วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ข่าวประจำวันที่ 14 ส.ค.56

ตม.ภูเก็ต เพิ่มความเข้มห้องกัก หลัง 36 โรฮิงญาหลบหนี โดยได้เสริมความแข็งแรงของห้องกัก พร้อมกำชับเวรยามให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ผู้กำกับฯ เผยขณะนี้ตามจับกลับมาได้แล้ว 15 คน อีก 21 คนที่เหลือส่งเจ้าหน้าที่ ตม.2 ชุดออกติดตามอย่างต่อเนื่อง
          วันที่ 14 ส.ค.56  ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.สัญชัย โชคขยายกิจ ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัวชาวโรฮิงญา 36 คนที่หลบหนีออกจากห้องกักของตม.ภูเก็ต เมื่อ รุ่งเช้าของวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวและจับกุมได้แล้ว 15 คน เหลืออีก 21 คนที่ยังหลบหนี ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ตม.สองชุด ชุดละ 10 นาย ออกติดตามอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะยังอยู่ในพื้นที่ตัวเมืองภูเก็ต โดยชาวโรฮิงญาที่ติดตามตัวกลับมาได้ พบส่วนใหญ่ หลังหลบหนีออกจาก ตม.ภูเก็ต ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ใกล้กับมัสยิดและบ้านเรือนที่เป็นชุมชนมุสลิม จึงให้เจ้าหน้าที่ประสานไปยังมัสยิดต่างๆ ในตัวเมือง รวมถึงประชาชนที่พบเห็นชาวโรฮิงญา ให้แจ้งมาที่ ตม.ภูเก็ต เพื่อเข้าตรวจสอบ
          อย่างไรก็ตามการดำเนินคดีกับโรฮิงญาที่จับกุมได้แล้วนั้น ทางตม.ภูเก็ต ได้ส่งตัวให้กับ สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาหลบหนีออกจากห้องกัก ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 72 พ.ศ.2522 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท
          “การลักลอบเข้าเมืองโดย ผิดกฎหมายในประเทศไทยของชาวโรฮิงญา คงจะมีแนวโน้มที่ลดลง เนื่องจากที่ผ่านมา นโยบายของภาครัฐที่เข้มงวดขึ้น ทั้งในเรื่องการตรวจสอบ และจับกุม ทำให้ชาวโรฮิงญาเกรงกลัวจะถูกกักตัวไว้เป็นเวลานานจึงไม่กล้าเข้ามายังประเทศไทยแต่จะเดินทางผ่านไปประเทศที่ 3 ทันทีพ.ต.อ.สัญชัย กล่าว
          พ.ต.อ.สัญชัย กล่าวถึงมาตรการป้องกันการหลบหนี ด้วยว่า ขณะนี้ทาง ตม.ภูเก็ต ได้เสริมความแข็งแรงของห้องกัก และออกคำสั่งกำชับเวรยามให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งมากกว่านี้ พร้อมกันนี้ยังให้ รอง ผกก.เข้ามาเป็นสารวัตรเวร และให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คอยควบคุมอีกชั้นหนึ่ง ส่วนการส่งกลับชาวโรฮิงญานั้น จะต้องรอคำสั่งจากส่วนกลาง เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาของ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
 
-----------------------------------------------------------------------
สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต จัดโครงการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ปี 2556 ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร
            วันนี้ (14 ส.ค. 56) ที่ชั้น 2 ศาลาประชาคม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต จัดโครงการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ปี 2556 ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร โดยมีคณะกรรมการคัดเลือกผลงาน ระดับจังหวัด อาจารย์ และนักเรียนโรงเรียนต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
          ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ได้เสด็จไปทรงตรวจเยี่ยมราษฎรเพื่อติดตามผลการดำเนินงาน “โครงการฟื้นฟูเพื่อสายใยรักแห่งครอบครัวผู้ประสบภัยพิบัติในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” ในพื้นที่น้ำท่วมวิกฤติ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี  ชัยนาท และสุพรรณบุรี และนักเรียนในพื้นที่ดังกล่าวได้นำผลงานสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้มาจัดแสดง ซึ่งพระองค์ทรงชื่นชมและมีพระดำริว่าควรดำเนินการขยายผลเพื่อให้เกิดการนำวัสดุเหลือใช้ในครัวเรือนมาสร้างสรรค์เป็นสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ อันเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ เป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะได้อีกทางหนึ่งด้วย
          กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้รับสนองพระดำริการขยายผลการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้มาตั้งแต่ปี 2550 นับได้ว่าเป็นโครงการที่สำคัญอย่างยิ่งในการรณรงค์ให้เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนได้มีโอกาสแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเป็นการนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ นอกจากเป็นการลดปริมาณขยะแล้วยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่จะก่อให้เกิดพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรอย่างคุณค่า และประหยัด ซึ่งจะนำมาสู่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในท้ายที่สุด นับเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติในภาพรวมอย่างยิ่ง โดยได้แบ่งการประกวดออกเป็น 3 ประเภทคือ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ของใช้ภายในบ้านจากวัสดุเหลือใช้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ของใช้ภายในบ้านจากวัสดุเหลือใช้ แบ่งเป็นระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา/อาชีวศึกษา (ปวช.) ระดับอุดมศึกษา/อาชีวศึกษา (ปวส.) ประเภทเครื่องแต่งกายจากวัสดุเหลือใช้ มี 1 กลุ่มคือ นักเรียน / นักศึกษา / ประชาชนทั่วไป และประเภทสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้สู้ภัยพิบัติ มี 1 กลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียน / นักศึกษา / ประชาชนทั่วไป โดยทีมที่ชนะการประกวดแต่ละประเภทจะได้รับรางวัลประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศ จะได้รับเกียรติบัตร และทุนการศึกษา 5
,000 บาท จำนวน 1 รางวัล รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเกียรติบัตรและทุนการศึกษา 3,000 บาท จำนวน 1 รางวัลและรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเกียรติบัตรและทุนการศึกษา 2,000 บาท จำนวน 1 รางวัล ทั้งนี้โรงเรียนที่ชนะเลิศระดับจังหวัดจะมีการส่งเข้าประกวดในระดับภาคต่อไป
------------------------------------------------------
ภูเก็ตจัดประชุมคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการกลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามัน พิจารณาเงินเหลือจ่ายจากโครงการต่าง ๆ ให้แก่โรงพยาบาลกระบี่
          วันนี้ (14 ส.ค. 56) ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน นายไมตรี  อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยมีนายชัยพร  พัฒนรักษ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ นางสาวปิยวรรณ  ตันติมาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มฐานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสารสำนักงานจังหวัดภูเก็ตและตัวแทนจากส่วนราชการภาคประชาสังคมจาก 6 จังหวัดฝั่งอันดามัน เข้าร่วม
          ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวมีวาระการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ การรับทราบการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด  การพิจารณาเงินเหลือจ่ายโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด ปี 56 ซึ่งมีเงินเหลือจ่ายอยู่ประมาณกว่า 2 ล้าน 8 แสนบาท โดยมีจังหวัดต่าง ๆ ได้ทำแผนเพื่อของบประมาณดังกล่าว เช่น โครงการพัฒนาระบบบริการผู้ป่วยของโรงพยาบาลกระบี่วงเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท  โครงการครัวอันดามัน โครงการพัฒนาปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวอันดามัน โครงการหอศิลป์อันดามัน และโครงการพัฒนากลไกการตลาดท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดอันดามัน รวมเงินเหลือทั้งหมด 2
,873,720 บาท นอกจากนี้ยังมีการชี้แจงแนวทางการบริหารโครงการของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันประจำปี 2557 และแนวทางการเสนอโครงการบรรจุในแผนปฏิบัติราชการประจำปี 2558 เพื่อให้จังหวัดในกลุ่มอันดามันมีการดำเนินการตามแผนและเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดต่อไป
---------------------------------------------------------       
ชุดเฉพาะกิจอำเภอกระทู้ขยายผล บุกจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาไอซ์ 485 กรัมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท อาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมกระสุนกว่า 100 นัด สารภาพค้ายาเสพติดนำเงินไปใช้ส่วนตัว
          เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 13 ส.ค.56 นาย วีระ เกิดสิริมงคล นายอำเภอกะทู้ พร้อมด้วย นาย ศิริพงษ์ หลีประสิทธิ์ นาย วิสุทธิ์ โรมินทร์ และเจ้าหน้าที่กองอาสาสารักษาดินแดนอ.กะทู้ที่2 นำหมายค้นเข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 1/43 ซอยเสียงใต้ ถนนเทพกระษัตรี ตำบลรัษฏา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ
          จากการตรวจค้นภายในบ้านพบ ยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในจุดต่างๆภายในห้องนอนของนาย อนัส ทองมา
  อายุ  23ปี รวมน้ำหนักประมาณ 485 กรัมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท นอกจากนี้ตรวจค้นภายในห้องยังพบเครื่องชั่ง และอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ อาวุธปืนลูกโม่ขนาด.38 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน 45 นัด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 125 นัด จึงควบคุมตัวนาย อนัส ทองมา มาสอบสวน เจ้าตัวสารภาพเป็นเจ้าของยาไอซ์และอาวุธปืน โดยจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่อำเภอเมืองมาประมาณ 1 ปีเศษ เพื่อนนำเงินมาใช้จ่ายส่วนตัว
          นาย วีระ เกิดสิริมงคล นายอำเภอกะทู้กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากการทำโครงการสร้างดาวเด่นเป็นคนดีที่อำเภอกะทู้จัดขึ้น โดยนำเยาวชนที่ตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วงจากการเสพยาเสพติดมาเข้ารับการบำบัด เยาวชนเหล่านั้นได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ จึงมีการนำข้อมูลมาสืบสวนขยายผลก่อนที่จะเข้าจับกุมผู้ต้องหาจำหน่ายยาเสพติดได้ 1 ราย และขยายผลต่อมาถึงรายนี้
          อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ตเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
----------------------------------------------------
รองผู้ว่าภูเก็ตแถลงข่าวจับยาไอซ์ได้ของกลางกว่า400กรัมผู้ตองหาสองคนรับสารภาพเป็นเครือข่ายยาเสพติดจากเรือนจำนครศรีธรรมราชส่วนอาวุธปืนทั้ง3กระบอกสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ต
          เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 13 สิงหาคม 2556 ที่ที่ผ่านมาห้องประชุมป้องกันจังหวัดภูเก็ต (หลังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต) นาย จำเริญ ทิพญาพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนาย วีระ เกิดสิริมงคล นายอำเภอเมืองกะทู้ นาย อรุณ สิงห์อินทร์ ป้องกันจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท. ปริญญา ตัณฑสุวรรณ รอง ผกก. สส.สภ.เมืองภูเก็ต นาย ศิริพงษ์ หลีประสิทธิ์ และนาย วิสุทธิ์ โรมมินทร์ ปลัดอำเภอกะทู้ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.)อำเภอกะทู้ ชุดเฉพาะกิจสายฟ้าสีหราช อ.กะทู้ แถลงข่าวการจับกุมตัวนายสันติ (เอก) หนูนุ่ม อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 5 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต พร้อมยาไอซ์น้ำหนัก 10.04 กรัม อาวุธปืนขนาด .357 มม.พร้อมกระสุน เงินสด 3,000 บาท สมุดธนาคารและ สร้อยคอทองคำ และนายอานัส (นัส) ทองมา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/43 หมู่ 3 ซ.เสียงใต้ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต พร้อมของกลาง ยาไอซ์น้ำหนัก 480 กรัมอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนกว่า100นัด เครื่องชั่ง ถุงพลาสติกใส และอุปกรณ์ในการเสพ
          นายจำเริญ กล่าวถึงการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาไอซ์ และอื่นๆ ดังกล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นความร่วมมือของชุดเฉพาะกิจสายฟ้าสีหราช อ.กะทู้, ชุดเฉพาะกิจสิงห์ 1, ตชด.425, สภ.เมืองภูเก็ต และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เริ่มจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายว่า นายสันติ หรือเอกมีพฤติกรรมในการจำหน่ายยาเสพติด จึงได้ทำการล่อซื้อที่บริเวณถนนสงขลา อ.เมืองภูเก็ต ในระหว่างนั้นนายเอก เห็นเจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งหนีเข้าไปยังบ้านเช่าซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง และเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปควบคุมตัว พร้อมทั้งทำการตรวจค้นห้องเช่าพบยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 10.04 กรัม อาวุธปืนขนาด .357 พร้อมเครื่องกระสุน เงินสด 3,000 บาท สมุดธนาคาร และอื่นๆ อีกหลายรายการ
                   หลังจากนั้นก็ได้มีการสอบสวนขยายผลได้ความว่า นายสันติ ได้รับยาไอซ์มาจาก นายอานัส (นัส) ทองมา ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 1/43 ซ.เสียงใต้ หมู่ 3 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จึงได้เข้าทำการตรวจค้นในห้องนอนซึ่งอยู่ด้านในสุดของตัวบ้าน พบยาไอซ์บรรจุถุงพลาสติกใสจำนวน 2 ถุงน้ำหนัก 480 กรัม ถูกซุกอยู่ในตู้เสื้อผ้า-อาวุธปืนชนิดต่างๆ จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง  อุปกรณ์การเสพยาเสพติดอีก 1 ชุด เครื่องชั่งตวงและถุงพลาสติกใสอีกจำนวนหนึ่ง จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ตดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหามีและครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและมีอาวุธปืน-เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นนายอนัสให้การรับสารภาพว่าซื้อยาไอซ์มาจากพ่อค้าซึ่งอยู่ในคุกนครศรีธรรมราช จากนั้นจะนำมาแบ่งขายให้กับพ่อค้ารายย่อยในพื้นที่ ส่วนอาวุธปืนและเครื่องกระสุนสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ต 
นายจำเริญ กล่าวด้วยว่า หลังจากนั้นก็จะมีการประสานกับหน่วยงานในการขยายผลไปยังเครือข่ายที่อยู่ใน จ.นครศรีธรรมราช รวมถึงในส่วนของพื้นที่เนื่องจากปัจจุบันการแพร่ระบาดของไอซ์มีมากขึ้นก็จะต้องมีการสืบสวนหาข่าวอย่างเข้มงวด รวมถึงการตรวจตราเส้นทางลำเลียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน ด่านตรวจจังหวัดภูเก็ตที่ท่าฉัตรไชย รวมถึงสถานีขนส่งผู้โดยสาร

------------------------------------------------------------------------------------  
คุมประพฤติจังหวัดภูเก็ตนำผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดร่วมฟื้นฟูกลับคืนเป็นคนดีสู่สังคมตามโครงการค่ายลูกเสือคุมประพฤติ สร้างดาวเด่น เป็นคนดี.
         
          วันนี้ (14 ส.ค. 56) ที่ค่ายลูกเลือจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานเปิดค่ายลูกเสือคุมประพฤติ สร้างดาวเด่น เป็นคนดี โดยมีนางนริศา  ปานสะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเข้าร่วมกว่า 60 คน
            นางนริศา ระบุว่า ภารกิจหลักของสำนักงานคุมประพฤติคือ การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนให้กลับตนเป็นพลเมืองดีของสังคม และการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพติดในระบบบังคับบำบัดซึ่งปัจจุบันผู้ผู้กระทำผิดอยู่ในระหว่างการคุมประพฤติ 1,256 คนและอยู่ระหว่างการฟื้นฟูบำบัดจำนวน 950 คน วันนี้ทางคุมประพฤติจึงได้นำบุคคลดังกล่าวมาจำนวน 60 รายเข้าร่วมโครงการค่ายลูกเสือ คุมประพฤติ สร้างดาวเด่นเป็นคนดี เพื่อพัฒนาปลูกฝังให้มีความรับผิดชอบต่อตนเองและเคารพกติกาของสังคมรวมทั้งยึดมั่นในสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตามหลักของการลุกเสือและที่สำคัญเพื่อต้องการให้ผู้เข้าร่วมในครั้งนี้เลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งทางตรงและทางอ้อมแบบถาวร
            สำหรับโครงการดังกล่าวกำหนดจัดขึ้น 3 วัน 2 คืนระหว่างวันที่ 14-16 สิงหาคมนี้ที่บริเวณค่ายลูกเสือจังหวัดภูเก็ตโดยมีวิทยากรลูกเสือจากมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต โรงเรียนอนุบาล วิทยาลัยเทคนิค และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ตร่วมให้ความรู้และฝึกอบรมในครั้งนี้.  
-------------------------------------------------------------
ภูเก็ตขับเคลื่อนศูนย์ ศปอท. สร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว
          เมื่อเวลา 10.00 วันนี้ (14 ส.ค. 56) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี  อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมเวทีท่องเที่ยว โดยมีนายจำเริญ  ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ์  การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายธีรยุทธ์  ประเสริฐผล ขนส่งจังหวัดภูเก็ต นายภูริพัฒน์  ธีรกุลพิศุทธิ์ เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ภูเก็ต นายพนมพล  ธรรมชาตินิยม นายกสมาคมมัคคุเทศก์จังหวัดภูเก็ต พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
          สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว (ศปอท.) ได้มีการต่างตั้ง นายจำเริญ  ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ควบคุมดูแล ส่วนการรายงานมอบให้ดีเอสไอเป็นผู้รวบรวมข้อมูล ก่อนรายงานมายังจังหวัด หลังจากนั้น จังหวัดจะรายงานไปยังกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาตามลำดับ ด้านกรณีที่มีข่าวตอบโต้เรื่องต่าง ๆ ศูนย์ ศปอท.ให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รับผิดชอบ ส่วนการดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง ต่าง ๆ ดีเอสไอจะเป็นผู้รับผิดชอบและจะมีการรายงานผลทุก ๆ สิ้นเดือน
-------------------------------------------------------
สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดภูเก็ตจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปี
          เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 56 นายไมตรี  อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดงานเลี้ยงสังสรรค์สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านประจำปี 2556 โดยมีนายสมเดียรติ  สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอรุณ  โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ นายชัยยศ  ปัญญาไวย์ ประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต นายกิตติศักดิ์  โสตรักษา นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดภูเก็ต กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนราชการ เข้าร่วม
          นายกิตติศักดิ์  กล่าวว่า การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปี เพื่อต้องการพบปะสมาชิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน ส่วนราชการ ภาคเอกชน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งกันและกัน ตลอดจนเป็นการสร้างความรัก ความสามัคคีในสมาชิกผู้นำท้องที่ในจังหวัดภูเก็ต
          สำหรับกิจกรรมช่วงเช้ามีการประชุมสมาชิกสมาคม ภาคบ่ายมีการแข่งขันฟุตบอลเพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างส่วนราชการกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ทั้งนี้รางวัลกำนันแหนบทองคำ ประจำปี 2556 ของจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ นายโกมินทร์  นพรัตน์ กำนันตำบลเชิงทะเล
฼ B$� � �� w� องชาติไทย ให้ต่างชาติได้รู้จัก โดยมีนักมวยหญิงเข้าร่วมจำนวน 5 คู่ ทั้งนี้บรรยากาศการแข่งขันเป็นไปด้วยความสนุก มีแฟนมวยทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจเข้าชมอย่างล้นหลาม

-------------------------------------------------
ภูเก็ตประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ปัญหาดินถล่มหมู่บ้านเดอะวัลเล่ย์

          เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 สิงหาคม 2556 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานการประชุมคณะทำงาน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดินถล่ม บริเวณพื้นที่หมู่บ้านเดอะวัลเลย์ หมู่ที่ 1 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อวางแนวทางและมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยที่อาจจะเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ข้างเคียงหมู่บ้านเดอะวัลเลย์ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ตัวแทนที่ดินจังหวัด, โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด, เทศบาลเมืองกะทู้ เป็นต้น และนายบุญชู ดำรงกิจการวงศ์ เจ้าของโครงการเดอะวัลเลย์ เข้าร่วมชี้แจงข้อมูลและรายละเอียด
                   สำหรับการประชุมดังกล่าว สืบเนื่องจากจังหวัดภูเก็ตได้รับข้อสั่งการจากนายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ตรวจสอบพื้นที่ที่มีการขุดตัดดิน บริเวณหมู่ที่ 1 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จากการตรวจสอบเป็นพื้นที่เนินดินมีความลาดชัน ไม่มีต้นไม้ และเป็นพื้นที่ด้านบนของหมู่บ้านจัดสรร โครงการเดอะวัลเลย์ ซึ่งในส่วนที่มีการขุดดินเป็นโครงการใหม่ต่อเนื่องจากโครงการเดิมและอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้จุดดังกล่าวถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเลื่อนไหลของดิน หิน ลงสู่ด้านล่าง และอาจจะส่งผลกระทบต่อบ้านจัดสรรโครงการเดิมได้ เบื้องต้นทางจังหวัดภูเก็ตได้ขอความร่วมมือให้ผู้ขออนุญาตขุดดินหยุดการขุดดินไว้ก่อน เพื่อให้จังหวัดเข้าตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง และผลกระทบต่อการขุดดินในพื้นที่ดังกล่าว
จากการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการเกิดการเลื่อนไหลของดิน ซึ่งจะเกิดผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างได้ จึงมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ ดำเนินการศึกษาและวางมาตรการในการป้องกันความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมและพิบัติภัยในบริเวณใกล้เคียง และสั่งตั้งคณะทำงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดินถล่มฯ ขึ้น

ทั้งนี้ได้มีการชี้แจงและแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดยนายจำเริญ กล่าวสรุปว่า จากการที่ได้รับฟังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ทางผู้ประกอบการไปดำเนินการในส่วนของการจัดทำรายลานผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามขั้นตอนของกฎหมาย และขณะเดียวกันก็ขอให้ทำเรื่องเสนอขออนุญาตขุดตักดินจากเทศบาลเมืองกะทู้ควบคู่กันไปด้วย เพื่อเป็นการวางแปนในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นทื้นที่เสี่ยง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป