นายถาวร เสนเนียม รมช.กระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังร่วมหารือสรุปผลการรณรงค์โครงการ “คนขับ-คนซ้อนท้ายจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย 100% ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต” เพื่อป้องกันและลดอัตราการเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุในเขตเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า การรณรงค์สวมหมวกนิรภัยในเขตเทศบาลนครภูเก็ต 100% ถือว่าเป็นโครงการที่ดี และน่าจะเป็นภูเก็ตโมเดลในการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่สวมหมวกนิรภัย ก่อนที่เริ่มบังคับใช้ให้สวมหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ภายใต้โครงการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่-ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัยในเขตเทศบาลนครภูเก็ต 100 % ทั้งนี้จะเริ่มมีการการบังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจังในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
“หลังจากที่มีการเริ่มดำเนินโครงการดังกล่าวในจังหวัดภูเก็ค คิดว่าน่าจะมีการนำไปดำเนินการในพื้นที่อื่นๆ ต่อ เพราะจริงๆ แล้วกฏหมายเกี่ยวกับการสวมหมวกนิรภัยนั้นมีมานานแล้ว แต่การบังคับใช้กฏหมายยังไม่เข้มข้น และประชาชนหรือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ยังไม่ปฏิบัติตาม ซึ่งการรณรงค์ก่อนที่จะมีการบังคับใช้กฏหมายเข้มเชื่อว่าน่าจะได้ผล”
นายถาวร กล่าวด้วยว่า ในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตและพิการจากอุบัติเหตุจำนวนมาก หากเปรียบเทียบทางด้านเศรษฐกิจในแต่ละปีจะมีความสูญเสียเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท เพราะการเสียชีวิตของหนึ่งคนเท่ากับสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจประมาณ 3-4 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้น เชื่อว่าการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัยจะลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ปีละประมาณ 50 คน และหากมีการเพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฏหมายแล้วเชื่อว่าจะลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในแต่ละปีได้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ในการดำเนินโครงการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย 100% ของจังหวัดภูเก็ต เริ่มมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ตั้งแต่การประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ การว่ากล่าวตักเตือน และสุดท้ายก็จะเข้มงวดในการจับและปรับ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป พร้อมกันนี้สำหรับผู้ที่ถูกปรับนอกจากจะถูกดำเนินคดีแล้วจะมีการแจกหมวกนิรภัยให้ด้วย
ข้อมูลจาก...สาลินี ปราบ / สนับสนุนข่าว/ เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต เรียบเรียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป