ท่าอากาศยานภูเก็ต ฉลองครบรอบ 21 ปี เพิ่มเที่ยวบินเป็น 100 เที่ยวบิน ใช้งบลงทุนกว่า 5700 ล้านบาทพัฒนาท่าอากาศยาน มุ่งพัฒนาขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร 1.25 ล้านคนต่อปี
นายประเทือง ศรขำ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวในโอกาสครบรอบ 21 ปี การดำเนินงานท่าอากาศยานภูเก็ตในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ ว่า ภาพรวมการใช้บริการท่าอากาศยานภูเก็ตช่วงปลายปี 2552 ต่อเนื่องปี 2553 ในระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม 2552 – วันที่ 27 มีนาคม 2553 เปรียบเทียบกับช่วงปลายปี 2551 ต่อเนื่องต้นปี 2552 ในปีนี้จะมีจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินเพิ่มขึ้น จากเดิมเป็น 100 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้นในส่วนของเที่ยวบินประมาณ 11 % และในส่วนของสายการบินประจำมีสายการบินใหม่เพิ่ม 3 สายการบิน นอกจากนี้ยังมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำระหว่างประเทศอีก 8 สายการบิน เป็นสายการบินใหม่ 1 สายการบิน ได้แก่ FLYGLOBESPAN ซึ่งจากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้ท่าอากาศยานภูเก็ตรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นด้วย หากคิดเป็นสัปดาห์จะเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 43 เที่ยวบิน
“แม้ว่าที่ผ่านมาเราจะเจอวิกฤตเศรษฐกิจ หรือโรคระบาด แต่จำนวนผู้โดยสารที่ผ่านทางท่าอากาศยานภูเก็ตก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยปีที่แล้วมีจำนวนผู้โดยสารประมาณ 5.3 ล้านคน แต่ในปีนี้เมื่อสิ้นปีคิดว่าจะมีจำนวนถึง 6 ล้านคน ซึ่งเกือบจะเต็มขีดความสามารถของท่าอากาศยานภูเก็ตที่รองรับได้ 6.5 ล้านคน”
นายประเทืองกล่าวว่า ในระยะนี้ได้ของบพัฒนาเร่งด่วนประมาณ 30 ล้านบาท ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ชำรุดทรุดโทรม ไม่ว่าจะเป็นลานจอดรถยนต์ด้านหน้าอาคารให้สามารถจอดรถได้มากขึ้น ปรับปรุงพื้นผิวถนนที่ชำรุดพร้อมทำหลังคา ส่วนภายในอาคารผู้โดยสารก็จะมีการปรับปรุงพื้นผิวที่ชำรุด เปลี่ยนฝ้าเพดาน เพิ่มเครื่องตรวจเอ็กซเรย์ เพื่อเพิ่มความสะดวกผ่านเข้าตัวอาคารอีก 4 เครื่อง จากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 2 เครื่อง รวมถึงการปรับปรุงห้องสุขาต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการขยายห้องผู้โดยสารขาเข้าและขาออกต่างประเทศ เพิ่มเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสารได้รวดเร็วมากขึ้น
อย่างไรก็ตามนายประเทือง ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต (ปีงบประมาณ 2552-2556) ว่า อยู่ระหว่างการขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาเพราะขณะนี้ได้ดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะใช้งบลงทุนประมาณ 5,700 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารให้ได้ 12.5 ล้านคนต่อปี โดยคาดว่าจะสามารถออกแบบได้แล้วเสร็จประมาณต้นปี 2553 และจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2556
----------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป