พาณิชย์จังหวัดภูเก็ตกระตุ้นสินค้าเกษตรอินทรีย์รองรับเมืองท่องเที่ยวดึงผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ร่วมงาน “ภูเก็ตช่องทางเกษตรอินทรีย์กับชีวิตที่เลือกได้”
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 เมษายน 2554 ที่ห้องประชุมโรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมพงษ์ อ่อนประเสริฐ พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายอาวุธ วงษ์สวัสดิ์ ผู้ช่วยพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต นายสุชาติ หิรัณย์กนกกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ และนายจเรวัต ชนะปราชญ์ ประธานชมรมเชฟภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “ภูเก็ต ช่องทางเกษตรอินทรีย์ กับชีวิตที่เลือกได้” หรือ Organic : Alternative Lift ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20-21 เมษายน 2554 ที่โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
นาย สมพงศ์ อ่อนประเสิรฐ พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต เผยว่า เนื่องจากภาคเกษตรอินทรีย์เป็นภาคเกษตรที่เติบโตเร็วที่สุดของภาคอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก จากรายงานสภาพการณ์เกษตรอินทรีย์โลก (The World of Organic Agriculture : Statistics and Emerging Trends) ระบุว่า มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์โลกรวมกันกว่า 217.75 ล้านไร่ โดยในปี 2008 มูลค่าการขายสูงถึง 50,900 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ITC (International Trade Center) ยังได้คาดการณ์ว่าภายในปี 2553 ตลาดเกษตรอินทรีย์นจะเติบโตอยู่ที่ 102,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดหลัก ได้แก่ สหภาพยุโรปเป็นมูลค่า 46,000 ล้านเหรียญสหรัฐ(52%) และสหรัฐอเมริกาเป็นมูลค่า 45,000 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาคือ ตลาดออสเตรเลีย ตลาดญี่ปุ่น และตลาดอื่น ๆ แม้เศรษฐกิจโลกจะถดถอย แต่สินค้าเกษตรอินทรีย์มีลู่ทางและโอกาสอีกมากในการเจาะตลาดสำคัญๆ เพื่อส่งออก ทั้งนี้ ประเทศไทยก็เป็นผู้ส่งออกผักผลไม้เมืองร้อนรายหลักให้กับโลกมาตลอด และเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ การผลิตสินค้าอินทรีย์ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ เพราะเกี่ยวเนื่องต่อสุขภาพอนามัยของเกษตรกรและประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่ามูลค่าทางการค้า ซึ่งเป็นมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน และสิ่งแวดล้อมของประเทศที่ปราศจากมลพิษ ตลอดจนเป็นการอนุรักษ์พื้นดินและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศให้คงอยู่อย่างยั่งยืนถาวร
กระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนดให้การส่งเสริมการค้าสินค้าอินทรีย์ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของยุทธศาสตร์การค้าไทย : สร้างภูมิคุ้มกันด้านการค้าจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและวิกฤตภาวะโลกร้อน โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาและสร้างโอกาสทางการตลาดในโลกการค้าอนาคต ให้แก่เกษตรกร ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญของประเทศให้เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป ประกอบกับจังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวปีละกว่า 5 ล้านคน รายได้หลักของจังหวัดมาจากการท่องเที่ยวเมื่อเทียบสัดส่วนจากผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด(GPP) มากถึงร้อยละ 37 (77,000 ล้านบาท) ประชากรมีรายได้สูงเป็นอับดับหนึ่งของภาคใต้ จังหวัดภูเก็ตจึงเป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อสูงมาก ดังนั้นหากสามารถผลักดันให้สินค้าเกษตรอินทรีย์จากแหล่งผลิตต่าง ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศได้มีโอกาสออกสู่ผู้บริโภคเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ อาทิเช่น จังหวัดภูเก็ต ก็จะเป็นโอกาสในการผลักดันสินค้าเกษตรอินทรีย์สู่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้มีการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้มากขึ้น ในการนี้กระทรวงพาณิชย์จึงอนุมัติงบประมาณให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ตจัดงาน งาน Organic : Alternative Lift ภายใต้โครงการส่งเสริมตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ ระหว่างวันที่ 20-21 เมษายนนี้ ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยบรรดา โรงแรมร้านอาหาร ชมรมเชฟ ร้านของฝากที่ระลึก อปท. เอกชน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พาณิชย์จังหวัดภาคใต้ และแหล่งผลิตที่สำคัญ 200 ราย มีการออกบู๊ทผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์จากทั่วประเทศ 30 ราย และได้รับเกียรติจากรองปลัดกระทรวงพาณิชย์นาง พิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันและส่งเสริมตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทย เป็นประธานและบรรยายพิเศษ เชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมบรรยายและเสวนา
ส่วนรูปแบบและกำหนดการภายในงาน วันที่ 20 เมษายน 2554 ภาคเช้า พิธีเปิดพร้อมบรรยายพิเศษโดยรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ประธานร่วมกับแขกผู้ใหญ่ร่วมปรุงอาหารกับเชฟ(กะทะพิเศษ) ภาคบ่าย เสวนา “แนวคิด ศักยภาพ การเชื่อมโยงการผลิตการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์อย่างบูรณาการ” ช่วงเย็น งานเลี้ยง (Welcome Cocktail) เน้น organic และวันที่ 21 เมษายน 2554 ภาคเช้า ลงทะเบียน/สัมมนา/กิจกรรมแข่งขันปรุงอาหาร ของเชฟในภูเก็ตภาคบ่าย สรุปผลการสัมมนา/มอบรางวัลแก่เชฟผู้ชนะ-ปิดงาน
---------------------------------------------------------
ผู้ว่าฯ ภูเก็ตนำประชาชนทุกภาคส่วนร่วมจุดเทียนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้-สึนามิญี่ปุ่น ขณะที่ยอดรับบริจาค กว่า 13 ล้านบาท แบ่งมอบช่วยผู้ประสบภัยภาคใต้ 6 ล้านบาทเศษ และผู้ประสบภัยสึนามิญี่ปุ่น 5 ล้านบาทเศษ
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 10 เมษายน 2554 ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางอัญชลี วานิช เทพบุตร พร้อมด้วยนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมเป็นประธานในพิธีรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย งานใจถึงใจช่วยผู้ประสบภัยภาคใต้ และสึนามิญี่ปุ่น โดยรับมอบจากส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบกิจการ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคม และชมรมต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต มีนายทาคาชิ โอกาดะ อัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย นายทศพร เทพบุตร และนายเรวัต อารีรอบ สมาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นางนลินี อัครเดชา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีครั้งนี้ด้วย
จากนั้นเวลา 22.00 น.ที่เวทีสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี อ.เมืองภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เปิดกิจกรรมการจัดแสดงคอนเสิร์ต ใจถึงใจ ช่วยผู้ประสบภัยภาคใต้ และสึนามิ ญี่ปุ่น จากดารา ศิลปินของไทย และญี่ปุ่น พร้อมนำคณะดังกล่าวข้างต้น และพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต รวมถึงนักท่องเที่ยวร่วมกันจุดเทียนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตทั้งสองเหตุการณ์ และเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัย ด้วย ซึ่งมีประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมจำนวนมาก
นายตรี กล่าวว่า ยอดเงินรับบริจาคจากการจัดกิจกรรมดังกล่าว ขณะนี้มียอดรับบริจาค ประมาณ 13 ล้านบาทเศษ โดยจะแบ่งเงินรับบริจาคออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกทางจังหวัดได้มอบไปแล้ว จำนวน 2 ล้านบาท โดยมอบผ่านสภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ จำนาน 1 ล้านบาท และได้มอบให้กระทรวงมหาดไทย ผ่านไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิญี่ปุ่น จำนวน 1 ล้านบาท ส่วนที่สองจะมอบในค่ำวันนี้(10 เม.ย.54) โดยมอบผ่านทางเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางอัญชลี วานิช เทพบุตร เพื่อนำไปมอบช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ ในนามของรัฐบาล จำนวน 6 ล้านบาทเศษ และมอบผ่านอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย จำนวนประมาณ 5 ล้านบาทเศษ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เวลา 23.30 น.เป็นต้นไป
"การจัดกิจกรรมในครั้งนี้คงสำเร็จลงไม่ได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต และรวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย ที่ให้การสนับสนุนกิจการรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้และสึนามิญี่ปุ่นครั้งนี้ " นายตรี กล่าวในที่สุด
... สารภี ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
---------------------------------------------
FC คนรักบอล คว้าแชมป์ ฟุตบอล 7 คน ศรีสุนทร คัพ
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 10 เมษายน 2554 สนามฟุตบอลกีฬาบ้านลิพอนบางกอก นายธำรง ตันติวิรัชกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร เป็นประธานปิดการแข่งขันฟุตบอลประจำปี ศรีสุนทรคัพ ครั้งที่ 12 โดยมีสมาชิกสภา พนักงาน นักกีฬา พี่น้องประชาชนร่วมเป็นเกียรติในพิธีปิดการแข่งขันในครั้งนี้
นายธำรง ตันติวิรัชกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรสุนทร กล่าวว่า การจัดการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ยุวชน เยาวชน ประชาชนในเขตตำบลศรีสุนทร ได้รู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยการเล่นกีฬาฟุตบอล ทำให้ห่างไกลจากสิ่งเสพติด ปลูกฝังความความมีระเบียบมีวินัย มีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยและรู้รักสามัคคีในหมู่คณะ
นายธำรง ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการจัดการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้ได้ทำการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2554 โดยแบ่งประเภทการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย รุ่น เยาวชนชายอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีม เด็กลิพอน FC รุ่นอาวุโส ชนะเลิศได้แก่ ทีม สวัสดีเบอเกอรี และรุ่นประชาชนทั่วไป ชนะเลิศได้แก่ทีม FC คนรักบอล โดยทีมชนะเลิศในการแข่งขันในครั้งนี้ได้รับเงินรางวัลพร้อมถ้วยรางวัล
...ปชส. อบต.ศรีสุนทร/สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
-------------------------------------------------
เทศบาลราไวย์ สนับสนุน ค่ายอบรมเยาวชนมุสลิมภาคฤดูร้อน
วันที่ 11 เม.ย. 54 ที่มัสยิดเอาวาลุ้ลฮีดายะห์ ม.5 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลราไวย์ เป็นประธานเปิดโครงการเข้าค่ายอบรมเยาวชนมุสลิมภาคฤดูร้อน ในระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 54 โดยมีคณะกรรมการจัดอบรม โต๊ะอิหม่าม คณะกรรมการมัสยิด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ปกครอง รวมถึงมีเยาวชนที่เข้าร่วมอบรมภาคฤดูร้อนในครั้งนี้ กว่า 100 คนเข้าร่วม โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีเป็นพี่เลี้ยง
นายอรุณ กล่าวว่า เด็กและเยาวชน คือ กำลังอนาคตของประเทศชาติ หากเด็กได้รับการปลูกฝังหรืออบรมบ่มนิสัย ก็จะเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ และจะดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ และเป็นการพัฒนาตนเองให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งในปัจจุบันนี้ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ได้เข้ามามีบทบาทต่อเยาวชนเป็นอย่างมาก มีการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม และการดำรงชีวิตจนทำให้เกิดผลกระทบต่อเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ด้านความคิด ตลอดจนผู้ปกครองที่ละเลยและไม่มีเวลาให้แก่บุตรหลาน ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ที่ไม่มีคุณภาพและเป็นปัญหาสังคม เทศบาลตำบลราไวย์จึงกำหนดจัดโครงการเข้าค่ายอบรมเยาวชนมุสลิมภาคฤดูร้อน ขึ้นเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพของเยาวชนในชุมชนให้มีความรู้ และความเข้าใจในการดำเนินชีวิต โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ตลอดจนเรียนรู้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย เพื่อดำรงชีวิตอยู่ต่อไปอย่างปกติสุข
....city news เคเบิลทีวี/สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
-------------------------------------------------
สภ.ฉลองจับยาเสพติด ได้ของยาบ้ากว่า 400 เม็ดพร้อมยาไอซ์
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 10 เม.ย.54 ที่สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต แถลงข่าวจับกุมนายณรงค์ฤทธิ์ หรือดุ่ย เว่ารัมย์ อายุ 31 ปี นายจีราวัฒน์ หรือหัว สุพรรณพงศ์ อายุ 28 ปี นายประวิน หรือวิน ผาผ่อง อายุ 28 ปี นายทรงศักดิ์ หรืออุ้ย เกื้อกูล อายุ 27 ปี นายชวน ขนานชี อายุ 33 ปี
นายจิรพงศ์ แป้นจุลศรี อายุ 30 ปี นางสาวนวลออง บัวลีแอ่น อายุ 35 ปี นางสาวกฤษณา เขียวหนู อายุ 28 ปี พร้อมด้วยของกลางยาบ้าทั้งหมดรวม 412 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนักรวม 0.20 กรัม
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.จรัล บางประเสริฐ สว.สส.สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย ด.ต.สเถียร แก้วพูล ด.ต.จรูญ แก้วเจริญ ด.ต.บุญเลิศ เผือกผ่อง จ.ส.ต.อุดม เยาว์แสง จ.ส.ต.ชัยวัฒน์ จันทร์น้อย ส.ต.ท.อรุณ กิ๊มเซี๊ย และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีกจำนวนหนึ่ง ได้สืบทราบจากสายลับว่ามีการจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่จึงได้ให้สายลับเข้าล่อซื้อได้ผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งผู้ต้องหาบางรายเคยถูกจับดำเนินคดีมาแล้วแต่ยังไม่เข็ดลาบ จนกระทั่งมาถูกจับกุมอีก
พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ กล่าวว่า ในการจับกุมครั้งนี้ได้สั่งการนั้นตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสภ.กวาดล้างจับกุมยาเสพติดในช่วงเทศกลางสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 8 -12 เม.ย.นี้ ซึ่งสภ.ฉลอง เป็นพื้นที่เป้าหมายในการกวาดล้างจับกุมยาเสพติ ถึงแม้นว่าขณะนี้จะผ่านช่วงการกวาดล้างยาเสพติดช่วง 3 เดือน ของรัฐบาล แต่ตนก็ได้ให้ทุกคนจับกุมยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งเดือน ก.ย.นี้คาดว่า จังหวัดภูเก็ตจะเป็นพื้นที่ปลอดยาเสพติดได้แน่นอน
พล.ต.ต.พิกัด กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ความรับผิดชอบของ สภ.ฉลอง นั้นมีชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยหรือประกอบอาชีพจำนวนมาก ซึ่งก็ทราบข่าวว่าชาวต่างชาติเหล่านี้เข้ามาขายยาเสพติด ตามสถานบันเทิง ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าห่วงแต่ทราบว่าก่อนหน้านี้ สภ.ฉลองได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติรายใหญ่ที่เป็นชาวต่างชาติแล้ว แต่บางรายหลบหนีไปได้ ตนได้ประสานไปยัง ตม.เพื่อให้ขึ้นบัญชีดำกลุ่มชาวต่างชาติเหล่านี้แล้ว
...สารภี ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
-------------------------------------
ตำรวจทวงหลวงฯ ภูเก็ต เปิดศูนย์ประสานงาน-อำนวยการร่วมด้านจราจร ช่วงสงกรานต์
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 11 เมษายน 2554 นาย เรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานและอำนวยการร่วมด้านการจราจร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2554 ณ สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 7 กองกำกับการตำรวจทางหลวง มีนาง เบญจวรรณ ตัมพานุวัตร ประธานมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นายก นก ศิริพานิชกร ขนส่งจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าหน่วยงานราชการ และหน่วยงานราชการเกี่ยวข้อง ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลเทพกระษัตรี ศรีสุนทร ไม้ขาว ตลอดจน ภาคเอกชน ประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในพิธี
พ.ต.ท. สุทัศน์ สงสยม สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวว่า ด้วยในช่วงระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2554 เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเป็นช่วงที่หน่วยราชการและภาคเอกชนหยุดทำการติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีประชาขนที่ใช้รถใช้ถนนเพิ่มการเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนา และท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณีเป็นจำนวนมาก ประกอบกับจังหวัดภูเก็ตมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก มีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยว จึงทำให้การจราจรบนถนนคับคั่ง จึงทำให้มีแนวโน้มการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าช่วงเวลาปกติ และในปีนี้รัฐบาลได้ประกาศให้เป็นปีแห่งความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จึงได้ดำเนินการตามโครงการตำรวจทางหลวงยิ้มแฉ่ง ซึ่งเป็นโครงการของ พล.ต.ต. นรบุญ แน่นหนา ผู้บังคับบัญชาการตำรวจทางหลวง โดยร่วมกับส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และประชาชน ในการให้บริการประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่ว่าจะเป็นการบริการห้องน้ำ กาแฟ น้ำดื่ม นวดเท้า นวดตัว ห้องผ่อนคลาย บริการที่พักผ่อน บริการซ่อมรถ ให้เกิดความพร้อมในการเดินทางและเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือหากมีผู้ประสบอุบัติเหตุโดยหน่วยกู้ชีพ
ในการนี้ สถานีตำรวจทางหลวงฯ จึงได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและอำนวยการร่วมด้านการจราจร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2554 เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ด้าน นาย เรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดภูเก็ต กล่าว จังหวัดภูเก็ตตระหนักถึงปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ได้ดำเนินการกิจกรรมกระตุ้นเตือน และรณรงค์ให้ความรู้ ความเข้าใจ ปลูกจิตสำนึกให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ให้มีความตระหนักในการระมัดระวังป้องกันอุบัติเหตุทางถนนด้วยตนเอง และการประชาสัมพันธ์แจ้งให้ทราบถึงการดำเนินการทางกฎหมายจราจร และการบังคับใช้มาตรการ 3ม 2ข 1ร 1ย และ 1ท คือ สวมหมวกกันน๊อค เมาไม่ขับ มอเตอร์ไซค์ปลอดภัย คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ไม่ขับรถเร็ว ไม่ขับรถย้อนศร และโทรไม่ขับ
“จังหวัดภูเก็ต ห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันผนึกกำลังในเชิงบูรณาการและขอให้ปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความอดทน ทุ่มเท เสียสละ เพื่อบริการ อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ได้รับความสะดวก และปลอดภัยมากที่สุด” นายเรวัต กล่าว
...สารภี ศรีธรรมรัตน์/สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
------------------------------------------
เทศบาลนครภูเก็ตจับมือหน่วยงานเกี่ยวข้องลงนามความร่วมมือทางวิชาการด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ 11 เมษายน ที่ห้องประชุมโรงงานเตาเผาขยะ เทศบาลนครภูเก็ต จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อม ทั้ง ๔ ฝ่าย ประกอบด้วยเทศบาลนครภูเก็ต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ศูนย์วิจัยการเผากากของเสีย สำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทศบาลนครสุราษฏร์ธานีและสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต รศ.ชาลี ตระการกูล ผู้อำนวยการสำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางสมบูรณ์ สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีนครสุราษฏร์ธานี ผศ.ยุทธนา มหัจฉริยวงศ์ ประธานคณะกรรมการถ่ายโอนเทคโนโลยี และประธานคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม รศ.ดร.สมรัฐ เกิดสุวรรณ หัวหน้าศูนย์วิจัยการเผากากของเสีย นางปิยลักษณ์ เต๊ะวงษ์ ศูนย์วิจัยเผากากของเสีย นายธวัชชัย ทองมั่ง ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต นางนิภา เสรีบูรณะพงศ์ ประธานสภาเทศบาลนครสุราษฏร์ธานี ร่วมลงนาม โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานพยาบาล สถานศึกษา โรงแรม ร่วมในพิธี
นางสาวสมใจ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากการศึกษาการบริหารการจัดการขยะชุมชนของจังหวัดภูเก็ต มีความจำเป็นที่ต้องหารเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อนำมาใช้ในการจัดการขยะตามแผนหลัก โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดการขยะในครัวเรือน กระบวนการรวบรวมและเทคโนโลยีการกำจัดขยะที่ปลายทาง ซึ่งจากผลการศึกษาดังกล่าวเทศบาลนครภูเก็ต ได้รับความร่วมมือจากศูนย์วิจัยเผากากของเสีย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดำเนินการจัดการไปสู่การผลิตพลังงานที่สะอาด และจากการที่เทศบาลนครภูเก็ต พร้อมด้วยเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้รับเชิญไปศึกษาดูงาน ณ ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ ๒๕ – ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ซึ่งได้เรียนรู้ ศึกษาดูงานเกี่ยวกับระบบการบำบัดน้ำเสีย การกำจัดขยะในรูปแบบต่าง ๆ เช่นการนำแก๊สจากพื้นที่ฝังกลบมาผลิตไฟฟ้า การผลิตเชื้อเพลิงขยะ การนำจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย และการปรับปรุงพื้นที่กำจัดขยะ ให้เป็นสวนสาธารณะสำหรับการพักผ่อน ซึ่งจากเทคโนโลยีการจักการขยะที่ได้เรียนรู้มานั้น สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับท้องถิ่นได้ในหลายประเด็น ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เทศบาลนครภูเก็ต เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้ตกลงเบื้องต้นในการให้ความช่วยเหลือ เพื่อพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน โดยจะให้ความร่วมมือทั้ง ๔ ฝ่าย ในด้านความร่วมมือทางวิชาการ ด้านการถ่ายทอดความรู้ การศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงานด้านเครื่องมือ อุปกรณ์ บุคลากร และอื่น ๆ
นอกจากนี้ยังทางกลุ่มประชาคมพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเมืองภูเก็ต ได้มอบป้ายศูนย์การเรียนรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ให้กับโรงเรียนเทศบาลเมืองภูเก็ต โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตและโรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ ซึ่งทั้ง ๓ แห่งนี้ ได้มีการจัดสถานที่ เพื่อเป็นที่เผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารและความรู้ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีจิตสำนึกที่ดี ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยได้รับเกียรติจากนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีมอบ
... ปชส.เทศบาลนครภูเก็ต/สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
------------------------------------------------
สามี ร้องโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ภรรยาผ่าตัดคลอดลูก กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรานานร่วมเดือน
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 54 เวลา 11.00 น. นายอธิษฐ์ บุนนาค อายุ 47 ปี สามี อยู่บ้านเลขที่ 78/110 หมู่บ้านภูเก็ตวิลล่า 5 ถนนวิชิต ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า นางภริภร จันทโรทัย อายุ 38 ปี ภรรยา ได้เข้ารับการผ่าตัดทำคลอด และคลอดบุตรชายเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 54 หลังจากนั้นนางภริภร คนไข้มีอาการคล้ายหมดความรู้สึก มีอาการ ซีด ท้องบวม และหายใจไม่ค่อยออก
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.ของวันเดียวกัน นายแพทย์เจ้าของไข้ ได้มาดูอาการและให้ยา ความดันดีขึ้นเล็กน้อยและอาการดีขี้นด้วย จากนั้นคนไข้มีอาการไม่รู้สึกตัว ถูกนำตัวส่งไปห้อง ICU ทาง ICU ได้ตรวจพบว่ามีอาการตกเลือด จึงนำเข้าห้องผ่าตัด โดยตัดมดลูกออกเนื่องจาก มีการตกเลือดในมดลูก จากนั้น วันที่ 19 มีนาคม 54 คนไข้ขอออกจากห้องผ่าตัดมาอยู่ที่ห้อง ICU และมีอาการไม่รู้สึกตัวไม่ตอบสนองความต้องการอีกเลย ซึ่งต้องใช้เครื่องหายใจ ให้เลือด เกล็ดเลือด เป็นจำนวนมาก และมีอาการเลือดไหลออกจากกระเพาะปัสสาวะ
ดั้งนั้นทางครอบครัวจึงใคร่ขอให้โรงพยาบาลสอบสวนถึงปัญหาและสาเหตุที่เกิดขึ้นที่ทำให้ภรรยาตน เป็นเจ้าหญิงนิทรานานร่วมเดือน ซึ่งใช้เวลานานมากที่อยู่ในห้อง 607 จนกระทั่งคนไข้ตกอยู่ในภาวะวิกฤต ตลอดจนพิจารณาขอให้ความช่วยเหลือ ความสูญเสียและความเสียหาย รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
... สิรินทร สินอนันต์ ข่าว/พิมพ์/ภาพ โสภณ เคี่ยมการ ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
---------------------------------------------------
คนเกาะราชา พบผู้ว่าฯ ภูเก็ต หารือจัดกิจกรรม วัน“Earth Day” หรือวันรักษาสิ่งแวดล้อม 22 เม.ย.นี้
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2554 เวลา 10.00 น. กลุ่มผู้ประกอบการเกาะราชาใหญ่ เข้าพบ นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือในการกิจกรรม วัน Earth Day โดยจัดขึ้นในวันที่ 22 เมษายน ของทุกปี
นางกฤติยา เสงี่ยมกุล ผู้ประกอบการบ้านรายา รีสอร์ท แอนด์สปา กล่าวว่า ในวันที่ 22 เมษายน ของทุกปีจะมีการจัดกิจกรรมวัน Earth Day โดยมีผู้ร่วมจัดกิจกรรมจากภาคส่วนต่างๆประกอบด้วย กลุ่มผู้ประกอบการ ร่วมกับชุมชนบนเกาะ และผู้เข้าร่วมกิจกรรม ที่มาจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง แต่เนื่องจากเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติร้ายแรงที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ได้สร้างความกังวลแก่ชาวบ้าน และกลุ่มผู้ประกอบการบนเกาะราชา เกี่ยวกับเรื่องการจัดกิจกรรมในปีนี้ ซึ่งยังไม่สามารถกำหนดรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสมได้ อาจส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักของกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ที่ได้มีการจัดต่อเนื่องกันมาแล้วทุกปีก็ได้ ดังนั้น กลุ่มผู้ประกอบการเกาะราชาใหญ่จึงใคร่ขออนุญาตเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม และทิศทางการพัฒนาการท่องเที่ยวในอนาคตของเกาะราชาใหญ่
นางกฤติยา กล่าวอีกว่า โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ รักษาสิ่งแวดล้อมของเกาะราชาใหญ่ ทั้งบนบกและใต้น้ำ ,ปลูกจิตสำนึกให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ทรัพยากรอย่างถูกวิธี,ส่งเสริมการท่องเที่ยวคู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน,สนับสนุนการท่องเที่ยวในเชิงนิเวศวิทยา,สร้างความเปลี่ยนแปลงระดับทัศนคติและนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อได้นักท่องเที่ยวทีมีคุณภาพ และเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีและการพัฒนาของชุมชนบนเกาะราชาใหญ่จังหวัดภูเก็ต
... อารยา ตุลา/ข่าว/ภาพ เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ทาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป