วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ข่าวประจำวันที่ 15 ก.ค..54

กรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เดินหน้าสนับสนุนค่าใช้จ่ายสถานประกอบการ ติดตั้งระบบผลิตน้ำร้อนแสงอาทิตย์ 30% เป็นปีที่ 4  เร่งติดตั้งระบบจนถึงปัจจุบันคิดเป็นพื้นที่แผงทำน้ำร้อนแสงอาทิตย์รวม 16,000 ตารางเมตร มั่นใจลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้จริง
วันนี้ (14 ก.ค. 54)  นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาโครงการส่งเสริมการใช้น้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยระบบผสมผสาน ปี 2554    ณ โรงแรมรอยัลซิตี้ภูเก็ต จ.ภูเก็ต
                นายไกรฤทธิ์   กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ด้านพลังงานมีความผันผวนและส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งยังมีความต้องการใช้พลังงานของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกภาคส่วนต้องเร่งหามาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อจัดการความต้องการใช้พลังงานให้มีดุลยภาพและเกิดความมั่นคง ด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งนอกจากการหาแหล่งพลังงานที่เหมาะสมและพอเพียงกับความต้องการแล้ว การพัฒนาและการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในรูปแบบต่าง จะเป็นวิธีลดปัญหาดังกล่าวได้วิธีหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตน้ำร้อนซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้ผลและสามารถใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี           ที่ผ่านมากิจกรรมหลายประเภทที่จำเป็นต้องใช้น้ำร้อน ได้แก่ โรงพยาบาล โรงแรม และโรงงาน เป็นต้น  โดยการผลิตน้ำร้อนได้มีการใช้พลังงานหลายรูปแบบ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิธีการต้มโดยใช้พลังงานจากก๊าซและไฟฟ้า หรือหากเป็นกิจกรรมขนาดใหญ่จะใช้หม้อต้ม ที่ใช้น้ำมันเตา หรือน้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง ดังนั้นเพื่อให้เกิดการทำน้ำร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์ อันเป็นการทดแทนการใช้พลังงานสิ้นเปลือง กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จึงได้ริเริ่มจัดทำโครงการส่งเสริมการใช้น้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยระบบผสมผสาน โดยในโครงการนี้จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบผลิตน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ ประมาณร้อยละ 30 เมื่อผู้สนใจได้ยื่นเสนอขอรับการสนับสนุนฯ ตามหลักเกณฑ์ที่ พพ. ได้กำหนดไว้ โครงการสนับสนุนดังกล่าวนี้ได้เริ่มจัดทำตั้งแต่ปี 2551 และปีนี้เป็นปีที่ 4 ผลการดำเนินงานได้เกิดการติดตั้งระบบคิดเป็นพื้นที่แผงทำน้ำร้อนแสงอาทิตย์รวม  จำนวน 16,000 ตารางเมตร และในปัจจุบันปี 2554  พพ. อยู่ระหว่างดำเนินการให้การสนับสนุน โดยมีเป้าหมายให้เกิดการลงทุนติดตั้งระบบฯ จำนวน 10,000 ตารางเมตรของแผงทำน้ำร้อนแสงอาทิตย์ คิดเป็นเงินให้การสนับสนุนประมาณ 45 ล้านบาท ทั้งนี้ สถานประกอบการจะได้ประโยชน์ในด้านการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน  และยังเป็นการลดการก่อก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการใช้พลังงานสิ้นเปลือง อีกทั้งเป็นการลดภาวะโลกร้อนที่เป็นปัญหาของประเทศและของโลกในปัจจุบัน” อธิบดี พพ. กล่าว
                การจัดประชุมสัมมนา พพ. ได้เชิญสถานประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ารับฟังหลักเกณฑ์เงื่อนไขการสนับสนุนการลงทุนติดตั้งระบบฯ ขั้นตอนการดำเนินการ และวิธีการเข้าร่วมโครงการ ซึ่งงานสัมมนาในวันนี้ พพ. ได้จัดเป็นครั้งที่ 5 โดยจะต
ะเวนจัดไปตามภูมิภาคต่าง ๆ จำนวน 8 ครั้ง
*** ปชส.กรมพลังงานฯ /สนับสนุนข่าว  โสภณ  เคี่ยมการ  ส.ปชส.ภูเก็ต/เรียบเรียง
----------------------------------------------
สสจ.ภูเก็ต ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการแข่งขันมาราธอนเพื่อสุขภาพวิ่งข้ามเกาะภูเก็ตครั้งแรก เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (14 ก.ค.54) ที่โรงแรมเมโทรโพล อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายแพทย์ศักดิ์ แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ชลิต แก้วยะรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และนายวิรัตน์ มาแก้ว  รองนายก  อบต.ไม้ขาว ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขันมาราธอนเพื่อสุขภาพ วิ่งข้ามเกาะภูเก็ต หรือ Phuket Health International Marathon ภายใต้แนวคิด “Run For Health”   วันที่ 31 ก.ค. 2554 นี้ ตั้งแต่บริเวณสะพานสารสินถึงสวนสาธารณะสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต
              นายตรี กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต จัดการแข่งขันมาราธอนเพื่อสุขภาพ วิ่งข้ามเกาะภูเก็ต เป็นครั้งแรกของจังหวัดภูเก็ตอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีเป้าหมายเพื่อรณรงค์ส่งเสริมการสร้างสุขภาพให้กับนักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ พ่อค้าและประชาชนหันมาออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง จริงจัง เป็นประจำ  รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของภูเก็ตให้ดียิ่งขึ้นไป เนื่องจากเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติจะเป็นการสร้างโอกาสให้นักวิ่งต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตมากยิ่งขึ้น
                สำหรับการแข่งขันจะเริ่มต้นที่บริเวณหน้า  อบต.ไม้ขาว อ.ถลาง วิ่งมาตามถนนเทพกระษัตรี ระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตร มาสิ้นสุดที่บริเวณสวนสาธารณะสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ซึ่งนอกจากจะเป็นเส้นทางหลักของภูเก็ตแล้ว ยังเป็นเส้นทางวิ่งที่เชื่อมระหว่างสถานที่สำคัญและเป็นประวัติศาสตร์ของจังหวัดภูเก็ตอย่างแท้จริง จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวภูเก็ตและนักวิ่งฝีเท้าดีมาพิสูจน์เส้นทางการแข่งขันมาราธอนนานาชาติข้ามเกาะในครั้งนี้ ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตเชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดการแข่งขันได้ดี เนื่องจากมีความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่บนเส้นทางการแข่งขันพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
                  ด้านนายแพทย์ศักดิ์ แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การแข่งขัน Phuket Health International Marathon มาราธอนเพื่อสุขภาพข้ามเกาะภูเก็ต จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์การแข่งขันมาราธอนที่มีเส้นทางวิ่งข้ามจังหวัดอย่างแท้จริง ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักวิ่งทั้งไทยและต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมการแข่งขันมากพอสมควร ซึ่งคาดว่าจะมีไม่น้อยกว่า 300 คน รวมกับนักวิ่งซุปเปอร์มาราธอนและฟันรันอีก 1,500 คน นอกจากจะเน้นการออกกำลังกายแล้ว ทางฝ่ายจัดการแข่งขันยังได้มอบรางวัลแต่ละรุ่นและรางวัล Overall ทั้งถ้วยและเงินรางวัลมูลค่ากว่า 300,000 บาท  รวมทั้งสร้างนวัตกรรมในการแข่งขัน กล่าวคือ นักวิ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้จะมีสิทธิเข้าร่วมการสะสมแต้มสู่บุคคลต้นแบบการวิ่งออกกำลังกาย ภายใต้โครงการ Run To The idol หากสะสมแต้มการวิ่งครบ 10 ครั้งภายใน 1 ปี จะมีการมอบเสื้อสามารถเชิดชูเกียรติเป็นบุคคลต้นแบบ และสามารถยกระดับสู่บุคคลต้นแบบระดับเงิน ระดับทอง และระดับเพชร ในปีต่อ ๆไปได้ หากสามารถสะสมแต้มการวิ่งได้ครบตามที่กำหนด 
***โสภณ  เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
---------------------------------
วัดกะรนจัดใหญ่ พิธีแห่เทียนพรรษา

                เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 14 ก.ค.54 ที่วัดกะรน  ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้มีการจัดขบวนแห่เทียนพรรษารอบเกาะภูเก็ต เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-16 ก.ค.2554 เนื่องในวันเข้าพรรษาประจำปี 2554 โดยมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก
                 นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน กล่าวว่า การจัดแห่เทียนพรรษาครั้งนี้เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวัดกะรนที่เคยจัดทำมา เนื่องจาก ทางชุมชนได้ทำการแกะสลักเทียนพรรษาที่สวยงามเหมือนที่จังหวัดอุบลราชธานี ทำเป็นประจำทุกปี คาดว่าจะมีผู้ที่สนใจการเข้าร่วมแห่เทียนพรรษาในครั้งนี้มากพอสมควร  เนื่องจากเป็นครั้งแรกของจังหวัดภูเก็ต
                  ด้านนายขันตี ศิลปะ นายอำเภอเมืองกะทู้ กล่าวว่า  ในการจัดกิจกรรมเหล่านี้ขึ้นมาเป็นสิ่งที่น่าส่งเสริม เนื่องจากภูเก็ตนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยว หากทางชุมชนมีการจัดกิจกรรมแห่เทียนพรรษาที่งดงามก็จะเป็นการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี  ซึ่งเห็นได้จากวันนี้ที่มีนักท่องเที่ยวที่สนใจ ผ่านไปผ่านมา ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากการแกะสลักเทียนในวันนี้มีความงดงามไม่แพ้กับจังหวัดต่างๆ ในภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ
*** สารภี  ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว  โสภณ  เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน 
----------------------------------
เลขาธิการ กพฐ.เปิดอาคารประชาร่วมใจ 53 อาคารเรียนหลังใหม่ของโรงเรียนอนุบาลภูเก็ต
               วันนี้ (14 ก.ค.54) ที่โรงเรียนอนุบาลภูเก็ต ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  เป็นประธานพิธีเปิดอาคารประชาร่วมใจ 53 โรงเรียนอนุบาลภูเก็ต สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต พร้อมมอบใบเครื่องหมายตอบแทน เกียรติคุณบัตร เกียรติบัตร แก่ผู้สนับสนุนในการระดมทุนสร้างอาคาร และเยี่ยมชมกิจกรรมผลงานต่าง ๆ ของนักเรียน มีนายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ นายเจียร ทองนุ่น ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต นายเฉลิมพงศ์ ขันตี ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนอนุบาลภูเก็ต นายพิเชฐ ตันสกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลภูเก็ต คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้นำชุมชน คณะครู ผู้ปกครองนักเรียนและแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วม
                นายพิเชฐ กล่าวรายงานถึงประวัติของโรงเรียนฯ พอสังเขป ต่อประธานในพิธีและผู้เข้าร่วมงานว่า โรงเรียนอนุบาลภูเก็ต ตั้งอยู่เลขที่ 3 ถนนนิริศร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต เริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ.2495 และรับอนุมัติให้เปิดทำการสอนเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2496 มี น.ส.กันยา เหมรักษ์ เป็นครูใหญ่คนแรก มีห้องเรียนเพียง 5 ห้องเรียน สร้างด้วยเงินงบประมาณของจังหวัดภูเก็ต รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 253,490 บาท บนเนื้อที่ทั้งหมด 5 ไร่  2 งาน เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก อยู่ในเขตบริการของกรมการศึกษาพิเศษ ต่อมาโอนไปสังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการจัดการศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาล 4 ขวบ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
               ในปัจจุบันโรงเรียนมีนักเรียนจำนวน 2,375 คน มีข้าราชการครูและลูกจ้างจำนวน 105 คน นักการภารโรง จำนวน 7 คน สภาพทางเศรษฐกิจของผู้ปกครองค่อนข้างมีฐานะ ส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นพ่อค้า นักธุรกิจ ข้าราชการ และรับจ้างทั่วไป โรงเรียนอนุบาลภูเก็ตแห่งนี้ ได้พัฒนาและเติบโตมาเป็นลำดับจนเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต มีวิสัยทัศน์ การจัดการศึกษาคือโรงเรียนอนุบาลภูเก็ตมุ่งพัฒนานักเรียนเพื่อเป็นคนดี มีคุณธรรม นำความรู้สู่สากล ก้าวทันเทคโนโลยี และดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
                ในปีการศึกษา 2553 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและนายเฉลิมพงศ์ ขันตี ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีแนวคิดที่จะสร้างอาคาร เพื่อให้นักเรียนได้ใช้พื้นที่ในโรงเรียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ดังนั้นในโอกาสวันเกิดของท่านเอง เมื่อปี 2553 ท่านได้รับของขวัญวันเกิดเป็นทุนทรัพย์เพื่อสร้างอาคารแทนของขวัญอื่น ๆ จึงเป็นที่มาของทุนทรัพย์ที่สำคัญในการสร้างอาคาร และต่อมานายเฉลิงพงศ์ ขันตี พร้อมด้วยคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้นำชุมชน ผู้ปกครองนักเรียน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป ได้ร่วมกันจัดทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา ได้ทุนทรัพย์รวมเป็นเงิน ห้าล้านบาทเศษ จึงสมทบกับเงินรายได้อีก สามล้านบาทเศษ อาคารหลังนี้ออกแบบอาคารโดยบริษัท Home One Desing โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ขณะนี้การดำเนินการก่อสร้างอาคาร เสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นอาคารเรียนที่มีความสง่างาม ทันสมัย และมั่นคงปลอดภัย นายพิเชฐ กล่าวในที่สุด

                   นายเฉลิมพงศ์ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันโรงเรียนอนุบาลจังหวัดภูเก็ต ได้เร่งรัดพัฒนาคุณภาพการศึกษาในด้านต่าง ๆ ทั้งระดมทรัพยากรบุคคลและงบประมาณ เปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง และชุมชนเข้ามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา โดยเฉพาะผู้นำชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน ต่างก็มีความมุ่งมั่น สามัคคี เสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ร่วมมือกันพัฒนาโรงเรียนมาโดยตลอด 
***สารภี  ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว  โสภณ  เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
---------------------------
ตำบลราไวย์ เปิดสำนักงาน กองทุนออมทรัพย์ อัลอามานะฮ์

             วันนี้ ( 14 ก.ค. 54) ที่บริเวณสำนักงานกองทุนออมทรัพย์  อัล-อามานะฮ์ตำบลราไวย์   
นายวีระวัฒน์
  จันทร์เพ็ญ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต   เป็นประธานเปิด สำนักงานกองทุนออมทรัพย์  อัล-อามานะฮ์ตำบลราไวย์  โดยมีนายอรุณ  โสฬส  นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลราไวย์  กรรมการอิสลามจังหวัดภูเก็ต   และทีมบริหาร รวมถึงสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์และประชาชนในพื้นที่ตำบลราไวย์ เข้าร่วม             สำหรับสำนักงานกองทุนออมทรัพย์ อัล-อามานะฮตำบลราไวย์  ชุมชนและสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์  ได้รวมกลุ่มกันมาหลังเหตุการณ์สึนามิ  เมื่อปี 25548 เพื่อสร้างความเข้าใจกันในชุมชน  การพัฒนาแบบยั่งยืน  เพื่อมีเป้าหมายในการพัฒนา ในปี 2549  ได้ก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์  มีสมาชิกสมัครในปีแรก จำนวน 33 คน มีเงินออม  3300 บาท  จนมาถึงปัจจุบัน  มีสมาชิก 609 คน  มีเงินทุนหมุนเวียนรวมทรัพย์สิน  จำนวน 5 ล้านบาท  โดยใช้ระยะเวลารวม 5 ปี
              ซึ่งการเปิดสำนักงานกองทุนออมทรัพย์  อัล-อามานะฮตำบลราไวย์  กองทุนข้าวสารตำบลราไวย์  และสัมนาการเรียนเศรษฐกิจพอพียง  ในการตั้งกองทุนข้าวสาร
ในครั้งนี้   เพื่อให้ประชาชนรู้จักการทำธุรกิจชุมชน  และการสร้างเครือข่ายชุมชนให้ชุมชนได้เรียนรู้ในต่างชุมชน  และประชาชนมีสุขภพที่แข็งแรง  ซื้อข้าวสารราคาคุณธรรม ซึ่งเป็นข้าวสารมีคุณภาพจากเกษตรกรโดยตรง  ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนและสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์  มีสถาบันการเงินของตนเอง  สร้างนิสัยการออมให้แก่คนในชุมชน  ให้ชุมชนเข้าใจวิธีเศรษฐกิจพอเพียง  และที่สำคัญเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ชุมชน  มีสถาบันการเงินชุมชนที่ปลอดดอกเบี้ย ตามบทบัญยัติศาสนาอิสลาม  และชุมชนได้ปฏิบัติตามวิถีวัฒนธรรมที่ชุมชนนับถือให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต
*** city news เคเบิลทีวี/สนับสนุนข่าว  ณรงค์ศักดิ์  แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
----------------------------
หน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรม ในจังหวัดภูเก็ต ร่วมใจจัดแข่งขันแชร์บอล วันรพี 54
               เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 13 ก.ค. 54
ที่ผ่านมา นายศุภศักดิ์ เยาว์วิวัฒน์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 8 เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาแชร์บอล วันรพี ปี 2554 มีนางสุขพร อุดมสิน ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดภูเก็ต ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วม ณ สนามกีฬาสถานพินิจฯ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
              นางสุขพร กล่าวรายงานว่า เนื่องด้วยวันที่ 7 สิงหาคม ของทุกปีเป็นวันรพี อันเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย เพื่อเป็นการร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อวงการกฎหมายไทย มูลนิธิกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์จังหวัดภูเก็ต จึงได้ร่วมกับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน โดยจัดให้มีการทำบุญตักบาตร ถวายบังคม วางพวงมาลา และแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งในปี 2554 นี้ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดภูเก็ต ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาแชร์บอล วันรพี ปี 2554 กำหนดจัดแข่งขันวันที่ 13 ก.ค.-17 ส.ค.2554 โดยมีจำนวนทีมที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้จำนวน 3 ทีม คือ 1 ทีมรวมยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานสถานพินิจฯ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต สำนักงานคุมประพฤติ และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต 2 ทีมศาลยุติธรรม ประกอบด้วยหน่วยงานศาลแรงงานภาค 8 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ศาลจังหวัดภูเก็ต ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต และทีมตำรวจจังหวัดภูเก็ต
                ด้านนายศุภศักดิ์ เยาว์วิวัฒน์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 8 กล่าวเสริมว่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย พระองค์ทรงสมภพ เมื่อวันที่  21 ต.ค.2417 เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 5) กับเจ้าจอมมารดาตลับ ในด้านกรณียกิจ พระองค์ทรงได้รับตำแหน่งเป็นเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม ในขณะที่มีพระชนม์มายุเพียง 22ชันษา พระองค์ทรงมุ่งมั่นในการปรับปรุงแก้ไขระเบียบศาล และงานศาลยุติธรรมของประเทศไทยให้มีความเจริญก้าวหน้าเท่าทันต่างประเทศ นอกจากนี้พระองค์ได้ทรงจัดตั้งโรงเรียนสอนกฎหมายในประเทศขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี 2440 พระองค์ทรงได้วางรากฐานในด้านกฎหมาย และเป็นแบบอย่างอันดีที่เหล่านักกฎหมายและผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องด้านยุติธรรมควรระลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์ท่าน ซึ่งในการดำเนินงานจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาแชร์บอล วันรพี ประจำปี 2554 ในครั้งนี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคคลในหน่วยงานที่เข้าร่วมการแข่งขัน
*** สารภี  ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว  โสภณ  เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป