วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
จังหวัดภูเก็ตปล่อย “หอยชักตีน” คืนความสมดุลให้ทะเล ระบุแนวโน้ม “หอยชักตีน” ในภูเก็ตอยู่ในขั้นวิกฤต
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 53 เจ้าหน้าที่จากศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 (ภูเก็ต) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำโดยนาย ไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ภูเก็ต ร่วมกับ คณะทำงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตำบลป่าคลอก ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงฝั่งจังหวัดพังงา กรมประมง อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชาฝั่งตำบลป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ร่วมกันปล่อยหอยชักตีน จำนวน 12,000 ตัว ที่บริเวณ ชายหาดท่าหลา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อร่วมกันคืนความสมดุลให้กับธรรมชาติ รวมทั้งเพื่อเพิ่มจำนวนหอยชักตีนให้กับทะเลฝั่งอันดามันหลักการสำรวจพบว่าแนวโน้มจำนวนหอยชักตีนในฟังทะเลอันดามันมีแนวโน้มลดลงอย่างน่าเป็นห่วงเนื่องจากได้รับความนิยมจากผู้บริโภคโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่
นายไพทูล กล่าวว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ปราบปรามเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย อวนรุน ในพื้นที่อ่าวป่าคลอก จ.ภูเก็ต อย่างเข้มข้น ส่งผลให้ แหล่งหญ้าทะเลอ่าวป่าคลอกมีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้นและปัจจุบันมีชาวประมงในพื้นที่และนอกพื้นที่เข้าไปจับสัตว์ทะเลเป็นจำนวนมาก ทำให้สัตว์น้ำไม่สามารถเจริญเติบโตได้ทัน โดยเฉพาะ “หอยชักตีน” ซึ่งเป็นหอยที่พบได้ง่ายตามบริเวณแหล่งหญ้าทะเล แต่หลังจากที่หอยชักตีนได้รับความนิยมจากผู้บริโภคและจำหน่ายได้ราคาดีชาวประมงนิยมที่จะจับหอยดังกล่าวไปจำหน่ายจำนวนมากทำให้ “หอยชักตีน” โตไม่ทันส่งผลให้ผู้ที่จับหอยหันมาจับหอยที่มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ส่งผลให้สถานการณ์ “หอยชักตีน”ในฝั่งอันดามันอยู่ในขั้นวิกฤติและอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากบางส่วนไม่มีโอกาสโตจนเป็นพ่อแม่พันธุ์ เชื่อว่าถ้าสถานการณ์การจับหอยที่มีขนาดเล็กต่อไปอาจจะส่งผลให้หอยชักตีนในฝั่งอันดามันสูญพันธ์ได้
คณะทำงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตำบลป่าคลอก โดยศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะเลขาคณะทำงาน จึงได้ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาชายฝั่งจังหวัดพังงา กรมประมง นำพันธุ์หอยชักตีนที่ได้จากการเพาะเลี้ยงประมาณ 12,000 ตัว อายุประมาณ 2 เดือน มาปล่อยเพื่อแพร่ขยายพันธุ์ในบริเวณแหล่งหญ้าทะเลอ่าวป่าคลอก เพื่อเพิ่มจำนวนสัตว์น้ำหอยชักตีนสำหรับเป็นแหล่งอาหารทะเลของประชาชนในพื้น จ.ภูเก็ตและเพื่อเป็นการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนในพื้นที่และทั่วไปให้เห็นความสำคัญในการดูแลรักษาแหล่งหญ้าทะเลและรณรงค์สร้างจิตสำนึกไม่ให้จับสัตว์น้ำวัยอ่อนหรือขนาดเล็ก เพื่อเพิ่มพ่อแม่พันธุ์หอยชักตีนในพื้นที่อ่าวป่าคลอกไม่ให้สูญพันธุ์ ซึ่งคาดว่าอีก 4 เดือน หอยดังกล่าวจะเจริญเติบโตประมาณ 30 ตัวต่อกิโลกรัม ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่าการปล่อยหอยชักตีนขนาดดังกล่าวมีอัตราการรอด 95 % ปัจจุบันหอยชักตีนราคากิโลกรัมละ 80-100 บาท เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในจังหวัดชายทะเลตามร้านอาหาร
ขณะที่ น.ส. ทิพาพร ไตรทอง นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงฝั่งจังหวัดพังงา กรมประมง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 10 ปี หอยชักตีนในทะเลอันดามันมีเป็นจำนวนมากเนื่องจากยังไม่รู้จักเป็นที่แพร่หลายของผู้บริโภค แต่ปัจจุบันจำนวนหอยชักตีนมีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้เนื่องจากมีผู้นิยมบริโภคเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะตามร้านอาหารต่าง โดยพื้นที่แรกๆ ที่นิยมรับประทานหอยชักตีนคือพื้นที่จังหวัดกระบี่ หลังจากนิยมแพร่หลายมายังจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา โดยมีการซื้อขายจากชาวบ้านในราคาที่สูงถึงกิโลกรัมละ 60 บาท แต่เมื่อนำไปจำหน่ายตามร้านอาหารขายกันประมาณ 20-25 ตัว ราคา 80-120 บาท ทำให้เกิดความจูงใจให้ชาวประมง รวมทั้งชาวบ้านหันไปเก็บหอยชักตีนมาขายกันเป็นจำนวนมาก และเก็บขนาดที่เล็กลงเรื่อยทำให้จำนวนหลายลดลงอย่างน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะภูเก็ตสถานการณ์หอยชักตีนอยู่ในขั้นวิกฤติ จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งเพิ่มจำนวนหอยชักตีนในธรรมชาติให้มีจำนวนมากขึ้น โดยการสร้างจิตสำนึกให้กับชาวบ้านหันมาอนุรักษ์หอยชักตีนไม่เก็บหอยที่มีขนาดเล็กมาจำหน่าย นอกจากนั้นเพื่อให้การอนุรักษ์และเพิ่มจำนวนหอยชักตีนประสบความสำเร็จ ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงฝั่งจังหวัดพังงาจึงได้ริเริ่มศึกษาเพาะพันธ์หอยชักตีนขึ้นมาจนประสบความสำเร็จสามารถเพาะขยายพันธ์หอยชักตีนได้เป็นที่แรก และนำมาปล่อยคืนสู่ทะเลที่บริเวณชายหาดท่าหลาอ่าวป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นโครงการนำร่องก่อนที่จะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
นางสาวทิพาพร กล่าวต่ออีกว่า จำนวนหอยชักตีนที่ลดลงจำนวนมากนั้นส่งผลให้ระบบนิเวศน์ทางทะเลเสียสมดุลไปด้วย เพราะว่าหอยชักตีนจะอาศัยอยู่ที่บริเวณดินเลนแนวหญ้าทะเล ซึ่งหอยชักตีนจะช่วยทำความสะอาดทะเล ทำให้น้ำทะเลสะอาดและเป็นอาศัยของสัตว์ทะเลอื่นๆ
ข้อมูลจาก :: เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป