วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ข่าวประจำวันที่ 22 มิย.54

รถบรรทุกผลไม้ซิ่งปาดหน้ารถนักเรียนโรงเรียนมุสลิมวิทยาภูเก็ตพลิกคว่ำเสียชีวิต 2 คน นักเรียนบาดเจ็บ 14 คน สาหัส 4 คน


เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. (21 มิ.ย. 54) แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลถลาง กำลังช่วยเหลือเด็กนักเรียนโรงเรียนมุสลิมวิทยาจังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์รถบรรทุกนักเรียนชนกับรถบรรทุกผลไม้ พลิกคว่ำเนื่องจากการถูกรถบรรทุกผลไม้ปาดหน้าที่บริเวณหน้าโรงยางพารา ถนนเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยมีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บสาหัส ศรีษะแตก แขนหัก ช้ำในจากการกระแทก จำนวน 4 คน บาดเจ็บปานกลางจากการกระแทกจำนวน 5 คนอีก 5 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งแพทย์พยาบาลได้ทำการรักษาแล้วให้กลับบ้านไปพักผ่อนได้ ส่วนที่บาดเจ็บสาหัสและได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองแพทย์ได้นำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 3 คน และโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต 1 คน ท่ามกลางผู้ปกครองของเด็กนักเรียนเป็นจำนวนมากที่เดินทางมาดูลูกหลานของตนเองด้วยความเป็นห่วงจนแน่นโรงพยาบาลถลาง นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 คน คือนายสัน ทราไสย อยู่บ้านเลขที่ 35/3 ม.8 ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง

จ.พังงา พนักงานขับรถยนต์โรงเรียนมุสลิมวิทยาจังหวัดภูเก็ต ถูกอัดก๊อปปี๊กับพวงมาลัยและคอนโชนหน้ารถเสียชีวิตคาที่ และน.ส.อรอนงค์ จันทรนิค อยู่บ้านเลขที่ 25/4 ม.2 ต.นาเตย อ. ท้ายเหมือง จ.พังงา ครูฝ่ายการการเงินที่ทำหน้าที่พี่เลี้ยง ศรีษะกระแทกและถูกเบาะรถทับจนคอหักเสียชีวิตคาที่เช่นกัน

จากการสอบสวนของ ร.ต.อ.ประพันธ์ ร้อยวร สภ.ถลาง จังหวัดภูเก็ต ทราบว่าเมื่อเวลาประมาณ 06.45 น. นายสันได้ขับรถตู้หมายเลขทะเบียน นข-3115 จ.ภูเก็ต รับเด็กนักเรียนโรงเรียนมุสลิมวิทยาภูเก็ต มาจาก ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา โดยบรรทุกเด็กนักเรียนจำนวน 14 คนและครูพี่เลี้ยงอีก 1 คน เพื่อนำเด็กนักเรียนมาส่งที่โรงเรียนมุสลิมวิทยาภูเก็ต ตำบลเกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต โดยวิ่งอยู่เลนซ้ายมาตลอดและเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุปรากฎว่าถูกรถยนต์กะบะผลไม้หมายเลขทะเบียน 6463 กรุงเทพฯ ที่ขับโดยนายนิคม แก้วมณี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148/5 ซอยโซพา ตำบลตลาดใหญ่ อำเมือง จังหวัดภูเก็ต ที่ซิ่งมาทางด้านขวาอย่างเร็วสูงแล้วขับปาดหน้ารถนักเรียนที่นายสันขับ เพื่อหลบรถยนต์ที่ขับอยู่ด้านหน้าเลนขวาจนทำให้คนขับรถนักเรียนต้องหักหลบจนรถพลิกคว่ำดังกล่าว โดยคนขับรถผลไม้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยและไม่ได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึ่งควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยประมาทจนทำให้บุคคลอื่นถึงกับชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ตามกฎหมายต่อไป

***วิเชียร อุตส่าห์/สนับสนุนข่าว ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

--------------------------------------
เตือนนักท่องเที่ยว ที่เล่นน้ำในบริเวณหาดในหาน ราไวย์ และหาดในทอน อ.ถลาง หลังพบแมงกะพรุนไฟ ชนิดมีพิษร้ายแรงบริเวณหาดทั้ง 2 แห่ง ขณะที่กาชาดไทย ร่วมกับกาชาดต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพเจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัยทางทะเล ใน 6 จังหวัดอันดามัน.

พื้นที่หาดในทอน ตำบลสาคู อ.ถลาง และหาดในหาน ต.ราไวย์ เป็นจุดที่ได้รับรายงานว่าพบแมงกะพรุนไฟมาเกยตื้น โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต ได้เก็บตัวอย่างแมงกะพรุนที่เจ้าหน้าที่บีชการ์ด ไปพบบริเวณหน้าหาด เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ไปตรวจสอบพบว่า เป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มแมงกะพรุนไฟ ซึ่งพบบ่อยตามชายฝั่งประเทศออสเตรเลีย และเขตกระแสน้ำอุ่นทั่วโลก แมงกะพรุนชนิดนี้ได้พบเป็นครั้งแรก ที่ จ. ภูเก็ต หากสัมผัสจะทำให้ได้รับบาดเจ็บ โดยมีอาการปวดแสบปวดร้อน ไปจนถึงถึงมีอาการไข้ ช็อค จนถึงขั้นรุนแรงที่สุดคือเสียชีวิต เนื่องจากสารพิษที่หนวดของแมงกะพรุน ชนิดนี้มีความรุนแรงประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ของพิษงูเห่า

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่หาดในทอน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย ยังลงเล่นน้ำตามปกติ แม้ว่าสภาพทะเลมีคลื่นลมแรง และเจ้าหน้าที่บีชการ์ด อบจ.ภูเก็ต ได้แสดงธงเหลือง - แดง จำกัดพื้นที่การเล่นน้ำให้อยู่ในโซนกลางหาด เนื่องจากไม่มีกระแสน้ำวนที่อาจจะเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยว

นายวรวุฒิ รอดบุตร หัวหน้าชุดบีชการ์ด อบจ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้พบแมงกะพรุน ลอยเกยตื้นชายหาดในทอน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งไม่เคยเห็นแมงกะพรุนชนิดนี้มาก่อน จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และเมื่อวานนี้พบอีก 1 ตัว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้บอกให้นักท่องเที่ยวให้ทราบแล้ว และได้เตรียมความพร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือ ทั้งน้ำส้มสายชู และครีมล้างพิษ หากมีนักท่องเที่ยวถูกพิษแมงกะพรุน ก็จะช่วยเหลือได้ทันที อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีนักท่องเที่ยวถูกพิษแมงกะพรุนแต่อย่างใด ส่วนการป้องกันเหตุนักท่องเที่ยวจมน้ำ ทางบีชการ์ดได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้จำนวน 6 คน มาเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีชาวรัสเซีย 1 รายเสียชีวิตจากการลงเล่นน้ำในจุดที่มีกระแสน้ำวน แม้ว่าบีชการ์ด ได้พยายามเตือนแล้วก็ตาม และจากการลงไปกู้ชีพช่วยนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว ทำให้บีชการ์ด 3 นายได้รับบาดเจ็บเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกด้วย

ด้านศูนย์ฝึกอบรมปฐมพยาบาลและสุขภาพอนามัย สภากาชาดไทย ร่วมกับสภากาชาดสวีเดน กาชาดฟินแลนด์ และกาชาดนอร์เวย์ จัดอบรมโครงการช่วยเหลือทางทะเล ที่โรงแรมในทอนบีช บุรี บีช รีสอร์ท หาดในทอน ต.สาคู อ.ถลาง ระหว่างวันที่ 20-29 มิถุนายนนี้ มีอาสามัคร อปพร.จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหารเรือ ตำรวจน้ำ หน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิ องค์กรการกุศล ใน 6 จังหวัดอันดามัน กว่า 40 คนเข้าร่วมฝึกทักษะการปฐมพยาบาล การช่วยชีวิตผู้ประสบภัยทางทะเล การฝึกวิธีใช้อุปกรณ์เครื่องมือทางน้ำ รวมทั้งสภากาชาดได้มอบอุปกรณ์ที่ได้รับบริจาคเรือ 13 ลำ เสื้อชูชีพ 130 ตัว หุ่นช่วยชีวิต แก่หน่วยงานเกี่ยวข้องได้นำไปใช้ประโยชน์การช่วยเหลือทางทะเล

นางพรรณธร เจริญกุล ผู้จัดการโครงการ กล่าวว่า โครงการอบรมการช่วยเหลือทางทะเล ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 ภายหลังภัยพิบัติสึนามิ ด้วยความร่วมมือของสภากาชาดต่างประเทศ กับหน่วยงานต่างๆ ของไทย เป็นการเตรียมความพร้อมหน่วยปฐมพยาบาลทางทะเล ให้สามารถออกปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที.

*** สทท. ภูเก็ต/สนับสนุนข่าว ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

-------------------------------------
ทีม Viking และ Hero จ.ภูเก็ตคว้าแชมป์ทีมแอโรบิกประชาชนทั่วไป โครงการสุขภาพดี ชีวิตดีกับเทสโก้โลตัส

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2554 ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาภูเก็ต นายเสกสรร นาควงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการแข่งขันแอโรบิกชิงชนะเลิศระดับภูมิภาค ประจำภาคใต้ ภายใต้โครงการสุขภาพดี ชีวิตดี กับเทสโก้ โลตัส ปีที่ 5 ซึ่งทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับเทสโก้ โลตัส จัดขึ้น เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย โดยมีนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารเทสโก้ โลตัส คณะกรรมการ ผู้เข้าแข่งขัน สื่อมวลชน และผู้สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

นายเดโช ศิลากุล ผู้อำนวยการเทสโก้ โลตัส สาขาภูเก็ต กล่าวว่า โครงการสุขภาพดี ชีวิตดี กับเทสโก้ โลตัส เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้นโยบายด้านสังคมที่ต้องการแสดงถึงการเป็นสมาชิกของสังคม ทั้งนี้เทสโก้ โลตัส พร้อมรับฟังและตอบสนองความต้องการของชุมชน โดยบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญต่อการเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของสังคม 3 ด้านหลักๆ คือ การส่งเสริมทางด้านสุขภาพ การอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และการส่งเสริมทางด้านการศึกษา โดยในส่วนของโครงการสุขภาพดีฯ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับทางเทสโก้ โลตัส ในการมุ่งส่งเสริมให้คนไทยออกกำลังกายเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง และสืบเนื่องจากเสียงตอบรับและความสำเร็จของโครงการ ทั้งสองภาคีจึงได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันเพื่อสนับสนุนการออกกำลังกายระยะยาว 5 ปี ในปี 2554 นี้ซึ่งเป็นปีที่ 5 ของการดำเนินโครงการ ประกอบกับวโรกาสครบรอบ 84 พรรษามหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเน้นย้ำจุดยืนของเทสโก้ โลตัส ในการดำเนินรอยตามพระราชดำรัสฯ รวมถึงสร้างความตระหนักและเชิญชวนให้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศมีสุขภาพที่ดี โดยมีเป้าหมายเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการฯ อย่างน้อย 5 ล้านคน และมีทีมจากชุมชนทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขันแอโรบิกจำนวน 230 ทีม แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภท คือ ประเภทเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี ประเภทประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป และประเภทประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ยังได้สร้างความตระหนักและปลูกฝังแนวคิด 3G ได้แก่ Good Health คือ สุขภาพดีกับการเลือกรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการและการออกกำลังกาย Goog Life คือ ชีวิตดีด้วยการรู้จักใช้ชีวิตที่ถูกต้อง ทำจิตใจให้เบิกบาน มีทัศนคติที่ดี และ Good Looking คือ บุคลิกภาพที่ดี รู้จักดูแลตัวเอง ทั้งรูปร่างหน้าตา และการแต่งกาย สร้างมั่นใจ

สำหรับในส่วนของทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันแอโรบิกชิงชนะเลิศระดับภูมิภาค ประจำภาคใต้ ครั้งนี้มีด้วยกัน 43 ทีม ซึ่งในแต่ละประเภทคัดเลือกเหลือ 2 ทีม รวม 6 ทีม เพื่อไปร่วมการแข่งขันชิงชนะเลิศระดับประเทศ ชิงถ้วยเกียรติยศ พร้อมเงินรางวัลรวมกันทั้งสิ้นกว่า 1.6 ล้านบาท ในวันที่ 26 มิถุนายน 2554 ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต กรุงเทพมหานคร โดยทีมที่ได้รับการคัดเลือก ในประเภทเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี ได้แก่ ทีม A HA จ.ภูเก็ต กับทีม The Dance star crew จ.ชุมพร ประเภทประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้แก่ อบต.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราชกับ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และประเภทประชาชนทั่วไป ได้แก่ ทีม Viking จ.ภูเก็ต กับทีม Hero จ.ภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีรางวัลขวัญใจประชาชน ได้แก่ ทีมชบาตานี (เทศบาลเมืองปัตตานี) จ.ปัตตานี

อย่างไรก็ตามในโอกาสเดียวกันนี้ นางสาวสาวฟาง เอกลักษณ์รุจี ผู้จัดการอาวุโสกิจการบรรษัท-กิจการสาธารณะ เทสโก้ โลตัส มอบเงินช่วยเหลือ 5 ทีม ผู้เข้าแข่งขันที่ประสบอุทกภัยทีมละ 10,000 บาท ได้แก่ ทีม อบต.ท่าขึ้น จ.นครศรีธรรมราช, ทีม อบต.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช, ทีมชมรมแอโรบิก ตลิ่งชัน จ.นครศรีธรรมราช, ทีม surat poison ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี, ทีม tt dance โรงเรียนบ้านทวดทอง ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

***สาลินี ปราบ/สนับสนุนข่าว

---------------------------------------
ปชส.ภก. จัด โครงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายการประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ตประจำปี ๒๕๕๔ หวังผู้เข้าร่วมสัมมนานำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงาน เพิ่มศักยภาพการประชาสัมพันธ์ของจังหวัดให้ดียิ่งขึ้น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ที่ห้องประชุมนนทรีย์ โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายการประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2554 โดยมี นายโสภณ เคี่ยมการ นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ/ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต ผศ.มยุเรศ ตนะวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ/อาจารย์ประจำคณะวิทยาการจัดการ โปรแกรมนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ตลอดจนผรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 19 แห่ง จำนวน 38 คน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายโสภณ กล่าวว่า สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ตเป็นหน่วยงานศูนย์กลางการประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจอันดีระหว่างภาครัฐ หน่วยงานของรัฐกับประชาชน และระหว่างประชาชนกับประชาชน รวมทั้งเป็นหน่วยงานหลักในการถ่ายทอดความรู้ และนโยบายสำคัญต่าง ๆ จากภาครัฐไปสู่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนเกิดความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานของรัฐและเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนในจังหวัดภูเก็ต

เพื่อสนองนโยบายรัฐดังกล่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ตจึงกำหนดจัดสัมมนาโครงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายประชาสัมพันธ์ประจำปี 2554 ขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านการใช้สื่อประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างสูงสุด และครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงเพื่อพัฒนาเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ระดับจังหวัดของหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ที่สำคัญผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพการ ประชาสัมพันธ์ของจังหวัดให้ดียิ่งขึ้น

*** สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

-----------------------------------------
ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 3 พรรครักประเทศไทย ขอคะแนนเสียงที่ จ.ภูเก็ตหลังโพลชี้อาจจะมีโอกาสเข้าสภา 3 ที่นั่ง ด้านพรรคประชาธิปัตย์เตรียมเปิดเวทีปราศรัยในเขต 2 อ.ถลาง วันที่ 24 มิถุนายนนี้ นำโดยนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค.

พรรคการเมืองใหม่ หมายเลข 20 นำโดยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ได้ เปิดเวทีปราศรัย ที่ปลายแหลมสะพานหิน วันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้ารับฟังจำนวนหนึ่ง ยืนยัน พรรคมีนโยบายและจุดยืน ที่จะปฎิรูประเทศไทย หากได้รับความไว้วางใจจากประชาชนจะเดินหน้าผลักดันให้การปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ และไม่เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชั่น ส่วนการรณรงค์ โหวตโนของคนเสื้อเหลือง ย้ำว่าไม่ใช่แนวทางของพรรคฯ

ด้านผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 3 พรรครักประเทศไทย หมายเลข 5 นายโปรดปราน โต๊ะราหนี ได้เดินทางมาแนะนำตนเองที่ จ.ภูเก็ต ในกลุ่มเครือข่ายขายตรง โดยระบุว่า ขณะนี้พรรคฯ ที่มีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นหัวหน้า ได้รับเสียงตอบรับที่ดี ล่าสุดผลโพลสำรวจออกมาว่า จะได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจำนวน 3 ที่นั่ง ซึ่งตนอยู่ในลำดับที่ 3 จึงอาจจะได้เป็น ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยจะไปแนะนำตัวหาเสียงในกลุ่มมุสลิม และเครือข่ายขายตรงที่มีกว่าล้านคน และหากได้เป็น ส.ส.จะผลักดันกฎหมายการคุ้มครองผู้บริโภคให้ดีขึ้น.

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมเปิดเวทีปราศรัยช่วย นายเรวัติ อารีรอบ หมายเลข 10 หาเสียงในเขตเลือกตั้งที่ 2 ในวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายนนี้ โดยอดีตหัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย จะขนแกนนำพรรคมาปราศรัย ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าโรงงานยางพารา เลยสี่แยกท่าเรือ ติดถนนเทพกระษัตรี เริ่มเวลา 17 นาฬิกาเป็นต้นไป.

--------------------------------------------------
ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบนโยบายรองผู้อำนวยการท่าอากาศยานคนใหม่ รื้อปัญหาเรื้อรังดำเนินการให้เป็นผลดีต่อการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ส่วนการขยายสนามบินคืบกว่า 90%

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 21 มิ.ย. 54 ร.ต.ธานี ช่วงชู รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต คนใหม่ และคณะเข้าเยี่ยมคารวะ นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ห้องทำงานศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นการแนะนำตัว และรับทราบนโยบายการทำงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกัน

โดยนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต บอกว่ายินดีที่จะช่วยประสาน ให้คำปรึกษาทุกปัญหาของท่าอากาศยานภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องรถรับจ้าง ที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน และรวมถึงปัญหาอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อให้เป็นไปในทิศทางที่ตรงกัน

นอกจากนี้ ร.ต.ธานี ช่วงชู รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ยังได้หารือในเรื่องของที่ดินที่จะก่อสร้างบ้านพักให้กับพนักงานของท่าอากาศยานภูเก็ต ทั้งนี้เนื่องจากทางท่าอากาศยานภูเก็ตมีโครงการที่จะขยายสนามบินไปทางฝั่งบ้านพักพนักงาน จึงจำเป็นที่จะต้องมีการย้ายบ้านพักพนักงานออกไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีที่ดินที่จะมาทำการก่อสร้างบ้านพักให้กับพนักงานดังกล่าว

ส่วนเรื่องของการขยายสนามบินภูเก็ต ตอนนี้ได้ผู้ออกแบบมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแบบก็คืบหน้าไปแล้วกว่า 90 % และคาดว่าจะสามารถลงมือก่อสร้างได้ภายในเดือน ต.ค.54 ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างขยายสนามบินภูเก็ต ประมาณ 2 ปี ซึ่งใช้งบในการก่อสร้างประมาณ 7,000 ล้านบาท

***สารภี ศรีธรรมรัตน์ / สนับสนุนข่าว ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

--------------------------------
เทศบาลตำบลรัษฎา ฝึกซ้อมแผนป้องกันการระบาดโรคไข้หวัดนก.

รถแบ็คโฮขุดหลุมลึกกว่า 3 เมตร เพื่อฝังซากสัตว์ปีก ภายหลังทีมสืบสวนโรคทำลายเชื้อโรคในฟาร์มไก่ ซึ่งเป็นสถานการณ์สมมุติการฝึกซ้อมแผนเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดโรคไข้หวัดนก ที่เทศบาลตำบลรัษฎา ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปศุสัตว์จังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จัดฝึกซ้อมประจำปี เมื่อเช้าวันนี้

นายเชาวเลิศ จิตจำนงค์ รองนายกเทศมนตรีตำบลวิชิต ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โรคระบาด กล่าวว่า พอใจต่อการฝึกซ้อมครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมการทำงานของเจ้าหน้าที่ รับมือกับโรคระบาดจากสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ปีก ซึ่งได้จัดซ้อมแผนแบบบนโต๊ะ และจัดกลุ่มฝึกซ้อมให้สอดคล้องกับสถานการณ์สมมุติ แล้วรายงานผลต่อศูนย์อำนวยการฯ ลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่ใกล้เคียง

ด้านนายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดนก ว่า ไม่พบการแพร่เชื้อในพื้นที่มาหลายปีแล้ว ที่สำคัญหน่วยงานราชการมีมาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดอย่างรัดกุม.

***สทท. 11 ภูเก็ต /สนับสนุนข่าว

--------------------------------
บานประตู หน้าต่างตาข่ายนิรภัย มาเจสเทค สินค้าคุณภาพนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย เจาะตลาดภูเก็ต และจังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน

นางพรรณี เพย์น กรรมการผู้จัดการ บริษัทไพลินสไมล์ลี่ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายบานประตูหน้าต่างตาข่ายนิรภัย มาเจสเทค สินค้านำเข้าจากออสเตรเลีย กล่าวถึงเปิดออกบูธเปิดตัวสินค้าว่า ทางไพลิน สไมล์ลี่ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายในภาคใต้ ฝั่งทะเลอันดามันทั้งหมด ได้มีการเปิดตัวสินค้าบานประตูหน้าต่างตาข่ายนิรภัย มาเจสเทค สินค้านำเข้าจากออสเตรเลีย ณ ศูนย์การค้าโฮมโปร ห้าแยกฉลอง ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งวันแรกของการเปิดตัว ได้รับการตอบรับดีมากทั้งในกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มาอาศัย หรือมาทำธุรกิจอยู่ในจังหวัดภูเก็ต มีการสั่งสินค้าเข้ามาบ้างแล้ว เนื่องจากสินค้าของนิรภัยดังกล่าวนี้ค่อนข้างมีคุณภาพกว่าตลาดทั่วไป และเป็นเจ้าเดียวของประเทศไทยที่มีสินค้านิรภัยลักษณะนี้ มีสำนักงานอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วส่งออร์เดอร์ไปทั่วประเทศ

สำหรับคุณสมบัติของประตู หน้าต่างตาข่ายนิรภัย มาเจสเทค นางพรรณี กล่าวว่า ในส่วนของแผ่นตาข่ายนั้น ผลิตจากเหล็กกล้าไร้สนิม ที่ผ่านการคัดสรรจากวัตถุดิบคุณภาพสูงมาตรฐานระดับนานาชาติ ผ่านการทดสอบคุณสมบัติความทนทานต่อการการกรีดด้วยใบมีด จึงมีความแข็งแรงทนทานกว่าตาข่ายทั่วไป ผ่านการทดสอบความทนทานต่อละอองน้ำเกลือ จึงเหมาะกับการติดตั้งในที่พักอาศัยที่อยู่บริเวณชายทะเล ผ่านกระบวนการเคลือบสี เทคนิคพิเศษเฉพาะของมาเจสเทศจึงทำให้สีทนทานต่อสภาวะภายนอกต่างๆ ทำให้สีไม่ซีดจางได้ง่าย และมองเห็นวิวภายนอกได้อย่างชัดเจน อีกทั้งป้องกันรังสียูวีจากภายนอกได้ถึง 60%

ขณะที่ในส่วนของกรอบอลูมิเนียม ผลิตจากอลูมิเนียมคุณภาพระดับสูง 6063-T5 มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อนสูงกว่าเกรดทั่วไป ผ่านการวิจัยและออกแบบการเข้ากรอบบานที่มีลักษณะเฉพาะโดยทีมงานมืออาชีพได้รับการจดสิทธิบัตรในระดับนานาชาติ ผ่านการทดสอบความแข็งแรงตามมาตรฐานประเทศออสเตรเลียทั้งในส่วนความทนทานต่อแรงกระแทก และความทนทานต่อการงัดแงะ ทำให้ผลิตภัณฑ์ประตู หน้าต่างนิรภัย มาเจสเทคมีความแข็งแรงทนทานในระดับที่เหนือกว่า สามารถใช้งานร่วมกับกรอบบานประตู หน้าต่างที่ติดตั้งบานกระจก รวมถึงใช้งานร่วมกับงานกรอบบานไม้ ได้อย่างกลมกลืน และง่ายต่อการติดตั้ง

นอกจากนี้ในส่วนของมือจับ ระบบล็อค และอุปกรณ์ต่างๆ ก็เป็นอุปกรณ์ฮาดแวร์ชั้นนำที่ผ่านการรับรองคุณภาพ แข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับคุณและครอบครัว นอกจากนี้ยังยากต่อการงัดแงะด้วยระบบล็อคหลายตำแหน่ง และที่สำคัญเรื่องการรับประกัน บริษัทรับประกันความคงทนของสีกรอบบานและสีตาข่ายของผลิตภัณฑ์มาเจสเทคเป็นระยะเวลา 10 ปี

นางพรรณี กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่สนใจสินค้าของทางบริษัทสามารถมาเยี่ยมชมสินค้า และรับคำแนะนำดีๆ ได้ที่ บูธโฮมโปร ห้าแยกฉลอง ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ได้ตั้งแต่เวลา 09-21.00 น.โดยจะมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าไปจนถึงวันที่ 15 ก.ค.54

***สารภี ศรีธรรมรัตน์ สนับสนุนข่าว

---------------------------------------
ภูเก็ต จัด ประชุมสัมมนาบทบาทการศึกษานานาชาติ วิชาการทางด้านภาษา ศาสนาอิสลาม ตะวันออกเฉียงใต้ครั้งที่ 4 เพื่อให้ชาวมุสลิม ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ปรับตัวถูกทางหลักศาสนาอิสลาม พัฒนาไปสู่ประชาคมอาเซียน

เมื่อวานที่ผ่านมา (20 มิ.ย. 54) ที่ห้องประชุมชั้น 3 ใสน้ำเย็น โรงแรม เดอะ รอยัลพาราไดส์ หาด ป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ดร.ออสมัน บาการ์ ประธาน International Institute of Islamic Thought (IIIT) East Asia เป็นประธานการประชุมสัมมนาบทบาทการศึกษานานาชาติ วิชาการทางด้านภาษา ศาสนาอิสลาม ตะวันออกเฉียงใต้ครั้งที่ 4 โดยมี ผศ.ดร.สุกรี หลังปูเต๊ะคณบดีคณะศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย อิสลามยะลา/ประธานจัดงานการสัมมนาบทบาทการศึกษานานาชาติ วิชาการทางด้านภาษา ศาสนาอิสลาม ตะวันออกเฉียงใต้ครั้งที่ 4 นาย บำรุง สำเภารัตน์ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

สำหรับการประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมระดับอาเซียน โดยมีผู้เข้าร่วมจาก ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนิเชีย ประเทศสิงคโปร์ เป็นการประชุมที่เกี่ยวข้องกับวิชาการ ทางด้านภาษาอิสลาม ว่าสามารถจะปรับการศึกษา วิชาการในยุกต์ศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร การปรับตัวของมุสลิมในยุกต์โลกาภิวัฒน์ควรจะมีการปรับตัวอย่างไร อีกทั้งเรื่องของวิชาการ เรื่องของการปรับใช้ศาสตร์ทางด้านศาสนากับศาสตร์ และศาสตร์ทางด้านสากลทั่วไปเพื่อให้ชาวมุสลิม ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มีการปรับตัวที่ถูกทางหลักศาสนาอิสลาม ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาไปสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งในอนาคตเมื่อพูดถึงศาสนาคงไม่ใช้เป็นการพูดเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต จังหวัดปัตตานี หรือในเมืองหลวง (กรุงเทพ ฯ ) เป็นประเด็นเดียวกันอาจจะมีการพูดคุยในมิติเดียวกันในประเทศเอเชีย และเนื่องจากองค์กรที่มาจัดโครงการสัมมนาดังกล่าวนั้นเป็นสถาบันแนวความคิดของมุสลิมระดับสูง ซึ่งมีสาขาหลายประเทศทั่วโลก

ปัจจุบันประเทศไทยมีคณะกรรมการกว่า 7 มหาวิทยาลัย อยู่ในสาขาวิชาและคณะต่าง ๆ ที่มาร่วมในกิจกรรมในครั้งนี้ อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยพายัพ เป็นต้น ซึ่งนักวิชาการเหล่านี้เป็นนักวิชาการมุสลิมสอนเกี่ยวกับวิชาทางด้านเศรษฐศาสตร์ สังคมวิทยา ซึ่งขณะนี้ พยายามสร้างเวทีที่จะพัฒนาในสังคมมุสลิม คือต้องการให้คนที่เป็นมุสลิมเป็นมุสลิมที่ดีเหมือนเดิม หรือดีกว่าเดิม ขณะเดียวกันเพื่อให้เป็นคนไทยที่มีความเป็นนักวิชาการที่เต็มไปด้วยทักษะ ทางวิชาการที่เต็มไปด้วยความรู้และอยู่ได้ในสังคม

ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าวเป็นการจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 โดยครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่ประเทศอินโดนิเชีย และครั้งที่ 4 จัดขึ้นที่ประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางคณะกรรมการอิสลามประจำภูเก็ต ได้เล็งเห็นว่าภูเก็ตมักมีเวทีปรึกษาในการศึกษาของชาวมุสลิมน้อยมาก อย่างมุสลิมที่มาจากต่างประเทศส่วนมากจะพูดคุยเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ธุรกิจ เรื่องการท่องเที่ยวในภูเก็ต ซึ่งตรงกันข้ามจะไม่มาถึงการศึกษาเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นเรื่องการศึกษาจึงเป็นต้นเหตุที่ต้องการจัดและได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จัดโครงการดังกล่าวขึ้น เป็นเวลา 2 วัน

อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้เข้าร่วมสัมมนาในประเทศอาเซียน ประทับใจกับการได้มาสัมมนาในครั้งนี้ ที่จังหวัดภูเก็ตซึ่งมีอาหารฮาลาล และมีโรงแรมที่ได้รับรองมาตรฐานอาหารฮาลาล จากคณะกรรมการอิสลามจังหวัดและคาดว่าน่าจะเป็นการดึงนักท่องเที่ยว และเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยว ของจังหวัดทางฝั่งอันดามัน ซึ่งหลาย ๆ คน ที่เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ต่างประทับใจ

*** สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

------------------------------
องผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงตรวจสอบพื้นที่ ร้องเรียนจากประชาชน จำนวน 129 ไร่ จำนวน 129 ไร่ บริเวณโรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์ ฝั่งชายหาด ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนประชาชน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ที่บริเวณโรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์ ฝั่งชายหาด นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงตรวจสอบพื้นที่ ร้องเรียนจากประชาชน จำนวน 129 ไร่ บริเวณโรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์ ฝั่งชายหาด โดยมี นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต นายนฤนาท สุภัทรประทีป นายอำเภอถลาง ตลอดจน อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้รับการร้องเรียนจากประชาชนรายหนึ่ง ทางจังหวัดจึงได้มอบให้ทางอำเภอถลางและที่ดิน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ส่วนผู้ร้องก็อยากให้มีข้อมูล ในการลงมาดูแลพื้นที่เพิ่มเติมจากการตรวจสอบและชี้แจงข้อมูล ทางจังหวัดจึงได้ตั้งแต่คณะกรรมชุดหนึ่ง ที่มีประธาน คณะกรรมการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายอำเภอถลาง ที่ดินจังหวัดสาขาถลาง มาให้พูดคุยกันในวันนี้ ซึ่งได้ลงไปตรวจสอบพื้นที่ก็ได้พบปัญหา ว่าที่ดิน นสล ที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์ โรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูล และ บ้านพักคนชรา ประมาณ 129 ไร่ ซึ่งทางนายอำเภอถลาง ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า กำลังจะดำเนินการออก นสล ในพื้นที่ 129 ไร่ ขณะที่ได้สอบถามผู้ใหญ่บ้านพบว่าไม่มีการบุกรุกพื้นที่ของราษฎรแต่อย่างใด โดยสวนมะพร้าวเป็นสวนที่ทางโรงเรียนปลูกไว้ถือว่าเป็นที่ นสล ที่โรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์ ขอใช้

ทั้งนี้ฝากให้นายอำเภอถลางไปประสานกับที่ดินจังหวัดสาขาถลางในการ ออก นสล เมื่อออก นสล แล้วเสร็จ ก็ให้หน่วยงานต่างๆ ที่ใช้พื้นที่นี้อยู่ ทำเรื่องขอใช้พื้นที่กี่ไร่ก็แล้วแต่ ต่อกระทรวงมหาดไทย โดยผ่านทาง กำนัน อบต ผ่านทางอำเภอถลาง และทางจังหวัดจะส่งไปยังกระทรวงมหาดไทย โดยกรมที่ดินดำเนินการให้ใช้ นสล ตามระเบียบทางราชการต่อไป

อย่างไรก็ตามนี้เป็นปัญหาหนึ่งที่ผู้ร้องและผู้ที่เกี่ยวข้องติดใจ และทางผู้ที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงให้ฟังก็ดูเหมือนจะเป็นที่พึงพอใจ และสามารถยุติปัญหาไปได้ ซึ่งต้องติดตามผลว่ามีความคืบหน้าอย่างไร ในอนาคตข้างหน้า

นายสมเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า แปลงหนึ่งอยู่ข้างเคียงกับที่ดิน นสล ซึ่งนส 3 ก จำนวน2 แปลง ซึ่งเป็นที่ของประชาชนรายหนึ่ง ทางที่ประชุมก็ได้ให้ ที่ดินสาขาถลาง และ นายอำเภอถลาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงไปตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นว่า แนวเขตของพื้นที่ในทิศตะวันออกและทิศตะวันตก จะได้มีการแก้ไขให้ถูกต้องให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง ส่วนการออก นส 3 ก็ไม่สามารถไปเพิกถอนได้ เพราะว่าไม่ใช่อยู่ในอำนาจ ของทางจังหวัด อำเภอ หรือหน่วยงานระดับภูมิภาค ซึ่งต้องขึ้นไปถึงกระบวนการยุติธรรม แต่สามารถตรวจสอบที่มาที่ไป โดยจะนำเสนอข้อมูลเหล่านี้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมถึงจะแจ้งให้ผู้ร้องทราบ

“กรณีที่สมมติว่ามีการ ทับซ้อน อาจจะดำเนินการให้ไปถึงกระบวนการยุติธรรม ถ้าทับซ้อนกันจริงๆ ก็ จะมีปัญหาการออก นส 3 ที่ผ่านมา การเพิกถอนหรือไม่ มันไม่ใช่อยู่ที่อำนาจของจังหวัด ซึ่งอยู่ที่กระบวนการยุติธรรมจะต้องให้ศาลสั่ง เราต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ครอบครอง” นายสมเกียรติ กล่าว

***สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป