เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2553 ที่ห้องจามจุรี 1 โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางอัญชลี วานิช เทพบุตร รองเลขาธิการนากรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฎิบัติการเสริมสร้างประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมของเครือข่ายสตรีจังหวัดภูเก็ต “พลังสตรีเข้มแข็ง ภูเก็ตเข้มแข็ง” ซึ่งทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดภูเก็ต โดยมีกลุ่มเครือข่ายสตรีเข้าร่วมจำนวนกว่า 300 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัด อำเภอ ตำบล และผู้นำสตรีระดับหมู่บ้านหมู่บ้านละ 2 คน ผู้นำสตรีในชุมชน ๆ ละ 2 คน นอกจากนี้ยังมี นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต ที่ปรึกษา รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้แทนจากสำนักกิจการสตรีและสถาบัน ครอบครัว ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร รองเลขาธิการนากรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายพิเศษกับผู้เข้าร่วมสัมมนา ว่า สตรีเป็นผู้ที่มีบทบาทค่อนข้างมากในการสร้างความเข้มแข็งตั้งแต่ในระดับครอบครัว ชุมชน และสังคม โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งสังคมมีความอ่อนแอในทุกภาคส่วน จนก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างนัก เปรียบประเทศไทยเหมือนผู้ป่วยที่อยู่ในห้องไอซียู ด้วยโรคภูมิแพ้ตัวเอง ที่สะสมมานานดังนั้นการที่จะทำให้ประเทศฟื้นตัวและเดินหน้าในการพัฒนาต่อไปได้ในอนาคต จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการเข้ามาช่วยดูแลเยียวยา
ขณะนี้ในส่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้สังคมกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และการรักษาสถาบันหลักของชาติ ดังนั้นความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่ายจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มสตรีที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วม และต้องตั้งสติให้ดี เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้น และคิดว่าแผนปรองดองที่นายกรัฐมนตรีนำเสนอนั้นน่าจะเป็นทางออกที่ดีในสถานการณ์ปัจจุบัน นางอัญชลีกล่าว
ทางด้านนางสาวพรรณี สิทธิการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การสัมมนาเชิงปฎิบัติการฯ ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างศักยภาพองค์กรสตรีในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้านและชุมชน ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชนที่ทำงานใกล้ชิดกับชุมชน ให้เป็นเครือข่ายด้านการพัฒนาสตรี และสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดภูเก็ต ตามโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวเพื่อการพัฒนาจังหวัด และสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเป็นไปตามภารกิจของการสนับสนุนและให้ความสำคัญกับสตรี เนื่องจากปัจจุบันสตรีได้มีการรวมกลุ่มต่างๆ ในชุมชน และเข้ามามีบทบาททั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการบริหารและการพัฒนา การช่วยเหลือสังคม และการประกอบอาชีพ ดังนั้นกลุ่มสตรีจึงเป็นพลังที่สำคัญ ในการขับเคลื่อนกิจกรรมการพัฒนาสังคม และพัฒนาชุมชน รวมถึงการเข้ามามีส่วนร่วมต่อการให้การดูแลเด็ก เยาวชน สตรี ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุในชุมชน จึงถือว่าพลังสตรีเป็นพลังสตรีที่เข้มแข็งและสร้างคุณค่าต่อการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต
ข้อมูลจาก :: เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป