เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่13 มกราคม 2554 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายสมศักดิ์ สงนุ้ย พัฒนาการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
สำหรับวาระการประชุมในครั้งนี้มีเรื่องเพื่อพิจารณา เป็นการแต่งตั้งผู้แทนเกษตรกรในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงวันที่ 24 เมษายน 2552 จำนวน 4 คน ได้แก่ นายดำรง นนท์แก้ว นายคณพศ แก้วประดับ นายทรงเกียรติ ลือสัตย์จา และนายเกษม หวังจิตร ซึ่งกรรมการจะอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี และจะสิ้นสุดตำแหน่งลงตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2554
จึงมีการคัดเลือกผู้แทนเกษตรกรที่มีคุณสมบัติเพื่อนำเสนอแต่งตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด แทนกรรมการชุดเดิมที่จะครบวาระการเป็นกรรมการคราวละสองปี เรื่องการสั่งให้เกษตรกรสิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินรายนางวรรณา นาคทอง ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต ในวาระการประชุมเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2553 มีมติให้แต่งตั้งอนุกรรมการฯ พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงและตรวจสอบพื้นที่ สิ้นสิทธิเนื่องจากประกอบกิจการค่ายมวยและห้องเช่าผิดระเบียบของ ส.ป.ก. และ คปจ.ภูเก็ต
โดยคณะกรรมการได้ตรวจสอบใหม่ และเสนอแผนโครงการจะปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เพาะเห็ดและปลูกไม้ประดับภายในเดือนธันวาคม 2553 ซึ่งนางวรรณา นาคทอง ยอมรับและยินยอมปฏิบัติตาม รวมถึงเรื่องการหารือ ส.ค.1 มาออกโฉนดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามบันทึกข้อตกลง ระหว่างกรมที่ดิน กับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เรื่องวิธีปฏิบัติการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2541 ได้วางแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ์ (โฉนดที่ดิน)ในเขตปฏิรูปที่ดินไว้ว่า การออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินตามมาตรา 59 และมาตรา 59 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินให้ดำเนินการมีหนังสือสอบถาม ส.ป.ก.จังหวัด พร้อมทั้งส่งสำเนาหลักฐานที่ได้ตรวจสอบและรับรองความถูกต้องให้ ส.ป.ก.จังหวัด ใช้ประกอบพิจารณาว่าประสงค์จะคัดค้านการออกเอกสารสิทธิ ซึ่ง ส.ป.ก.
จังหวัดพิจารณาแล้วเห็นว่า ได้ให้อำนาจคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบในการกำหนดมาตรการและวิธีปฏิบัติงานของสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดได้เท่าที่ไม่ขัดข้องหรือแย้งกับระเบียบหรือข้อบังคับหรือมติของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และเรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องของการโอนและการตกทอดมรดกสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินตามมติคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จะแบ่งเป็น เกษตรกรขอโอนสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน และเกษตรกรขอรับมรดกสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่ง ส.ป.ก. จังหวัดได้พิจารณาใน 2 รายคือ กรณีนางสะอิ้ง หนูเอียด โอนสิทธิในที่ดิน ส.ป.ก. และกรณีการรับมรดกสิทธิของบุตรนายเหร็น เตียงน้อย จำนวน 6 คน เห็นว่าเป็นไปตามระเบียบของ ส.ป.ก. แต่หากตรวจพบในภายหลังว่ามีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ส.ป.ก. จังหวัดก็จะดำเนินการเสนอให้มีการเพิกถอนที่ดินแปลงดังกล่าวต่อไป
ข้อมูลจาก...ส.ปชส.ภูเก็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป