วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ข่าวประจำวันที่ 16 ก.ค..54

Setpoint group จัดมหกรรมยานยนต์สุดหรูชั้นนำจากต่างประเทศ 14-20 ก.ค.นี้ที่เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต มอบ 50,000 สนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ปี 2555

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 14 ก.ค.2554 ที่ผ่านมา ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงาน Luxury Cars by Setpoint group  ซึ่งทางเซ็ทพร้อยท์ กรุ๊ป จำกัด จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 14-20 ก.ค.2554 พร้อมรับมอบเงินสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ปี 2555 จำนวน 50,000 บาท จากบริษัทเซ็ทพร้อยกรุ๊ป จำกัด มีพล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง นายธนัท ทองโสมแก้ว กรรมการผู้จัดการบริษัท เซ็ทพร้อยท์ กรุ๊ป จำกัด ฝ่ายบริหาร และแขกผู้มีเกียรติ รวมถึงนักท่องเที่ยว และประชาชนผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วม
นายธนัท กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ จัดงานโชว์รถสัญจรต่างจังหวัดและเหตุผลที่เลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่จัดงานเนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองที่มีความสำคัญในระดับแนวหน้าของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยวหรือด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ
นายธนัท กล่าวต่อไปอีกว่าการจัดงาน Luxury Cars by Setpoint group ในครั้งนี้บริษัทได้นำรถยนต์นำเข้าหลากหลายสไตล์ หลายรุ่น ซึ่งล้วนแต่เป็นรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวในต่างประเทศมาให้ชมในงาน อาทิ POSCHE PANAMERA TURBO ซึ่งเป็นรถสปอร์ต 4 ประตูที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก เพราะถือเป็นครั้งแรกที่ POSCHE นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ มีการติดเทอร์โบคู่เข้าไปเพิ่มกำลังเป็น 500 แรงม้า , BMW NEW SERIES 6 2012 ซึ่งมีการพัฒนารูปลักษณ์และระบบกลไกแตกต่างไปจากรุ่นที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ,MERCEDES-BENZ SLK-CLASS ซึ่งได้เปิดตัวสปอร์ตโรดสเตอร์เจเนอเรชั่นใหม่ชูจุดขายด้วยหลังคานวัตกรรมระบบ Magic Sky Control ทำงานรวดเร็ว และประหยัดน้ำมัน และนอกจากนี้ยังมี MINI COUNTRYMAN ไฮไลท์สำคัญอยู่ตรง Mini Connected ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่รถยนต์สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้
นายธนัท กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากกิจกรรมการแสดงโชว์รถยนต์แล้ว Set point Group ยังมีความประสงค์ที่ร่วมสนับสนุนกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ให้กับจังหวัดภูเก็ต โดยมอบเงินรายได้ จำนวน 50,000 บาท จากการจัดงานให้กับจังหวัด เพื่อใช้ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ "ภูเก็ตเกมส์" ในปี 2555 ต่อไป 
***สารภี  ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว
--------------------------------------
วัดต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต  จัดกิจกรรมวันเข้าพรรษา ประจำปี 2554

นายปิยวัฒน์  จิรจามร นายกเทศมนตรีตำบลเทพกระษัตรี  เป็นประธานในการสมโภชเทียนพรรษา ณ บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลเทพกระษัตรี  พร้อมด้วยคณะทีมผู้บริหาร ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนเข้าร่วม
            เนื่องจากการถวายเทียนพรรษา  เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา  โดยในอดีตยามค่ำคืนที่พระภิกษุสามเณร  จะสวดมนต์หรือท่องตำรากัน ต้องอาศัยแสงสว่างจากคบเพลิง ตะเกียงและเทียนไข  ซึ่งสิ่งดังกล่าวค่อนข้างหาได้อยากลำบาก   ชาวบ้านจึงพร้อมกันเรี่ยไรขี้ผึ้งจากผู้มีจิตศรัทธา   มาหล่อเทียนเข้าพรรษาเป็นการให้แสงสว่าง  ซึ่งจะมีอานิสงส์ ให้แก่ผู้ที่ถวาย มีภูมิปัญญาอันเฉลียวฉลาด คิดสิ่งใดมีความแตกฉาน
            สำหรับกิจกรรมวันเข้าพรรษา ประจำปี  ของเทศบาลตำบลเทพกระษัตรีในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ   ถวายเทียนพรรษาและปัจจัยให้วัดพระทอง  วัดพระนางสร้าง   วัดแขนน   ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลเทพกระษัตรี   รวมไปถึงเพื่อเป็นแบบอย่างให้คนรุ่นหลังในการสืบทอดประเพณีท้องถิ่นและประเพณีสำคัญของชาติ
              สำหรับกิจกรรมมี การเดินขบวนแห่เทียนพรรษา  โดยมีนักเรียนและประชาชน เข้าร่วมเดินแห่เทียนพรรษา   อีกทั้งเป็นการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา โดยขบวนเริ่มจากหน้าองค์การโทรศัพท์อำเภอถลาง   ถึงวัดพระทอง โดยมีประชาชนร่วมกันทำบุญถวายปัจจัยสองข้างทางที่ขบวนแห่ผ่าน
               ด้านวัดกะรน  ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต  ได้มีการจัดขบวนแห่เทียนพรรษารอบเกาะภูเก็ต เป็นเวลา 3วัน  ตั้งแต่วันที่ 14-16 ก.ค. 54  เนื่องในวันเข้าพรรษาประจำปี 2554 โดยมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก
               สำหรับการจัดแห่เทียนพรรษาในครั้งนี้เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวัดกะรน          ที่เคยจัดทำมา   เนื่องจาก ทางชุมชนได้ทำการแกะสลักเทียนพรรษาที่สวยงาม   เหมือนที่จังหวัดอุบลราชธานี   ทำเป็นประจำทุกปี   โดยมีผู้ที่สนใจการเข้าร่วมแห่เทียนพรรษาในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก   เนื่องจากเป็นครั้งแรกของจังหวัดภูเก็ต
              ด้านเทศบาลตำบลราไวย์  ร่วมกับ วัดสว่างอารมณ์  ได้จัดกิจกรรมวันเข้าพรรษาขึ้นเช่นกัน  โดยจัดขึ้นในระหว่างวันที่  15-16  กรกฎาคม นี้  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลราไวย์  และพื้นที่ใกล้เคียง  รวมถึงประชาชนในจังหวัดภูเก็ตได้มีโอกาสทำบุญรักษาศีลและธำรงจิตใจให้ผ่องใส  งดเว้นอบายมุขต่างๆเป็นกรณีพิเศษ 
               นอกจากนี้ ได้มีการแห่เทียนพรรษาจากวัดสว่างอารมณ์  ไปยังพื้นที่ตำบลกะรน  กะตะ  ป่าตอง  และกลับมายังวัดสว่างอารมณ์  ถึงแม้ครั้งนี้ จะมีสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างหนัก  แต่ประชาชน และนักเรียนในพื้นที่ต่างก็พร้อมใจกันมาร่วมขบวนแห่เทียนในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
               ส่วนวัดโฆษิตวิหาร  พุทธศาสนิกชนต่างร่วมกัน  ถวายปัจจัยไทยทาน  และอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว 
                 สำหรับวันอาสาฬหบูชา นั้นพุทธศาสนิกชนชาวไทย  จะทำบุญตักบาตรในตอนเช้า   และตลอดวันจะมีการบำเพ็ญบุญกุศลความดีอื่น ๆ เช่น ไปวัดรับศีล งดเว้นการทำบาปทั้งปวง ถวายสังฆทาน ให้อิสระทาน (ปล่อยนกปล่อยปลา) ฟังพระธรรมเทศนา และไปเวียนเทียนรอบโบสถ์ในเวลาเย็น
***city news เคเบิลทีวี/สนับสนุนข่าว
----------------------
โครงการปลูกหญ้าทะเลจากการเพาะเมล็ดคืนสู่ธรรมชาติ ครั้งที่ 1

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 ก.ค. 54 นายนิวิทย์  อรุณรัตน์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปลูกหญ้าทะเลจากการเพาะเมล็ดคืนสู่ธรรมชาติ  ครั้งแรกของจังหวัดภูเก็ต   ณ บริเวณแหล่งหญ้าทะเล  ทางทิศใต้ของสะพานท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง   ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต 
              ทั้งนี้โครงการปลูกหญ้าทะเลเป็นความร่วมมือของโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตเครือข่ายชุมชนชายฝั่งอ่าวฉลอง    และสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล  ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน  โดยมีอาสาสมัครจากโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต,   มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต,  โรงเรียนขจรเกียรติศึกษา   และสมาชิกเครือข่ายชุมชนชายฝั่งอ่าวฉลอง  เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 60 คน
               ด้าน นพ.บดินทร์  ละเอียด  รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต          กล่าวว่า  ทางโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตให้ความสำคัญและตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน    จึงได้มีนโยบายในการดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่   โดยจัดกิจกรรมสนับสนุนนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
               พร้อมเน้นการปลูกจิตสำนึกที่ดีให้แก่บุคลากรภายในโรงพยาบาลฯ   เยาวชนและคนในชุมชน    เพื่อให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจกันสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง  และสามารถดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชนได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
              ด้านนายภูเบศ   จอมพล   นักวิชาการประมงสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล  ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน   กล่าวว่า  โครงการปลูกหญ้าทะเลจากการเพาะเมล็ดคืนสู่ธรรมชาติ  ครั้งแรกของจังหวัดภูเก็ตว่า  แหล่งหญ้าทะเลนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก    เพราะมีคุณสมบัติในการยึดเกาะและช่วยลดการพังทลายของหน้าดิน  เป็นแหล่งอนุบาลตัวอ่อนของสัตว์ทะเล    เป็นแหล่งหลบภัยศัตรูจากสัตว์ผู้ล่า  และยังช่วยสร้างสมดุลให้แก่ระบบนิเวศ  แต่ในปัจจุบันแหล่งหญ้าทะเลมีแนวโน้มที่จะลดปริมาณลง  จากผลกระทบของสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทางสถาบันฯ จึงหาแนวทางในการขยายแหล่งหญ้าทะเลให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์  โดยการนำเมล็ดมาเพาะเลี้ยงไว้ในตู้อนุบาลหญ้าทะเล  แล้วประสานงานกับทางโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต  เพื่อจัดกิจกรรมปลูกหญ้าทะเลและเก็บข้อมูลอัตราการเจริญเติบโตของหญ้าทะเลเป็นประจำทุกเดือนตลอดระยะเวลา 1 ปี
***city news เคเบิลทีวี/สนับสนุนข่าว
--------------------
ทัพเรือภาคที่ 3 เร่งช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเรือล่ม   กลางทะเลภูเก็ต

เมื่อเวลา 18.20 น.ของวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา   ศูนย์ปฎิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 (ศปก.ทรภ.3) ได้รับ      แจ้งจากศูนย์ไข่มุก ว่า บริษัทดำน้ำ คอนติกิ   นำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำ บริเวณเกาะดอกไม้ กับ เกาะเขียว   ขณะเดินทางกลับ  เกิดฝนตกหนัก   เรือกระแทกกับโขดหิน  ทำให้ท้องเรือทะลุ น้ำได้ทะลักเข้าเรือ นักท่องเที่ยวชุดดำน้ำทั้งหมด 27 คน    สวมเสื้อชูชีพ รอการช่วยเหลือ 
 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ประจำเรือ ได้ขอความช่วยเหลือไปที่ ศูนย์ไข่มุก  องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และแจ้งให้ทาง ตำรวจน้ำ และ ทัพเรือภาคที่ 3 ทราบ เพื่อให้การช่วยเหลือ
               ด้าน  ทัพเรือภาคที่ 3 โดย พลเรือโท ชุมนุม  อาจวงษ์  ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่  ได้สั่งการให้ นาวาเอก กฤษณะ  กุณเฑียะ  นายทหารเวร ศปก.ทรภ.3   ส่งเรือหลวงวิทยาคม  ออกทำการช่วยเหลือเป็นการด่วน   โดยจากการตรวจสอบจุดที่นักท่องเที่ยวลอยคอ  คือ  บริเวณทิศใต้ใกล้เกาะไก่ (เกาะเขียว)  ห่างจากทัพเรือภาคที่ 3 แหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง จว.ภูเก็ต ประมาณ 15 ไมล์ทะเล
              ต่อมาในเวลา 20.40  ได้มีเรือสปีดโบ๊ทจากบริษัท คอนติกิ นำเรือนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุขึ้นท่าเทียบเรือฉลอง จำนวน 13 คน   ด้วยความปลอดภัย 
              หลังจากนั้นใน 21.30 น.  ทางเรือหลวงวิทยาคม ได้รับแจ้งจากเรือประมงในบริเวณจุดเกิดเหตุว่าได้มีเรือสปีดโบ๊ท นำนักท่องเที่ยว อีกจำนวน 14 คน   เดินทางกลับเข้าที่ท่าเทียบเรือฉลองโดยปลอดภัย    โดยมีตำรวจท่องเที่ยว    นำโดย พ.ต.ท.เอกชัย  พราหมณกุล    สาวัตรตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต  ได้จัดกำลังไปอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบกรณีเอกสารต่างๆที่สูญหาย    รวมทั้งประสานขอความช่วยเหลือไปยังสถานฑูตของนักท่องเที่ยวแต่ละราย     ซึ่งส่วนใหญ่เป็น นักท่องเที่ยวจากยุโรปมีเพียง1รายที่มาจากดูไบ
              ทั้งนี้จากการเปิดเผยของลูกเรือชาวไทย ว่า   ขณะที่เกิดเหตุบนเรือมีลูกเรือชาวไทย 3 ทีม  เหลือ 24 คน เป็นชาวต่างชาติ และเรือลำดังกล่าวมีสภาพที่เก่า  หลังจากที่ได้ปล่อยให้นักท่องเที่ยวลงดำน้ำ  ไป3ไดร์ฟก็พากันขึ้นเรือเพื่อมุ่งหน้ากลับเข้าฝั่งที่ จ.ภูเก็ต แต่ขณะที่เรือแล่นมาได้เจอคลื่นลม   เรือไปกระแทกโขดหิน เรือจึงเกิดรอยรั่วจนน้ำทะลักเข้าภายในเรือจนอับปางดังกล่าว
*** city news เคเบิลทีวี/สนับสนุนข่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป