พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต กล่าวถึงข้อมูลนักท่องเที่ยวที่มาขอต่อใบอนุญาตอยู่ต่อ หรือเวิร์กเปอร์มิต เพื่อท่องเที่ยว หรือว่าทำงานในจังหวัดภูเก็ตกับทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ว่า การขอต่อใบอนุญาตดังกล่าวของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ สำหรับปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมาติดต่อกับทาง ตม.ประมาณ 20,000 คน ส่วนในปีนี้ลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะจังหวัดภูเก็ตกำลังเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น สภาวะเศรษฐกิจโลก และประกอบกับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง ในกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ยังได้กล่าวถึงมาตรการเข้มงวดกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคดีแล้วเดินทางเข้ามาในเมืองไทยด้วยว่า ทาง ตม.ภูเก็ตได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยทางกองกับกำการตรวจคนเข้าเมือง 6 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ตั้งศูนย์ตรวจคนเข้าเมือง และศูนย์บัญชาการฐานข้อมูลในการสืบค้นหาข้อมูลบุคคลที่กระทำความผิด และเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งศูนย์ดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลที่มีแบล็คลิตไปยังสถานีตำรวจต่างๆ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
สำหรับในส่วนของบุคคลที่ทำความผิดในประเทศของตัวเองแล้วเดินทางเข้ามายังประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องหาคดียาสาเสพติด ยักยอกทรัพย์ และขบวนการฟอกเงิน โดยจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในรูปแบบของนักท่องเที่ยว ซึ่งจะไม่แสดงพฤติกรรมเหล่านี้ออกมา ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเป็นหลัก อย่างไรก็ดีทาง ตม.ภูเก็ตได้มีรายชื่อกลุ่มบุคคลเหล่านี้ไว้ในบัญชีของ ตม.แล้ว พร้อมให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบ และเฝ้าระวัง หากพบจะดำเนินการจับกุมทันที
ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต กล่าวถึงกรณีนักการเมืองและแกนนำที่ถูกออกหมายจับอยู่ในขณะนี้ ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้มีการสั่งการให้แต่ละด่านเข้มงวดและตรวจสอบการเดินทางเข้ามาของนักการเมือง ซึ่งการตรวจสอบ ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ยังไม่พบบุคคลเหล่านี้หลบหนีเข้ามากบดานในจังหวัดภูเก็ต
ข้อมูลจาก :: เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป