วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ข่าวประจำวันที่ 13 ก.ค..54

กรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เดินหน้าสนับสนุนค่าใช้จ่ายสถานประกอบการ ติดตั้งระบบผลิตน้ำร้อนแสงอาทิตย์ 30% เป็นปีที่ 4 เร่งติดตั้งระบบจนถึงปัจจุบันคิดเป็นพื้นที่แผงทำน้ำร้อนแสงอาทิตย์รวม 16,000 ตารางเมตร มั่นใจลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้จริง


วันที่ 12 ก.ค. 54 นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาโครงการส่งเสริมการใช้น้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยระบบผสมผสาน ปี 2554 ณ โรงแรมรอยัลซิตี้ภูเก็ต จ.ภูเก็ต

นายไกรฤทธิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ด้านพลังงานมีความผันผวนและส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งยังมีความต้องการใช้พลังงานของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกภาคส่วนต้องเร่งหามาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อจัดการความต้องการใช้พลังงานให้มีดุลยภาพและเกิดความมั่นคง ด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งนอกจากการหาแหล่งพลังงานที่เหมาะสมและพอเพียงกับความต้องการแล้ว การพัฒนาและการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในรูปแบบต่าง ๆ จะเป็นวิธีลดปัญหาดังกล่าวได้วิธีหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตน้ำร้อนซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้ผลและสามารถใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมากิจกรรมหลายประเภทที่จำเป็นต้องใช้น้ำร้อน ได้แก่ โรงพยาบาล โรงแรม และโรงงาน เป็นต้น โดยการผลิตน้ำร้อนได้มีการใช้พลังงานหลายรูปแบบ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิธีการต้มโดยใช้พลังงานจากก๊าซและไฟฟ้า หรือหากเป็นกิจกรรมขนาดใหญ่จะใช้หม้อต้ม ที่ใช้น้ำมันเตา หรือน้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง ดังนั้นเพื่อให้เกิดการทำน้ำร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์ อันเป็นการทดแทนการใช้พลังงานสิ้นเปลือง กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จึงได้ริเริ่มจัดทำโครงการส่งเสริมการใช้น้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยระบบผสมผสาน โดยในโครงการนี้จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบผลิตน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ ประมาณร้อยละ 30 เมื่อผู้สนใจได้ยื่นเสนอขอรับการสนับสนุนฯ ตามหลักเกณฑ์ที่ พพ. ได้กำหนดไว้ โครงการสนับสนุนดังกล่าวนี้ได้เริ่มจัดทำตั้งแต่ปี 2551 และปีนี้เป็นปีที่ 4 ผลการดำเนินงานได้เกิดการติดตั้งระบบคิดเป็นพื้นที่แผงทำน้ำร้อนแสงอาทิตย์รวม จำนวน 16,000 ตารางเมตร และในปัจจุบันปี 2554 พพ. อยู่ระหว่างดำเนินการให้การสนับสนุน โดยมีเป้าหมายให้เกิดการลงทุนติดตั้งระบบฯ จำนวน 10,000 ตารางเมตรของแผงทำน้ำร้อนแสงอาทิตย์ คิดเป็นเงินให้การสนับสนุนประมาณ 45 ล้านบาท ทั้งนี้ สถานประกอบการจะได้ประโยชน์ในด้านการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และยังเป็นการลดการก่อก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการใช้พลังงานสิ้นเปลือง อีกทั้งเป็นการลดภาวะโลกร้อนที่เป็นปัญหาของประเทศและของโลกในปัจจุบัน” อธิบดี พพ. กล่าว

การจัดประชุมสัมมนา พพ. ได้เชิญสถานประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ารับฟังหลักเกณฑ์เงื่อนไขการสนับสนุนการลงทุนติดตั้งระบบฯ ขั้นตอนการดำเนินการ และวิธีการเข้าร่วมโครงการ ซึ่งงานสัมมนาในวันนี้ พพ. ได้จัดเป็นครั้งที่ 5 โดยจะตะเวนจัดไปตามภูมิภาคต่างๆ จำนวน 8 ครั้ง

--------------------------------------------
นายกเทศมนตรีตำบลเชิงทะเล นายสุนิรันดร์ รชตะพฤกษ์แถลงนโยบายหกด้านเพื่อพัฒนาท้องถิ่น

เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2554 นายสุนิรันดร์ รชตะพฤกษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเชิงทะเล ได้แถลงนโยบายต่อสมาชิกสภาเทศบาลตำบลเชิงทะเลในการประชุมสภาเทศบาล ณ ห้องประชุมอาคารเอนกประสงค์เทศบาลตำบลเชิงทะเล หลังจากชนะการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2554 ที่ผ่านมา โดยมีนายสุพัฒน์ อธิอุดมผล ทำหน้าที่ประธานสภาเทศบาล นายจรูญ ทวิชาตานนท์ ทำหน้าที่รองประธานสภาเทศบาล และนายเล่งเต็ก พงศานนท์ ทำหน้าที่เลขานุการสภาเทศบาล

นายสุนิรันดร์แถลงนโยบาย 6 ด้าน ดังนี้ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านสาธารณสุข ด้านเศรษฐกิจ ด้านการศึกษา ด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และ ด้านการบริหารจัดการ

นายสุนิรันดร์ กล่าวว่า ตนทำงานให้เทศบาลฯ มาแล้วถึง 16 ปี ที่นี่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง รู้ขั้นตอนในการทำงานเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาให้พื้นที่เทศบาลฯ มีความเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน โดยจะสานต่อ 4 โครงการที่เริ่มดำเนินการเมื่อสมัยที่ผ่านมาอย่างเร่งด่วน ได้แก่ โครงการก่อสร้างอาคารเรียน 4 ชั้น ณ โรงเรียนเทศบาลตำบลเชิงทะเล โครงการก่อสร้างสระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร ที่ศูนย์กีฬา โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณหน้าโรงเรียนเชิงทะเลวิทยาคมซึ่งอยู่ในระยะที่ 2 และ โครงการแก้ไขและป้องกันปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เทศบาลตำบลเชิงทะเล หวังว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันผลักดันโครงการที่กล่าวมา และ โครงการอื่นๆ ที่จะดำเนินการภายใน 4 ปีให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

นายสุนิรันดร์ รชตะพฤกษ์ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเชิงทะเลครั้งนี้เป็นสมัยที่ 4 โดยสมัยแรกตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2542 ถึง 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2546 สมัยที่สอง วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2546 ถึง 21 มีนาคม พ.ศ.2550 สมัยที่สาม วันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2550 ถึง 27 เมษายน พ.ศ.2554

***พิมพ์วรา นสพ.ภูเก็ตการ์เซทท์/สนับสนุนข่าว ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

--------------------------------------
ททท. ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต สมาคม ชมรมท่องเที่ยว ผู้ประกอบการร้านอาหารในจังหวัดภูเก็ต จัดงานเทศกาลอาหารอาหารทะเลภูเก็ต 2554 หรือ Phuket Seafood Fiesta 2011 ตลอดเดือนสิงหาคม

นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า เดือนสิงหาคมปีนี้ภูเก็ตจะคึกคักมาก เนื่องจาก ททท.สำนักงานร่วมเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทุกภาคส่วน จัดเทศกาลอาหารอาหารทะเลภูเก็ต 2554 หรือ Phuket Seafood Fiesta 2011 ในเดือนสิงหาคม 2554 เพื่อประชาสัมพันธ์ร้านอาหารไทยและร้านอาหารนานาชาติที่มีชื่อเสียงในจังหวัดภูเก็ตและพังงา ที่เข้าร่วมกิจกรรม Good Taste Best Price กว่า 100 ราย มอบส่วนลดอาหารทะเลทุกเมนูทันทีตั้งแต่ 10-20% เพื่อกระตุ้นยอดขายให้กับร้านอาหารและเน้นภาพลักษณ์ว่าภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางอาหารทะเลทุกประเภทที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดลิ้มลองอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมนอกร้านอาหารเพื่อสร้างกระแส เพิ่มสีสัน และความสนุกสนานต่างๆ มากมายให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากจะได้เลือกชิมอาหารทะเลหลากหลายเมนูจากเชฟที่มีชื่อเสียงจากร้านอาหารต่างๆ ทั่วภูเก็ตและเชฟที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยแล้ว ททท.ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษ 1 ครั้งที่บริเวณหาดราไวย์ ระหว่างวันที่ 12-13 สิงหาคม 2554 โดยการนำกุ้ง หอย ปู ปลาสดๆ จากทะเลอันดามันมาให้เลือกซื้อแล้วไปให้เชฟปรุงสไตล์ปิ้งย่างตามความชอบ และนอกจากนี้ ททท.ยังได้เชิญเซเลบด้านอาหารมาร่วมสร้างสีสันภายในงานตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น.ตลอดทั้ง 2 วัน

นางบังอรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของสถานการณ์การท่องเที่ยวช่วงกรีนซีซั่นของภูเก็ตด้วยว่า ปีนี้สถานการณ์การท่องเที่ยวภูเก็ตมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไปได้มีสายการบินต่างประเทศเปิดเที่ยวบินใหม่เช่าเหมาลำบินตรงจากนิวเดลี ประเทศอินเดีย-ภูเก็ต 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และจากไทเป(ไต้หวัน)-ภูเก็ต 1 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จึงเชื่อมั่นได้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าสู่ภูเก็ตเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ททท.สำนักงานภูเก็ต ยังได้จัดแพ็คเกจ Phuket Great Time เที่ยวภูเก็ต พังงา ราคาจิ๊บจิ๊บ เที่ยวเป็นคู่ราคาเริ่มต้นที่คนละ 2,450 บาท ส่งเสริมให้คนไทยได้เดินทางเที่ยวภูเก็ตด้วยตนเองและครอบครัวได้ง่ายขึ้น คุ้มค่าขึ้น ผ่านสื่อออนไลน์ www.phuketgreattime.com ดังนั้นการจัดกิจกรรมเทศกาลอาหารทะเลภูเก็ต 2554 ก็จะเป็นกิจกรรมเสริมอีกแรงหนึ่งที่จะจูงใจนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตและพังงาเพิ่มขึ้นในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว

สอบถามรายละเอียดกิจกรรมและวางแผนเดินทางท่องเที่ยวได้ที่ ททท.สำนักงานภูเก็ต โทร.076-212213

***สารภี ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

---------------------------------------
รพ. ถลาง ลงนามบันทึกข้อตกลง กับ อบต. เทพฯ “ขอใช้พื้นที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยตำบลเทพกระษัตรีเป็นสถานบริการสาธารณสุข”

วันนี้ (12 ก.ค. 54) ที่โรงพยาบาลถลาง มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานระหว่างองค์กรของรัฐ โรงพยาบาลถลาง กับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาลตำบลเทพกระษัตรี ในการขอใช้พื้นที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยตำบลเทพกระษัตรี เป็นสถานบริการสาธารณสุข โดยมีนายแพทย์อานนท์ แก้วบำรุง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลถลาง ลงนามร่วมกับ ว่าที่ร้อยตรีสมภพ ก้อนแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเทพกระษัตรี

โดยการลงนามความร่วมมือการดำเนินงานระหว่างองค์กรของรัฐ ว่าด้วย การขอใช้พื้นที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยตำบลเทพกระษัตรี เป็นสถานบริการสาธารณสุข นั้น เป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง โรงพยาบาลถลาง ซึ่งเรียกว่า “ผู้ใช้บริการ” กับ องค์การบริหารส่วนตำบลเทพกระษัตรี ซึ่งเรียกว่า “ผู้ให้บริการ”

ซึ่งมีใจความหลักว่า “ผู้ใช้บริการ” เป็นองค์กรของรัฐในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีภารกิจหน้าที่ดูแลการให้บริการทางการแพทย์และบริการด้านสาธารณสุขในเขตพื้นที่ “ผู้ให้บริการ” เพื่อให้บริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพแก่ประชาชนในพื้นที่ “ผู้ให้บริการ” ได้แก่ การสร้างเสริมสุขภาพอนามัย การป้องกัน การควบคุม การรักษาโรค และการฟื้นฟูสมรรถภาพ เป็นต้น เป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพกายและจิตใจที่ดี ซึ่ง “ผู้ใช้บริการ” และหน่วยงานในสังกัด หรือผู้อยู่ในความดูแลกำกับของ “ผู้ใช้บริการ” มีความจำเป็นต้องใช้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยตำบลเทพกระษัตรี เป็นสถานที่ให้บริการด้านสาธารณสุขเพื่อรองรับการให้บริการแก่ประชาชนในเขต “ผู้ให้บริการ” และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยทั้ง “ผู้ใช้บริการ” และ “ผู้ให้บริการ” มีภารกิจในการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการร่วมคิด ร่วมแก้ไขปัญหา ร่วมสร้าง ร่วมจัดทำ และส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนในเขตพื้นที่ของ “ผู้ให้บริการ” โดยให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นทุกด้าน

ในส่วนของข้อความของบันทึกข้อตกลงที่สำคัญประกอบด้วย ข้อตกลงบริการ ระยะเวลาของข้อตกลง และหน้าที่ของ “ผู้ใช้บริการ” และ “ผู้ให้บริการ” ทั้งนี้ ในส่วนของข้อตกลงบริการ “ผู้ใช้บริการ” ตกลงให้ความร่วมมือใช้บริการ และ “ผู้ให้บริการ” ตกลงให้ความร่วมมือให้บริการ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานระหว่างกัน คือ “ผู้ให้บริการ” สนับสนุน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยให้เป็นศูนย์สุขภาพชุมชนมุดดอกขาว ตั้งอยู่ที่ 232 ม. 8 ต. เทพกระษัตรี อ. ถลาง จ. ภูเก็ต โดยใช้พื้นที่อาคารชั้น 1 และอาคารอเนกประสงค์ เป็นพื้นที่ให้บริการด้านสาธารณสุข โดยให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนในพื้นที่ “ผู้ให้บริการ” อย่างครอบคลุม 4 มิติ โดยสนับสนุนการดำเนินงานระหว่างกันอย่างไม่มีกำหนดระยะเวลา จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม โดยให้บริการในสถานบริการและงานบริการที่บ้าน/ชุมชน

*** เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว /พิมพ์

-------------------------------
ชป.ปนม.ภ.8 ลงพื้นที่ภูเก็ต จับกุมน้ำมันเถื่อน 10,700 ลิตร

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 12 ก.ค.54 ชุดปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงตำรวจภูธรภาค 8 (ชป.ปนม.ภ.8) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ รอง ผบช.ภ.8/ผอ.ปนม.ภ.8 และ พล.ต.ต.วีรศักดิ์ มีนะวาณิชย์ ผบก.สส..ภ.8 นำโดย พ.ต.อ.สุริศักดิ์ วิชัยดิษฐ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.8/หัวหน้า ชป.ปนม.ภ.8 พ.ต.ท.ศุภณัฐ รัตนภิรมย์ สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ.8/รองหัวหน้า ชป.ปนม.ภ.8 และ ร.ต.อ.ศิริธรรม นาควรรณ รอง สว.กก.สส.2 บก..สส.ภ.8/รองหัวหน้าชุด ชป.ปนม.ภ.8 เข้าตรวจสอบจับกุมบริเวณอู่ซ่อมเรือสปีดโบ๊ท ของบริษัท นนทศักดิ์ มารีน จำกัด ไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่าอู่ซ่อมเรือดังกล่าวมีพฤติกรรมลักลอบกักตุนน้ำมันเถื่อนไว้ในครอบครองเพื่อไว้ใช้ในกิจการของอู่ฯ

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบน้ำมันเบนซินบรรจุอยู่ในแท็งก์วางอยู่บนท้ายรถบรรทุกของบริษัท นนทศักดิ์ มารีน จำกัด จำนวน 3,000 ลิตร อยู่ภายในแท็งก์วางอยู่บนพื้นดิน จำนวน 2,700 ลิตร และอยู่ภายในแท็งก์น้ำมันใต้ดินอีก จำนวน 5,000 ลิตร รวมน้ำมันทั้งหมด 10,700 ลิตร เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน เพื่อประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรภาค 8 มาทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกันนี้ได้ติดตามผู้ครอบครองน้ำมัน ทราบชื่อคือ นายศุภกิตติ แก้วประดิษฐ ผู้จัดการอู่ซ่อมเรือ นนทศักดิ์ มารีน จำกัด มาให้ข้อมูล โดยในเบื้องต้นผู้ครอบครองไม่มีหลักฐานการเสียภาษีมาแสดง

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้า(น้ำมัน) โดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 มาตรา 161 ซึ่งมีโทษปรับ 2-10 เท่าของอัตราภาษี และได้ควบคุมตัวนายศุภกิตติ ไป สภ.ฉลอง เพื่อดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาดังกล่าวต่อไป

*** สารภี ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

-------------------------------
การบินในความรับผิดชอบของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย เปิดอาคารสำนักงานฯ อย่างเป็นทางการ หวังรองรับการเติบโตท่องเที่ยวภูเก็ตเต็มประสิทธิภาพ

วันนี้ (12 ก.ค.54) พลอากาศเอกสมชาย เธียรอนันท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ จ.ภูเก็ต ภายหลังร่วมกับนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธี เปิดอาคารสำนักงานศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ต (แห่งใหม่) บริเวณถนนสายสนามบินนานาชาติภูเก็ต ว่า ศูนย์วิทยุการบินภูเก็ต เป็น 1 ใน 9 ศูนย์วิทยุการบินในความรับผิดชอบของบริษัทวิทยุการบินฯ และในปีนี้เป็นปีที่ 23 ของการเปิดให้บริการซึ่งผลการปฏิบัติงานมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของภูเก็ต ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังทำให้มีจำนวนเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 20 % มีเที่ยวบินขึ้นลงเฉลี่ยเดือนละกว่า 4,200 เที่ยวบิน

“ในด้านปฏิบัติงานถือเป็นแห่งแรกที่นำเทคโนโลยีดาวเทียมระบบเรดาห์ทุติยภูมิ (Secondary Surveillance Radar) มาใช้ดำเนินงานด้านปฏิบัติการควบคุมจราจรทางอากาศ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยรับผิดชอบการให้บริการบริเวณเขตท่าอากาศยาน (Aerodrome Control Service) และเขตประชิดสนามบิน (Approach Control service) ของท่าอากาศยานภูเก็ต กระบี่และระนอง มีรัศมีโดยรอบไม่เกิน 30 ไมล์ทะเล ที่ความสูงไม่เกิน 11,000 ฟุต จนกระทั่งได้พัฒนานำเครือข่ายโทรคมนาคมการบิน (Aeronautical Telecommunication Network :ATN) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้การสื่อสารระหว่างผู้ควบคุมจราจรทางอากาศและนักบินมาใช้ เพื่อก่อให้เกิดความ รวดเร็ว แม่นยำเที่ยงตรง และปลอดภัยสูง โดยได้ติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่าย ATN ณ ศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ตด้วย”

อย่างไรก็ตามพลอากาศเอกสมชาย ยังกล่าวด้วยว่า นอกจากที่ภูเก็ตแล้วก็จะมีการเพิ่มระบบดังกล่าวให้กับศูนย์วิยุการบินอื่นๆ ด้วย ซึ่งได้รับการการอนุมัติงบประมาณจำนวน 4,460 ล้านบาท ในการติดตั้งระบบดาวเทียมดังกล่าว คาดว่าจะแล้วทุกศูนย์ฯ เสร็จทั่วประเทศในช่วงปลายปี 2557 ซึ่งจะทำให้การขนส่งทางอากาศยานในธุรกิจการบินของประเทศไทยมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และเป็นไปตามมาตรฐานการขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศเทียบเท่ากับในประเทศยุโรปและอเมริกา

ขณะที่นายสมพร เพ็ชรประสิทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ต เปิดเผยว่า ศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ต ได้ก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ พร้อมระบบสาธารณูปโภค มีอาคาร 3 หลัง ได้แก่ อาคารบริหาร อาคารวิศวกรรม อาคารสัมมนา และห้องอาหาร รวม พื้นที่ใช้สอย 2,420 ตารางเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 78 ล้านบาท เพื่อรองรับปริมาณงาน และบุคลากรที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่สายการบิน ให้ได้รับบริการแบบครบวงจร One Stop Service โดยมุ่งเน้นความพึงพอใจสูงสุดของสายการบินผู้ใช้บริการจากการให้บริการของศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ต

*** สาลินี ปราบ/สนับสนุนข่าว ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

------------------------------------
บรรยากาศการทำบัตรประจำตัวประชาชนเด็กที่จังหวัดภูเก็ตคึกคัก หลังมีผู้ปกครองทยอยเข้าคิวคอยทำบัตรฯ อย่างต่อเนื่อง

วันนี้ ( 12 ก.ค. 54) ที่บริวเวณห้องทะเบียนที่ว่าการอำเภอเมืองภูเก็ต ผู้ปกครองทยอยนำเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 7 ขวบ มาทำบัตรประชาชน หลังจากที่กฎหมายได้หเด็กที่มีอายุ 7 ขวบทำบัตรประชาชน ซึ่งในส่วนของอำเภอเมืองภูเก็ต ผู้ปกครองต่างทยอยนำเด็กมาทำบัตรฯ กันอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ถือเป็นวันแรกที่ทางอำเภอเมืองภูเก็ตให้มีการนำเด็กมาทำบัตรฯ

นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต กล่าวว่า ทางอำเภอเมืองภูเก็ตได้มีการเปิดให้บริการทำบัตรประจำตัวประชาชนของเด็กที่มีอายุ 7 ขวบ ตามที่กฎหมายกำหนโดยในวันนี้มีผู้ปกครองได้นำเด็กมาทำบัตร แต่ถือว่าไม่มากนัก แต่เป็นการทยอยกันมาเรื่อย ๆ ซึ่งทางอำเภอเมืองก็ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว แต่มีปัญหาด้านอุปกรณ์บ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย คาดว่าในวันต่อไปจะมีความคล่องตัวในการดำเนินการมากขึ้นและคาดว่าผู้ปกครองจะนำเด็กมาทำบัตรประจำตัวประชาชนมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งทางอำเภอก็ได้มีการเตรียมการไว้เพื่อให้บริการประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการนำเด็กมาทำบัตรฯ ด้วย

***ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว เสงี่ยม เอียดตน /พิมพ์

----------------------------------------
สนามกอล์ฟเรดเมาท์เทินเอาใจลูกค้าบริการเช่าชุดกอล์ฟราคาถูกและอนาคตเตรียมสร้างโรงแรมหรูในสนามกอล์ฟ

นายสมบูรณ์ วงศ์รัศมี กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจกอล์ฟ บมจ. เอ็มบีเค รีสอร์ท กล่าวว่า สนาม The Red Mountain Golf Course เป็นสนามที่สร้างบนภูเขาซึ่งเคยเป็นเมืองแร่ดีบุกมาก่อน แต่ยังคงเป็นสนามของป่าไม้เขตร้อนชื้นไว้เป็นอย่างดี โดยการปรับพื้นที่สนามให้กลมกลืนลงตัว กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ และอุดมไปด้วยป่าไม้ ทางน้ำ ธรรมชาติ ทะเลสาบ และสิ่งมีชีวิต ที่มีอยู่ตามวัฎจักรของธรรมชาติ ซึ่งแต่ละหลุมได้รับการออกแบบเป็นเอกลักษณ์ และเป็นอิสระต่อกัน ทำให้มีความท้าทายและความสนุกแฝงอยู่ทุกหลุม ขณะเดียวกันทางสำหรับรถกอล์ฟ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ในสนามเรด เมาท์เทิน ได้ถูกออกแบบให้คดเคี้ยว ลัดเลาะไปตามไหล่เขา ทำให้มีความเพลิดเพลินระหว่างหลุมต่อหลุม และซ่อนสายตาได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตามสิ่งอำนวยความสะดวกของ สนามกอล์ฟเรด เมาท์เทิน ได้ออกแบบคลับเฮาว์บนเนินเขา โดยคำนึงถึงความโอ่โถง สะดวกสบาย และความคล่องตัวของการให้บริการกอล์ฟ แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ ที่บ่งบอกถึงความเป็นเมืองแร่ดีบุกในอดีต ภายในคลับเฮาว์มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นครบถ้วน เช่น ห้องอาหารปรับอากาศ และริมระเบียงภายนอก ที่สามารถมองเห็นกรีดหลุม 9 และ 18 หลุม ได้อย่างชัดเจน ทางด้านห้องล็อคเกอร์ ชาย-หญิง ที่เน้นความละเอียด โอ่โถง โปรชอปที่มีสินค้าและของที่ระลึกจำหน่าย บริเวณ Staging ที่ห้องความสะดวกนักกอล์ฟที่เตรียมพร้อมจะออกรอบ

นอกจากนั้นสำหรับนักกอล์ฟที่ไม่ได้นำอุปกรณ์มาด้วย ทางสนาม ได้จัดเตรียมชุดกอล์ฟสำหรับเช่า ชั้นนำ เช่น ชุดกอล์ฟ PING, NIKE, COBRA ไว้คอยบริการตลอดจนรองเท้า ขนาดต่าง ๆ สำหรับราคาเรด เมาเทิน 18 หลุม 5,500 บาท แค้ดดี้ 250 บาท รถกอล์ฟ 700 บาท

“ในอนาคตที่สนามเรด เมาเทินแห่งนี้ จะมีโครงการโรงแรมสไตล์ บูติค 60 ห้อง และวิลล่า 10 หลัง ที่เพียบพร้อมด้วยบริการต่าง ๆ และบรรยากาศของทะเลสาบใหญ่ นอกจากนั้นยังมีโครงการบ้านพักอาศัย ตลอดถนนทางเข้าสนามกอล์ฟ เมาท์เทิน และภายในบริเวณสนามกอล์ฟ ซึ่งทุกแปลงมีมุมมองบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง” นายสมบูรณ์ กล่าว

*** สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์ โสภณ เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต /ทาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป