“อัญชลี วานิช เทพบุตร” ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 มั่นใจรักษาเก้าอี้ได้ 2 ที่นั่งแน่นอน เดินหน้าพัฒนาจังหวัดภูเก็ตสู่ประตูของโลก พร้อมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ 26 พ.ค.นี้ ขณะที่กกต.แจงสื่อการนำเสนอข่าว
ภายหลังจากที่พรรคการเมืองได้หมายเลขสมัครรับเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 ก.ค. 2554 นี้ การเคลื่อนไหวหาเสียงของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งจากพรรคการเมืองในจังหวัดภูเก็ตเริ่มคึกคักขึ้น มีการเปิดตัวผู้สมัครจากพรรคต่างๆ โดยล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (20 พ.ค.) นาง อัญชลี วานิช เทพบุตร ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต (ส.ส.) พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงแบบเคาะประตูบ้านกับชาวบ้านบริเวณย่านเมืองเก่า ถนนถลาง และซอยรมณีย์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนในย่านเมืองเก่าภูเก็ต
นาง อัญชลี เปิดเผยว่า กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ได้ตัดสินใจเลือกตนลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ภูเก็ต เขต 1 และนายเรวัติ อารีรอบ เขต 2 เนื่องจากตนเคยเป็นส.ส.ภูเก็ตมาเป็นเวลายาวนาน และได้ทุ่มเททำงานรับใช้ประชาชนชาวภูเก็ตมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต พร้อมทั้งได้วางแผนพัฒนาจังหวัดภูเก็ตครอบคลุมในทุกๆด้าน ทำให้มั่นใจว่าประชาชนชาวภูเก็ตยังไว้วางใจเลือกส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์และเลือกนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ
โดยใช้นโยบายเดินหน้าต่อไปด้วยนโยบายเพื่อประชาชน เบี้ยยังชีพอสม. เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา และที่เป็นไฮไลน์คือหลักประกันชีวิต บำเหน็จชาวบ้าน บำนาญภาคประชาชน และนโยบายอีกหลายๆด้านเพื่อประชาชน แต่ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ได้วางแผนที่จะพัฒนาภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นประตูสู่สังคมโลก เพราะในอีก 4 ปีข้างหน้า อาเซียนจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว จำเป็นที่จะต้องวางแผนเตรียมความพร้อมในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตรองรับการเป็นประชาคมอาเซียน ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตามแหล่งท่องเที่ยว รักษาคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพบุคลากร เพื่อรับมือกับเข้าเป็นประชาคมอาเซียน 700 ล้านคน ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลก็จะสานต่อนโยบายต่างๆ ในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตต่อไป
ส่วนข้อถามที่ว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนนั้น นางอัญชลี กล่าวว่า ประชาชนชาวภูเก็ตเข้าใจในรายละเอียดภาพรวมการทำหน้าที่ส.ส.ว่าจะต้องทำหน้าที่ในด้านกฎหมายและนโยบาย และยิ่งโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหน้าที่เป็นรัฐบาลนั้น มีผลงานในภูเก็ตมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งประชาชนได้ติดตามการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และประชาชนชาวภูเก็ตก็เข้าใจว่าการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ การดำรงชีพ ที่ใกล้ตัวนั้นเป็นหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสียส่วนใหญ่ แต่หากเป็นภาพรวมการพัฒนาจังหวัดในด้านต่างๆ เป็นหน้าที่ของจังหวัดและรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลโดยการนำของพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดสรรงบประมาณมาพัฒนาจังหวัดภูเก็ตในหลายๆโครงการ เช่น ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ อาคารกีฬายิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง การขยายสนามบินภูเก็ต สร้างอ่างเก็บน้ำ ฯลฯ
“มั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังได้รับความกรุณาจากชาวภูเก็ตและชาวภาคใต้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีความผูกพันกับชาวใต้มายาวนาน ไม่มีใครที่จะมาทำให้ความผูกพันสั่นคลอนได้ คนใต้กับพรรคประชาธิปัตย์เหมือนสามี-ภรรยา ที่มองตากันแล้วก็รู้ใจ และพรรคประชาธิปัตย์รักจริงหวังแต่ง” นางอัญชลี กล่าวและว่า
สำหรับการหาเสียงนั้น จะใช้วิธีเข้าถึงประชาชนโดยการเคาะประตูบ้าน และใช้วิธีพบแบบกลุ่มใหญ่ๆ เช่น ตามตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า หรือจุดที่มีการชุมนุมของคนหมู่มาก และในวันที่ 26 พ.ค.นี้ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางมาเปิดเวทีปราศรัยและเปิดตัวผู้สมัครในจังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่แรกของภาคใต้ ที่บริเวณสะพานหิน
ส่วนกระแสการรณรงค์ให้โหวตโนนั้น นางอัญชลี กล่าวว่า ประชาชนสามารถแยกแยะได้ และข่าวสารต่างๆก็เข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ประชาชนที่เป็นคอการเมืองทราบถึงสิทธิการเป็นพลเมือง ซึ่งประชาชนทราบว่าประเทศไทยต้องเดินหน้า และพรรคประชาธิปัตย์ก็มีนโยบายที่ชัดเจนในการเดินหน้าประเทศไทยด้วยนโยบายของประชาชน ทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์จะมีที่นั่งในสภาฯกว่า 200 ที่นั่งอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 10.30 น. วันเดียวกัน นาย กิตติพงษ์ เที่ยวคุณากฤต ผู้อำนวยการสำนักงานการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดภูเก็ต ได้เชิญสื่อมวลชนทุกแขนงในภูเก็ต ไปทำความเข้าใจถึงการนำเสนอข่าวในช่วงการเลือกตั้ง ณ.ห้องประชุมสำนักงาน กกต.ภูเก็ต ซึ่งมีสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วม
จันจิรา สิตบุศย์/สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
-----------------------------
พบศพหนุ่มใหญ่ถูกสังหารโหดทั้งตัดมือขวาและบาดคอหวิดขาดทิ้งในสวนยางพารายังไม่ทราบว่าเป็นชาวไทยหรือพม่า
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 20 พ.ค. 54 พ.ต.ท.เจษฎา แสงสรีย์ สารวัตร เวร สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบศพชายเสียชีวิตอยู่ในสวนยางพาราบริเวณหาดเก็บทรัพย์ หมู่ 1 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึ่งพร้อมด้วย พ.ต.ท.จรูญ พลายด้วง รอง.ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.วิจักข์ ตารมณ์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมรุดไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบปรากฎว่าพบศพชายอายุประมาณ 40-45 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างต้นยางพารา สภาพศพถูกฟันจนข้อมือขวาขาด และถูกปาดที่คอจนหวิดขาด สวมเสื้อสีเลือดหมู สวมกางเกงในสีดำ
ข้างศพพบผ้าขาวม้าสีดอก 1 ผืน ห่างไปประมาณ 3 เมตรพบข้อมือขวาตกอยู่ 1 ข้าง และพบกองเลือดพร้อมกระสุนปืนตกใกล้ศพอีก 1 นัด จากตรวจสอบร่างกายไม่พบเอกสารใด ๆ ที่แสดงว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครและสอบถามคนที่อยู่บริเวณดังกล่าวทั้งชาวไทยและพม่าที่มารับจ้างกรีดยางไม่มีใครรู้จัก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าจะถูกฆ่าจากที่อื่นและนำศพมาทิ้งในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนต่อไปว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครเพื่อจะได้สอบสวนหาผู้สังหารโหดครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนนายลัก ชาวพม่าที่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. เศษที่ผ่านมาได้ออกมาเพื่อกรีดยางพาราในสวนแต่ปรากฎว่าเมื่อเดินเข้าไปในสวนพบศพนอนเสียชีวิตอยู่จึงวิ่งกลับที่พักและแจ้งให้นายเอียด นนทรีย์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/6 หมู่ที่ 1 ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ชึ่งเป็นหัวหน้าคนงานทราบ และเมื่อมาดูศพแล้วปรากฎว่าไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหนแต่ไม่ใช่ชาวพม่าที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนเพื่อหาสาเหตุต่อไป
วิเชียร อุตส่าห์/สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
--------------------------------------
เทศบาล ต.วิชิต ร่วมกับ จ.ภูเก็ต จัดโครงการปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน และโครงการเทศบาลเคลื่อนที่บริการประชาชน ประจำปีงบประมาณ 2554
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 เวลา 10.00 น. ที่สวนศรีภูวนาถ จังหวัดภูเก็ต นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน และโครงการเทศบาลเคลื่อนที่บริการประชาชน ประจำปีงบประมาณ 2554” โดยมีนายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายกรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต สมาชิกเทศบาลตำบลวิชิต หัวหน้าส่วนราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมโครงการ
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ในระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ความขัดแย้ง ทางการเมืองในสังคมไทยก่อให้เกิดความแตกแยกทางความคิดและการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ระหว่างคนไทยด้วยกันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และมีแนวโน้มว่าสถานการณ์ความขัดแย้งนี้กำลังฝังรากลึกลงไปอย่างต่อเนื่องในหมู่ประชาชนคนไทยด้วยกันเอง สร้างความแตกแยก แตกความสามัคคีเริ่มมีความห่างเหิน ทั้งที่คนไทยส่วนใหญ่ล้วนมีความรักใคร่และสามัคคีปรองดองกันอยู่แล้ว ด้วยความมีจารีตวัฒนธรรมประเพณีกับความมีศีลธรรมในสายเลือดและในจิตใจสืบต่อกันมา การขัดแย้งทางความคิดในกลุ่มย่อยเกิดมีได้บ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าหากการขัดแย้งทางความคิดได้รับการไกล่เกลี่ย ได้รับความรู้ ได้รับข่าวสาร ความเข้าใจที่ถูกต้อง การขัดแย้งทางความคิดเหล่านั้นก็จะหมดไปได้ เพราะคนไทยเป็นชนชาติที่รักสงบ รักพวกพ้องและรักแผ่นดินถิ่นเกิด
ด้านนายกรีฑา กล่าวว่า โครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน และโครงการอำเภอ ยิ้ม เคลื่อนที่ เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งโครงการตำบลวิชิตเคลื่อนที่บริการประชาชน เป็นโครงการที่สำคัญของเทศบาลตำบลวิชิต โดยทั้งสามโครงการมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือ การนำบริการภาครัฐสู่พี่น้องประชาชน ถึงระดับพื้นที่ และรับทราบปัญหาความเดือดร้อน โดยจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเทศบาลตำบลวิชิต จัดให้มีการบริการประชาชนนอกพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการรับบริการด้านต่างๆ จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และถือเป็นโอกาสอันดีที่ทางจังหวัดภูเก็ตได้ให้เกียรติร่วมออกหน่วยบริการประชาชน ในพื้นที่ของเทศบาลตำบลวิชิต ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับบริการที่หลากหลายเพิ่มขึ้น
อารยา ตุลา ข่าว/ภาพ/พิมพ์ เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
----------------------------
กกต.ประจำจังหวัดภูเก็ต. เปิดรับสมัครผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 2 เขต วันที่ 24-28 พฤษภาคม นี้ ขณะที่เลือกตั้งล่วงหน้ากำหนดวันที่ 26 มิถุนายน 2554 เวลา 08.00-15.00 น
นายกิติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการชี้แจงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งกำหนดขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต แบ่งเขตการเลือกตั้ง ส.ส. ออกเป็น 2 เขตเลือกตั้ง โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 ได้แก่ พื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต ยกเว้นตำบลรัษฎากับตำบลเกาะแก้ว ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 ได้แก่ อำเภอถลาง อำเภอกะทู้ และตำบลรัษฎากับตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของจำนวนประชากรทั้งสองเขตอยู่ที่ 4 % ซึ่งไม่ได้เกินค่าเฉลี่ยที่ กกต.กำหนดไว้ โดยเปิดรับสมัครผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 2 เขต ในระหว่างวันที่ 24-28 พฤษภาคม 2554 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (อาคารใหม่)
ส่วนของการลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้า จะมี 2 ประเภท ได้แก่ การลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าสำหรับคนต่างจังหวัดที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ต หรือการลงเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ซึ่งผู้ที่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2554 ที่สำนักงานทะเบียนท้องถิ่นทุกที่ กับการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าสำหรับคนที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของจังหวัดภูเก็ตและมีสิทธิเลือกตั้ง หรือที่เรียกว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในครั้งนี้จะต้องทำการลงทะเบียนเพื่อขอลงเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย พร้อมยื่นเอกสาร เช่น คำสั่ง ทั้งนี้การเลือกตั้งล่วงหน้ากำหนดวันที่ 26 มิถุนายน 2554 เวลา 08.00-15.00 น .
สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
--------------------------------------------
มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต มอบทุนการศึกษาโครงการสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ครั้งที่ 2 และพิธีมอบข้าวสารโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียน กว่า 51 โรงเรียน
เมื่อเวลา 09.00 วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ที่ห้องประชุมชั้น 2 มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นางเบญจวรรณ ตัมพานุวัตร ประธานมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มอบทุนการศึกษาโครงการสำหรับนักเรียนที่แคลนทุนทรัพย์ ครั้งที่ 2 และมอบข้าวสารโครงการอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียนเนื่องในพิธีสักการะและฉลองวันเกิดเทพเจ้าโป๊ยจุนเซี้ยฮุก ประจำปี 2554 โดยมี นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ตลอดจน คณะครูอาจารย์ นักเรียน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นางเบญจวรรณ กล่าวว่า โครงการมอบทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่แคลนทุนทรัพย์ ครั้งที่ 2 และพิธีมอบข้าวสารโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนเนื่องในพิธีสักการะและฉลองวันเกิดเทพเจ้าโป๊ยจุนเซี้ยฮุก ประจำปี 2554 นี้ มีนักเรียน จากโรงเรียนในจังหวัดภูเก็ตเข้ารับทุนการศึกษาทั้งหมด 14 โรงเรียนได้แก่ ร.ร.เกาะสิเหร่ ร.ร.เทศบาลพิบูลสวัสดี ร.ร.พุทธมงคลนิมิตร ร.ร.วัดเทพนิมิตร ร.ร.บ้านทุ่งคา ร.ร.บ้านบางครั่ง ร.ร.โคกวัดใหม่ ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ 36 ร.ร.ท่าฉัตรไชย ร.ร.บ้านบางคู ร.ร.แหลมพันวา ร.ร.บ้านอ่าวปอ ร.ร.เกาะมะพร้าว ร.ร.บ้านอ่าวน้ำบ่อ และพิธีมอบข้าวสารโครงการอาหารกลางวันเด็ก จำนวน จำนวน 37 โรง
“โครงการดังกล่าวถือว่าเป็นความสำเร็จของมูลนิธิที่มีต่อส่วนร่วมและช่วยเหลือประชาชน ชาวภูเก็ต อย่างต่อเนื่อง และมูลนิธิกุศลธรรมจังหวัดภูเก็ต มีผู้ใจบุญสนับสนุนเงินทุน รวมทั้งข้าวสาร และฝากผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาในวันนี้ จงตั้งใจเรียน เป็นเยาวชนที่ดี พยายามศึกษาหาความรู้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งความรู้สามารถช่วยให้ทุกคนอยู่รอดได้ เกิดมาในฐานะไหนก็แล้วแต่ ถ้ารามีความรู้ ขยันหมั่นเพียร ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เป็นประโยชน์ต่อสังคม คิดว่า ทุกคนก็สามารถมีอนาคตที่ดีได้” นางเบญจวรรณ กล่าว
สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
----------------------------
เรือนจำจังหวัดภูเก็ต จัดงาน นิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 8 วันที่ 3-12 มิ.ย.54 ตั้งเป้ายอดจำหน่าย 10 ล้านบาท
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 20 พ.ค. 54 ที่ห้องประชุมเรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน ระหว่างวันที่ 3-12 มิถุนายน 2554 เวลา 09.00-22.00 น. ณ บริเวณเวทีกลางสะพานหิน
โดยนายระพินทร์ กล่าวว่า เรือนจำจังหวัดภูเก็ตได้รับอนุญาตจากกรมราชทัณฑ์ ให้ดำเนินการจัดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 8 ซึ่งเรือนจำ / ทัณฑสถาน มีภารกิจในการควบคุมบำบัด ฟื้นฟู และแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ 2552-2554 ในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาพฤตินิสัย เพื่อคืนคนดีสู่สังคม ลดภาระภาครัฐ ตลอดถึงการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในสังคมสนับสนุนกิจการราชทัณฑ์ จึงได้กำหนดกลยุทธ์ว่า ผู้ต้องขังได้รับการแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัย และกิจกรรมที่ปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด ซึ่งแต่ละหน่วยงานต้องมีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วม โดยมีเป้าประสงค์ เพื่อคืนคนดีสู่สังคม ลดภาระ และเสริมเศรษฐกิจภาครัฐ
นายระพินทร์ กล่าวอีกว่า การจัดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 8 นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ภารกิจของเรือนจำ / ทัณฑสถาน ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมภายนอก เพื่อต้องการให้ประชาชนโดยทั่วไป ได้มีโอกาสเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากฝีมือของผู้ต้องขังที่มีความสวยงาม คงทน และราคาประหยัด เพื่อให้ผู้ต้องขังได้มีวิชาชีพ สำหรับเป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพ เพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว ภายหลังพ้นโทษ อีกทั้งเพื่อปลูกฝังนิสัยให้มีใจรักงาน พัฒนาพฤติกรรมให้เป็นบุคคลที่มีคุณประโยชน์
กิจกรรมภายในงาน มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์จากฝีมือผู้ต้องขัง 21 เรือนจำ และ 4 ทัณฑสถาน การจัดประกวดผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ จัดจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่ม จำนวน 60 บู๊ธ พร้อมด้วยโต๊ะและจำนวนที่นั่ง 1,600 ที่นั่ง จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ค้าจังหวัดภูเก็ต กิจกรรมการแสดงบนเวทีของนักเรียน นักศึกษา เยาวชน และศิลปินชื่อดัง ตลอดระยะการจัดงาน
“ผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ที่นำมาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงาน มีทั้งชุดอาหาร 4 ที่นั่ง 8 ที่นั่ง ชุดรับแขกไม้ เครื่องหวาย (ตะกร้าหูหิ้ว ตะกร้าเอนกประสงค์ ฯลฯ) ตู้เสื้อผ้า ชุดไม้หินอ่อน และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย โดยจะมีจำหน่ายตั้งแต่ราคา 20 บาท ถึงหลักแสน” นายระพินทร์ กล่าว และว่า
สำหรับรายได้จากการจัดงานทั้งหมด ในปีที่ผ่านมามียอดจำหน่าย ประมาณ 6 ล้านบาท ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 10 ล้านบาท
นายระพินทร์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ จะกลับไปหาผู้ต้องขัง 50 เปอร์เซ็นต์ 30 เปอร์เซ็นต์เก็บไว้เป็นทุนของเรือนจำในการซื้อสินค้ามาผลิตสินค้าใหม่ และอีก 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ แบ่งเป็นของเจ้าหน้าที่เรือนจำ 10 เปอร์เซ็นต์ และส่งเข้ากรมอีก 10 เปอร์เซ็นต์
สารภี ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป