วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ข่าวประจำวันที่ 25 ก.ค..54

อบจ.ภูเก็ต ร่วมงานประกวดหนังสั้น “Short Film…แทคทีมเด็กไทยถ่ายหนังสั้นปี 4
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา นายอาซิ่น อร่ามเมธาพงศา ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในงานประกาศผลรางวัลหนังสั้น “Short Film…แทคทีมเด็กไทยถ่ายหนังสั้นปี 4 ตอน Save Phuket ณ ห้องประชุมหลวงอนุภาษภูเก็ตการ อาคาร 3มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตร่วมแสดงผลงาน ได้แก่ โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา โรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว โรงเรียนวิชิตสงคราม โรงเรียนเทศบาลบ้านสามกอง โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ โรงเรียนกะทู้วิทยา โรงเรียนเมืองถลาง และโรงเรียนวัดศรีสุนทร
              นายอาซิ่น อร่ามเมธาพงศา ที่ปรึกษานายก อบจ
.ภูเก็ต กล่าวว่า สมาคมพิทักษ์เด็กภูเก็ต ร่วมกับโรงแรมดิเอวาซอน แอนด์ บอน ไอส์แลนด์ สโมสรไลออนส์ภูเก็ตเพิร์ล สถานีวิทยุ 91 เรดิโอโมดิฟาย และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ร่วมกันจัดงานประกาศผลรางวัลหนังสั้น “Short Film…
แทคทีมเด็กไทยถ่ายหนังสั้น
ปี 4 ตอน Save Phuket ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เด็กและเยาวชนในสถานศึกษา ได้มีโอกาสถ่ายทำภาพยนตร์สั้นเพื่อสิ่งแวดล้อม  ซึ่งจังหวัดภูเก็ต มีนักเรียนในสถานศึกษาต่าง ๆ ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมถ่ายหนังสั้น เพื่อสิ่งแวดล้อม และมีโรงเรียนที่ผ่านรอบคัดเลือกมีโอกาสเข้าอบรมถ่ายทำหนังสั้น และถ่ายทำหนังสั้นสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อม ตามรายละเอียดผลงานของพวกเขาในครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นกิจกรรมดีๆ ที่สร้างสรรค์สังคมเมืองภูเก็ตให้น่าอยู่ จึงอยากให้มีกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้อีกในครั้งต่อไป และขอแสดงความยินดีกับเด็กนักเรียนกลุ่มที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ ด้วย.
***ปชส.อบจ. ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว
------------------------------------------------
ประชาชนในพื้นที่ 18 ตำบลของจังหวัดภูเก็ต ร่วมงานมหกรรมสวัสดิการชุมชนคนภูเก็ต 
                เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 23 ก.ค.2554 ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี เทศบาลนครภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานมหกรรมสวัสดิการชุมชนคนภูเก็ตสู่สังคมสวัสดิการถ้วนหน้า ปี 2560 โดยมีนางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายสุทัศน์ โพชากรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 40 จังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน ผู้นำองค์กรชุมชน ผู้บริหารสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และประชาชนผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมในพิธี                กิจกรรมภายในงานมีนิทรรศการสวัสดิการชุมชน ของดีคนเมืองภูเก็ต 18 ตำบล ละครเวที การแสดงระบำร่อนแร่ การแสดงของผู้สูงอายุ การแสดงชุดเหนือทรายใต้ฟ้า ฯลฯ การเสวนา"รัฐร่วมราษฎร์ ปฏิรูปคนเมืองภูเก็ต สู่สังคมสวัสดิการถ้วนหน้า" แถลงการณ์เจตนารมณ์ "ธรรมนูญสวัสดิการชุมชนคนเมืองภูเก็ต" และการประกวดวาดภาพพร้อมรับรางวัลสำหรับเยาวชน ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่พิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการได้มีขบวนแห่รณรงค์สวัสดิการชุมชนคนภูเก็ต 18 ตำบล ด้วย                 นางวารุณี ธารารัตนากุล ประธานคณะกรรมการเครือข่ายสวัสดิการชุมชนจังหวัดภูเก็ต กล่าวรายงานว่า  ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาชุมชนต่างๆในจังหวัดภูเก็ต ได้มีการเริ่มจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนในหลายรูปแบบเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นสำคัญ บางพื้นที่ใช้ฐานการจัดการทรัพยากรดูแลรักษาป่าชุมชน ส่วนในชุมชนเมืองที่เริ่มจากการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผ่านโครงการบ้านมั่นคง ก็ได้มีการตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนทั้งในระดับชุมชนและระดับเมืองควบคู่กันไป ทั้งนี้จากการที่ขบวนองค์กรสวัสดิการชุมชนได้เสนอแนวทางต่อรัฐบาลในการสนับสนุนการจัดสวัสดิการชุมชนตำบล โดยให้มีการสมทบงบประมาณกองทุนสวัสดิการชุมชนที่มาจากการออมของชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรัฐบาลกลาง มุ่งเน้นให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ซึ่งรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนงบประมาณสมทบกองทุนสวัสดิการชุมชนเป็นปีที่สองแล้วนั้น ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีกองทุนสวัสดิการชุมชนที่ได้รับอนุมัติงบสมทบแล้ว 17 กองทุน สมาชิกรวม 8,398 คน เงินกองทุนที่สมทบ 8.5 ล้านบาท  ซึ่งการจัดงานในวันนี้จะทำให้ชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกิดความตื่นตัวที่ร่วมกันจัดสวัสดิการชุมชนให้กระจายกว้างขวางขึ้น ในส่วนของการจัดสวัสดิการนั้นแต่ละกองทุนได้มีการจัดสวัสดิการด้านต่าง ๆ  ครอบคลุมตั้งแต่การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เช่น รับขวัญเด็กเกิดใหม่ ทุนการศึกษา ค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วย พัฒนาอาชีพ ฌาปนกิจ เป็นต้น ทั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันและความพร้อมของแต่ละกองทุน คุณค่าสำคัญที่ได้จากการจัดสวัสดิการโดยชุมชน คือการทำให้เกิดความรัก ความสมานฉันท์ การช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชุมชน ฟื้นฟูระบบคุณค่าเดิมของสังคมไทย นอกจากนี้ในช่วงที่เกิดปัญหาน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมากองทุนสวัสดิการชุมชนในจังหวัดภูเก็ตก็ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลในช่วงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชประสบภัยน้ำท่วมอีกส่วนหนึ่ง                งานพัฒนาที่ดำเนินการโดยขบวนองค์กรชุมชนในจังหวัดภูเก็ตนอกจากด้านสวัสดิการชุมชนตามที่กล่าวมาแล้ว ยังมีงานพัฒนาด้านการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านมั่นคง การแก้ไขปัญหาที่ดินในชนบท ฯลฯ นอกจากนี้ในพื้นที่ภูเก็ตได้มีการจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนเพื่อเป็นเวทีกลางในการปรึกษาหารือร่วมกันของคนในชุมชนแล้ว 17 ตำบล การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ 17 ตำบล การพัฒนาเศรษฐกิจและทุนชุมชนในพื้นที่ 5 ตำบล และการจัดทำแผนชุมชนในพื้นที่ 18 ตำบล                นอกจากงานพัฒนาในระดับชุมชนตำบลแล้วขบวนองค์กรชุมชนได้มีการหารือร่วมกันระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล อบต.ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคมในพื้นที่เพื่อร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์ "สวัสดิการถ้วนหน้าปี 2560" ที่เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทยร่วมกันต่อไป นางวารุณี กล่าวในที่สุด
*** สารภี  ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว 
----------------------------
ทีมแหลมพันวา B  รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ซิวแชมป์พายเรือแคนู เทศบาลตำบลวิชิต ประจำปี 2554

เมื่อวันที่ 24  ก.ค. 54 ที่คลองมุดง ต. วิชิต อ. เมือง จ. ภูเก็ต นายกรีฑา  แซ่ตัน นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต  เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันพายเรือแคนูเทศบาลตำบลวิชิต ประจำปี 2554 โดยมี เจ้าหน้าที่ ผู้บริหาร สมาชิกสภา เทศบาลตำบลวิชิต และผู้ร่วมแข่งขันในพื้นที่เทศบาลตำบลวิชิต เข้าร่วม
ทั้งนี้ ตามที่เทศบาลตำบลวิชิต กำหนดจัดการฝึกอบรมและแข่งขันพายเรือแคนู ประจำปี 2554 ขึ้นเพื่อเพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนในชุมชนร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติ และเป็นแนวทางในการสร้างอาชีพให้แก่ประชาชนในชุมชน ด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่
โดยแบ่งประเภทการแข่งขันกีฬาพายเรือแคนู แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือประเภทนักเรียนรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี (พ.ศ. 2542)  รับไม่เกิน 18 ทีม   ทีมละ 2 คน  ประเภทนักเรียนรุ่นอายุ 13 ปีขึ้นไป (พ.ศ. 2541)
รับไม่เกิน 18 ทีม ทีมละ 2 คน   ประเภทชุมชนในเขตตำบลวิชิต รับจำนวน 18 ทีม  ทีมละ 2 คน และประเภทประชาชนทั่วไป ทีมละ 2 คน  โดยประเภทนักเรียนรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี และรุ่นอายุ 13 ปีขึ้นไป โดยได้ทำการฝึกอบรมไปเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2554 และได้แข่งขันในวันนี้ (24 กรกฎาคม 2554)  นั้น
ผลการแข่งขัน ปรากฏว่า ประเภทนักเรียนอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีม แหลมพันวา B
(ด.ช.สุรชัย  หาทรัพย์
, ด.ช.สุรเชษฐ์  หาทรัพย์)
, ประเภทนักเรียนรุ่นอายุ 13 ปี ขึ้นไป ชนะเลิศได้แก่ ทีม
วัดเทพนิมิตร
A (ด.ช.วิทวัส  วงศ์จินะ , ด.ช.จิรานนท์  พรมชอบ) ประเภทชุมชนในเขตเทศบาลตำบลวิชิต ชนะเลิศ ได้แก่ทีมชุมชนบ้านระแงง  (นายสารัช  ศุภนาม, นายไตรรงค์  ไหมทอง)  รับเงินรางวัล 2, 500  บาท พร้อมถ้วยรางวัลทุกรางวัล  ส่วนประเภทประชาชนทั่วไป (open) ชนะเลิศ  ได้แก่ ทีม หมู่ที่ 4  (นายสมชาย  บุญแนะ,  นายถนอมศักดิ์  วรนพกูล)  รับเงินรางวัล 3, 000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเช่นกัน
*** เสงี่ยม  เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว/พิมพ์  โสภณ  เคี่ยมการ /ทาน
------------------------------------------
ภูเก็ตตั้งเป้าเป็นจังหวัดต้นแบบ to be number one ระดับเพชร ภายในปี 2556
                วันนี้ (25 ก.ค. 54) ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ  สังข์ขาวสุทธิรักษ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมคณะกรรมการถอดบทเรียนและขับเคลื่อนโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด To be number one จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายแพทย์ศักดิ์  แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และคณะกรรมการจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
               สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญ เป็นการแจ้งที่ประชุมทราบเรื่องผลการประกวดจังหวัด/ชมรม
To be number one ระดับประเทศ  ซึ่งตามที่จังหวัด/ชมรม To be number one และ ชุมชนบ้านลิพอนเขาล้านได้รับคัดเลือกผ่านเข้าร่วมสู่การตัดสินระดับประเทศ โดยการประกวดรอบตัดสินระดับประเทศกำหนดจัดขึ้นในงานมหกรรมรวมพลสมาชิก TO BE NUMBER ONE ในช่วงวันต่อต้านยาเสพติดโลกเป็นประจำทุกปี ส่วนในปี 2554  ในวันที่ 23 มิถุนายน 2554 ที่ ฮอลส์ 9 ศูนย์ประชุมอิมแพค เมืองทองธานี นั้น ปรากฏว่า  จังหวัด/ชมรม To be number one และ ชุมชนบ้านลิพอนเขาล้าน ได้รับรางวัลจังหวัด  To be number one และ ชุมชน To be number one ในระดับทอง โดยประธานที่ประชุมยังได้มอบนโยบายการดำเนินงานโครงการ   To be number one จังหวัดภูเก็ต สู่เป้าหมายสำคัญ คือ สร้างและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเยาวชนไปพร้อม ๆ กับการเป็นจังหวัดต้นแบบระดับเพชรในปี 2556 และชุมชนต้นแบบระดับเพชรในปี 2554 (ชุมชนบ้านลิพอนเขาล้าน)
                ด้านนายแพทย์ศักดิ์  แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานจังหวัดต้นแบบระดับเพชร ปี 2554-2558 ว่าไต้ตั้งเป้าหมายให้เป็นจังหวัดต้นแบบระดับเพชร ภายปี 2556 เป็นชุมชนต้นแบบระดับเพชร ภายในปี 2558 และความสำเร็จในเชิงสังคมคือ เด็กในชุมชน เก่ง ดี มีความสุข  โดยยุทธศาสตร์ต้นแบบระดับเพชร  ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์
To be number one  ยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งในพื้นที่เป้าหมาย (จัดตั้งชมรมในพื้นที่ ที่ยังไม่มีชมรม) การจัดการความรู้และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้  รวมถึงการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ (มีโต๊ะข่าว To be number one ทุกเดือนและมีการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง)
***โสภณ  เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว  เสงี่ยม  เอียดตน/พิมพ์
--------------------------------------------
ชุดเฉพาะกิจผู้ว่าฯ ภูเก็ต จับยาไอซ์ ยาบ้ามูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
                วันนี้ (25 ก.ค. 54) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายวีระวัฒน์  จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.โกมล  วัตราภรณ์ รอง ผบก.ภ. จ.ภูเก็ต นายวิโรจน์  สุวรรณวงศ์ ป้องกันจังหวัดภูเก็ตและหัวหน้าชุดเฉพาะกิจผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  นายวิสุทธิ์  โรมินทร์ รอง หน.ชุดฯ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
               สำหรับการจับกุมดังกล่าวเป็นการจับกุมผู้ต้องหาชื่อ เอ๋ หรือนายประพันธ์  น้ำมะลิ โดยมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมาเป็นเวลานาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยชุดเฉพาะกิจผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จึงได้ร่วมกันวางแผนเพื่อที่จะจับกุม จนกระทั่งเวลา 20.30 น. ของวันที่ 24 ก.ค. 54 เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยตำรวจชุดเฉพาะกิจได้ให้สายลับติดต่อกับนายประพันธ์ฯ โดยสืบได้ความว่า นายประพันธ์ฯ  พักอยู่ที่บ้านเลขที่ 109/283 หมู่บ้านสะพานหิน ต. วิชิต อ. เมือง จ. ภูเก็ต จากนั้นสายลัยจึงได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่านายประพันธ์ฯ ได้ให้ตนเองเข้าไปหายังที่พักของนายประพันธ์ฯ เอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพร้อมด้วยสายลับจึงได้เดินทางไปยังจุดดังกล่าว  พร้อมแสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ และได้ควบคุมตัวนายประพันธ์ฯ ไว้ โดยสอบถามนายประพันธ์ฯ และนายประพันธ์ฯ ได้ให้การยอมรับว่าตนเองมียาเสพติดอยู่จริงและรับสารภาพว่าตนเองได้ซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในภายในบ้านพักของตนเอง  ผลการตรวจค้นพบยาบ้าทั้งหมดจำนวน 17
,300 เม็ด ยาไอซ์รวมทั้งหมด 150 กรัม โดยนายประพันธ์ฯ ยอมรับว่าตนเองเป็นผู้ทำหน้าที่รับ-ส่งยาเสพติดแทนนายอ๊อดซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ชุดนี้จับกุมไปเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 54 ที่ผ่านมา โดยตนได้ไปรับยาที่บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ถ. เทพกระษัตรี สี่แยกราชภัฎภูเก็ต โดยมีนาย บาส (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง)  ซึ่งโดยสารมากับรถประจำทางจาก กรุงเทพฯ  เป็นผู้ส่งยาให้ โดยได้จำหน่ายไปแล้วส่วนหนึ่งส่วนที่เหลือถูกจับได้ในครั้งนี้  และยอมรับว่าตนได้รับคำสั่งจากผู้ที่ตนเรียกว่า น้า หรือ เอ ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำบางขวาง ทางโทรศัพท์ โดยสั่งให้ส่งยาบ้าให้กับลูกค้าในจังหวัดภูเก็ตแทนนายอ๊อด  
                 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมดังกล่าวได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ตดำเนินคดีต่อไป

 ***โสภณ  เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว  เสงี่ยม  เอียดตน/พิมพ์
---------------------------------------------------
เจ้าหน้าที่เรือนจำภูเก็ตรวบหญิงสาวพร้อมไก่ทอดยัดยาบ้า-ยาไอซ์เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังคดียาเสพติด เบื้องต้นอ้างมีคนฝากมาไม่ทราบข้างในมียาเสพติด
                ที่ห้องประจำเรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายรพินทร์ นิชานนท์  ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต  เปิดเผย ว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.45 น. วันนี้ (25 ก.ค.54) เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบของเยี่ยมผู้ต้องขังตรวจพบยาบ้าจำนวน 10 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 3 หลอด น้ำหนัก 0.99 กรัม บรรจุอยู่ในหลอดดูดน้ำปิดหัวปิดท้ายซุกซ่อนอยู่ในเนื้อไก่ทอดที่นำมาฝากให้ผู้ต้องขังชาย ธีระวุฒิ แข่งขัน  ซึ่งถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำภูเก็ตคดียาเสพติด และจากการตรวจสอบพบว่าผู้ที่นำสิ่งของมาเยี่ยมดังกล่าวคือ นางสาวสาธิยา จินดาแก้ว  เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนางสาวสาธิยา มาสอบสวน  ในเบื้องต้นนางสาวสาธิยา อ้างว่าสิ่งของดังกล่าวมีคนฝากมาเยี่ยมผู้ต้องขังซึ่งเป็นเพื่อนกับน้องชายของตนเองโดยไม่ทราบว่าข้างในมียาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวพร้อมของกลางส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
               นายรพินทร์  กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมามีความพยายามที่จะส่งยาเสพติดรวมทั้งโทรศัพท์เข้ามาให้ผู้ต้องขังในเรือนจำอย่างต่อเนื่องด้วยวิธีการต่างๆทั้งโยนข้ามกำแพง การนำใส่เข้ามาในของเยี่ยม  ทางเรือนจำภูเก็ตจึงได้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบเพื่อป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดและโทรศัพท์เข้ามาในเรือนจำ จนสามารถจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นจึงอยากเตือนไปยังญาติและเพื่อนของผู้ต้องขังอย่าพยายามลังลอบส่งยาเสพติดหรือโทรศัพท์ข้ามาในเรือนจำเพราะไม่ถึงมือของผู้ต้องขังแน่นอนเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น 
***สารภี ศรีธรรมราช สนับสนุนข่าว 
----------------------------------------------------
สนง. อัยการภาค 8 ตักบาตรอาหารแห้งพระสงฆ์ 84 รูป พร้อมสัมมนาตรวจติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติงานและนิเทศงานฯ  ในพื้นที่สำนักงานอัยการภาค 8  ภาค 9 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ 84 พรรษา   
 เมื่อเวลา  07.00 . วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ที่บริเวณสำนักงานอัยการภาค 8 และภาค 9  นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด   เป็นประธานในพิธีตักบาตรอาหารแห้งพระสงฆ์ 84 รูป ในวโรกาสปีมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระ ชนมายุ 84  พรรษา โดยมี  นายตรี อัครเดช ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล...พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต  นายสมพงษ์ ภูชฎาภิรมย์ อธิบดีอัยการภาค 8  นายสุรศักดิ์ ด่านกิตติกุล อธิบดีอัยการภาค 9  นายชัยนันท์ งามขจรกุลกิจ อัยการจังหวัดภูเก็ต  นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ตลอดจนนักศึกษา ประชาชนทั่วไป และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี  หลังจากนั้นเมื่อเวลา 09.00 . ในวันเดียวกัน  ที่ห้องประชุมโรงแรมรอยัล ซิตี้ ภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ได้เปิดโครงการสัมมนาตรวจติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติงานและนิเทศงาน  สคช. จังหวัด และ สคช. สาขา  ประจำปีงบประมาณ 2554  ในพื้นที่สำนักงานอัยการภาค 8  และภาค 9   โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ  และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
               นายสมพงษ์
 กล่าวว่า ด้วยสำนักงานอัยการสูงสุดได้อนุมัติให้สำนักคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎมายแก่ประชาชน   จัดโครงการสัมมนาตรวจติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติงานและนิเทศงาน  สคช. จังหวัด และ สคช. สาขา  ประจำปีงบประมาณ 2554  ในพื้นที่สำนักงานอัยการภาค 8  และภาค 9  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจติดตาม ประเมินผล เร่งรัด การดำเนินงานตามโครงการต่าง ๆ  ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ตลอดจนเพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรคและแนวทางปรับปรุงการบริหาร  แผนงาน/โครงการ พร้อมทั้งมอบหมายนโยบายและกำหนดรูปแบบการดำเนินนโยบายเชิงรุกที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่  ดังนั้นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้รับมอบหมายสำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน จึงได้ร่วมกับสำนักงานอัยการภาค 8  จัดโครงการสัมมนาดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ผู้เข้ารับการสัมมนาได้รับทราบนโยบายและแนวทางการดำเนินงาน สคช. จังหวัด และ สคช. สาขา  ประจำปี 2554  และรายงานผลปฏิบัติงาน  เสนอปัญหา อุปสรรค และแนวทางปรับปรุง  การบริหารพร้อมทั้งรับการตรวจติดตามประเมินผล จากผู้บริหารระดับสูง  ของสำนักงานอัยการสูงสุด  นอกจากนี้ยังจะได้รับความรู้จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิอีกด้วย  
                  ด้านนายจุลสิงห์ กล่าวว่า
  สำนักงานอัยการสูงสุดนอกจากจะมีบทบาทอำนาจหน้าที่ในการอำนวยความยุติธรรม และรักษาผลประโยชน์ของรัฐแล้ว การดำเนินงานด้านคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายก็เป็นภาระหน้าที่สำคัญในอันที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึง และต้องตามความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะในปัจจุบันมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ ยังไม่ทราบสิทธิหน้าที่ของตนที่มีอยู่ ตามบทบัญญัติของกฎหมายจึงมักจะถูกละเมิดสิทธิ รวมถึงมีประชาชนจำนวนไม่น้อยได้กระทำผิดกฎหมายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงเป็นภารกิจสำคัญที่สำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องเข้าไปแก้ไข  ลดปัญหา และช่องว่างดังกล่าว  ด้วยการเข้าไปคุ้มครองสิทธิ ทั้งให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายให้แก่ประชาชนต่อไป  
***สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ  โสภณ  เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
---------------------------------------
โรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์คว้า 3 รางวัล การประกวดผลงานโครงการยุวชนประกันภัย ประจำปี 2554
                วันนี้ (25 ก.ค. 54) ที่ห้องประชุมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต  นางสาวสุวิมล  แซ่ลิ้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. จังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการตัดสินผลงานโครงการยุวชนประกันภัยประจำปี 2554 โดยมีคณะกรรมการจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม
               นางสาวสุวิมล  กล่าวว่า โครงการยุวชนประกันภัยจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย  (สำนักงาน คปภ.)  ดำเนินการมาจากแนวคิดหลักที่เชื่อว่าประชาชนไทยจะทำประกันภัยเพิ่มมากขึ้น และจะได้รับผลประโยชน์จากระบบประกันภัยครบถ้วน รวดเร็วและเป็นธรรม ซึ่งหากประชาชนจะตระหนักถึงความสำคัญ  พร้อมเห็นคุณประโยชน์ของระบบประกันภัยนั้น ควรที่จะต้องเริ่มปลูกฝังตั้งแต่เยาว์วัย อย่างเป็นระบบ หรือนัยหนึ่งคือต้องสอดแทรกสาระการเรียนรู้ด้านการประกันภัยเข้าไปในหลักสูตรการศึกษาตั้งแต่การศึกษาขั้นพื้นฐานของเยาวชน
                ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงได้ดำเนินโครงการยุวชนประกันภัยในสถานศึกษาขึ้นในทุกปี  เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการประกันภัย โดยในปี พ.ศ. 2554 ได้กำหนดกิจกรรมจัดประกวดแข่งขันและมอบรางวัลให้กับโรงเรียน/สถานศึกษา ที่มีผลงานการบูรณาการการเรียนการสอนด้านประกันภัยและให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่มีผลงานด้านการเรียนการเผยแพร่ความรู้ด้านการประกันภัยดีเด่น
                ผลการประกวดโครงการยุวชนประกันภัยในสถานศึกษาประจำปี 2554 ปรากฏว่า ประเภทโรงเรียน/สถานศึกษา โรงเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศได้แก่ โรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์ รองชนะเลิศอันดับที่ 1 โรงเรียนกะทู้วิทยา และรองชนะเลิศอันดับที่ 2  วิทยาลัยเทคนิคถลาง  ประเภทคณะครู-อาจารย์ที่รับผิดชอบโครงการ ชนะเลิศได้แก่ อาจารย์มนัส  สาเหล่ จากโรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์ รองชนะเลิศได้แก่ นายชาติชาย  กูสลามัต จากโรงเรียนกะทู้วิทยา  ส่วนประเภททุนการศึกษานักเรียน  แบ่งเป็นทุนการศึกษาด้านการร้องเพลง  ชนะเลิศได้แก่ โรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์ รองชนะเลิศ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ และทุนการศึกษาด้านการแสดง ชนะเลิศได้แก่ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ และรองชนะเลิศ โรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์
             ทั้งนี้ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศทุกประเภทจะเข้าแข่งขันระดับภาคต่อไป 
***โสภณ  เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ข่าว  เสงี่ยม  เอียดตน /พิมพ์   
--------------------------------------------
ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รวบพ่อค้ายาบ้า, ยาไอซ์ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท พร้อมของกลางยาบ้า 5,000 เม็ด ยาไอซ์ 590 กรัม
      
           เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (25 ก.ค.54) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.โกมล วัตราภรณ์ รองผู้บังคับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ชลิต แก้วยะรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และ พ.ต.อ.เอกวุฒิ เสน่ห์พร ผกก.กก.สส.ภ.จ.ภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด          โดยเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 24 ก.ค. 2554 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้จับกุม นายเอกชัย แซ่ขอ อายุ 28 ปี ได้ที่บริเวณหมู่บ้านสะพานหิน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,500 เม็ด ยาไอซ์ 90 กรัม อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 28 นัด หลังจากนั้นได้ขยายผลจับกุมนายเอกชัย หรือ เอกลาว นามคัณที อายุ 25 ปี และนางสาวอรองค์ หรือยุ้ย หลีสกุล อายุ 21 ปี ได้ที่บริเวณหมู่บ้านวิลล่า 1 (สามกอง) พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 3,500 เม็ด ยาไอซ์ 500 กรัม อาวุธปืนลูกซองสั้น จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .38 .45 .357 และ 9 มม. รวม 190 นัด
           โดยกล่าวหาว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ตดำเนินคดีต่อไป
            อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 20.30 น.ของวันที่ 24 ก.ค.2554 นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายโยธิน หรือเอ๋ อินทร์นิพัฒน์ อายุ 32 ปี ได้ที่หมู่บ้านสะพานหิน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมของกลาง เป็น อาวุธปืนพกสั้นชนิดรีวอลเวอร์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน .38 จำนวน 12 นัด กล่าวหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ตดำเนินคดีต่อไป
            ด้าน พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังในการจับกุมประมาณ 1-2 วัน จึงสามารถจับกุมและขยายผล จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 คน พร้อมด้วยยาบ้า 5,000 เม็ด ยาไอซ์ 590 กรัม อาวุธปืน 5 กระบอก และกระสุนจำนวน 130 นัด ซึ่งถือว่าเป็นการจับกุมยาไอซ์ครั้งใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต ที่ได้เกือบ 600 กรัม หากนำไปขายจะสามารถขายได้ 100 กรัม  270,000 บาท ซึ่งมูลค่าของกลางที่จับกุมได้ในครั้งนี้เกือบ 3 ล้านบาท
             พล.ต.ต.พิกัดกล่าวอีกว่า การแพร่ระบาดของยาเสพติดในภูเก็ตมีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะระดมกำลังในการกวาดล้างมาโดยตลอด โดยเมื่อเดือนที่แล้วสามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดได้กว่า 250 คดี ซึ่งการที่จะทำให้ยาเสพติดหมดไปจากภูเก็ตนั้นจะต้องหยุดยั้งการแพร่ระบาด โดยการทำให้ตำบล หมุ่บ้าน และชุมชน ปลอดจากยาเสพติด โดยการดึงแกนนำของแต่ละชุมชนเข้ามาทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจและจังหวัดภุเก็ตได้มีการสกรีนรายชื่อทั้งผู้เสพและผู้ค้าอยู่ 
***จันจิรา ศิตบุศย์ สนับสนุนข่าว
-------------------------------------------
อัยการสูงสุดโต้พวกปล่อยข่าวเรื่องการยายัดเครื่องบินลำที่ 2 เป็นการกระทำของคนมือบอน ยืนยันยังไม่มีการยึดเครื่องบินลำที่ 2 แต่อย่างใด เผยเป็นเครื่องบินส่วนพระองค์ที่มีหลักฐานการซื้อขายชัดเจน        
       นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนา โครงการสัมมนา ตรวจติดตามประเมินผลการปฏิบัติงาน และนิเทศงาน สคช.จังหวัด และสคช.สาขาในพื้นที่สำนักงานอัยการภาค 8 และภาค 9 ประจำปี 2554 ที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 54  กรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าจะมีการอายัดเครื่องบินของไทยอีกหนึ่งลำ ยืนยันว่ายังไม่การยึดเครื่องบินลำที่ 2 แต่อย่างใด   ส่วนกรณีเครื่องบินส่วนพระองค์โบอิ้ง 737 นั้น ได้มีการประสานไปกับทางทนายความที่ทำหน้าที่อยู่ที่เยอรมนีชี้แจงไปยังหน่วยงานบังคับคดีของเยอรมนีแล้ว ว่าเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นพระราชพาหนะส่วนพระองค์ ซึ่งมีหลักฐานการซื้อขายชัดเจน  ส่วนที่มีการอายัดไว้นั้น ถือว่าการพิจารณายังไม่สิ้นสุด โดยศาลเยอรมนีมีคำสั่งเบื้องต้นเชื่อว่า เครื่องบินสัญชาติไทยที่ถูกอายัดอยู่ เป็นเครื่องบินที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลไทย ซึ่งจะต้องรออีกฝ่ายแสดงหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาของศาลอีกครั้ง คาดว่าจะเป็นการพิจารณาอย่างเต็มรูปแบบ และในส่วนของไทยยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจน
*** อำนวย ทองสม สนับสนุนข่าว
-------------------------------------------
สส. ภูเก็ตนำชาวบ้านกว่า 200 คน ติดตามความคืบหน้าการขอเอกสารสิทธิการครอบครองที่ดิน พร้อมแจงกกต.กลาง ได้รับรองการเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต ในเขต 2 แล้ว ขณะที่เขต 1 ยังไม่มีการรับรองผล.
วันนี้ (25 ก.ค. 54) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ นายตรี  อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการรับฟังปัญหาการขอเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินของประชาชนพื้นที่ตำบลกมลาและตำบลฉลอง โดยมีนายเรวัต  อารีรอบ สส. จังหวัดภูเก็ต และชาวบ้านกว่า 200 คนเข้าร่วม          ทั้งนี้ นายเรวัต  อารีรอบ สส. จังหวัดภูเก็ต ได้นำชาวบ้านกว่า 200 คน มา ติดตามความคืบหน้าการขอเอกสารสิทธิ์ จาก สค.1 เป็นโฉนด ซึ่งชาวบ้านได้ยื่นต่อสำนักงานที่ดินฯ ดำเนินการมา 2-3 ปีแล้วแต่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดแต่อย่างใด  เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้รับทราบและดำเนินการต่อไป เนื่องจากชาวบ้านที่ได้รับที่ดินเป็นมรดกตกทอด จะได้มีโฉนดและนำไปแปลงเป็นทุนในการประกอบอาชีพได้  และเชื่อว่าปัญหานี้ใน จ.ภูเก็ต ยังมีอีกหลายราย และตนจะได้นำเรื่องนี้ไปตั้งกะทู้ในสภาผู้แทนราษฎรด้วย
              นอกจากนี้นายเรวัต  ยังได้กล่าวถึงการรับรอง สส. ของตนว่า  กกต.กลาง ได้รับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.ภูเก็ต แล้ว เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา
 ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่มีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร เป็นว่าที่ ส.ส. ยังได้ได้รับรอง โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของทาง กกต.เนื่องจากติดเรื่องร้องเรียนของฝ่ายตรงข้าม คาดว่าจะมีการพิจารณารับรองในรอบต่อไป  ทั้งนี้เรื่องร้องเรียนที่ตนถูกร้องไปยัง กกต. เป็นกรณีติดป้ายหาเสียงของตนกับเสาไฟฟ้า จึงไม่ใช่การทำผิดข้อกฎหมายการเลือกตั้ง โดยจะเดินทางไปรายงานตัวต่อเลขาสภาผู้แทนราษฎรต่อไป 
***สทท. 11 ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว  โสภณ  เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
-------------------------------------------
ปิดฉากยิ่งใหญ่ กีฬาฉลองสัมพันธ์คัพ ครั้งที่ 14 รวมเพื่อน ล้มแชมป์เก่า 5 สมัยซ้อน ส่วนรวมเพื่อน หมู่ 9 สุดฮอต คว้าแชมป์ รุ่น อายุ 40 ปี ขึ้นไป พร้อมคว้าถ้วยรางวัลมาชื่นชมได้อีก 2 ใบ ทั้ง ผู้เล่นยอดเยี่ยม-ดาวซัลโว
 เมื่อเวลา18.30 น.วันที่ 24 ก.ค.54 ที่สนามโรงเรียนบ้านฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายรังสรรค์ คงทอง ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานปิดการแข่งขันกีฬาฉลองสัมพันธ์คัพ ครั้งที่ 14 โดยมีนายณัฎฐ์พงศ์ วิมลพันธุ์ นายกองการบริหารส่วนตำบลฉลอง และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลฉลอง ผู้นำชุมชน และประชาชนร่วม
               นายณัฎฐ์พงศ์ วิมลพันธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบบลฉลอง ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า การแข่งขันในครั้งนี้ได้เริ่มจัดการแข่งขันมาตั้งแต่วันที่
26 มิ.ย.-24 ก.ค.นี้ มีทีมที่ร่วมแข้วทำการแข่งขันทั้ง สิ้น 36 ทีม โยการจัดการแข่งขันครั้งนี้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชน ทั้งทางด้านร่างกายจิตใจ สติปัญญาและเพื่อกระตุ้นให้ประชาชน เยาวชน สนใจเล่นกีฬา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหายาเสพติด  โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 5 รุ่น คือ 1.รุ่นเยาวชนชายอายุไม่เกิน 10 ปี ทีมที่ชนะคือทีม FC  หมู่ 5 นากก รองชนะเลิศอันดับ 1 ทีมโรงเรียบนบ้านฉลอง ทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 ทีมโรงเรียนอบจ.เมืองภูเก็ต โดยผู้เล่นยอดเยี่ยมได้แก่ด.ช.สมพงษ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ดาวซัลโว ได้แก่ ด.ช.ภานุพงศ์ สงวนนาม 2.รุ่นเยาวชนชาย 12 ปี ทีมชนะเลิศได้แก่ทีม FC หมู่ 5 นากก รองชนะเลิศอันดับ 1 ทีมโรงเรียนอบจ.เมืองภูเก็ต ทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ทีมโรงเรียนบ้านฉลอง ผู้เล่นยอดเยี่ยมได้แก่ด.ช.อัครเดช สิงห์โตทอง ดาวซัลโวได้แก่ ด.ช.อัครเดช สิงห์โตทอง 3.รุ่นประชาชนชาย อายุ 40 ปี ชนะเลิศได้แก่ทีมรวมเพื่อน หมู่ 9 รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ทีมชมรมฟุตบอลเจ้าฟ้าเคที รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ทีมFC หมู่ 5 นากก นักเตะยอดเยี่ยมได่แก่ นายศุภกร สิทธิบุตร ทีมรวมเพื่อน หมู่ 9 ดาวซัลโว ได้แก่ นายมงคล ช่างเหล็ก ทีมรวมเพื่อน หมู่ 9 4. รุ่นประชาชนหญิงทั่วไป ชนะเลิศได้แก่ทีมFC หมู่ 5 นากก รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ทีม รวมใจรวมพลัง หมู่ 10 รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ทีมพันศิลป์ นักเตะยอดเยี่ยมได้แก่ น.ส.เกศินี ดวงจันทึก ดาวซัลโว ได้แก่ นางสาวพรพิมล ดีชัยชนะ 5. รุ่นประชาชนชายทั่วไป ทีมชนะเลิศได้แก่ทีมรวมเพื่อน รองชนะเลิศอันดับ 1 ทีมFC 9 ธนูเทพ รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ทีม FC หมู่ 7 ผู้เล่นยอดเบี่ยมได้แก่นายดำรง แก้วศิลา ดาวซัลโว ได้แก่นายสุทธิรักษ์ พัฒกอ
              นายณัฎฐ์พงศ์ กล่าวอีกว่า ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี จนทำให้กิจกรรมครั้งนี้ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหลักกิจกรรมหนึ่งของตำบลฉลอง ที่จัดติดต่อกันมาถึง 14 ครั้ง ทำให้ทุกคนได้เห็นความสำคัญของกีฬา และมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ตามปรัชญาของการกีฬาอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป