เทศบาลตำบลวิชิต รับสมัครแข่งขันพายเรือแคนู ประจำปี 2554 ชิงเงินรางวัล กว่า 25, 000 บาท สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ - 22 กรกฎาคม 2554
นายกรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต เปิดเผยว่า ด้วยเทศบาลตำบลวิชิต กำหนดจัดการฝึกอบรมและแข่งขันพายเรือแคนู ประจำปี 2554 ขึ้นเพื่อเพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนในชุมชนร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติ และเป็นแนวทางในการสร้างอาชีพให้แก่ประชาชนในชุมชน ด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่
โดยแบ่งประเภทการแข่งขันกีฬาพายเรือแคนู แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือประเภทนักเรียนรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี (พ.ศ. 2542) รับไม่เกิน 18 ทีม ทีมละ 2 คน ประเภทนักเรียนรุ่นอายุ 13 ปีขึ้นไป (พ.ศ. 2541)
รับไม่เกิน 18 ทีม ทีมละ 2 คน ประเภทชุมชนในเขตตำบลวิชิต รับจำนวน 18 ทีม ทีมละ 2 คน และประเภทประชาชนทั่วไป ทีมละ 2 คน โดยประเภทนักเรียนรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี และรุ่นอายุ 13 ปีขึ้นไป รับสมัครตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 19 กรกฎาคม 2554 ณ กองการศึกษา สำนักงานเทศบาลตำบลวิชิต ในวันและเวลาราชการ ประเภทชุมชนในเขตเทศบาลตำบลวิชิต รับสมัครตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2554 ณ กองการศึกษา สำนักงานเทศบาลตำบลวิชิต ในวันและเวลาราชการ ประเภทประชาชนทั่วไป รับสมัครตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2554 ณ กองการศึกษา สำนักงานเทศบาลตำบลวิชิต ในวันและเวลาราชการ และวันที่ 24 กรกฎาคม 2554 ณ คลองมุดง หมู่ที่ 6 ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ระหว่างเวลา 08.30 – 09.00 น.
ส่วนการฝึกอบรมและการแข่งขัน กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม 2554 เวลา 12.30 –
16.30 น. ฝึกปฏิบัติการพายเรือแคนู ณ คลองมุดง ส่วนวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2554 เวลา 08.30 – 16.30 น. แข่งขันพายเรือแคนูเชิงอนุรักษ์เพิ่มทักษะการอบรม ณ คลองมุดง หมู่ที่ 6 ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
สำหรับรางวัลการแข่งขัน ประเภทนักเรียนอายุไม่เกิน 12 ปี, ประเภทชุมชนในเขตเทศบาล
ตำบลวิชิต และประเภทนักเรียนอายุไม่เกิน 13 ปี ชนะเลิศ, รองชนะเลิศอันดับ 1, รองชนะเลิศอันดับ 2 รับเงินรางวัล 2, 500 / 2, 000 และ 1, 500 บาทตามลำดับ พร้อมรับถ้วยรางวัลทุกรางวัล ส่วนประเภท
ประชาชนทั่วไป (open) ชนะเลิศ, รองชนะเลิศอันดับ 1, รองชนะเลิศอันดับ 2 รับเงินรางวัล 3, 000 /2,500 และ 2, 000 บาท ตามลำดับ พร้อมถ้วยรางวัลเช่นกัน
ผู้สนใจสมัครส่งใบสมัครพร้อมรูปถ่าย จำนวน 1 รูป พร้อมสำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาทะเบียนบ้าน หรือหนังสือรับรองจากสถานศึกษา (กรณีนักเรียนที่อยู่ในสถานศึกษา) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองการศึกษา เทศบาลตำบลวิชิต โทร 076-525100 ต่อ 170 , 172 หรือดาวโหลดระเบียบการแข่งขันละใบสมัครได้ที่ http://www.phuket-vichit.go.th/
*** เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต ข่าว/พิมพ์
----------------------------------
สรรพากรพื้นที่สาขาเมืองภูเก็ต 1 เชิญชวนผู้ประกอบการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด. 51) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2554 ก่อนที่จะหมดเวลายื่น 31 สิงหาคมนี้
นางสาวประภาพรรณ เจนการ เจ้าพนักงานสรรพากรชำนาญงาน รักษาการในตำแหน่งสรรพากรอำเภอ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาเมืองภูเก็ต 1 เปิดเผยว่า ด้วยขณะนี้ถึงกำหนดระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด. 51) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2554 (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2554) ผู้ประกอบการในท้องที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่อง การยื่นแบบชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด. 51) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2554 จะต้องมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีภายใน 2 เดือน (ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2554)
โดยผู้ประกอบการสามารถยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี ได้หลายช่องทาง อาทิ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาเมืองภูเก็ต 1 ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองภูเก็ต ถ. เยาวราช ต. ตลาดใหญ่ อ. เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต โทร. 076-212360 ภายในวันและเวลาราชการ หรือที่ธนาคารพาณิชย์ไทย โดยผู้เสียภาษีจะต้องยื่นแบบฯ และชำระภาษีที่ธนาคารในท้องที่ที่ผู้เสียภาษีมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ โดยมีหลักเกณฑ์คือ ต้องเป็นแบบฯ ที่พิมพ์ชื่อและที่อยู่ ที่กรมสรรพากรจัดทำขี้นและจัดส่งให้ โดยมีเงินภาษีที่จะต้องชำระพร้อมกับการยื่นแบบฯ และต้องชำระภาษีทั้งจำนวนและยื่นแบบภายในกำหนดวเลาดังกล่าวข้างต้น หรือยื่นแบบได้ทางระบบอินเตอร์เน็ต ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ที่ http://www.rd.go.th/ ซึ่งหากผู้ประกอบการที่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว และไม่ยื่นแบบและชำระภาษีภายในกำหนด จะเป็นผู้มีความผิดซึ่งนอกจากจะเสียเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากรแล้วยังจะถูกเปรียบเทียบกำหนดค่าปรับทางอาญาด้วย
จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่เข้าหลักเกณฑ์ยื่นแบบและชำระภาษีภายในกำหนด หากมีข้อสงสัยประการใดสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ call center 1161
*** เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว/พิมพ์
-------------------------------------
ภูเก็ตส่งนายกเทศมนตรีนครภูเก็ตคัดเลือกผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับภาคใต้
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (8 ก.ค. 54) ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้การต้อนรับคณะอนุกรรมการคัดเลือกสตรีผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดีเด่น ระดับเขตภาคใต้ นำโดย นายภิญโญ สายนุ้ย รองประธานคณะอนุกรรมการเพื่อรับฟังข้อมูลและลงพื้นที่ เก็บข้อมูล โครงการส่งเสริมบทบาทสตรีผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสู่ผู้นำทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค. 2554
ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ได้ส่งนางสาวสมใจ สุวรรณศภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เข้าร่วมคัดเลือกโครงการส่งเสริมบทบาทสตรีผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องสู่ผู้นำทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
อย่างไรก็ตาม หลังจากคณะอนุกรรมการคัดเลือกรับฟังข้อมูลจากส่วนราชการต่าง ๆ แล้ว ทางคณะฯ จะลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลประกอบการพิจารณาคัดเลือก
***โสภณ เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว เสงี่ยม เอียดตน /พิมพ์
----------------------------------------
เยาวชนภูเก็ตร่วมใจปฏิบัติธรรมตามโครงการ “อิ่มบุญ 999 วัด”
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ที่วัดสะปำ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางวิไล ธนพรตัณฑัยย์ ตัวแทน นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีเปิดโครงการอิ่มบุญ 999 วัด เยาวชนปฏิบัติธรรม 84,000 คน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ เนื่องในพระวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 โดยมี นางวลัยลักษณ์ เลิศสกุล รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีภูเก็ต ตลอดจนคณะครูอาจารย์ นักเรียน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นางวลัยลักษณ์ เลิศสกุล รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีภูเก็ต กล่าวรายงาน ว่า การเปิดค่ายอบรมโครงการอิ่มบุญ 999 วัด ตั้งเป้าเยาวชนเข้าร่วมปฏิบัติธรรม 84,000 คน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ในครั้งนี้ในส่วนของนักเรียนโรงเรียนสตรีภูเก็ต มีตัวแทนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 เข้ารับการอบรม จำนวน 85 คน มีครู 8 คนและมีพระวิทยากรให้การอบรมระหว่างวันที่ 8-10 ก.ค.2554 รวมระยะเวลา 3 วัน 2 คืน โดยมีอาศัยสื่อการสอนที่แปลกใหม่ เพื่อให้นักเรียนมีความสนใจในหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นการเน้นในด้านคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน
ด้านนางวิไล ในนามตัวแทน นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่า สภาพความเสื่อมโทรมทางด้านจิตใจมีมากขึ้น สภาพความเป็นจริงค้นพบได้ยากในตัวบุคคล แต่กลับมีความเจริญด้านวัตถุเข้ามาแทนที่ ความสงบสุขในสังคมกำลังลดน้อยลงไปทุกขณะ คดีอาชญากรรม ปัญหายาเสพติด ปัญหารักในวัยเรียน ปัญหาที่นักเรียนขาดความรับผิดชอบ ฯลฯ ซึ่งเกิดจากหลายองค์ประกอบ หากปล่อยให้ให้ปัญหาเหล่านี้เป็นไปตามยถากรรมจะกลายเป็นปัญหาที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของสังคมในอนาคต การจัดค่ายอบรมตามโครงการ “อิ่มบุญ 999 วัด” เยาวชนปฏิบัติธรรม 84,000 คน เฉลิมพระเกียรติฯ ถือเป็นการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม โดยอาศัยหลักธรรมในทางพุทธศาสนา ซึ่งจะทำให้เยาวชนเปลี่ยนแนวคิดและพฤติกรรมเสียใหม่ และยังเป็นเกราะป้องกันให้เยาวชนห่างไกลและรู้เท่าทันปัญหาที่เกิด นับเป็นการแก้ปัญหาที่ได้รับผลตรงเป้าหมายอย่างยิ่ง
*** สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
--------------------------------------------
ก.พ.ค. ร่วมกับ สำนักพิทักษ์ระบบคุณธรรม สำนักงาน ก.พ. เดินสาย ให้ความรู้การพิทักษ์ระบบคุณธรรม การอุทธรณ์และร้องทุกข์ แก่ข้าราชการในส่วนภูมิภาค
เมื่อเวลา 09.00 น. วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ที่ห้องสวนหลวง โรงแรมคาทีน่า อำเมือง จังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการ ก.พ.ค. สัญจรพบข้าราชการ ส่วนภูมิภาคตามโครงการพัฒนาระบบคุณธรรมในระบบราชการพลเรือน โดยมี นางทัศนีย์ ธรรมสิทธิ์ กรรมการ ก.พ.ค. ตลอดจน หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ซึ่งปฏิบัติงานในเขตจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 100 คน
นางทัศนีย์ กล่าวว่า ก.พ.ค. ได้ร่วมกับ สำนักพิทักษ์ระบบคุณธรรม สำนักงาน ก.พ. เดินสายให้ความรู้เกี่ยวกับการพิทักษ์ระบบคุณธรรม การอุทธรณ์และร้องทุกข์ แก่ข้าราชการในส่วนภูมิภาค ในโครงการ "ก.พ.ค. สัญจรพบข้าราชการส่วนภูมิภาค" ตามโครงการพัฒนาระบบเครือข่ายการพิทักษ์ระบบคุณธรรมในระบบราชการ
สำหรับการบรรยายภายใต้หัวข้อ ก.พ.ค. สัญจรพบข้าราชการ ส่วนภูมิภาคตามโครงการพัฒนาระบบคุณธรรมในระบบราชการพลเรือนในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่และเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้แก่ข้าราชการพลเรือนสามัญ อันจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งพัฒนาระบบการพิทักษ์ระบบคุณธรรมต่อไป รวมถึงสร้างเครือข่ายการพิทักษ์ระบบคุณธรรมในระบบราชการพลเรือนในส่วนภูมิภาคด้วย
*** สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
-----------------------------------------
“ต้นรักแห่งแผ่นดิน” นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติในหลวง สัญจรที่ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 8-10 ก.ค.54
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 8 ก.ค.ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัลภูเก็ต นาย วีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการสัญจรเทิดพระเกียรติ “ต้นรักแห่งแผ่นดิน” ซึ่งทางกองทัพบกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 ก.ค.54 g;]k 10.00-20.00 o” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 มีพันเอกอภิไธย สว่างภพ รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกทุ่งสง พ.ต.อ. พีรยุทธ์ การะเจดีย์ รอง ผกบ.ภ.จว.ภูเก็ต นาวาเอกปริญญาธรรม พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือนทัพเรือภาคที่ 3 นายปรัสย์ พุกโพธิ์ ผู้จัดการห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาภูเก็ต และแขกผู้มีเกียรติ รวมถึงนักเรียน นักศึกษา ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วม
พันเอกอธิวัฒน์ เฟื้องสังข์ ผู้แทนจากกองกิจการพลเรือ กองทัพเรือภาคที่ 4 กล่าวรายงานว่า กองทัพบกเป็นหน่วยงานในการน้อมนำแนวพระราชดำริมาปฏิบัติ และมีส่วนร่วมในการจัดตั้ง และดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยจากทุกภาคส่วนได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และร่วมกันปกป้อง เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนเป็นการสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ
การจัดนิทรรศการในครั้งนี้เพื่อนำเสนอเนื้อหาสาระ และองค์ความรู้โดยจัดบอร์ดนิทรรศการควบคู่กับระบบวิดิทัศน์ และกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ที่ทรงคิดค้น ดัดแปลง แก้ไขทฤษฎี และวิธีการต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ของพสกนิกร และระบบนิเวศ เพื่อให้ประชาชนได้น้อมนำไปปฏิบัติใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน อาทิโครงการจัดสร้างฝายต้นน้ำลำธาร ตามแนวพระราชดำริ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นาราธิวาส โครงการพัฒนาพื้นที่ราบเชิงเขาจังหวัดสระแก้ว-ปราจีนบุรี ตามพระราชดำริ โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในรูปแบบผ่านบอร์ดนิทรรศการ และระบบมัลติมีเดีย แบบจำลองฝายต้นน้ำลำธาร ตามแนวพระราชดำริ นอกจากนี้ยังมีห้องจำลองฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ และจุดให้ประชาชนได้ถ่ายทอดความรู้สึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผ่านจอ LED ตู้คาราโอเกะต้นรักแห่งแผ่นดิน ประชาชนได้ร่วมถ่ายทอดความจงรักภักดีแด่พระองค์ท่านผ่านเสียงเพลง บทเพลงรักแห่งแผ่นดิน เพื่อนำภาพและเสียงของประชาชนทั่วประเทศ มารวบรวมทำเป็นมิวสิควีดีโอ และเรียบเรียงเพลงใหม่ เพื่อนำทูลเกล้าถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ร่วมสนุกกับกิจกรรมเกมส์สันทนาการต่างๆ การประกวดดนตรีสากลร่วมสมัยระดับมัธยมศึกษา (รอบคัดเลือกภาคใต้) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การประกวดขับร้องเพลิงลูกทุ่งคาราโอเกะ พันเอกอธิวัฒน์ กล่าวในที่สุด
***สารภี ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว
-------------------------------------------------
ขนส่งฯ ภูเก็ต ห้าม จยย.พ่วงข้างบรรทุกผู้โดยสาร ตรวจพบดำเนินการตามกฎหมาย ระบุไม่มีความปลอดภัยเพียงพอสำหรับผู้โดยสาร
นาย ธีรยุทธ์ ประเสริฐผล ขนส่งจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ด้วยปัจจุบันได้มีการนำรถจักรยานยนต์มาต่อเติมดัดแปลงสภาพเสริมพ่วงข้าง และนำมารับจ้างบรรทุกคนโดยสาร โดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้โดยสาร และประชาชนผู้ใช้รถรายอื่นได้ อีกทั้งยังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการขนส่งที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย
สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ขอแจ้งว่าการนำรถจักรยานยนต์มาดัดแปลงสภาพ เสริมพ่วงข้าง โดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน เป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 60 ต้องระว่างโทษปรับไม่เกินสองพันบาท และรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้วไม่สามารถนำรถไปใช้เพื่อรับจ้างบรรทุกคนโดยสารได้ เนื่องจากไม่มีความปลอดภัยเพียงพอจะก่อให้เกิดอันตรายแก่คนโดยสาร ใช้ได้เฉพาะการบรรทุกสิ่งของส่วนตัวเท่านั้น
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดจากรถจักรยานยนต์พ่วงข้างและคุ้มครองผู้ประกอบการขนส่งที่ประกอบการขนส่งผู้โดยสารที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงขอความร่วมมือจากผู้ที่ครอบครองรถจักรยานยนต์ ห้ามมิให้นำรถไปดัดแปลงต่อเติมเป็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างโดยผิดกฎหมาย หรือนำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่ได้ต่อเติมแล้วไปใช้ในการรับส่งผู้โดยสารเป็นอันขาดมิฉะนั้นหากตรวจพบ สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นายธีรยุทธ์ กล่าวในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป