Setpoint group จัดมหกรรมยานยนต์สุดหรูชั้นนำจากต่างประเทศ 14-20 ก.ค.นี้ที่เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต มอบ 50,000 สนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ปี 2555
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 14 ก.ค.2554 ที่ผ่านมา ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงาน Luxury Cars by Setpoint group ซึ่งทางเซ็ทพร้อยท์ กรุ๊ป จำกัด จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 14-20 ก.ค.2554 พร้อมรับมอบเงินสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ปี 2555 จำนวน 50,000 บาท จากบริษัทเซ็ทพร้อยกรุ๊ป จำกัด มีพล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง นายธนัท ทองโสมแก้ว กรรมการผู้จัดการบริษัท เซ็ทพร้อยท์ กรุ๊ป จำกัด ฝ่ายบริหาร และแขกผู้มีเกียรติ รวมถึงนักท่องเที่ยว และประชาชนผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วม
นายธนัท กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ จัดงานโชว์รถสัญจรต่างจังหวัดและเหตุผลที่เลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่จัดงานเนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองที่มีความสำคัญในระดับแนวหน้าของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยวหรือด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ
นายธนัท กล่าวต่อไปอีกว่าการจัดงาน Luxury Cars by Setpoint group ในครั้งนี้บริษัทได้นำรถยนต์นำเข้าหลากหลายสไตล์ หลายรุ่น ซึ่งล้วนแต่เป็นรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวในต่างประเทศมาให้ชมในงาน อาทิ POSCHE PANAMERA TURBO ซึ่งเป็นรถสปอร์ต 4 ประตูที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก เพราะถือเป็นครั้งแรกที่ POSCHE นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ มีการติดเทอร์โบคู่เข้าไปเพิ่มกำลังเป็น 500 แรงม้า , BMW NEW SERIES 6 2012 ซึ่งมีการพัฒนารูปลักษณ์และระบบกลไกแตกต่างไปจากรุ่นที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ,MERCEDES-BENZ SLK-CLASS ซึ่งได้เปิดตัวสปอร์ตโรดสเตอร์เจเนอเรชั่นใหม่ชูจุดขายด้วยหลังคานวัตกรรมระบบ Magic Sky Control ทำงานรวดเร็ว และประหยัดน้ำมัน และนอกจากนี้ยังมี MINI COUNTRYMAN ไฮไลท์สำคัญอยู่ตรง Mini Connected ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่รถยนต์สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้
นายธนัท กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากกิจกรรมการแสดงโชว์รถยนต์แล้ว Set point Group ยังมีความประสงค์ที่ร่วมสนับสนุนกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ให้กับจังหวัดภูเก็ต โดยมอบเงินรายได้ จำนวน 50,000 บาท จากการจัดงานให้กับจังหวัด เพื่อใช้ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ "ภูเก็ตเกมส์" ในปี 2555 ต่อไป
***สารภี ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว
--------------------------------------
วัดต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรมวันเข้าพรรษา ประจำปี 2554
นายปิยวัฒน์ จิรจามร นายกเทศมนตรีตำบลเทพกระษัตรี เป็นประธานในการสมโภชเทียนพรรษา ณ บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลเทพกระษัตรี พร้อมด้วยคณะทีมผู้บริหาร ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนเข้าร่วม
เนื่องจากการถวายเทียนพรรษา เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา โดยในอดีตยามค่ำคืนที่พระภิกษุสามเณร จะสวดมนต์หรือท่องตำรากัน ต้องอาศัยแสงสว่างจากคบเพลิง ตะเกียงและเทียนไข ซึ่งสิ่งดังกล่าวค่อนข้างหาได้อยากลำบาก ชาวบ้านจึงพร้อมกันเรี่ยไรขี้ผึ้งจากผู้มีจิตศรัทธา มาหล่อเทียนเข้าพรรษาเป็นการให้แสงสว่าง ซึ่งจะมีอานิสงส์ ให้แก่ผู้ที่ถวาย มีภูมิปัญญาอันเฉลียวฉลาด คิดสิ่งใดมีความแตกฉาน
สำหรับกิจกรรมวันเข้าพรรษา ประจำปี ของเทศบาลตำบลเทพกระษัตรีในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ถวายเทียนพรรษาและปัจจัยให้วัดพระทอง วัดพระนางสร้าง วัดแขนน ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลเทพกระษัตรี รวมไปถึงเพื่อเป็นแบบอย่างให้คนรุ่นหลังในการสืบทอดประเพณีท้องถิ่นและประเพณีสำคัญของชาติ
สำหรับกิจกรรมมี การเดินขบวนแห่เทียนพรรษา โดยมีนักเรียนและประชาชน เข้าร่วมเดินแห่เทียนพรรษา อีกทั้งเป็นการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา โดยขบวนเริ่มจากหน้าองค์การโทรศัพท์อำเภอถลาง ถึงวัดพระทอง โดยมีประชาชนร่วมกันทำบุญถวายปัจจัยสองข้างทางที่ขบวนแห่ผ่าน
ด้านวัดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้มีการจัดขบวนแห่เทียนพรรษารอบเกาะภูเก็ต เป็นเวลา 3วัน ตั้งแต่วันที่ 14-16 ก.ค. 54 เนื่องในวันเข้าพรรษาประจำปี 2554 โดยมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก
สำหรับการจัดแห่เทียนพรรษาในครั้งนี้เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวัดกะรน ที่เคยจัดทำมา เนื่องจาก ทางชุมชนได้ทำการแกะสลักเทียนพรรษาที่สวยงาม เหมือนที่จังหวัดอุบลราชธานี ทำเป็นประจำทุกปี โดยมีผู้ที่สนใจการเข้าร่วมแห่เทียนพรรษาในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นครั้งแรกของจังหวัดภูเก็ต
สำหรับการจัดแห่เทียนพรรษาในครั้งนี้เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวัดกะรน ที่เคยจัดทำมา เนื่องจาก ทางชุมชนได้ทำการแกะสลักเทียนพรรษาที่สวยงาม เหมือนที่จังหวัดอุบลราชธานี ทำเป็นประจำทุกปี โดยมีผู้ที่สนใจการเข้าร่วมแห่เทียนพรรษาในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นครั้งแรกของจังหวัดภูเก็ต
ด้านเทศบาลตำบลราไวย์ ร่วมกับ วัดสว่างอารมณ์ ได้จัดกิจกรรมวันเข้าพรรษาขึ้นเช่นกัน โดยจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-16 กรกฎาคม นี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลราไวย์ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงประชาชนในจังหวัดภูเก็ตได้มีโอกาสทำบุญรักษาศีลและธำรงจิตใจให้ผ่องใส งดเว้นอบายมุขต่างๆเป็นกรณีพิเศษ
นอกจากนี้ ได้มีการแห่เทียนพรรษาจากวัดสว่างอารมณ์ ไปยังพื้นที่ตำบลกะรน กะตะ ป่าตอง และกลับมายังวัดสว่างอารมณ์ ถึงแม้ครั้งนี้ จะมีสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างหนัก แต่ประชาชน และนักเรียนในพื้นที่ต่างก็พร้อมใจกันมาร่วมขบวนแห่เทียนในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
ส่วนวัดโฆษิตวิหาร พุทธศาสนิกชนต่างร่วมกัน ถวายปัจจัยไทยทาน และอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
สำหรับวันอาสาฬหบูชา นั้นพุทธศาสนิกชนชาวไทย จะทำบุญตักบาตรในตอนเช้า และตลอดวันจะมีการบำเพ็ญบุญกุศลความดีอื่น ๆ เช่น ไปวัดรับศีล งดเว้นการทำบาปทั้งปวง ถวายสังฆทาน ให้อิสระทาน (ปล่อยนกปล่อยปลา) ฟังพระธรรมเทศนา และไปเวียนเทียนรอบโบสถ์ในเวลาเย็น
***city news เคเบิลทีวี/สนับสนุนข่าว
----------------------
โครงการปลูกหญ้าทะเลจากการเพาะเมล็ดคืนสู่ธรรมชาติ ครั้งที่ 1
เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 ก.ค. 54 นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปลูกหญ้าทะเลจากการเพาะเมล็ดคืนสู่ธรรมชาติ ครั้งแรกของจังหวัดภูเก็ต ณ บริเวณแหล่งหญ้าทะเล ทางทิศใต้ของสะพานท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ทั้งนี้โครงการปลูกหญ้าทะเลเป็นความร่วมมือของโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต, เครือข่ายชุมชนชายฝั่งอ่าวฉลอง และสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน โดยมีอาสาสมัครจากโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต, โรงเรียนขจรเกียรติศึกษา และสมาชิกเครือข่ายชุมชนชายฝั่งอ่าวฉลอง เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 60 คน
ด้าน นพ.บดินทร์ ละเอียด รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตให้ความสำคัญและตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน จึงได้มีนโยบายในการดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยจัดกิจกรรมสนับสนุนนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
พร้อมเน้นการปลูกจิตสำนึกที่ดีให้แก่บุคลากรภายในโรงพยาบาลฯ เยาวชนและคนในชุมชน เพื่อให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจกันสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง และสามารถดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชนได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
ด้านนายภูเบศ จอมพล นักวิชาการประมงสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กล่าวว่า โครงการปลูกหญ้าทะเลจากการเพาะเมล็ดคืนสู่ธรรมชาติ ครั้งแรกของจังหวัดภูเก็ตว่า แหล่งหญ้าทะเลนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมีคุณสมบัติในการยึดเกาะและช่วยลดการพังทลายของหน้าดิน เป็นแหล่งอนุบาลตัวอ่อนของสัตว์ทะเล เป็นแหล่งหลบภัยศัตรูจากสัตว์ผู้ล่า และยังช่วยสร้างสมดุลให้แก่ระบบนิเวศ แต่ในปัจจุบันแหล่งหญ้าทะเลมีแนวโน้มที่จะลดปริมาณลง จากผลกระทบของสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทางสถาบันฯ จึงหาแนวทางในการขยายแหล่งหญ้าทะเลให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ โดยการนำเมล็ดมาเพาะเลี้ยงไว้ในตู้อนุบาลหญ้าทะเล แล้วประสานงานกับทางโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต เพื่อจัดกิจกรรมปลูกหญ้าทะเลและเก็บข้อมูลอัตราการเจริญเติบโตของหญ้าทะเลเป็นประจำทุกเดือนตลอดระยะเวลา 1 ปี
***city news เคเบิลทีวี/สนับสนุนข่าว
--------------------
ทัพเรือภาคที่ 3 เร่งช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเรือล่ม กลางทะเลภูเก็ต
เมื่อเวลา 18.20 น.ของวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์ปฎิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 (ศปก.ทรภ.3) ได้รับ แจ้งจากศูนย์ไข่มุก ว่า บริษัทดำน้ำ คอนติกิ นำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำ บริเวณเกาะดอกไม้ กับ เกาะเขียว ขณะเดินทางกลับ เกิดฝนตกหนัก เรือกระแทกกับโขดหิน ทำให้ท้องเรือทะลุ น้ำได้ทะลักเข้าเรือ นักท่องเที่ยวชุดดำน้ำทั้งหมด 27 คน สวมเสื้อชูชีพ รอการช่วยเหลือ
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ประจำเรือ ได้ขอความช่วยเหลือไปที่ ศูนย์ไข่มุก องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และแจ้งให้ทาง ตำรวจน้ำ และ ทัพเรือภาคที่ 3 ทราบ เพื่อให้การช่วยเหลือ
ด้าน ทัพเรือภาคที่ 3 โดย พลเรือโท ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ นาวาเอก กฤษณะ กุณเฑียะ นายทหารเวร ศปก.ทรภ.3 ส่งเรือหลวงวิทยาคม ออกทำการช่วยเหลือเป็นการด่วน โดยจากการตรวจสอบจุดที่นักท่องเที่ยวลอยคอ คือ บริเวณทิศใต้ใกล้เกาะไก่ (เกาะเขียว) ห่างจากทัพเรือภาคที่ 3 แหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง จว.ภูเก็ต ประมาณ 15 ไมล์ทะเล
ต่อมาในเวลา 20.40 น ได้มีเรือสปีดโบ๊ทจากบริษัท คอนติกิ นำเรือนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุขึ้นท่าเทียบเรือฉลอง จำนวน 13 คน ด้วยความปลอดภัย
หลังจากนั้นใน 21.30 น. ทางเรือหลวงวิทยาคม ได้รับแจ้งจากเรือประมงในบริเวณจุดเกิดเหตุว่าได้มีเรือสปีดโบ๊ท นำนักท่องเที่ยว อีกจำนวน 14 คน เดินทางกลับเข้าที่ท่าเทียบเรือฉลองโดยปลอดภัย โดยมีตำรวจท่องเที่ยว นำโดย พ.ต.ท.เอกชัย พราหมณกุล สาวัตรตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ได้จัดกำลังไปอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบกรณีเอกสารต่างๆที่สูญหาย รวมทั้งประสานขอความช่วยเหลือไปยังสถานฑูตของนักท่องเที่ยวแต่ละราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็น นักท่องเที่ยวจากยุโรปมีเพียง1รายที่มาจากดูไบ
ทั้งนี้จากการเปิดเผยของลูกเรือชาวไทย ว่า ขณะที่เกิดเหตุบนเรือมีลูกเรือชาวไทย 3 ทีม เหลือ 24 คน เป็นชาวต่างชาติ และเรือลำดังกล่าวมีสภาพที่เก่า หลังจากที่ได้ปล่อยให้นักท่องเที่ยวลงดำน้ำ ไป3ไดร์ฟก็พากันขึ้นเรือเพื่อมุ่งหน้ากลับเข้าฝั่งที่ จ.ภูเก็ต แต่ขณะที่เรือแล่นมาได้เจอคลื่นลม เรือไปกระแทกโขดหิน เรือจึงเกิดรอยรั่วจนน้ำทะลักเข้าภายในเรือจนอับปางดังกล่าว
*** city news เคเบิลทีวี/สนับสนุนข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป