เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 ธันวาคม 2554 ที่ห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผละกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นและรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม จังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 8/2554 โดยมีนายวิสุทธิ์ โรมินทร์ รองหัวหน้าชุดเฉพาะกิจผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญมี โครงการอาคารชุดพักอาศัย เกษมทรัพย์ คอนโดเทล ขอแก้ไขรายละเอียดโครงการ มีความประสงค์ขออนุญาตเปลี่ยนการใช้ประโยชน์อาคารบางส่วนเป็นโรงแรม จำนวน 211 ห้องพัก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงโครงการจะเป็นเพียงการเปลี่ยนการใช้ประโยชน์พื้นที่อาคารโดยไม่มีการดัดแปลงหรือต่อเติมอาคารอย่างใด โครงการศรีสุชาติแกรนด์วิว 5 มีความประสงค์เปลี่ยนแปลงรายละเอียดจากที่ดินจัดสรร 279 แปลง เป็น 298 แปลง เพิ่มขึ้น 19 แปลง และโครงการจัดสรรที่ดิน เพิ่มทรัพย์วิลล่า ขอแก้ไขผังจัดสรรที่ดิน จำนวน 233 แปลง โดยมีความประสงค์จะขออนุญาตทำการแก้ไขผังจัดสรรที่ดิน โดยจะทำการเปลี่ยนประเภทของแปลงที่ดินอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น นอกจากนี้ยังมีโครงการบ้านพักอาศัยให้เช่าระยะยาว เดอะ วิลเลจ โคโคนัท ไอส์แลนด์ ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดจำนวน 238 ห้อง เป็นโรงแรม และเปลี่ยนเจ้าของโครงการจากบริษัท โคคัท ไอส์แลนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เป็น บริษัท เดอะ วิลเลจ แมเนจเม้นท์ จำกัด โดยรูปแบบ จำนวนห้องพัก และระบบสาธารณูปโภคยังเหมือนเดิม โครงการกฤษณา พาราไดซ์ โฮท็ล ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ จากโรงแรมจำนวน 49 ห้องพัก มาเป็นโครงการเดอะ คริส คอมีคนโด บางเทา ซึ่งเป็นกิจการประเภทอาคารชุด จำนวน 29 ห้องชุด และโครงการจัดสรรที่ดิน เอกอัสนดาบุรี มีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการจากเดิม จำนวน 71 แปลง เป็นที่ดินจัดสรร จำนวน 74 แปลง และโครงการจัดสรรที่ดิน เอกธารินทร์สแควร์ มีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ จากเดิม 17 แปลง เป็นการจัดสรรที่ดินจำนวน 18 แปลง ทั้งนี้โครงการฟลอริจูด กอล์ฟ ฮิลล์ เทอเรสเซส มีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดพื้นที่ใช้สอยบริเวณชัน 1 ของอาคาร B โดยเปลี่ยนการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณห้องพักผู้จัดการมาเป็นห้องฟิสเนส โครงการแก้วปานวาด อพาร์ทเมนท์ มีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดพื้นที่ใช้สอยอาคารโดยบริเวณชั้น 1 จากห้องพักจำนวน 14 ห้อง เหลือ 7 ห้อง และชั้น 2-4 จากชั้นละ 15 ห้อง เหลือชั้นละ 14 ห้อง รวมห้องพักทั้งโครงการลดลงจาก 58 ห้องพัก เหลือ 49 ห้องพัก
สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญมี โครงการอาคารชุดพักอาศัย เกษมทรัพย์ คอนโดเทล ขอแก้ไขรายละเอียดโครงการ มีความประสงค์ขออนุญาตเปลี่ยนการใช้ประโยชน์อาคารบางส่วนเป็นโรงแรม จำนวน 211 ห้องพัก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงโครงการจะเป็นเพียงการเปลี่ยนการใช้ประโยชน์พื้นที่อาคารโดยไม่มีการดัดแปลงหรือต่อเติมอาคารอย่างใด โครงการศรีสุชาติแกรนด์วิว 5 มีความประสงค์เปลี่ยนแปลงรายละเอียดจากที่ดินจัดสรร 279 แปลง เป็น 298 แปลง เพิ่มขึ้น 19 แปลง และโครงการจัดสรรที่ดิน เพิ่มทรัพย์วิลล่า ขอแก้ไขผังจัดสรรที่ดิน จำนวน 233 แปลง โดยมีความประสงค์จะขออนุญาตทำการแก้ไขผังจัดสรรที่ดิน โดยจะทำการเปลี่ยนประเภทของแปลงที่ดินอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น นอกจากนี้ยังมีโครงการบ้านพักอาศัยให้เช่าระยะยาว เดอะ วิลเลจ โคโคนัท ไอส์แลนด์ ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดจำนวน 238 ห้อง เป็นโรงแรม และเปลี่ยนเจ้าของโครงการจากบริษัท โคคัท ไอส์แลนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เป็น บริษัท เดอะ วิลเลจ แมเนจเม้นท์ จำกัด โดยรูปแบบ จำนวนห้องพัก และระบบสาธารณูปโภคยังเหมือนเดิม โครงการกฤษณา พาราไดซ์ โฮท็ล ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ จากโรงแรมจำนวน 49 ห้องพัก มาเป็นโครงการเดอะ คริส คอมีคนโด บางเทา ซึ่งเป็นกิจการประเภทอาคารชุด จำนวน 29 ห้องชุด และโครงการจัดสรรที่ดิน เอกอัสนดาบุรี มีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการจากเดิม จำนวน 71 แปลง เป็นที่ดินจัดสรร จำนวน 74 แปลง และโครงการจัดสรรที่ดิน เอกธารินทร์สแควร์ มีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ จากเดิม 17 แปลง เป็นการจัดสรรที่ดินจำนวน 18 แปลง ทั้งนี้โครงการฟลอริจูด กอล์ฟ ฮิลล์ เทอเรสเซส มีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดพื้นที่ใช้สอยบริเวณชัน 1 ของอาคาร B โดยเปลี่ยนการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณห้องพักผู้จัดการมาเป็นห้องฟิสเนส โครงการแก้วปานวาด อพาร์ทเมนท์ มีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดพื้นที่ใช้สอยอาคารโดยบริเวณชั้น 1 จากห้องพักจำนวน 14 ห้อง เหลือ 7 ห้อง และชั้น 2-4 จากชั้นละ 15 ห้อง เหลือชั้นละ 14 ห้อง รวมห้องพักทั้งโครงการลดลงจาก 58 ห้องพัก เหลือ 49 ห้องพัก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทีม อ.รัตภูมิคว้าชัย 2 นัดรวด เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตซอลพระราชาทานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การแข่งขันฟุตซอลพระราชาทานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 รุ่นอายุ 12 ปี จาก 5 จังหวัดชายแดนมีทีมเข้าร่วมจำนวน 22 ทีม นักกีฬากว่า 300 คนเข้าร่วมทำการแข่งขันที่สนาม หญ้าเทียม ภูเก็ต ซอคเกอร์ อารีน่าซึ่งทำการแข่งขันมาตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมาล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันนี้(21 ธ.ค.54)เป็นการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย แบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 สาย สายละ 4 ทีม ซึ่งแต่ละทีมที่เข้าร่วมแข่งขันต่างโชว์ฝีเท้ากันอย่างดุเดือด โดยไฮไลของเมื่อช่วงเช้าวันนี้อยู่ที่สาย B ซึ่งมีทีมดังๆผู้เล่นฝีเท้าดี ประกอบด้วย 4 ทีม ทีม อ.บาเจาะ ทีม อ.รัตภูมิ ทีม อ.ละงู และทีม อ.จะนะ โดยคู่แรกเป็นการพบกันระหว่างทีมรัตภูมิซึ่งเป็นทีมเต็งของรายการนี้ พบกับทีมบาเจอะ ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีมรัตภูมิ อาศัยตัวผู้เล่นที่มีฝีเท้า และทีมเวิกร์ ที่เหนือกว่า ไล่ทะล้มทีมบาเจาะ ไปขาดลอย 6 ประตูต่อ 1 ในส่วนของนัดที่ 2 ทีมรัตภูมิก็ยังคงโชว์ฝีเท้าได้อย่างโดดเด่น เอาชนะทีม อ.จะนะไปอีก 3 ประตูต่อ 1 ส่งผลให้ทีม อ.รัตภูมิ เก็บ6 แต้ม เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นทีมแรก
สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆที่สำคัญปรากฏว่า ทีมละงูพ่ายทีมจะนะไป 3-4 ทีมควนโดนพ่ายทีมหนองจิกไป 3-5 ทีมยะหริ่งพ่ายทีม หาดใหญ่ไป 1-6 และทีมโคกโพธิ์ พ่ายทีมเบตงไป 2-8. ทีมบาเจาะ ชนะ ทีมละงู 2-0 ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้จะเป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ เพื่อหาคู่ชิงในวันที่ 23 ธันวาคมนี้
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สสจ.ภูเก็ต ตรวจกระเช้ารับปีใหม่ เพื่ออนามัยผู้บริโภค
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ธันวาคม 2554 ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต นายศักดิ์ แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ตรวจกระเช้าสินค้าของขวัญวันปีใหม่ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน เข้าร่วม
นายศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ได้มาตรวจกระเช้าสินค้าของขวัญวันปีใหม่ที่เซ็นทรัลฯ พบว่าสินค้าไม่มีสิ่งผิดปกติ ฉลากแจ้งวันหมดอายุมีความถูกต้องและชัดเจน ซึ่งทางด้านสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้ทำหน้าที่เลขานุการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธาน จึงได้มอบหมายให้มาตรวจเยี่ยมซุปเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้า ว่าไม่ควรมีสิ่งเสพติดปะปนอยู่ เช่น เหล้า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่ม พ.ศ.2550 ทั้งนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจดูสินค้าทุกห้างสรรพสินค้าแล้ว และได้ทำการตรวจไปแล้ว จำนวน 2,869 ชิ้น ซึ่งพบสิ่งที่ผิดปกติ จำนวน 401 ชิ้น เช่น ฉลากวันหมดอายุ เนื่องจากสินค้าบางชนิดหมดอายุเร็วเกินไปและสินค้าบางชนิดไม่ติดประกาศวันหมดอายุ จึงทำให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค คิดเป็นประมาณ 10-14% รวมถึงลักษณะสินค้าที่ผิดปกติ เช่น กระป๋องบวมปูด ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติ เพื่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยและให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ
ทั้งนี้สินค้า จำนวน 401 ชิ้น ที่มีสิ่งผิดปกติก็จะมีการตักเตือนและปรับปรุงสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น แต่ต่อไปเมื่อเกิดสิ่งผิดปกติดังกล่าวอีก ก็จะดำเนินตามกฎหมาย และอาจจะมีการปรับด้วย และเมื่อปีที่แล้วได้มีการปรับโฆษณาสินค้าในจังหวัดภูเก็ตที่ผิดกฎหมาย 1 แห่ง จำนวน 50,000 บาท ซึ่งปรับได้ไม่เกิน 200,000 บาท นอกจากนี้การตรวจสินค้าครั้งต่อไปก็จะต้องไม่ให้พบความผิดปกติดังกล่าวอีก
นายศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ได้มาตรวจกระเช้าสินค้าของขวัญวันปีใหม่ที่เซ็นทรัลฯ พบว่าสินค้าไม่มีสิ่งผิดปกติ ฉลากแจ้งวันหมดอายุมีความถูกต้องและชัดเจน ซึ่งทางด้านสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้ทำหน้าที่เลขานุการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธาน จึงได้มอบหมายให้มาตรวจเยี่ยมซุปเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้า ว่าไม่ควรมีสิ่งเสพติดปะปนอยู่ เช่น เหล้า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่ม พ.ศ.2550 ทั้งนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจดูสินค้าทุกห้างสรรพสินค้าแล้ว และได้ทำการตรวจไปแล้ว จำนวน 2,869 ชิ้น ซึ่งพบสิ่งที่ผิดปกติ จำนวน 401 ชิ้น เช่น ฉลากวันหมดอายุ เนื่องจากสินค้าบางชนิดหมดอายุเร็วเกินไปและสินค้าบางชนิดไม่ติดประกาศวันหมดอายุ จึงทำให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค คิดเป็นประมาณ 10-14% รวมถึงลักษณะสินค้าที่ผิดปกติ เช่น กระป๋องบวมปูด ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติ เพื่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยและให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ
ทั้งนี้สินค้า จำนวน 401 ชิ้น ที่มีสิ่งผิดปกติก็จะมีการตักเตือนและปรับปรุงสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น แต่ต่อไปเมื่อเกิดสิ่งผิดปกติดังกล่าวอีก ก็จะดำเนินตามกฎหมาย และอาจจะมีการปรับด้วย และเมื่อปีที่แล้วได้มีการปรับโฆษณาสินค้าในจังหวัดภูเก็ตที่ผิดกฎหมาย 1 แห่ง จำนวน 50,000 บาท ซึ่งปรับได้ไม่เกิน 200,000 บาท นอกจากนี้การตรวจสินค้าครั้งต่อไปก็จะต้องไม่ให้พบความผิดปกติดังกล่าวอีก
---------------------------------------------------------------
สสจ. ภูเก็ตสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์สื่อมวลชนภูเก็ต
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ร้านซิสเตอร์ เซ็นทรัลเฟสติวัล นายแพทย์ศักดิ์ แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมเครือข่ายด้านประชาสัมพันธ์ สสจ. ภูเก็ต โดยมีนายพีระพงค์ ผลประมูล ประธานชมรมผู้สื่อข่าวภูเก็ต นายเจริญ ถิ่นเกาะแก้ว นายกสมาคมวิทยุท้องถิ่นไทย สื่อมวลชนจากสื่อโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์และ อสม. เข้าร่วม
นายแพทย์ศักดิ์ กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจถึงสถานการณ์โรคภัยต่าง ๆ โดยได้รับความร่วมมือจากสื่อทุกแขนงสนับสนุน การประชาสัมพันธ์ด้วยดีตลอดมา ทางสำนักงานต้องขอขอบคุณในน้ำใจที่ดีงามของสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม คงต้องฝากความร่วมมือที่มีอยู่ปัจจุบันถือว่าดีแล้ว ให้มีการพัฒนาสู่ความร่วมมือเป็นเครือข่าย มีข่าวสารอะไร สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ และจะเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อจังหวัด หากเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ และการทำงานของสื่อมวลชนจะได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย
นายแพทย์ศักดิ์ กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจถึงสถานการณ์โรคภัยต่าง ๆ โดยได้รับความร่วมมือจากสื่อทุกแขนงสนับสนุน การประชาสัมพันธ์ด้วยดีตลอดมา ทางสำนักงานต้องขอขอบคุณในน้ำใจที่ดีงามของสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม คงต้องฝากความร่วมมือที่มีอยู่ปัจจุบันถือว่าดีแล้ว ให้มีการพัฒนาสู่ความร่วมมือเป็นเครือข่าย มีข่าวสารอะไร สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ และจะเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อจังหวัด หากเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ และการทำงานของสื่อมวลชนจะได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป