำหรับผู้ใช้ยวดยานในการสัญจรไปมาระหว่างพื้นที่เขตรอยต่ออำเภอเมืองภูเก็ตกับอำเภอกะทู้ เพื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ป่าตอง ฉลอง เป็นต้น ทำให้ไม่ต้องไปแออัดอยู่ที่บริเวณทางแยกจุดตัดดาราสมุทร รวมทั้งยังทำให้มีผิวจราจรเพิ่มขึ้นในภาพรวมของจังหวัดด้วย โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการของบประมาณในการดำเนินการ
        ขณะที่นายธีรพร กล่าวเสริมว่า สำหรับเส้นทางสายดังกล่าวเป็นถนน คสล. ขนาด 2 ช่องจราจร ระยะทาง 1.250 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 9.8 ล้านบาท โดยมีจุดเริ่มต้นโครงการที่บริเวณสามแยกซอยบางใหญ่ (ร้านเฉินหลงกุ้งกะทะ) และสิ้นสุดบริเวณซอยนาเสือ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต (ใกล้กับ สภ.วิชิต ) ซึ่งจะเชื่อมต่อกับถนนเหมืองเจ้าฟ้า ทำให้สามารถเดินทางไปยังพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต และ ต.กะทู้ อ.กะทู้ ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องผ่านทางแยกดาราสมุทร ซึ่งพื้นที่ที่ใช้ในการก่อสร้างได้รับการความอนุเคราะห์จากภาคเอกชนเรียบร้อยแล้ว หากได้รับการอนุมัติงบประมาณจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ทันที โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 150 วัน ซึ่งหากสามารถทำได้ และแล้วเสร็จอย่างรวดเร็วก็จะช่วยระบายการจราจรในช่วงที่มีการก่อสร้างบริเวณทางแยกดาราสมุทรได้เป็นอย่างมาก

------------------------------------------------------------------
ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางยกระดับเชื่อมระหว่างถนนศักดิเดช และสะพานหิน หรือโครงการก่อสร้างสะพานคลองเกาะผี

นายธีรพร  จิระรัตนากร ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงชนบทจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางยกระดับเชื่อมระหว่างถนนศักดิเดช และสะพานหิน หรือโครงการก่อสร้างสะพานคลองเกาะผี เชื่อมระหว่างสะพานหิน ต.ตลาดเหนือ กับถนนศักดิเดชน์ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการหาผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยจะมีขั้นตอนการประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-auction)
ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2556 นี้ เหตุที่ล่าช้ากว่ากำหนดเนื่องจากไม่มีผู้ยื่นซองประมูล เพราะราคาค่อนข้างต่ำ จึงได้มีการปรับเพิ่มงบประมาณจากเดิม170 ล้านบาท เป็น 176.6 ล้านบาท ซึ่งหลังจากได้ผู้รับจ้างแล้วจะใช้เวลาประมาณก่อสร้างประมาณ 720วัน
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานคลองเกาะผี เป็นโครงการที่ต้องการแก้ปัญหาการจราจรในตัวเมืองภูเก็ตทางตอนใต้ ที่เชื่อมระหว่างสะพานหิน ต.ตลาดเหนือ กับถนนศักดิเดชน์ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเทศบาลนครภูเก็ตและจังหวัดภูเก็ตได้ร่วมกันผลักดันมาตั้งแต่ปี 2535 แต่ไม่สามารถก่อสร้างได้เนื่องจากติดปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม จนกระทั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ผลักดันและจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมจนสามารถผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมและแห่งชาติและ ครม.ได้อนุมัติการใช้ป่าชายเลนคลองเกาะผี เพื่อก่อสร้างถนนได้
ทั้งนี้รูปแบบของสะพาน จะสร้างเป็นสะพานมีความยาว 700 เมตร แบ่งเป็นความยาวสะพาน 495เมตร และถนนเชื่อมสะพาน (คอสะพาน) ข้างละ 123 เมตร เป็นสะพาน 4 ช่องทางจราจรไป  กลับ สูง 3เมตร กว้าง 8.5 เมตร มีช่องว่างระหว่างสะพาน 5 เมตร เพื่อเปิดช่องให้แสงสว่างส่องไปถึงป่าชายเลน และมีทางเดินเท้าข้างละ 1.9 เมตร 

--------------------------------------------------
เทศบาลนครภูเก็ต จัดอบรม เสริมสร้างศักยภาพบุคลากร ในการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

          เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (27 มิ.ย.56) ที่ห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลนครภูเก็ต นายกวี ตันสุคตานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เป็นประธานเปิดการอบรม โครงการฝึกอบรม หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพในการจัดทำแผนปฏิบัติการในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครภูเก็ตมีผู้แทนจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสภาเทศบาลนครภูเก็ต วิทยากรจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เข้ารับการอบรม ร่วมในพิธีเปิด
          นายธวัชชัย ทองมั่ง ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.2550 กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งพื้นที่มีหน้าที่ป้องกันและบรรเทาภัยในพื้นที่ของตน โดยมีผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งพื้นที่เป็นผู้รับผิดชอบในฐานะผู้อำนวยการท้องถิ่น จึงถือเป็นภารกิจสำคัญขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะต้องเตรียมความพร้อมในการป้องกันสาธารณภัย และพัฒนาขีดความสามารถในการเผชิญเหตุ และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังจากสถานการณ์ภัยยุติ  จึงกล่าวได้ว่าแผนปฏิบัติการในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของประชาชน ที่ต้องเผชิญภัยพิบัติให้สามารถฟื้นคืนวิถีชีวิตกลับสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว และจะนำมาซึ่งเสถียรภาพและความมั่นคงให้กับจังหวัดภูเก็ต
          สำหรับวัตถุประสงค์ของการอบรมในครั้งนี้ เป็นโครงการด้านพัฒนาด้านบุคลากรของเทศบาลนครภูเก็ต ในการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำแผนปฏิบัติการในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยให้ผู้เข้าร่วมการอบรมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการจัดทำแผนปฏิบัติการฯ รวมถึงได้นำข้อเสนอแนะแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการมาประกอบการจัดทำแผนขององค์กร โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งเป็นผู้เข้ารับการอบรมจากส่วนราชการต่างๆ ของเทศบาลนครภูเก็ต จำนวน 40 คน
โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากสำนักนโยบายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในเรื่องของการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นอย่างดี มาดำเนินการฝึกอบรมให้ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า การฝึกอบรมตามโครงการฯ ดังกล่าว ในครั้งนี้ จะบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด
ด้านนายกวี ตันสุคตานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวเสริมว่า การอบรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการจัดทำแผนปฏิบัติการในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลนครภูเก็ต ในครั้งนี้ เป็นการสร้างทักษะความรู้ และการตระหนักถึงความสำคัญของการจัดทำแผนปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทั้งขององค์กรตนเอง และร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบข้างเคียงอย่างเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ รวมทั้งมีความสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต พ.ศ.2553-2557 ซึ่งจะช่วยในการลดผลกระทบจากการเกิดสาธารณภัยที่มีต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าโครงการฯ นี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเตรียมความพร้อมของเทศบาล อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่

---------------------------------------------------------------------
กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีภูเก็ตให้ความรู้กลุ่มสตรีเทศบาลตำบลวิชิตอำเภอเมืองเรื่องการเขียนโครงการขอรับเงินสนับสนุนปัจจุบันอนุมัติแล้วกว่า19โครงการ

          เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27มิถุนายน 56 ณ ห้องประชุม เทศบาลตำบลวิชิต  อำเภอเมืองภูเก็ต นาง ณัฐพร ผาณิตพิเชษฐ์วงศ์ ประธานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีภูเก็ต เป็นประธานแนะแนวทางการเขียนโครงการการขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมีนาง ปุณยวีร์ ทองศิริเศรษฐ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต คณะผู้บริหารเทศบาลตำบลวิชิต  และคณะกรรมการกองทุนสตรีตำบลวิชิตอำเภอเมืองภูเก็ต เข้าร่วม
         นางณัฐพร กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีภูเก็ตได้มีการอนุมัติเงินแก่สมาชิกที่ได้เขียนโครงการเพื่อขอกู้ยืมเงินไปพัฒนาอาชีพหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนแล้วกว่า19โครงการเป็นเงินกว่า2ล้านบาทวึ่งขณะนี้เมื่อมีการส่งโครงการเข้ามาทางคณะกรรมการจะได้ตรวจสอบและอนุมัติเงินต่อไปสำหรับปัญหาที่พบคือในเรื่องของการเขียนโครงการที่พบว่า กลุ่มสตรียังขาดความรู้ในเรื่องดังกล่าวจึงต้องมีการให้ความรู้ในเรื่องของการเขียนโครงการซึ่งในวันนี้ก็เป็นการให้ความรู้ในการเขียนโครงการของตัวแทนในตำบลวิชิตโดยมีวิทยากรจากสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองเป็นผู้ให้ความรู้และตอบข้อสงสัยของสมาชิกที่ได้มาอบรมในวันนี้  ทั้งนี้รัฐบาลชุดปัจจุบันมีนโยบายในการพัฒนาสตรี ด้วยการจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน ดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดดอกเบี้ยในการพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ การพัฒนาไปสู่การสร้างสวัสดิการ หรือส่งเสริมให้สตรี รวมถึงการพัฒนาศักยภาพสตรีและเครือข่ายสตรี การรณรงค์ให้สังคมเข้าใจปัญหาสตรีในทุกมิติ การคุ้มครองพิทักษ์สิทธิสตรี การพัฒนาบทบาทและสร้างภาวะผู้นำสตรี การแก้ไขปัญหาสตรีขององค์กรต่าง ๆ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ คุณภาพชีวิต รวมทั้งการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมสตรีทั่วประเทศ สำหรับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีภูเก็ต ได้รับงบประมาณจำนวน 70 ล้านบาท ขณะนี้มีเงินโอนเข้ากองทุนแล้ว20 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเพื่อให้การขับเคลื่อนกองทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทางคณะกรรมการกองทุนในระดับจังหวัดได้ลงไปให้ความรู้ การเขียนโครงการที่ดีมีลักษณะอย่างไร เพื่อขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่สำคัญกลุ่มสตรีในระดับตำบลจะได้ยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนมาต่อยอดทำให้สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้เพิ่มขึ้นด้วย

-------------------------------------------------------------
รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อม ผกก.เมืองภูเก็ต รุดเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเมืองภูเก็ต ที่ถูกผู้ต้องหาค้ายาเสพติดขับรถพุ่งชนจนได้รับบาดเจ็บ ยันเมื่อหายเป็นปกติหน้าปราบปรามพวกค้ายาเสพติดต่อ 
      
          เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (27 มิ.ย.56) ที่ห้องศัลยกรรมกระดูก โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ถนนเยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.เสน่ห์ ยาวิละ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เข้าเยี่ยมให้กำลังใจแก่ จ.ส.ต.นพดล บุญยะพิจิตร ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ที่ถูกนายทวีพงษ์ เกิดผล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/26 ถ.พัฒนาท้องถิ่น ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กน 7091 ภูเก็ต พุ่งชนจนแขนขวาหัก ซี่โครงหัก 1 ซี่ ขณะเข้าจับกุมยาเสพติด ที่สามแยกท่าแครง ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) พร้อมพูดคุยสอบถามอาการ และมอบกระเช้า และมอบเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน โดยมี นางอุสา บุญยะพิจิตร อายุ 53 ปี มารดาเป็นผู้รับมอบ
          พ.ต.อ.เสน่ห์ ยาวิละ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเสี่ยงในการทำงานตลอดเวลา แต่โชคดีเท่าที่สอบถามอาการขณะนี้ จ.ส.ต.นพดล อาการปลอดภัยแล้ว ได้รับบาดเจ็บแขนขวาหัก ซี่โครงขวาหัก 1 ซี่ ใต้คาง-ริมฝีปาก เย็บ ซึ่งในวันนี้ (27 มิ.ย.) มีการมอบกระเช้าบำรุงร่างกาย-เงินสดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยผู้บังคับบัญชาก็มีความห่วงใยในกรณีที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
          ด้าน จ.ส.ต.นพดล บุญยะพิจิตร ผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยนาทีชีวิตว่า คนร้ายที่ก่อเหตุขับรถยนต์เก๋งชนตนครั้งนี้ ซึ่งเป็นคนร้ายที่เกี่ยวข้องกับยาเพสติดมีประวัติขายยาเพสติด ซึ่งตำรวจชุดสืบสวนได้เฝ้าดูพฤติกรรมมานานแล้ว จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ก็ได้ขอตรวจค้น ในจังหวะนั้นตนยืนอยู่ที่หน้ารถ คนร้ายเหยียบคันเร่งอย่างรวดเร็ว ตนตัดสินใจกระโดดขึ้นหน้ากระโปรงหน้ารถ หากไม่กระโดดขึ้นกระโปรงหน้ารถอาจะทำให้ตนเสียชีวิตก็ได้ จากนั้นคนร้ายก็ขับรถกระแทกกับเสาไฟจราจร ร่างของตนติดคาเสาไฟ ทำให้แขน และซี่โครงหัก จากนั้นคนร้ายก็วิ่งหลบหนี และถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ก่อนคนร้ายถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด              จ.ส.ต.นพดล กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนหายแล้วจะกลับกวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจังต่อไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมิได้ทำให้ตนท้อแท้ในการปราบปรามยาเสพติดแต่อย่างใด ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้ต่อต้านให้สิ้นซาก เพื่อให้ลูกหลานห่างไกลจากยาเสพติดทุกชนิด และขอขอบคุณกำลังใจจาผู้บังคับบัญชาที่เป็นกำลังใจให้เสมอ

-------------------------------------------------------------

รองผู้ว่าฯภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพิพาทซอยกิ่งแก้ว หลังชาวบ้านร้องผ่านศูนย์ดำรงธรรมให้ตรวจสอบการบุกรุกถมดินในป่าชายเลนและก่อสร้างรั้วกำแพงปิดกั้นเส้นทางลงสู่ทะเล

เมื่อเวลา 10.30 วันนี้ (27 มิ..56) นาย สมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เมือง จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นาย ภูดิษ รักษาราษฎร์ นายกเทศบาลรัษฎา นาย ยศกฤต ชูศรี นักวิชาการที่ดินชำนาญการ สำนักงานที่ดิน นาย ประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม นาย พงศภัค เอียดสกุล เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณป่าเลนคลองบางชีเหล้า – คลองท่าจีน ซอยกิ่งแก้ว 12 หมู่ที่ 3ตำบลรัษฎา อำเภอหลังจากที่มีชาวบ้านในพื้นที่ได้ร้องเรียนว่า นาย อนุรักษ์ ธรรมประดิษฐ์ ได้บุกรุกป่าชายเลนและมีการสร้างรั้วกั้นทางลงสู่ทะเล ทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าไปหาสัตว์น้ำในพื้นที่ป่าชายเลนได้ จึงขอให้ดำเนินการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าด้านหน้าทางเข้าได้มีการสร้างประตูรั้วสังกะสีปิดล็อคด้วยกุญแจ และล้อมรั้วลวดหนามปิดกั้นไว้อย่างแน่นหนา บุคคลทั่วไปไม่สามารถเข้าออกได้ ส่วนภายในมีการนำดินเข้ามาถมเพื่อขยายพื้นที่ มีการนำเสาเข็มจำนวนมากวางกองอยู่จำนวนมาก เตรียมปักมาทำเป็นแนวป้องกันตลิ่งเพื่อถมดินออกไปอีก
ขณะที่สิ่งปลูกสร้างนั้น มีการก่อสร้างบ้าน 1 หลัง และเพิงสังกะสีใช้เก็บของอีก 1 หลัง มีการนำเรือขึ้นมาซ่อมแซม มีนาย กุมภา ธรรมประดิษฐ์ อ้างว่าเป็นเจ้าของ และนำสค.1 มาแสดง เจ้าหน้าที่จึงเชิญเข้าไปประชุมที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
นาย สมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวว่า จากที่ได้ลงไปตรวจสอบตามข้อร้องเรียนพบว่ามีการปรับสภาพจากเดิมมากพอสมควร มีการขนดินมาถมลงทะเล รวมทั้งยังสร้างรั้วลวดหนามปิดกั้นทางลงสู่ทะเล ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ไม่สามารถเข้าไปตกปลาและจับสัตว์น้ำได้ โดยสิ่งที่เกิดขึ้นผู้ครอบครองที่ดินไม่ใช่เข้ามาอาศัยอยู่ในลักษณะแบบชาวบ้าน แต่เป็นการเข้ามาเริ่มประกอบอาชีพแบบเชิงธุรกิจมากกว่า สังเกตได้จากมีการต่อเรือสปีดโบ๊ทเอาไว้ ประกอบกับที่ดินบริเวณซอยกิ่งแก้วเกือบทั้งหมดเป็นพื้นที่อยู่ในเขตป่าเลน อีกทั้งชาวบ้านที่เข้ามาอาศัยจับจองเป็นระยะเวลานานกว่าหลายสิบปี ก็ถือว่าทางภาครัฐได้พยายามไกล่เกลี่ยมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในกรณีของนายอนุรักษ์ ถือว่าเข้ามาปรับเปลี่ยนที่อยู่เกินกว่าวิถีชีวิตชุมชนปกติ จึงถูกชาวบ้านร้องเรียนเข้ามาที่ทางจังหวัด
ภายหลังการประชุม รองผู้ว่าราชการสั่งดำเนินการ 5 ข้อ คือ 1. มอบให้เจ้าพนักงานป่าไม้ฯ ขอยื่นคำร้องคัดสำเนาคำสั่งศาล เพื่อดูว่าสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง 2. เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดต้องเข้าไปตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ สค.1 ว่ามีการได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ 3.ขอให้นาย อนุรักษ์ ผู้ครอบครองที่ดิน ได้มีโอกาสยื่นเอกสารต่างๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมายให้กับทางคณะกรรมการฯ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาคดี 4. ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ร่วมกับฝ่ายปกครอง เข้าไปช่วยเหลือที่ดินในการเข้าไปตรวจสอบรังวัด เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีการขัดขวางจากชาวบ้านในพื้นที่ และ5. ทรัพยากรธรรมชาติฯ กรมเจ้าท่า และ สสจต้องเข้าไปดูเรื่องการตักดิน-ถมดิน เพราะที่ผ่านมาเริ่มเกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย จนทำให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมอย่างมาก
          ด้าน นาย กุมภา ธรรมประดิษฐ์ ตัวแทนอ้างผู้ครอบครองได้นำเอกสารสิทธิ์ สค.1.มามอบให้คณะกรรมการฯ พร้อมเปิดเผยว่า ที่ดินดังกล่าวแต่เดิมมี นาง สมศรี อุดมทรัพย์ เป็นผู้ครอบครองเอกสารสิทธิ์ สค.1. มีเนื้อที่จำนวนกว่า 300 ไร่ หลังจากนั้นก็ไม่ได้เข้ามาพัฒนาหรือปลูกสิ่งปลูกสร้าง ประกอบกับลูกชายของตนได้รู้จักกับเจ้าของคนเดิม จึงเข้ามาดูแลและขออาศัยได้ประมาณ 10 – 20 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามหากทางจังหวัดจะเข้ามาดำเนินการตรวจสอบ ทางฝั่งตนก็ยินยอม อีกทั้งยังมองว่าเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากต้องการให้ปัญหาที่ค้างคามาอย่างยาวนาน สามารถหาทางออกให้กับครอบครัวตน หากเจ้าหน้าที่ที่ดิน ต้องการเข้าไปดำเนินการรังวัดที่ดิน ก็จะอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่

------------------------------------------------------------------------

ขุนศึกทะเลใต้ภูเก็ตเอฟซีเปิดบ้านเอาชนะราชบุรี มิตรผล เอฟซี 2 ประตูต่อ 0 ในการแข่งขันฟุตบอลมูลนิธิไทยคม ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 26 มิ.ย. 56 ที่สนามสุระกุล อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต มีแฟนบอลจำนวนมากเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2013 เพื่อเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งวันนี้ทีมภูเก็ตเอฟซีเจ้าบ้านซึ่งเพิ่งเซ็นสัญญา 3 นักเตะใหม่อย่างวัชระ เกรียรัม โกเศษ เกิดสุข และจักรพงศ์ สมบูรณ์มาร่วมทัพ เปิดบ้านรับการมาเยือนของราชบุรี มิตรผลเอฟซี
เปิดเกมครึ่งแรกราชบุรี มิตรผล เอฟซี ทีมเยือนเป็นฝ่ายเขี่ยบอล ก่อนจะผลัดกันบุก แต่ไม่สามารถทำประตูกันได้ จนกระทั่งหมดเวลาครึ่งแรกเสมอกันไป 0 ประตู ต่อศูนย์ มาถึงครึ่งหลัง เจ้าบ้านภูเก็ตเอฟซีเป็นฝ่ายเปิดบอล เกมยังคงสูสี กระทั่งผ่านไป นาทีที่ 58 เจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำก่อน 1 ประตูต่อ 0 จาก เอกอาทิตย์ สมจิตรผู้เล่นหมายเลข 15 ที่แปลูกด้วยเท้าซ้ายผ่านศีรษะผู้รักษาประตูเข้าชนตาข่ายท่ามกลางเสียงเฮของแฟนบอลทั่วสนาม จากนั้นราชบุรี มิตรผลเอฟซีกลับมาบุกหนัก แต่ไม่สามารถทำประตูตีเสมอได้ กระทั่งในนาทีที่  76 เจ้าบ้านได้ประตูอีกครั้งจากการดึงบอลหลบผู้รักษาประตูในระยะประชิดของ ชนะ สนวิเศษณ์ หมายเลข 13 ก่อนแปบอลด้วยเท้าซ้ายผ่านมือผู้รักษาประตูทิ้งห่างเป็น 2 ประตูต่อ 0 จบเกมเจ้าบ้านภูเก็ตเอฟซีผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปอย่างสวยงาม

-----------------------------------------------------------------

ตำรวจยิงสกัดคนร้ายสนั่นกลางเมืองภูเก็ตหลังผู้ต้องหาหนุ่มควบเก๋งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนขณะขอตรวจค้นตรวจสอบภายในรถพบยาเสพติดทั้งยาบ้า ยาไอซ์เพียบ.

เมื่อเวลาประมาณ 18.00 ของวันที่ 26 มิ.ย. 56 น.พ.ต.อ. อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตพร้อมด้วยพ.ต.อ. เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้กำกับการสถานีตำรวจเมืองภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตนำโดย พ.ต.ท. ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ติดตามขอตรวจค้นรถบุคคลต้องสงสัยหลังสืบทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คนร้ายรู้ตัวได้ขับรถพุ่งจนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เจ้าที่ชุดสืบสวนได้ใช้อาวุธปืนยิงสกัดคนร้ายที่พยายามหลบหนีจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาขวา โดยเหตุเกิดที่บริเวณสามแยกท่าแครง ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้าแจ็สสีบรอนด์เงิน ป้ายทะเบียน กน.7091 ภูเก็ต ชนอัดอยู่กับเสาสัญญาณไฟจราจรจนหัก ขณะที่สภาพรถด้านหน้าพังยับ ตรวจสอบบริเวณรถพบมีรอยกระสุนปืนที่กระจกด้านหน้า 1 รู  บริเวณกระจกรถด้านซ้ายมือ 1 รู บริเวณประตูด้านข้างคนขับจำนวน 1 รู และบริเวณกันชนท้ายมีรอยกระสุน 1 รู  ใกล้กันประมาณ 5 เมตรพบรถยนต์กระบะโตโยต้า 4 ประตู สีบรอนด์เงิน ป้ายทะเบียน ฆฮ6290 กรุงเทพ ถูกชนบริเวณประตูด้านซ้ายมือชนไม่สามารถปิดได้
          สอบถามในเบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วประกอบด้วย จ.ส.ต. นพดล บุญยะพิจิตร เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเมืองภูเก็ต ซึ่งถูกรถคนร้ายขับพุ่งชนขณะที่กำลังขอเข้าตรวจสอบ ส่วนอีกคนคือนาย ทวีพงษ์ เกิดผล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 /26 ถนนพัฒนาท้องถิ่น ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาขวา ขณะขับรถพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามขอตรวจค้น และจากการตรวจสอบภายในรถคันที่เกิดเหตุ ภายในรถพบมียาเสพติดประเภทยาบ้า และยาไอซ์อยู่จำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่นำของกลางทั้งหมดตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป