สสปน.รุกตลาดไมซ์สู่ต่างจังหวัด จับมือ 4 เมืองหลัก ลงนาม MOU ดึงต่างชาติเข้ามาจัดประชุมสัมมนา เผยเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 3 เท่า ที่ผ่านมาเข้าไทยปีละ 7 แสนคน สร้างรายได้ปีละ 52,000 ล้านบาท
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารรัฐกิจวิสาหกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เปิดเผยถึงการส่งเสริมตลาดประชุมสัมมนา (ไมซ์) ในจังหวัดภูเก็ต ภายหลังเข้าพบนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือการสนับสนุนให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองสำหรับการจัดประชุม สัมมนาและนิทรรศการระดับนานาชาติ (ไมซ์) ว่า สสปน.มีนโยบายที่จะกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวในส่วนของการจัดประชุมสัมมนาและแสดงสินค้าเข้าสู่พื้นที่ในจังหวัดต่างๆให้ได้มากที่สุด เพราะการท่องเที่ยวในกลุ่มไมซ์มีค่าใช้จ่ายต่อหัวเฉลี่ยสูงถึงวันละ 4,000 กว่าบาท
ปี 2552 ที่ผ่านมาตลาดไมซ์เข้ามาประเทศไทยถึง 700,000 คน สร้างรายได้ประมาณ 52,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่มีความสำคัญมาก การที่จะกระจายรายได้จากตลาดไมซ์ออกสู่ต่างจังหวัดให้มากขึ้น ขณะนี้สสปน.ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ ( MOU )ภายใต้โครงการ MICE CITY ไปแล้ว 3 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และพัทยา เพื่อที่จะส่งเสริมให้ตลาดไมซ์เข้ามาในพื้นที่มากขึ้น
สำหรับความร่วมมือระหว่างสสปน.กับจังหวัดต่างๆจะมีการตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมสัมมนาและแสดงนิทรรศการในระดับจังหวัดขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะทำงานร่วมกับสสปน.ในการทำตลาดไมซ์ 2 เรื่องหลัก คือ การอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ให้แก่ตลาดกลุ่มไมซ์ที่เข้ามาภูเก็ต และทำหน้าที่ในการพัฒนาความพร้อมด้านต่างๆรองรับตลาดกลุ่มไมซ์ เนื่องจากกลุ่มไมซ์เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ ให้เกิดความประทับใจ เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ สามารถทำรายได้ได้มากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 3 เท่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตหลังจากที่ได้หารือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่ข้องแล้วก็จะมีการลงนาม MOU ระหว่างกันในเร็วๆนี้
“การที่สสปน.ร่วมมือกับทางจังหวัดในการส่งเสริมตลาดไมซ์ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะเกิดประโยชน์กับพื้นที่นั้น เพราะทางสสปน.มีโครงการที่จะออกไปเทรดโชว์ยังประเทศต่างๆทั่วโลก จะทำให้จังหวัดนั้นๆได้นำเสนอความพร้อมในการรองรับตลาดไมซ์ได้อีกช่องทางหนึ่ง อย่างกรณีของภูเก็ตที่กำลังจะมีศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องทำตลาดแนะนำให้ตลาดไมซ์ในต่างประเทศได้รับทราบล่วงหน้า ก่อนที่ศูนย์ประชุมฯดังกล่าวจะสร้างแล้วเสร็จ” นายจิรุตถ์ กล่าว
นายจิรุตถ์ ยังกล่าวถึงภาพรวมตลาดไมซ์ที่เข้าภูเก็ตในขณะนี้ ว่า ตลาดไมซ์ที่เข้ามาภูเก็ตส่วนใหญ่แล้วจะเป็นตลาดให้รางวัล ( Incentives ) ซึ่งจากข้อมูลลูกค้าจะเลือกมาภูเก็ตเป็นลำดับต้นๆ จากที่ภูเก็ตมีความพร้อมทั้งในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม โรงแรมที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ส่วนแนวโน้มตลาดไมซ์ในปีหน้า นายจิรุตถ์ กล่าวว่า ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอยู่ในขนาดนี้ การทำตลาดไมซ์ในส่วนของการจัดประชุมสัมมนา และแสดงสินค้านั้นตลาดอาจจะซบลงไปบ้าง แต่ในส่วนของตลาด Incentives นั้นคิดว่าไม่น่าจะได้รับผลกระทบมาก เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวนั้น บริษัทเป็นผู้ออกให้ทั้งหมด ในส่วนของตัวนักท่องเที่ยวก็สามารถที่จะจับจ่ายได้อย่างเต็มที่
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป